“คุณหนูครับ คุณรินเงียบไปแล้วครับ”พิมพ์ผกาหันไปมองที่ห้องเก็บฟืนเสียงของรสรินทร์เงียบไปแล้วจริงๆ
เธอวิ่งเข้าในห้องเก็บฟืนพบร่างหมดสตินอนแน่นนิ่งก็รีบรวบตัวร่างหมดสติอุ้มขึ้นไปบนบ้าน หาผ้าเย็นๆ ซับหน้าให้รสรินทร์รู้สึกตัว
“นี่แค่เรียกน้ำย่อย มีของดีรอแกอยู่อีกเยอะ”รสรินทร์ขบริมฝีปากแน่นด้วยความคับแค้นใจ
“ทำไมไม่ฆ่าพี่ ทำให้พี่ทรมานแบบนี้เพื่ออะไร”พิมพ์ผกาสีหน้าเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข เห็นสภาพของรสรินทร์ตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากลูกสุนัขตกน้ำ
“ฉันฆ่าแกแน่ แต่อยากจะเล่นสนุกก่อน แล้วค่อยแล่เนื้อแกออกเป็นชิ้นๆ ให้จระเข้มันกิน”
“เลว เลวที่สุด พิมพ์คนที่พี่เคยรู้จัก ไม่ได้เป็นคนเลวแบบนี้”รสรินทร์กระหน่ำกำปั้นลงที่ต้นแขนพิมพ์ผกา
“หึ ฉันก็แล้วของฉันมานานแล้ว แต่แกไม่รู้เองต่างหาก”พิมพ์ผการวบข้อมือรสรินทร์เอาไว้
“แหวนหมั้น สวยดีนะ แต่มันไม่เหมาะกับแกเลย”พิมพ์ผกามองแหวนที่นิ้วนางซ้ายยิ้มเหยียดพร้อมกับถอดมันออกแล้วขว้างทิ้ง
“นั่นมันแหวนแต่งงานของพี่นะ ทิ้งไปทำไม ไปเอากลับมาเดี๋ยวนี้นะ”
“อยากเห็นหน้าไอ้เอ็มตอนที่รู้ว่าเมียของมันเป็นศพจัง”รสรินทร์รีบกระเถิบตัวหนี ตอนที่เห็นมีดแหลมๆ ในมือของพิมพ์ผกา
“ยะ อย่านะ ชะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยด้วย”รสรินทร์ตะโกนขอความช่วยเหลือ ตั้งท่าจะลุกขึ้นหนี
“จะหนีไปไหนเล่า ให้ฉันตัดชิ้นส่วนของแก ส่งไปให้ไอ้เอ็มมันเชยชมก่อนซิ”พิมพ์ผกาพูดทีเล่นทีจริง แต่ทำหัวใจของรสรินทร์แทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
พิมพ์ผกาลากมีดปาดลงจากเรือนผมลากเลื่อนลงที่หนา ปาดไปแก้มซ้าย แก้มขวา จมูก และเลื่อนลงมาที่คอระหง รสรินทร์เหงื่อแตกซิก ตัวสั่น ขาสั่น หน้าซีด หายใจไม่ออก อยากจะเป็นลมอีกรอบ แต่กลับทำไม่ได้
มืดเล่มนั้นค่อยๆ ลากลงต่ำไปจนถึงปกเสื้อและลากมาหยุดที่กระดุมเสื้อ พิมพ์ผกาค่อยใช้มีดกรีดมันออกทีละเม็ดอย่างช้าๆ จนในที่สุดมันก็ไปสุดปลายเสื้อ พิมพ์ผกาใช้มีดไล่แยกเสื้อออกเผยให้เห็นร่องอกงามล้นบรา พิมพ์ผกาหัวเราะเสียงแหบพร่ายามเห็นรสรินทร์หลับตาปี๋ด้วยความกลัว
“ยะ อย่านะ พิมพ์”ลิ้นแฉะลากลงจากตกคอลงสู่ร่องอก รสรินทร์ตกใจถอยหนีจนสุดโซฟา
พิมพ์ผกาใช้แววตาแทะโลมทุกส่วน รสรินทร์กระชับเสื้อปิดจากสายตาหื่นกามนั้น
“ฉันรอวันนี้มานานแล้ว รอวันที่จะเชยชมแก”
เพี้ย!! พูดจบ ฝ่ามือของรสรินทร์ก็ฟาดลงจนเป็นรอยนิ้วทั้งห้า
“ตบอีกซิ แก้มฉันสองข้างแกตบได้เลย แต่ต้องฉันขอของแลกเปลี่ยนนะ”รสรินทร์กอดตัวเองเนื้อตัวสั่นสะท้าน ขยับตัวหนีแม้รู้ว่าไม่มีที่จะให้ขยับต่อไปแล้ว
“ชิ้นนี้ เกะกะตาจัง”พิมพ์ผการวบมือสองข้างของรสรินทร์พร้อมกับตัดบราเซียขาดออกจากกันอย่างช่ำชองหน้าอกกลมกลึงขาวเนียน ยอดอกอมชมพูสะดุดตา พิมพ์ผการ้องครางออกมาอย่างพอใจ
เพี้ย เพี้ย!! ฝ่ามือเรียวฟาดลงที่ใบหน้าเรียวทันทีที่พิมพ์ผกาเอื้อมมือเข้าจะทำท่าจะลวนลาม แม้จะไม่แรงมากหากรอยปื้นจางๆ เรียวกันเป็นห้านิ้วลอยขึ้นมาจากแก้มเนียน
“พี่เป็นพี่ของเธอนะ ทำไมเธอถึงคิดลามกแบบนี้”รสรินทร์โอดครวญด้วยความผิดหวัง ดวงตาสว่างสุกใสจ้องเข้าไปในรสรินทร์อย่างหมายมั่น
“แต่ฉันไม่คิดกับแกแค่พี่สาว แต่ฉันคิดมากกว่านั้น”พิมพ์ผกายิ้มแสยะจนรสรินทร์เสียวสันหลังวูบและไม่อาจหยุดด้านมืดของจิตใจเธอได้
“อย่านะพิมพ์ อย่าทำอะไรที่มันผิดมากไปกว่านี้เลย”รสรินทร์ร้องห้าม แต่สายเกินไปเสียแล้ว เมื่อรอยจูบอันเร่าร้อนสัมผัสกับริมฝีปากแดงระเรื่อ มือเรียวลูบคลำไปทั่วเนื้อตัวเนียนนุ่ม ฟอนเฟ้นอกอิ่มอย่างเมามันด้วยเสน่หา หน้าท้องเนียนเรียบถูกแตะไล้อย่างหนักและเบาสลับกันไป รสรินทร์กระหน่ำทุบบ่าของพิมพ์ผกาอย่างสุดชีวิต ทั้งใช้มือและเท้าช่วยให้รอดและเธอก็รอดแต่เสียหลักกลับวิ่งหนีเข้าห้องให้เสือร้ายมันตะครุบ
รสรินทร์ถูกคว้าเอวเอาไว้เธอดิ้นรนที่จะหนี มือไม้กวาดข้าวของในห้องเกลื่อนกระจาย หากสุดท้ายเธอก็ไม่สามารถปัดป้องตัวเองได้ ร่างบอบบางถูกลากอย่างถูลู่ถูกังไปโยนที่เตียงกว้าง ก่อนสัมผัสรุมเร้าจะเข้าจู่โจมอีกครั้งด้วยอารมณ์หื่นกระหายของพิมพ์ผกา มือเรียวบางแตะยอดปทุมถันอันชูชันก่อนจะกลืนมันเขาสู่อุ้งปากร้อนๆ โดยที่รสรินทร์ไม่ทันได้อุทธรณ์ มือสองข้างกำลงกับผ้าปูที่นอนแน่น เธอหันไปพบกับแจกันที่วางอยู่ใกล้มือเป็นสิ่งเดียวที่จะสามารถช่วยเธอตอนนี้ได้ แต่เธอก็ไม่สามารถทำร้ายพิมพ์ผกาโดยการใช้แจกันฟาดลงที่ศีรษะได้ เธอได้แต่นอนร้องให้รอรับการกระทำของพิมพ์ผกาโดยไม่เต็มใจ เธอเริ่มสะอื้นหนักมากยิ่งขึ้นจนคนที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่กับเรือนร่างต้องเงยหน้าขึ้นมองน้ำตาที่เปียกนองหน้า และไม่มีส่วนใดเลยที่ไม่เปรอะคราบน้ำตา
“อย่า ขอร้อง อย่าทำ”พิมพ์ผกาจับใบหน้ารสรินทร์เพื่อประกบปากปิดเสียงร้องให้ รสรินทร์ดูจะตกที่นั่งลำบากหวาดวิตก เธอทำร้ายพิมพ์ผกาไม่ลงหรือเธอจะต้องมาเสียตัวให้กับพิมพ์ผกาจริงๆ แต่สุดท้ายแล้วเธอจึงตัดสินใจที่จะขบฟันลงบนลิ้นแดงๆ ที่ฉกวูบเข้าในโพรงปากเธออย่างสุดแรง
ไม่มีเสียงร้องหากเธอก็รับรู้ถึงรสเค็มปะแล่มของคาวเลือด พิมพ์ผกาสะบัดตัวขึ้นกะทันหันและเช็ดเลือดที่มุมปากอย่างลวกๆ
“แสบนักนะ ไม่ช้าไม่เร็ว แกก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี”พิมพ์ผกากดแขนแนบกับโซฟาหนาแน่น ขาของพิมพ์ผกายังคงก่ายเกยขาเรียวของรสรินทร์ทั้งสองข้างจนเธอต้องจมอยู่ที่โซฟาตัวเดิม
“ทั้งๆ ที่พี่ไม่เต็มใจอย่างนั้นเหรอ”น้ำเสียงอันปวดร้าวปลุกหัวใจอันด้านชาให้ตื่นตัว
“แกยังไม่รู้รสชาติแห่งความสุขดีนะซิ เมื่อไหร่ที่แกรู้แกก็จะขาดฉันไม่ได้”รสรินทร์หน้าแดงจัดโกรธจนหูอื้อตาลายขึ้นมาอีกรอบ