web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 5
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 69
Total: 69

ผู้เขียน หัวข้อ: My little sweet devil vol.1 Chapter 19.5 : อีกด้านของเจ้าหญิง  (อ่าน 4113 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
My little sweet devil vol.1 Chapter 19.5 : อีกด้านของเจ้าหญิง
« เมื่อ: 28 มีนาคม 2014 เวลา 20:26:10 »


Chapter  19.5 : อีกด้านของเจ้าหญิง   


ฉันทำบ้าอะไรลงไป...

สาวลูกครึ่งนั่งกุมขมับอยู่ที่บาร์เครื่องดื่มในบ้านตัวเอง  เธอไม่กล้าอยู่ทานมื้อค่ำกับกองถ่ายแม้พวกเขาจะพยายามคะยั้นคะยอเพียงใด  ก็มันปั้นหน้าลำบาก  แค่อยู่จนเลิกกองได้วันนี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว  ดีนะพรุ่งนี้ไม่มีคิวถ่ายอีก  ไม่งั้นเธอคงจะไม่มีสมาธิพอทำงาน  ทำไมนะ  ช่างหาเรื่องเข้าตัวได้ดีจริงๆ

เพราะผู้หญิงบ้าคนนั้นคนเดียว  หล่อนทำให้เธอกลายเป็นเด็กเกเร..

แต่โทษหล่อนคนเดียวจะถูกหรือ..  ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง...

มิกิถอนหายใจหนัก  ลดมือหนึ่งลงจากขมับ  เอื้อมคว้าขวดใสที่มีน้ำสีอำพัน  เปิดมันและรินใส่แก้ว  วันนี้นมอุ่นๆคงไม่ช่วยเธอให้หลับได้อีกต่อไป  คงต้องอาศัยไม้ตายอันนี้แล้ว  เมาให้หลับไปเลย  แต่หมดขวดนี้จะหลับหรือเปล่า  ได้ข่าวว่าคอแข็งนะคะ

“คุณหนูคะ  ระวังหน่อยนะคะ  ถ้าจะดื่ม..”  เสียงเตือนอย่างหวังดีจากเพื่อนสนิทพาให้ต้องหันไปยิ้มเจื่อน  มิกิลดมือลงอีกข้าง  เปลี่ยนเป็นเท้าคางแทน  มองของเหลวในแก้วใสกลิ้งไปกลิ้งมา

“ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี..คานะจัง”  พึมพำเสียงเบาก่อนยกแก้วเหล้าสก็อตขึ้นจิบ  คิ้วเรียวกดลงน้อยๆเพราะรสชาติที่ไม่ค่อยคุ้นนัก  เธอห่างมันมาสักพักแล้ว  นับตั้งแต่ต้องกลับมาร้องเพลง  กลัวเสียงแหบเกิน  ถึงบางคนจะว่าเสียงหวานแหบน้อยๆเซ็กซี่ดีก็ตาม

“เรื่องในกองถ่ายวันนี้เหรอคะ  ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่”  คานาเดะตอบประสาซื่อ  ก็มันไม่มีอะไรน่าห่วงจริงๆ แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่เห็นด้วย

คนสวยคิดมากอีกแล้ว..

“ไม่มีปัญหาได้ยังไงล่ะ  ฉันเล่นผิดบท  แถมยังดูไม่เป็นมืออาชีพอีก”  ดาราสาวถอนหายใจหนัก  จิบน้ำสีอำพันไปอีกอึกใหญ่  และเหมือนเธอจะรินน้อยเกินไปเลยรินเพิ่มอีกสักหน่อย  มองของเหลวในแก้วอย่างปลงๆขณะที่อีกคนพูด

“คุณหนูคิดมากไปแล้วค่ะ  ผู้กำกับชอบจะตายไป  ไม่เห็นมีใครว่าอะไรสักคน”  ผู้จัดการสาวพยายามให้กำลังใจ  มือไล้หน้าจอทัชสกรีนของแท็บเล็ตในมือไปมา  มองคนตรงหน้าสลับกับมัน  แล้วพูดต่อ  “แฟนแอคโพสเรื่องในกองถ่ายวันนี้ด้วยนะคะ  แต่ดูเหมือนพวกเค้าไม่รู้หรอกว่า  บทมันไม่ใช่แบบนั้น”

คนฟังแค่นหัวเราะกับแก้วเหล้าที่ถืออยู่  พูดเสียงติดขำ “ก็ลองรู้สิ  ฉันออกจากบ้านไม่ได้แน่” 

“แหม..ไม่ได้เลวร้ายอย่างนั้นมั้งคะ  ฉันคิดว่าพวกเค้าคงชอบมากกว่า”

มิกิหรี่ตามองคนพูดที่เงยหน้ามาสบตากันพอดี  และสีหน้าจริงใจจริงจังทำให้เธอไม่อยากจะเถียงจึงเลือกเงียบและนั่งจิบของเมาต่อ  แอลกอฮอล์ก็น่ารักดีนะ  มันไม่กวนใจเธอเหมือนบางคน 

อา.. ของกินที่ไหนจะกวนใจได้ล่ะ  บ้าเหรอ.?

คานาเดะมองหน้าคุณเจ้านายอย่างเป็นห่วง  เธออยากทำตัวเป็นประโยชน์กับหล่อนมากกว่านี้  ว่าแล้วก็ก้มมองภาพถ่ายต่างๆที่บรรดาแฟนไซต์ตามเก็บมาและแชร์มาให้ดู  ดูแล้วก็นั่งลูบคางพยักหน้าอยู่คนเดียว  ลืมสนใจว่าตัวเองอยู่ในสายตาอีกคนด้วย  ถึงหล่อนจะดื่มอยู่ก็ใช่ว่าจะไม่มอง  ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงหล่อนพูด

“มีรูปน่าเกลียดล่ะสิถึงได้ยิ้มแบบนั้น..” 

ดวงตาคู่หวานเป็นประกายขี้เล่น  คนมองเห็นเลยอดหัวเราะไม่ได้  พลางส่งแท็บเล็ตให้ไปชมเอง  คุณเจ้านายหรี่ตามองเหมือนไม่ค่อยไว้ใจ  เธอจึงต้องส่งยิ้มตาหยีเหมือนที่เคยทำตอนยังเด็กด้วยกันให้  ได้ผล  คนตาสวยสีน้ำเงินหัวเราะก่อนเลิกสนใจแก้วเหล้ามาสนใจแท็บเล็ตแทน  หล่อนทำหน้าแปลกๆระหว่างมองมัน

“ทำไมคะคุณหนู.?”

มิกิยิ้มแห้งๆให้กับคนถาม  เธอค่อนข้างตะลึงกับภาพที่เห็นพอสมควร  ใครจะไปคิดว่า  เธอจะเล่นได้สมบทบาทเกินหน้าเกินตาพระเอกขนาดนั้น  ถ้าไม่มีภาพถ่ายยืนยันก็คงจะไม่เชื่อ 

ตายล่ะ แล้วแบบนี้ใครจะเชื่อว่าพวกเธอไม่ได้มีอะไรกัน  ภาพชัดแบบนี้..

สีหน้าเป็นห่วงเป็นใยคนที่นอนสลบอยู่กับผืนทรายเลือดปลอมเปื้อนเสื้อ  ทุกช็อตที่เธอกดมือลงกับอกหล่อนช่วยปั้มหัวใจ  ไหนจะตอนที่ก้มลงไปเป่าปากทำซีพีอาร์  ท่าทางเหมือนจริงขนาดนี้  ถ้าคนไม่คิดอะไรก็คงจะเชื่อว่ามันเป็นการแสดงที่เข้าถึงบทบาท  แต่ถ้าเป็นคนที่มีบทของฉากนั้นอยู่ในมือ  อาจไม่คิดเช่นนี้  พวกเขาจะเข้าใจทันทีว่าเธอหวงผู้หญิงคนนั้นมากจนถึงขนาดแย่งซีนพระเอก  ไม่ให้เขาได้แตะต้องหล่อน 

“บ้าจริง..  แบบนี้ฉันจะโดนผู้ใหญ่เรียกไหมเนี่ย!”  พูดเสียงเพลียเสียจนคนที่นั่งฟังอยู่กังวลตาม  แต่ผู้จัดการสาวยังมั่นใจว่า  จะไม่มีเรื่องเลวร้ายเช่นนั้นเกิดขึ้นแน่  เพราะถ้าผู้ใหญ่ที่บริษัทคิดจะเล่นงานคุณหนูของเธอจริงๆ ป่านนี้ก็คงจะกริ๊งกร๊างมาแล้ว  ไม่รอจนพรุ่งนี้หรอก  พวกนั้นสายข่าวไวจะตายไป 

“ไม่หรอกค่ะคุณหนู” คานาเดะพยายามปลอบ  แต่เหมือนคำพูดของเธอจะไร้น้ำหนักให้คนเชื่อได้  เห็นอีกฝ่ายยังส่ายหน้า  หล่อนส่งแท็บเล็ตคืนมาให้ 

ผู้จัดการสาวถอนหายใจโล่ง  นึกว่าจะโยนลงพื้นเสียแล้ว  อารมณ์ไม่ดีแบบนี้  ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น  รวมถึงกินเหล้าแบบนี้ด้วย  คนสวยขี้เมา  มุมนี้คงจะต้องซ่อนไว้  อย่าให้ใครได้เห็น  เสียภาพพจน์หมดแน่ๆ รางวัลดาราความประพฤติงามก็อาจจะหลุดลอยไป 

อะไรเนี่ย..ตอนนี้ยังจะมีหน้าคิดถึงเรื่องรางวี่รางวัลอยู่ได้  สนใจคนเถอะ!

สาวลูกครึ่งตรงหน้ายกเหล้าขึ้นกระดกอีกรอบ  รินใหม่อีก  คนมองก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วสิ  ไม่ได้เห็นเป็นแบบนี้มาตั้งนาน

ใช่..นานจนเกือบจำไม่ได้แล้วล่ะ.. 

ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นเจ้านายยกเหล้าซดก็ตอนที่โดนนางแบบคนหนึ่งเหยียบชายกระโปรงจนเกือบล้มบนเวที  ตอนนั้นถึงจะไม่มีใครตั้งใจให้มันเป็น  และมีการขอโทษขอโพยแล้ว  แต่คนจริงจังกับงานเสมออย่างมิกิก็รู้สึกไม่ดีที่ตัวเองเกือบเป็นสาเหตุให้งานแฟชั่นโชว์นั้นล่ม  นั่นเพราะหล่อนสวมชุดฟินาเล่

ชุดที่นางแบบแทบทุกนางอยากจะสวมที่สุด  และคุณก็น่าจะรู้นะ  วงการนี้แก่งแย่งชิงดีกันจะตาย  เธอจำได้เรื่องนั้น  มันไม่มีวันลืม  คุณเจ้านายก็คงจะไม่ลืมเหมือนกัน  มันฝังใจ.. 

ฟินาเล่เดรสอันงดงามจากดีไซเนอร์ชื่อดังที่ไว้วางใจส่งเทียบมาเชิญคุณหนูของเธอถึงที่  มิกิในตอนนั้นดีใจมากที่จะได้ร่วมงานกับพวกเขา  ชื่นชอบกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว  และถูกพูดถึงเสมอ  เจ้านายของเธอมักจะเจียดเวลาพักผ่อนอันน้อยนิดไปตามติดขอบเวทีเพื่อดูความอลังการของเสื้อผ้าที่ได้รับการปั้นแต่งมาอย่างพิถีพิถัน  และนั่นก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นให้หล่อนสนใจคนพร้อมกับเสื้อผ้า  เพราะในจำนวนนางแมวบนแคทวอร์คมีชื่อ ‘คริสติน โมเล่ย์’ อยู่ด้วย  สาวสวยจากแดนผู้ดี  มันเป็นความบังเอิญที่ค่อนข้างมหัศจรรย์หรือตั้งใจ...

สงสัยบุพเพจะอาละวาด..

แต่เรื่องนั้นพักไว้ก่อนเถอะ  ย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้านายของเธอเฟลได้ประมาณนี้  หรือคุณไม่อยากรู้.?   

วันนั้นมันชุลมุนมาก  อาจเพราะเป็นงานใหญ่ของเจ้านายเธอสำหรับการเดินแบบ  ปกติแล้วมิกิจะขึ้นแคทวอร์คเฉพาะงานการกุศลหรือได้รับเชิญไป  หล่อนไม่ได้เป็นนางแบบโดยอาชีพ  แม้จะรูปร่างดีสูงเกินหน้าสาวญี่ปุ่นทั่วไปจากเลือดอีกสีทางตะวันตกแต่ก็ยังถือว่าตัวเล็กมากเกินกว่าจะเอาดีทางนั้นได้ 

คุณเจ้านายคนสวยให้เหตุผลว่า  คงไปไม่ได้ไกลถึงปารีสแน่  ถ้าตัวแค่นี้  เฮ้อ..ตัวแค่นี้เหรอ.. สูงกว่าเธอตั้งเยอะ  ยืนคุยกันนานๆก็ปวดคอนะ  แต่นั่นก็คือเหตุที่หล่อนยึดการแสดงเป็นหลัก  รองลงมาก็ร้องเพลงประกอบซีรีย์หรืออนิเมะ 

แหม..  ความสามารถรอบด้านเลยใช่หรือเปล่า..

โอ้..  นี่เธอนอกเรื่องอีกแล้ว  ย้อนกลับมาที่เวลานั้นกันเถอะ  คุณพร้อมจะนั่งไทม์แมชชีนหรือยังคะ.? 

เดรสฟินาเล่อันงดงาม  ถูกลดความงามลงเพราะมันขาดแควกจากรองเท้าส้นแหลมๆของนางแบบคนนั้น  แต่ถึงอย่างนั้น  นางแบบเฉพาะกิจก็กลับแก้สถานการณ์ได้ดี  แก้ทรงกระโปรงบนเวทีนั้นเองโดยไม่ต้องวิ่งกลับหลังเวทีให้เสียเวลา  ซ้ำยังสามารถเดินต่อได้อย่างมั่นใจจนปิดงาน  ได้รับคำชมจากดีไซเนอร์อีกด้วยถึงขนาดอยากขอตัวให้ไปเป็นหุ้นส่วนเลยด้วยซ้ำ  หากกระนั้นคนสวยคนนี้ก็ยังถ่อมตัว  บอกเพียงว่ามันเป็นความบังเอิญ  ใครๆก็ทำได้แค่ฉีกกระโปรงส่วนที่ขาดออก  ขยับมันอีกนิดหน่อยแล้วแสร้งทำเป็นว่าชุดมันถูกออกแบบมาอย่างนั้น    และการถูกเพื่อนบนเวทีเหยียบชายกระโปรงจนขาด  ก็แค่การแสดงตามสคริปต์

ตามสคริปต์เหรอ..  ใครเป็นคนเขียนกันล่ะคะ.?

และหลังจากงานนั้น  น้อยครั้งมากที่มิกิจะรับงานเดินแบบ  หากไม่ใช่ว่าถูกขอร้องจริงๆหรือดีไซเนอร์รู้จักกัน  บริษัทที่คอยซัพพอร์ตให้สปอนเซอร์ก็จะโดนปฏิเสธทุกรายไป  แล้วนี่คงไม่ใช่คิดจะเลิกเล่นละครด้วยหรอกนะ  แบบนั้นต้องแย่ๆแน่ๆ ต้นสังกัดไม่มีทางยอม

แต่จะทำวิธีไหนดีล่ะที่จะให้หล่อนเลิกเฟล  เลิกคิดมากเสียที..

“ฟีดแบคดีมากนะคะ  ถ้าคุณหนูยังห่วงเรื่องนั้นอยู่”  พูดครั้งนี้ดูจะได้ผล  เจ้านายสาวเลิกสนใจกับน้ำสีอำพันชั่วคราว  ยอมสบตาเธอในที่สุด  “เรโอซังโทรมาชมค่ะ  ไม่ได้ว่าอะไรสักนิดเลย” 

มิกิฮัมเสียงสูง  เท้าคางมองคนพูดอย่างไม่เชื่อ  และอารมณ์กึ่มๆก็ทำให้คาแรกเตอร์เธอเปลี่ยนไปนิดหน่อย  นิ้วเรียวหย่อนลงที่น้ำในแก้ว  แล้วเอานิ้วเดิมนั้นแหละขึ้นมาดูดเลียหน้าตาเฉย  ดวงตาคู่หวานที่หวานเยิ้มมากขึ้นเพราะฤทธิ์น้ำเมาบวกกับท่าทางนั้นเล่นเอาอีกสาวที่นั่งมองอยู่ถึงกับร้อนวาบไปทั้งตัว  ขนาดเคยเห็นมาก่อนแล้วนะ  ยังไม่วาย

คามิซามะ  ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลยค่ะ  ฉันควรจะทำยังไง..

จะรอดไหมคืนนี้..  อา..เธอคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ยคานาเดะ!

“คงสมใจเค้าล่ะสิ  แฟนคลับคงกรี๊ดน่าดู  แต่พวกแอนตี้ฉัน  จะดักตบฉันหน้าบริษัทหรือเปล่านี่สิ  สำคัญ..”  ดาราสาวเลือดผสมถอนหายใจ  แหงนคอกระดกน้ำสีชาในแก้วจนหมดรวดเดียวราวมันเป็นน้ำเปล่า  ไม่แคร์เลยว่าอีกสาวจะนั่งกลืนน้ำลายเอื้อกๆอยู่   ใครว่าไม่รู้ล่ะ..

“อยากดื่มด้วยไหม..  ดื่มคนเดียวเหงาเหมือนกันนะเนี่ย..” 

คานาเดะขนลุกเกรียวอย่างไม่ตั้งใจ  เริ่มไม่ไว้ใจเจ้านายสาวเสียแล้ว  หล่อนอาจจะไม่ต่างจากเดิมมากนัก  ปกติก็ดื่มบ่อยๆเวลาเครียด  แต่เพราะวีรกรรมวันนี้นั่นแหละที่ทำให้หวั่น 

เฮ้อ..แต่เธอไม่ใช่คริสตินซามะสักหน่อย  หล่อนไม่สนใจขนาดนั้นหรอก..

“ทำไม..  ไม่ไว้ใจฉันเสียแล้วเหรอคานะจัง.?”  ถามพร้อมดวงตาพราวระยับ  ไม่เกรงใจคนที่นั่งหนาวๆร้อนๆอยู่ด้วยเลยสักนิด   อมยิ้มที่เห็นเพื่อนสนิททำท่าหวาดๆ อารามอยากแกล้งให้หายเครียด  ก็ทิ้งแก้วเหล้าแล้วเอามือไปแตะแก้มเนียนของสาวยุ่นแท้  หล่อนสะดุ้งเกือบตกเก้าอี้แน่ะ  น่าสงสาร  แต่น่ารักนะ..

“หืม.?  เธอกลัวฉันจริงๆด้วยคานะจัง”  เสียงหวานติดแหบไปนิด  เพราะพิษแอลกอฮอล์  บางทีเธอน่าจะหยุดดื่มได้แล้ว  ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีเสียงไปซ้อมจะต้องแย่แน่  แต่ยังกินไม่ถึงครึ่งขวดเลยนะ  อีกหน่อยเถอะ  จะได้นอนสบาย..

เผื่อจะลืมเรื่องบ้าๆที่ทำไปด้วย..  ฉันบ้าไปแล้วแน่ๆ..

“มะ  ไม่ค่ะ  ไม่ได้กลัว  แค่ไม่ค่อยชิน”  คานาเดะกระซิบ  พยายามไม่ให้อาการหน้าร้อนมากวนใจ  ยังไงนี่ก็เพื่อนของเธอ  เพื่อนที่คลานเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ยังเป็นทารก  หล่อนคงไม่คิดจะงาบเธอหรอกนะ

ก็บอกแล้ว เธอไม่ได้เป็นฝรั่งตัวสูงสักหน่อย  พักนี้เพื่อนเธอชอบของนอกจะตายไป  ดูอย่างวันนี้สิ  ใจกล้ามาก  ขโมยซีนพระเอกเฉย  ใครจะกล้าเท่านี้ไม่มีอีกแล้ว  ใครจะกล้าเท่าบลูอายส์ปริ้นท์เซสตอนสติแตกไม่มี  ต้องว่าแบบนี้สิ!

“งั้นเหรอ..”  มิกิพึมพำเสียงซึม  ค่อยๆดึงมือกลับมาจากแก้มเนียนที่แดงระเรื่อของเพื่อนสาว  รินเหล้าใส่แก้วอีกครั้ง  กำลังจะยกดื่ม  กลับมีอีกมือมายั้งไว้  มองหน้าหล่อนอย่างแปลกใจ  โดยเฉพาะกับรอยยิ้มใจดีของผู้จัดการ

“คานะจัง.?”

“คุณหนูเป็นตัวของตัวเองได้นะคะเวลาอยู่กับฉัน”  ผู้จัดการสาวพยายามปลอบ  คนหน้าหวานในความดูแลก็ยิ้มนิดๆพยักหน้าให้เหมือนจะรู้เรื่อง  แต่ก็ยังแกะมือเธอออก  ปล่อยให้เธอนั่งมองหล่อนดื่มน้ำสีชานั่นต่อไป  ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าควรทำยังไงดี

“ฉันสับสน   ฉันไม่รู้ว่าเราเล่นเกมส์อะไรกันอยู่..” 

เสียงพูดน่าสงสารพาให้คนฟังใจหายอย่างบอกไม่ถูก  แต่ตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่า  ที่มานั่งดื่มแบบนี้เพราะเรื่องอะไร  ผู้หญิงสาวๆอายุขนาดนี้จะมีสักกี่เรื่องที่ทำให้ต้องคิดหนัก  แต่จะว่าไป  เธอยังไม่เคยมีเรื่องนี้ให้เกะกะหัวใจเลยนะ 

หรือว่าเธอผิดปกติ  ไม่สิ  เธอแค่ยังไม่เจอคนที่ใช่มากกว่า...

“เค้าไม่เคยพูดว่า  เค้าคิดยังไงกันแน่..”

เอาอีกแล้ว  เสียงหวานเศร้ากระแทกหัวใจคนฟังให้เศร้าตามไปด้วย  เธอจะช่วยหล่อนยังไงดี  ต้องทำตัวเป็นศิราณีแบบนี้มันหนักเกินไปนะ  เธอไม่ใช่คนละเอียดอ่อนเรื่องแบบนี้เลย  ถ้าเป็นเรื่องงานต่อให้หนักแค่ไหนก็อึด 

แต่นี่....  ประสบการณ์ที่เป็นศูนย์ของเธอจะช่วยอะไรใครได้...

“รีเบคก้าซังเคยเป็นแฟนเค้า..” 

ผู้จัดการสาวชะงักตาค้างไปหลายวิ  จ้องหน้าคนที่นั่งเล่นแก้วเหล้าอย่างไม่เชื่อว่าที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง  ‘คริสติน  โมเล่ย์’  น่ะเหรอเป็นเลสเบี้ยน!  แถมยังเคยเป็นคู่ขากับผู้จัดการส่วนตัวอีก  นี่ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม.?

มิกิยิ้มกับปฏิกิริยาของอีกคน  แล้วอยู่ๆก็หัวเราะคิกๆเอานิ้วจิ้มน้ำในแก้วมาดูดเล่น  เห็นอีกสาวเหล่มองด้วยสายตาหวาดหวั่นก็เอื้อมมือไปแตะแก้มหล่อน  พูดเสียงยานคาง  สก็อตเกินครึ่งขวดในกระเพาะทำพิษเสียแล้ว   

“เค้าเป็นฝรั่ง..คานะจัง..  เค้าไม่สนเรื่องนี้กันหรอก  ไม่ใช่บ้านเรา..” 

สาวยุ่นแท้พยักหน้าอย่างเข้าใจ  แต่ไม่วายทำหน้าแหยงหวาดๆ พยายามปลดมือคนเริ่มเมาที่แตะแก้มเธออยู่อย่างสุภาพ  ไม่อยากให้เข้าใจผิด 
แต่บอกจริงๆเลยว่า  เจ้านายสาวเวลาได้เหล้าเข้าปาก  ดูน่าหม่ำกว่าเดิม  โอ้..  หรือเธอเริ่มจะกลายพันธุ์ไปแบบพวกหล่อนแล้ว อยู่ใกล้กันมากไป 

“เข้าใจค่ะ  แต่ยังไงสังคมบ้านเราก็ต่างกับบ้านเค้านะคะ ยิ่งบ้านคุณหนูด้วยแล้ว..”  ประโยคนี้เหมือนเข้าไปแทรกประสาทคนฟัง  ดึงสติสัมปชัญญะอันน้อยนิดของหล่อนกลับมา  ดวงตาสีน้ำเงินหวานเยิ้มเมื่อครู่ดูขุ่นมัวลง  หล่อนหันไปเล่นกับขวดเหล้าแทนแก้วซะแล้ว  จะกระดกทั้งขวดไหม  น่ากลัวจริงๆ..

“นั่นสินะ  ต่อให้ชอบมากเท่าไหร่  บ้านฉันก็ยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้..”

โอย..  เสียงเศร้าๆแบบนี้อีกแล้ว.. 

คานาเดะคิดอย่างเหนื่อยใจ  เข้าใจความรู้สึกของเจ้านายดี  ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสาร  น้อยคนนักที่จะเห็นหล่อนในมุมนี้นอกจากเพื่อนสนิทอย่างเธอ  แต่เธอเองก็อยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน  ที่มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้  ก็โดนยัดตำแหน่งมานั่นแหละ 

มิกิยอมตกลงกับแมวมองมาเป็นดาราเพราะความตั้งใจแรกที่จะอยู่ห่างจากบ้าน  รับงานทุกอย่าง  ทำงานให้ยุ่งเข้าไว้จะได้มีข้ออ้างไม่กลับบ้านบ่อยๆ  แต่ถึงอย่างนั้น  คนทางบ้านก็ใช่ว่าจะยอมแพ้  ชอบหาเรื่องให้แม่คุณทูลหัวของเธอไปดูตัวอยู่เรื่อยๆ ก็นะ  เป็นลูกคนเดียว  ซ้ำยังเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ขนาดนี้   ไม่มีเรื่องแบบนี้สิ  ถึงจะแปลก  แต่ที่แปลกกว่า  คือคุณหนูของเธอที่ทำงานในหน้าที่นี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อทั้งที่ภาพออกสื่อมันขัดกับบุคลิกของหล่อนอย่างสิ้นเชิง  จะว่าไปก็ดูจะเป็นผู้ใหญ่เกินตัว  มากกว่าเธอที่เป็นผู้จัดการ

เพราะอายุที่ไล่เลี่ยกัน  ตอนเข้าวงการครั้งแรก  เธอจึงยังไม่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้หล่อน  เพราะยังใหม่เหมือนกัน  อายุก็น้อยเกินกว่าจะรับผิดชอบอะไรหนักๆได้   นั่นเองจึงทำให้ต้องสวมตำแหน่งผู้จัดการฝึกหัดไปโดยปริยาย  มีรุ่นพี่ที่บริษัทส่งมาช่วยเทรนให้  โชคดีที่รุ่นพี่ใจดีมาก  หรือเอ็นดูคุณเจ้านายของเธอมากก็ไม่รู้  ถึงได้อยู่ช่วยพวกเธออย่างไม่ปริปากบ่นสักคำ   

แต่มันจะแปลกอะไร  ถ้าใครจะเอ็นดูสาวน้อยลูกครึ่งอายุสิบห้าหน้าตาน่ารัก  ผมสีน้ำตาลทองแบบไม่ต้องย้อมสี  ดวงตาสีน้ำเงินกลมโตแบบไม่ต้องพึ่งคอนแทคเลนส์  แถมยังสดใสยิ้มได้  ริมฝีปากอิ่มเต็มสีชมพู  เวลาขยับพูดแต่ละที  เสียงหวานติดแหบเล็กๆ ก็ช่างเซ็กซี่  ร้อยทั้งร้อยต่อให้ใจหินแค่ไหนก็อ่อนยวบ  เรียกได้ว่า  มิกิเกิดมาฆ่าคนในวงการไปหลายคนนั่นแหละ 

ช่วยไม่ได้นะ  วงการนี้ใครดีใครได้..  และจริงๆแล้ว  คนพวกนั้นก็ฆ่าตัวเอง  ไม่ใช่คุณหนูของเธอ  มิกิแค่ทำหน้าที่ของหล่อนอย่างดีที่สุด  อาจจะดูเหมือนเข้าข้างนะ  แต่มันเป็นเรื่องจริง..

แล้วคุณลองนึกตามดูสิ  เด็กสาวหน้าตาดี  ตระกูลดี  กิริยาก็ดี  พูดจาไพเราะทุกคำ  ความรับผิดชอบเป็นเลิศ  ขยัน  อดทน  เรียนรู้เร็ว  มีไหวพริบ  เพอร์เฟคขนาดนี้  จะแปลกอะไรที่หล่อนจะผงาดขึ้นมาสง่าในวงการอย่างรวดเร็วราวก้าวกระโดด  และคนขี้แพ้พวกนั้น  ก็น่าจะโทษตัวมากกว่านะ  ถ้าปรับปรุงตัวเองเสียแทนที่จะมานั่งอิจฉาใคร  ก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าตัวตายตอนถึงจุดตกต่ำ

เฮ้อ.. วงการนี้มันช่างอันตรายจริงๆ เสือสิงห์  กระทิง  แรด เพียบไปหมด  ยังดีที่คุณหนูของเธอแกร่งพอ  และวันนี้ยังแกร่งอยู่หรือเปล่านะ.?

“ฉันเหนื่อยจัง..คานะจัง”

เสียงหวานๆอ้อนๆเหมือนลูกแมวพาคนคิดมากไม่แพ้กันให้หันกลับมามองเจ้าของเสียง  ตอนนี้เธอเห็นเพียงเจ้านายสาวที่ฟุบหน้าอยู่กับเคาท์เตอร์  และนั่นก็หมายถึงว่า  เธอจะต้องแบกหล่อนเข้าห้องนอนแล้วล่ะ

“คุณหนูคะ  เหนื่อยก็ไปพักข้างในเถอะ  ตรงนี้ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่”  พูดพร้อมเข้าไปขยับตัวคนที่นั่งฟุบอยู่ 

สาวยุ่นแท้แทบจะโทษพ่อแม่ที่ทำให้ตนเกิดมาตัวเล็กกะเปี๊ยก  เธอรู้สึกลำบากที่จะต้องแบกคนเมาเข้าห้อง  ถึงห้องจะไม่ไกลนัก  คืนนี้เธอคงต้องขอให้คุณเจ้านายนอนห้องเธอไปก่อน  ห้องหล่อนอยู่ชั้นสอง  ถ้าบ้าจี้พาไปส่งถึงนั่น  อาจจะคอหักเพราะกลิ้งตกบันไดกันทั้งคู่  คุณหนูของเธอก็แบบนี้ทุกที  ถึงไม่อยากให้เมา 
ก็เห็นแบบนี้ตัวหนักใช่เล่นนะคะ  ยิ่งกับเธอที่ตัวสูงแค่คางหล่อนเท่านั้น  ชักอยากได้คนช่วยอุ้มแล้วล่ะสิ  ถ้าเธอตัวโตเท่าฝรั่งสาวคนนั้นล่ะก็...

ช่างเถอะ  คิดไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้  เธอต้องพึ่งตัวเอง  อัศวินม้าขาว  ไม่มีอยู่จริงเหมือนในเทพนิยายหรอกนะ..

“คานะจัง...  ตามคริสมาให้หน่อยได้ไหม....” 

เสียงอ้อนๆเหมือนแมวตัวน้อย  เรียกสติคนที่ค่อยๆพยุงตัวเจ้าของเสียงที่ตัวใหญ่กว่าให้หันกลับมาสนใจหล่อนมากกว่าทางเดิน  ผู้จัดการสาวส่ายหน้ายิ้ม  ขนาดนี้แล้วยังคิดถึงเค้าอยู่  แล้วมาบอกได้ไงว่า  ‘สับสน’  หรือสับสนนี้จะไม่เกี่ยวกับที่ชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย  ก็ไม่น่าจะใช่อยู่หรอก  ก็บอกอยู่ว่า  เหมือนกำลังเล่นเกมส์กัน   แต่เกมส์หัวใจ  มันจะดีเหรอ.?

“คานะจัง..”

“เอาไว้พรุ่งนี้ก่อนค่ะคุณหนู ดึกแล้วคริสตินซังหลับไปแล้วล่ะ”  พยายามบอกเหตุผลกับคนตัวโตกว่าที่เมาแล้วงอแงเป็นบ้า  ขี้อ้อนเป็นที่สุด 

มิกิหยุดเดินกะทันหันแล้วหันมามองหน้าเธอเหมือนจะหาเรื่อง  หล่อนจ้องหน้าอยู่นานจนใจสั่นไปหมด แต่ไม่นานนัก  เจ้านายสาวก็พยักหน้าให้อย่างไม่เต็มใจ  ก่อนจะทำให้ตกใจต่อเมื่อร่างระหงที่อ่อนเปลี้ยแทบยืนไม่อยู่เมื่อครู่ผละออกจากอ้อมแขน   ยืดยืนตรงแล้วเดินฉับๆขึ้นบันไดชั้นสองเข้าห้องนอนไปหน้าตาเฉยเหมือนไม่เคยเป็นอะไรเลยอย่างนั้น   เออ..เอากับเค้าสิ..

คานาเดะสั่นหัวยิ้มอย่างเสียไม่ได้  เธอถอนหายใจเบาๆแล้วเข้าไปจัดการเก็บขวดเหล้าที่หมดเกลี้ยงไปทิ้ง  นำแก้วไปล้าง  ว่าจะเข้าห้องไปพักผ่อนบ้าง  เสียงโทรศัพท์มือถือของใครบางคนก็ดังขึ้นขัดจังหวะ  ปรากฏว่าเป็นมือถือของคุณเจ้านายที่วางทิ้งไว้  ไม่ได้จะถือวิสาสะแอบดูเรื่องส่วนตัวของหล่อนเลยสาบานได้  แต่แอ็พไลน์มันดันเด้งขึ้นมาโชว์หราที่หน้าจอ  ล่อคนให้มองไปเต็มๆ  และสิ่งที่เห็นก็ทำให้อมยิ้มไม่ได้

“พรุ่งนี้ไปรับนะ  ฝันดี..ยัยเพี้ยน..”  ผู้จัดการสาวทำสุ้มเสียงล้อเลียนเจ้าของชื่อไอดีที่ขึ้นโชว์ในโทรศัพท์  จากนั้นก็จับมือถือแบรนด์ผลไม้นั่นวางไว้ที่เดิมที่เจ้าของวางเอาไว้ก่อนหน้านี้   สาวยุ่นแท้ฮัมเพลงเบาๆเข้าห้องนอนตัวเองไป  เธอคงต้องเข้านอนให้เร็ว  ถ้าอยากให้พรุ่งนี้ตื่นทันได้บอกข่าวดีกับเจ้านาย

อา.. ฉันนี่ช่างเป็นซุปเปอร์เบ๊เลยจริงๆ...       

และพวกคุณก็ปากแข็งกันจริงๆเลยนะ..     




.....................................



มากับตอนพิเศษค่ะ  ตอนนี้เหมือนจะแนะนำตัวมิกิจังอย่างเป็นทางการให้ทุกคนรู้จักเธอมากขึ้นนะคะ  อ่านแล้วอึ้งหรือเปล่า  หรือปกติ  อิอิ

จะรักมากขึ้นหรือน้อยลงกันนะ  ฮ่าๆๆ

และเพราะตอนนี้เป็นตอนพิเศษ  เราจึงยังเหลือค้างตอนที่ 20 อยู่นะ  ยังไม่จากกันเสียทีเดียว 

แต่เตือนไว้นิดนะคะ  ใครที่ต้องการมีมิกิจังไว้ในครอบครองเป็นเล่มๆ สิ้นเดือนนี้ค่ะ หมดเขตจอง  สั่งพิมพ์ตามจำนวนจองค่ะ  สั่งหลังปิดจองอาจจะไม่มีให้ในทันที ต้องรอพิมพ์ใหม่นะคะ  ล็อตหน้า  ไม่ได้ขู่นะ  เรื่องจริง  เราไม่สั่งเกินเท่าไหร่ 

วันนี้ไปก่อนค่ะ  แล้วเจอกันอีกตอน  หรืออาจจะมีตอนพิเศษอีก  มาลุ้นกัน  ขอบคุณมากค่ะ  โดยเฉพาะคนที่สั่งจองมาแล้ว  และคาดว่าจะซื้ออีบุ๊ค

ป.ล. ใครอยากได้มิกิจัง  ถึงขนาดจะฉุด  หรือดักตีหัวเข้าถ้ำ  ระวังฝรั่งตัวโตไว้หน่อยก็ดีนะคะ  หรือคุณพ่อเธอก็น่ากลัวยิ่งกว่ามาเฟียอีกล่ะ ฮ่าๆๆๆ









เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.