Chapter 16 : White devil vs Black Angelมือบางโบกกะโหลกคนใกล้ตัวไปอีกหนึ่งที เป็นสองทีแล้วตั้งแต่ที่นั่งกันอยู่ที่นี่ ดีนะว่าไม่ใช่ที่ไหนนอกจากบ้านตัวเอง ไม่งั้นแฟนคลับต้องมารุมกระทืบเธอแน่ ตบหัวไอดอลพวกเขาได้ยังไง ก็นี่มันแฟนฉันย่ะ ใครมีปัญหาเหรอ!
“เบคก้า.. พอเหอะ จะโง่หมดแล้ว..” อิงกริดบอก ยกมือขึ้นจับมือบางไว้พลางก้มหัวหลบ พยายามสบตาขอร้องเจ้าของมือให้เลิกทำร้ายเธอสักที หากถึงหล่อนจะยอมให้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกทำตาขวางใส่เธอได้ อ้าปากอยากจะขอโทษอีกครั้ง สาวที่ว่านั่นก็ยกมือห้ามแล้วหันไปคุยกันคนอื่นเฉย
“คุณจะไม่บอกใครใช่ไหม..มิกิซัง..” รีเบคก้าถามเสียงนิ่ง หากคนฟังรู้สึกคล้ายกำลังโดนขู่ หรือเพราะดวงตาวาวๆสีเขียวที่กำลังเพ่งเล็ง
มิกิลดถ้วยชาเซรามิกลงกับโต๊ะ สองมือยังประคองมันไว้คล้ายต้องการให้ความอบอุ่นยังอยู่ เป็นกำลังใจให้ตัวเองสู้กับสายตามารร้าย
เอ๊ะ! หล่อนก็ไม่ได้ขนาดนั้นนี่นา..
แต่ถ้าใช่ ก็คงจะเป็นมารร้ายที่เซ็กซี่ที่สุดล่ะ เสียงตอนนั้นมันบอกเธอ..
หวนคิดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา ผิวหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง หากหญิงสาวดาวดังยังเชิดหน้าขึ้นโปรยยิ้มได้ใหม่ราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มือกลองในอกเธอน่ะ จะหยุดตีก่อนได้ไหมเนี่ย อกจะระเบิดอยู่แล้ว!
“มีอะไรต้องบอกเหรอคะ.?” เจ้าหญิงหน้าหวานตาสีน้ำเงินย้อน ก่อนยกถ้วยชาขึ้นละเลียดจิบอย่างผู้ดี เล่นเอาคนที่มองจ้องจะเอาคำตอบอยู่ชะงักไปนิดราวคิดไม่ถึง “ถ้าไม่มีอะไร ฉันขอสั่งอาหารมาทานที่นี่ได้ไหมคะ วันนี้ทั้งวันยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย”
น้ำเสียงหวานกับดวงตาพราวระยับที่มองมาพาให้สองคนที่นั่งฟังหัวใจกระตุก และหนึ่งในสองคนที่ออกอาการมากกว่ามองคนพูดเสียตาเยิ้มก็โดนกระทืบเท้าไปหนึ่งที อิงกริดเบ้หน้าแต่ไม่กล้าร้องเสียงดัง ความผิดเก่ายังไม่ได้สะสาง จะโดนอีกเรื่องแล้วหรือไง..
“ตามใจคุณสิ แต่ฝากสั่งเผื่อไอ้บ้าที่หลับอยู่ในห้องด้วยแล้วกัน” สาวร่างเล็กตอบเอือมระอา นิ้วเรียวกดนวดขมับตัวเองหวังให้คลายปวดประสาท เธอไม่น่ายอมให้อารมณ์แบบนั้นเกิดขึ้นในที่ทำงาน ถ้าครั้งนี้ไม่ใช่มิกิที่ได้ยินมัน แต่เป็นคนอื่น มันจะเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงสะเพร่าแบบนี้นะ นี่แหละเหตุผลสำคัญที่เธอไม่อยากทำงานร่วมกับแฟน
พอมันอยากได้แล้วไม่ยอมให้ ก็งอแงอีก ฉันมีแฟนหรือมีลูกกันแน่นะ!
“คริสทานอะไรได้ล่ะคะ”
เสียงหวานๆน่าฟังแต่ครั้งนี้มันช่างกวนใจชะมัด อาจเพราะเธอเริ่มรู้จักตัวจริงของหล่อนแล้วก็เป็นได้ หน้าหวานแก้มใส แลดูไร้เดียงสา มารยาทงามราวคุณหนู มนุษย์สัมพันธ์เป็นเลิศ แท้จริง มันคือฉากหน้าของนางมารร้ายชัดๆ
แต่เราก็นางมารร้ายเหมือนกันนั่นแหละ แค่ฉันโจ่งแจ้งกว่าเธอเท่านั้น..
“ราเมน ทงคัทสึ หรือโซบะก็ได้ อาหารญี่ปุ่น ยัยนั่นกินได้หมดแหละ ฉันกับยัยนี่ด้วย ถ้าคุณจะกรุณาสั่งให้” ตอบไม่เต็มใจ อีกฝ่ายก็ไม่ได้รู้สึกรู้สา ดวงตาแอบมองลอดนิ้วตัวเองไปที่ผู้หญิงที่นั่งตรงโซฟาเดี่ยวข้างๆ แม่ดาราหน้าหวานนั่นหันไปสั่งงานกับผู้จัดการของหล่อนอยู่ ดูแบบนี้หล่อนไม่ได้เลวร้ายอะไร ผิดกับตอนนั้น..
ย้อนกลับไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว..ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อผลักประตูห้องออกมาแล้วเจอบางคนในชุดเสื้อกางเกงวอร์มยืนกอดอกสะโพกพิงขอบเคาท์เตอร์อ่างล้างมืออยู่ ดวงตาสีน้ำเงินมีแววรู้ทันและร้ายกาจอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน หากก่อนจะได้ถามหรือพูดอะไร คนด้านหลังที่เธอเกือบลืมไปก็เดินเข้ามาชนให้ตัวกระเด้งไปข้างหน้านิดหนึ่ง ซ้ำไอ้คนชนนั่นก็ไม่ได้สนใจเธอว่าถูกชนแล้วจะเป็นยังไง หล่อนเอ่ยปากทักสาวที่ยืนหน้านิ่งนั่นแทน
“ไฮ้..มิกิจัง.. เข้าห้องน้ำเหรอ.? ตื่นนานยัง”
รีเบคก้าแทบจะกระชากหัวทองๆของคนตัวสูงด้านหลังให้รู้สึกว่าควรจะหยุดและรูดซิบปากเสีย หากไม่หยุดมือตัวเองไว้ได้ทันและนางมารหน้าหวานตรงหน้าไม่พูดตอบโต้ขึ้นมาเสียก่อน
“นานพอที่จะล้างฝีมือแต่งหน้าห่วยๆออกจนหมดแหละค่ะ”
ร่างบางตวัดสายตากลับไปมองดวงตาสีเดียวกับคนรักตัวเองแต่กลมโตและใสกว่า เจอรอยยิ้มที่หากไม่สังเกตดีๆ ไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เจ้าของมันซ่อนอะไรเอาไว้ ภายใต้หน้ากากนางฟ้าไร้เดียงสา มีซาตานเลือดเย็นแฝงอยู่ และคนที่เหมือนๆกันเท่านั้น ถึงจะดูมันออก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่อิงกริด..
อิงกริดมันไม่ได้รู้เลยว่า ที่หล่อนพูดมันแปลว่าอะไร ทั้งที่มันง่ายแค่นี้ หล่อนได้ยินหมดแล้วว่า พวกเธอเล่นเซ็กส์กันในห้องน้ำ!
แล้วมันจะเลวร้ายแค่ไหนถ้าหล่อนเอาเรื่องนี้ไปโพทะนากับคนอื่น ภาพพจน์ว่าที่ไอดอลคนนี้และอีกคนที่เธอสร้างเอาไว้ตั้งมากมายคงบรรลัยหมด แต่ฉันคิดมากไปหรือเปล่า หล่อนคงไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนั้น แล้ววงการนี้ไว้ใจใครได้ด้วยหรือ.?
ระหว่างคิดไปคิดมาอย่างประสาทเสีย เสียงพูดคุยกันก็ทำให้หันไปมอง พลางคิด.. อื้ม..น่าสนใจนะ..
“เอ่อ.. ฉันขอโทษด้วยนะเรื่องนั้น ฉันห้ามคริสไม่ได้ ฉัน---”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจัดการเค้าเรียบร้อยแล้วล่ะ”
คิ้วเรียวสีเข้มกว่าเส้นผมเพราะวาดเพิ่มเติมสีมาอย่างดีขมวดเล็กๆ สงสัยว่าสองคนนี้มันคุยอะไรกันอยู่ และเหมือนพวกหล่อนจะอ่านใจคนได้ หันมาบอกเกือบจะเป็นเสียงเดียว
“เมื่อกี้คริสแกล้งเขียนหน้าแมวให้ฉัน”
“คริสเขียนหน้ามิกิจังเป็นแมว..”
นั่นประไร!
ผู้จัดการสาวหน้าเข้มทำตาเหลือก เห็นความซวยมาเยือนที่หน้าประตูเป็นรอบสอง หากยิ้มหวานกับดวงตายิ้มได้ที่มองเห็นก็ทำให้คลายกังวลลง
“เรื่องเล็กน้อยค่ะรีเบคก้าซัง ฉันไม่ถือสาหรอก” เพราะฉันอัดเค้าไปเรียบร้อยแล้วล่ะ
รีเบคก้ายิ้มรับ เพราะไม่ได้ยินเสียงพูดต่อในหัวของอีกคนที่ซ่อนอารมณ์เก่งพอๆกับตน “งั้นก็ขอบคุณค่ะ คริสก็เป็นแบบนั้นแหละ ปัญญาอ่อน” ว่าต่อและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ไม่สนใจคนที่แอบกลอกตาไม่พอใจอยู่ใกล้ๆเพราะไปว่าพี่สาวมัน ก็รายนั้นมันปัญญาอ่อนจริงๆ เล่นเป็นเด็กโข่งอยู่ได้!
ผู้จัดการสาวลอบถอนหายใจโล่งกับรอยยิ้มที่ยังเปื้อนใบหน้าหวานอยู่ เธอคงจะระแวงผู้หญิงคนนี้มากเกินไป หล่อนคงไม่ใช่พวกปากโป้งหรือชอบพล่ามเรื่องคนอื่นอย่างที่ใครๆส่วนใหญ่เป็นกัน
สาวบลอนด์ร่างเล็กยิ้มเหม่อลอย ขณะมองคนหน้าหวานหันไปคุยกับสนิทสนมกับคนตัวสูงเกินมาตรฐานสาวปกติ มิกิเกือบจะทำให้เธอรู้สึกวางใจได้แล้วว่าความลับของเธอจะถูกเก็บไว้ในที่ปลอดภัยต่อไป และก็คงเชื่ออย่างนั้นอยู่หากแว่วหูไม่ได้ยินอะไรต่อ
“แต่ถ้าอยากจะขอโทษฉันอย่างจริงจัง พาฉันไปเที่ยวที่บ้านด้วยสิ อยู่กับคานะจังสองคนทุกวัน มันน่าเบื่อไปหน่อย”
และทั้งประโยคนั้นกับดวงตาสีน้ำเงินที่ตวัดมองมาทางเธอด้วยแววตาที่เธอสามารถอ่านมันออกในทันทีก็ทำให้เธอเข้าใจ..
ที่แท้หล่อนมันก็นางมารหน้าหวานนั่นเอง! และหล่อนก็เลยนั่งอยู่ที่นี่ไงล่ะ แม่นาง Poison Ivy!
“ฉันสั่งอาหารอิตาเลี่ยนมานะคะ เบื่ออาหารญี่ปุ่น” พูดหน้าตาเฉยใส่ผู้จัดการสาวหน้าฝรั่งที่ลดมือลงมองหน้าเหวอ บอกเสร็จก็ไม่สนใจคนฟังสักนิด หันไปคุยกับอิงกริดต่อราวรู้จักกันมาแสนนาน
รีเบคก้ากระพริบตาปริบๆ แล้วเมื่อกี้จะถามทำไม ถามแล้วก็ไม่เห็นจะเอาตามที่บอกสักอย่าง บ่นในใจแต่ไม่รู้เสียงดังเกินไปหรือเปล่า สาวลูกครึ่งตาหวานก็หันขวับมาหาอีกครั้ง สายตานั่นทำให้หัวใจกระตุก
หยุดนะ ฉันไม่ใช่ฝาแฝดบ้าพวกนั้นหรือหนุ่มๆที่จะหลงกลเธอง่ายๆปีศาจหน้าหวาน!
“รีเบคก้าซังไม่ชอบอาหารอิตาเลี่ยนเหรอคะ ที่รู้มาคริสชอบไม่ใช่เหรอ.. หรือฉันจำผิด.. ไม่น่าจะใช่นะ”
ประโยคฟังเหมือนจะลังเล ปากรูปกระจับน่ารักที่เม้มลงนิดๆ พาให้คนที่นั่งมองอยู่อดใจเต้นแรงไม่ได้ทั้งที่แน่ใจว่าตัวเองแข็งแกร่งที่สุดแล้วที่จะต้านทานเสน่ห์นาง เหลือบตามองอิงกริด อยากจะผลักมันให้ตกเก้าอี้เพราะอาการที่ดวงตาคมของมันมองจ้องแม่นาง Poison Ivy แล้วเผลอเล็มเลียปากราวกับมันแห้งเสียเต็มประดา แต่ที่ทำก็แค่ส่ายหน้าระอา เรื่องแบบนี้มันก็ยากจะห้ามกัน
เลสควีนส์อย่างฉันยังแทบอยากเข้าไปงับปากหล่อนเบาๆให้เลิกทำทารุณกรรมปากสวยๆนั่นเล้ย แล้วเจ้าหื่นอย่างนั้นจะไปเหลืออะไร..
อันตรายใช่เล่น ประมาทไม่ได้แล้ว..
แต่ถ้าหล่อนไม่ได้เป็นแบบนี้ คงไม่มีฉายาว่า “เจ้าหญิงเจ้าเสน่ห์” สินะ
คิดอย่างเข้าใจแล้วฝืนยิ้มให้เป็นปกติที่สุด แต่ยังไม่วายจะแอบเหน็บ สักนิดสักหน่อยก็ยังดี “อาหารเลี่ยนๆ ชอบอยู่แล้วล่ะค่ะ แต่อะไรที่มิกิซังสั่งให้ หล่อนคงไม่ขัดที่จะทานหรอก”
หากแทนที่จะรู้สึกขัดจิตกับสิ่งที่เธอพูด หญิงสาวที่นั่งฟังกลับทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มรับตาใสเป็นประกาย ยิ้มหวานน่ารักแถมอีกต่างหาก อุ๊ยตาย! คนมองเผลอเอามือทาบอก หัวใจเต้นแรงเกินไปแล้ว..
“เป็นอะไรเบคก้า เจ็บหน้าอกเหรอ.?” เสียงคำถามซื่อๆ กับตาใสๆของคุณแฟนพาให้เธอลดมือลงวางกับตักตามเดิม กระแอมเบาๆราวมีอะไรติดคอ
“เปล่า.. ก็ทำไปอย่างนั้น” ตอบออกมามึนๆ แล้วลุกขึ้นยืนทันที ไม่แคร์สายตาที่มองมาอย่างงงๆของคนถาม ร่างบางเม้มปากหรี่ตาคิดนิดหนึ่ง เห็นทีอยู่ตรงนี้ก็แพ้เปล่าๆ ต้องกลับไปฝึกวิทยายุทธใหม่แล้วล่ะมั้งฉัน ภูมิต้านทานรู้สึกอ่อนแอไปนะ
“อิงกริดไปห้องทำงานกับฉันหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย” มันเป็นคำสั่งมากกว่าคำชักชวนธรรมดา หากเจ้าของชื่อก็ผงกหัวให้แล้วเดินนำไปก่อน หันมาอีกครั้งเห็นดวงตากลมๆสีน้ำเงินมองตาแป๋ว รู้เลยว่าพลาดอะไร
แล้วทำไมต้องหน้าร้อนแบบนี้ด้วยห๊ะ!
“เรื่องงานน่ะค่ะ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก” บอกอย่างรู้ทันแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “คุณจะไปตามคริสก็ได้นะ ห้องเค้าอยู่ชั้นสองสุดทาง ฝากบอกด้วยว่า อีกสิบนาทีเจอกัน ขอบคุณค่ะ” บอกแค่นั้นแล้วรีบเดินห่างไปทันที ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องฟังคำตอบ คำตอบนั่นมันอยู่ที่ดวงตาสีน้ำเงินนั่นแล้ว เวลาที่เอ่ยชื่อนี้ มันแสดงออกมาชัดเจนกว่าเวลาไหนๆ น่าสนใจมาก แต่เดี๋ยวก่อนนะ..
รีเบคก้าหันขวับกลับมาระหว่างทางเมื่อคิดบางอย่างได้ เห็นแขกหน้าใสหันไปคุยกับผู้จัดการส่วนตัวหล่อนอยู่ก็ส่ายหน้าให้ตัวเอง ฟุ้งซ่านเกินไปแล้ว..
แค่สิบนาทีเท่านั้น มันจะทำอะไรได้กันนักเล่า แค่โลมเล้ายังไม่พอเลย หุ่นยิ่งน่ากินอย่างนั้นซะด้วยสิ.. ดวงตาสีเขียวกระพริบปริบๆงงอะไรไม่รู้ เธอหันหลังกลับไปเดินต่อ แต่ไม่วายจะยกมือขึ้นมางับนิ้วตัวเองเล่นลืมตัว..
อา..นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ..บาร์บี้เลสควีน.?
.............................................................
มือขาวยกขึ้น ใช้นิ้วยาวบีบนวดขมับและหน้าผาก เปลือกตาหนักจนไม่อยากจะเปิดมันขึ้น หากพยาธิในท้องมันร้องเรียกหาอาหาร รังควานการนอนของเธอเสียได้ เอ..นี่เวลาเท่าไหร่แล้ว..
ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสเปิดขึ้นในที่สุด ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าการซ้อมวันนี้มันฉุดกำลังเธอให้หายไป หรือช่วงนี้ไม่ค่อยได้พักผ่อน
ไม่..ไม่สิ.. ตั้งแต่กลับมาจากเล่นสกีที่ฮอกไกโดยังไม่ได้ไปถ่ายละครเลย เดินแบบก็งด เพิ่งเข้าบริษัทก็วันนี้.. อา..หรือเพราะหัวใจทำงานหนักเกินไป..
โอ้..คงไม่ได้เป็นโรคหัวใจหรอกนะ ยังไม่อยากตาย ฉันแค่ยี่สิบสี่เอง..
คิดไปคิดมาก็ส่ายหัวและยันตัวขึ้นพิงหัวเตียงทั้งตายังเปิดไม่กว้าง หากพลังงานบางอย่างที่สัมผัสได้หรือหางตามองเห็นก็พาให้เลื่อนสายตาไปมองเต็มที่ ไอดอลดังตกใจแทบจะกรีดร้อง เพราะเงาตะคุ่มที่อยู่ตรงข้างประตู ร่างนั้นเป็นผู้หญิงสูงแต่ไม่สูงเท่าตน ยืนกอดอกหันข้างให้ และถึงจะตกใจก็ยังป่ายมือไปหาเปิดโคมไฟจนได้ หากถึงจะเห็นชัดว่าไม่ใช่ผีสางหัวใจก็ยังไม่คลายจังหวะกระชั้น
“มิกิ.?” หลุดปากเรียกเสียงเบา สาวเจ้าที่ยืนเหม่ออยู่ก็ยังได้ยินจากความเงียบของห้อง หล่อนหันมายิ้มหวานทั้งตาและปาก เธอหายใจขัด จะตายตอนนี้เลยไหม.?
“ว่าจะมาตามไปดินเนอร์ค่ะ สั่งอาหารมาแล้ว แต่เห็นคุณหลับอยู่ เลยไม่อยากกวน”
คนฟังนิ่งไปนิดและผงกหัวรับรู้ในเวลาต่อมา สองคนเงียบกันไปทั้งคู่เหมือนไม่รู้จะพูดอะไรกันดี เรื่องที่จะขอโทษอะไรที่ทำกันไปเมื่อกลางวันก็ดูจะเก่าไปแล้ว และแล้วคนช่างพูดกว่าก็ทำลายความเงียบอันน่ากลัวลง
“ทานแล้วก็คงจะกลับเลยล่ะค่ะ ไม่รบกวนนานหรอก”
น้ำเสียงบอกถึงความเกรงใจ เจ้าของห้องก็คงจะคิดอย่างนั้นหากไม่จับพิรุธได้ในอาการเหม่อแปลกๆของคนที่ยังยืนอยู่ที่ประตู พูดจบแล้วยืนเหม่อเฉย มันหมายความว่ายังไง
“ทำไมไม่ค้างที่นี่ล่ะ” คริสตินแทบอยากตบปากตัวเองที่หลุดพูดเรื่องไม่เข้าท่า สีหน้าตกใจของคนที่หันขวับมามองมันให้ความรู้สึกแบบนั้น แต่ต่อมากลับเป็นเธอเองที่ตกใจกับหล่อน
“อย่าเลยค่ะ ถ้าฉันหยุดตัวเองไม่ได้คุณจะยุ่งนะ” เจอกับสายตาที่จ้องเหมือนตัวเองเป็นตัวประหลาด ใบหน้าหวานส่ายน้อยๆ “ล้อเล่นค่ะ พรุ่งนี้มีอัดรายการเช้าน่ะ บ้านฉันใกล้ที่นั่นมากกว่า ถ้าคืนนี้นอนน้อยอีก เผลอไปอาละวาดที่นั่น คงไม่ดีเท่าไหร่ คุณคงเข้าใจนะ”
เออแน่นอน ฉันเข้าใจ โดนมาแล้ววันนี้หมาดๆ!
สาวอังกฤษผงกหัวช้าๆ ช้าเกินกว่าที่ตนจะรับได้ แว่วหูได้ยินเสียงหวานบอกลา ร่างระหงนั่นหันหลังให้ มือจับลูกบิดกำลังจะเดินออกไป และด้วยความไวที่ไม่คิดว่าตัวเองมี คริสตินลุกพรวดจากเตียงมายืนด้านหลังอีกร่าง สองมือยกขึ้นดันประตูห้องเอาไว้ อีกสาวหันมามองแปลกใจตาใสแป๋ว
โอย..เอาอีกแล้วหัวใจฉัน.. เต้นรุมบ้าอยู่ได้ เดี๋ยวก็ตายก่อนมีเมีย!
“คริส.?” มิกิจ้องหน้าคนตัวสูงกว่า สายตาแปลกใจ ไม่ค่อยเข้าใจนัก ดวงตาคู่คมของหล่อนมองมาให้หัวใจเต้นตึกตัก ไม่อยากเดาถึงเจตนาที่มาขวาง และท่าทางคิดหนักของสาวตัวสูงกว่า ก็ทำให้เอียงคอมองพอดีกับที่หล่อนก้มลงมาหา เธอตาค้างหากก็ไม่ถอยไม่ขยับหน้าออกแม้อีกฝ่ายจะทำให้กลัวแปลกๆ แต่ความกลัวก็แตกกระเจิงไปกับเสียงกระซิบอ่อนโยน
“ขอโทษนะที่แกล้งเมื่อกลางวัน” พูดแค่นั้นแล้วร่างสูงก็ถอยออกไปให้พื้นที่อีกคนได้เปิดประตู
“ไม่ไปด้วยกันเหรอคะ.?” สาวตาหวานถามแปลกใจ อีกฝ่ายกระซิบแค่บอกว่า ขอล้างหน้าล้างตาก่อนให้เธอไปรอข้างล่าง มิกิยิ้มรับและทำตามอย่างว่าง่าย เพราะไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อทำไม สุดท้ายเธอก็เดินออกไปโดยไม่รู้ว่า คนที่ถูกทิ้งเอาไว้ได้ทรุดตัวลงไปนั่งหอบแฮ่กพิงประตูห้องอยู่ หล่อนงึมงำเสียงเบาลำพัง
“เธอน่าจะกลัวฉันหยุดตัวเองไม่ได้มากกว่านะมิกิจัง..”
...................................................
มาถึงตอนที่ 16 เร็วจริงๆ ว่าแต่ยังไม่มีตอนพิเศษมาให้ชมเลยเนอะ เดี๋ยวมีค่ะ ใจเย็นๆ
ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของพระ-นาง ยังไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่นะคะ มันเป็นไปอย่างช้าๆตามประสาคนซึนน่ะค่ะ ฮ่าๆๆ แต่สักวันมันต้องซึนแตกแน่ๆ ไม่ต้องกลัว
สำหรับคนที่อ่านเรื่องนี้มาตลอด คงพอจะรู้แล้วเนอะว่า คนเขียนนำเสนอให้ใครเป็นตัวร้ายของเรื่อง (ไม่ได้หมายถึงนางร้ายนะคะ แค่ตัว Devil) แต่ถ้าไม่รู้ ใครออกเยอะสุด คงจะเป็นมั้ง ฮ่าๆๆ (ไม่ได้ช่วยไรเลย)
อย่างไรก็ตาม ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาอ่านกัน ขอบคุณคนสั่งจองหนังสือแล้ว และคนที่คิดจะสั่งจอง แต่ถ้ายังไม่พร้อมจอง หรือรออีบุ๊คอยู่ เม้นท์ให้ชื่นใจกันสักนิดก็ยังดีน้า..
อ้อ..จองได้ถึงสิ้นเดือนนี้นะคะ ดูรายละเอียดได้ตรงนี้เลย
http://www.yuriread.com/index.php?topic=1010.msg1422#new