web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 48
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 66
Total: 66

ผู้เขียน หัวข้อ: คืนนั้น...ของฉันและเธอ บทที่ 3  (อ่าน 1518 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อาพัทธ์ อันธการ

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 74
คืนนั้น...ของฉันและเธอ บทที่ 3
« เมื่อ: 26 ธันวาคม 2013 เวลา 23:35:01 »
บทที่ 3

"งั้นเดี๋ยวหญิงเล่าเรื่องกลางวันให้พิมฟังดีกว่า ถ้าพิมงงตรงไหนก็ถามละกัน ไม่งั้นพูดกันอยู่อย่างนี้ ต่างคนต่างงง" กิตติญาตัดปัญหา

หลังจากที่หล่อนขอคนตรงหน้าเป็นแฟน สวรรยาก็ยิ้มบาดใจแต่เหมือนแฝงไว้ด้วยความเอ็นดูและเศร้าเล็กน้อย

"แนนอยากตอบตกลงนะ แต่...หญิงคงขอผิดคนแล้วแหละ" พูดเสร็จอีกฝ่ายก็ยิ้มตามเดิม

"ทำไมล่ะ" เธอถามทั้งๆ ที่ลึกๆ ก็รู้อยู่แก่ใจ

"คำตอบก็อยู่ตรงนี้ของหญิงแหละ" สาวริมฝีปากแดงดั่งกุหลาบพูดพลางเอามือขวาแตะเบาๆ ที่หน้าอกข้างซ้ายของหล่อน

"รู้ไหม จริงๆ แล้วหญิงก็ไม่ได้ดูออกยากอย่างที่ตัวเองคิดนะ" ร่างอวบอิ่มยวนตาเดินออกไปอย่างช้าๆ ทิ้งให้กิตติญาอยู่กับตัวเอง

บางทีที่เลือกแนนอาจเพราะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ฉลาด และจะไม่ตอบรับคำขอของเธอง่ายๆ เหมือนกับสาวๆ คนอื่นที่อยู่รอบตัวหล่อนก็เป็นได้

หญิงสาวยิ้ม รู้สึกโล่งใจ เธอลองทำตามคำแนะนำของจิณณพัต แต่ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียว หัวใจหล่อนรู้ว่าคนที่ควรจริงจังคือใคร



"เอ่อ...คือว่าพิมฟังไม่จบล่ะ พิมได้ยินหญิงขอเป็นแฟน แล้วพิมก็หูอื้อไปหมดเลย ไม่นึกว่าจะมีคนปฏิเสธหญิงนี่น่า" สาวจมูกรั้นบอกเสียงอ่อย ตาวิบวับเหมือนลูกแมว

คนตัวสูงส่ายหัว ที่แท้ก็ฟังไม่จบนี่เองถึงได้เข้าใจผิดเสียตั้งนาน ไม่รู้ว่าที่มาวันนี้เพราะนึกว่าหล่อนจะมีคนใหม่และทนไม่ได้รึเปล่า

"ยิ้มอะไรหญิง" คนข้างๆ จับสังเกต

"เปล่านี่" เธอหุบยิ้ม วางหน้านิ่ง แต่ตาระยับบอกให้รู้ว่าซ่อนความคิดอะไรบางอย่างไว้

"ไม่ต้องตีหน้าเฉยเลยนะ ดูตาสิยังกับหมาป่า หัดทำตาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"

"ทำมาตั้งนานแล้ว พิมไม่เห็นเอง" คนยิ้มสวยตอบเสียงนุ่มปนเอ็นดูให้กับคนน่ารัก

"ไม่ต้องพูดแล้ว หญิงรู้นะว่าพิมถ่วงเวลา" เธอเอานิ้วชี้ทาบที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าคนร่างบางขยับจะพูดเล่นต่อ

"กลับก็ได้ พิมรู้น่า" สาวผมสวยถอนหายใจ

"พิมรักหญิงนะ" คนข้างๆ กอดเธอก่อนจะเดินออกจากห้องไป

หญิงสาวเดินไปส่งที่หน้าประตู มองดูหุ่นรูปนาฬิกาทรายเดินลับหายเข้าไปในลิฟท์ ประตูไม้หนาหนักปิดลง ความโล่งใจ อิ่มเอมใจคับแน่นอยู่ภายในอก เหมือนมีผีเสื้อเริงระบำ

คนหน้านิ่งรู้ว่ายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า แต่ขอเพียงวันนี้ แค่วันนี้ที่เธอจะมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมี



"พิม ทำไมวันนี้กลับดึกจัง" นนทพันธ์พูดเมื่อเห็นหล่อนเปิดประตูเข้าบ้านมา

เขาใส่ชุดนอนสีน้ำเงินลายทางนั่งอยู่บนโซฟาดูข่าวจากโทรทัศน์ เมื่อเห็นภาพนั้นไม่รู้ทำไมความสุขใจก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะหายไปเกินครึ่ง

"ไปหาหญิงมาน่ะค่ะ" เธอตอบ

"อืม หญิงเป็นไงบ้างครับ ไม่ได้เจอกันนานเลย" เขาทำท่านึก

"ก็สบายดีค่ะ ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน" หล่อนบอกตามจริงโดยละบางอย่างไว้

"แล้วพิมทานอะไรมารึยัง" ภาคทำท่าจะลุก

"ไม่ต้องหรอกค่ะ พิมไม่หิว" จิณณพัตห้าม

หญิงสาววางกระเป๋าถือลงบนตู้สำหรับวางของ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนที่ชั้น 2 อย่างเงียบๆ เพื่อชำระล้างร่างกายจากความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า



หล่อนร้องเพลงพลางบีบครีมอาบน้ำสีชมพูลงบนใยสังเคราะห์สีฟ้านุ่ม

'แต่ฝันลำเอียง ไม่เหมือนความจริงทิ้งเราให้หลงในภวังค์

จากนั้นก็ถูไถลูบไล้ไปตามช่วงบ่าบาง

เจอกันเพียงครั้งเดียว(เรื่องจริง) พูดกันเพียงแปบเดียว(แอบอิง) ยังไม่พอ'*

ไล่ลงไปที่อกสล้าง ผ่านหน้าท้องแบนราบไปที่ขาอ่อน

ความอุ่นของน้ำไหลผ่านผิวหนัง ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว สบายใจ คำบอกรักยังคงก้องอยู่ซ้ำๆ ภายในหูทั้งสองข้างอย่างไม่รู้เบื่อ

มือเรียวหยิบผ้าเช็ดตัวสีขาวมาซับน้ำใสที่เกาะพราวระยับไปทั้งร่างกายอย่างเบามือ ปากรูปกระจับยังคงฮัมเพลงอยู่ในลำคอ จากนั้นจึงสวมเสื้อคลุมออกจากห้องน้ำ

เธอหยิบชุดนอนตัวเก่งซึ่งเป็นสีฟ้าอ่อนเรียบๆ ไม่มีลวดลายใดๆ ทั้งสิ้นมาสวม โดยไม่ได้ใส่ชั้นในเป็นปกติ

นนทพันธ์เปิดประตูห้องนอนเข้ามาพอดีกับตอนที่หญิงสาวสวมเสื้อผ้าเสร็จและดึงยางรัดออกจากผมสลวย

"คุณสวยจัง" เขากล่าว ตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววอ่อนโยน

จิณณพัตยิ้มขอบคุณ ไม่ได้เอ่ยตอบกลับไป เพราะหล่อนกำลังมีความสุขกับการคิดถึงใครบางคนอยู่

สามีเดินเข้ามาหา ช่วงล่างตื่นจากการหลับไหลในยามปกติ มือใหญ่ประคองหน้าใสของเธอ จ้องมองตาก่อนประกบฝีปากลงมา

ริมฝีปากของคนหน้านิ่งผุดขึ้นมาในมโน กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งควรจะขมแต่ลิ้นนุ่มกลับหวานอย่างแปลกประหลาด

เขาแกะกระดุมเสื้อนอนหล่อนอย่างชำนาญ มือที่ค่อนข้างสากเล็กน้อยล้วงเข้าไปตามรอยแยกที่เปิดขึ้นกึ่งกลางของลำตัว แล้วเค้นคลึง

เสื้อยืดสีขาวถูกเลิกขึ้น นิ้วมือยาวอุ่นของอีกฝ่ายไล้ไปตามผิวหนังตั้งแต่สะดือโบ๋จนกระทั่งถึงโคนหยวบหยุ่น แต่ไม่สัมผัสในทันทีเพียงแค่วนรอบกระตุ้นให้หล่อนทรมาน

สามีไซร้ลำคอระหงลงมายังเนินอก ไม่รีบร้อน อ่อนโยนเหมือนปกติ จากนั้นจึงดูดกลืนยอดสีน้ำตาลอ่อนเข้าไป

มือข้างหนึ่งนวดเฟ้นยอดข้างขวาให้ตื่น ส่วนข้างซ้ายคนหน้านิ่งก็ใช้ลิ้นยั่วหยอก ซ้ายขวา วนรอบจนคนถูกกระทำเก็บกลั้นเสียงไม่ไหวอีกต่อไป อกแอ่น บอกความนัยว่าต้องการมากกว่านี้

นนทพันธ์กำลังลงไปยังจุดศูนย์กลางของความรู้สึก เธอดึงตัวเขาไว้ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความต้องการอย่างเต็มเปี่ยม ถูกแทรกด้วยความสงสัย

"อะไรจ๊ะ" เสียงทุ้มของเขาแหบด้วยแรงอารมณ์

"พิมไม่อยากทำ นอนเถอะค่ะ" หล่อนพูดออกไปหลังจากเงียบอยู่เพียงแปบเดียว

เขานิ่งไม่พูดอะไรก่อนพลิกตัวออกไปยังเตียงข้างซ้าย และนอนหันหลังให้

หล่อนใส่เสื้อผ้ากลับเหมือนเดิม อารมณ์คุกรุ่นดึงให้จิณณพัตจมลงสู่ความทรงจำที่แสนชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

มือเธอป่ายไปทั่วคนตัวสูง หล่อนรู้สึกวาบไปทั้งตัวเหมือนโดนกระแสไฟฟ้าช็อต คนหน้าคมค่อยๆ จูบละเรื่อยแผ่วเบา ไม่เร่งไปจนถึงหน้าท้องนุ่ม ลิ้นอุ่นวนไล้รอบรอยบุ๋ม เอวบางบิดไปมา กัดฟันแน่น นิ้วยาวไล้ต้นขาอ่อนข้างในซึ่งไวต่อความรู้สึก

ใจหญิงสาวร้อนรน อยากให้คนข้างบนแตะต้องส่วนลับเสียจนแทบทนไม่ได้ กิตติญาทำเหมือนแมวแกล้งหนู ตะปบอย่างยั่วเย้าแล้วปล่อยให้ค้างคา ปากนุ่มจูบขาอ่อน ลิ้นไล้ไปทั่ว ขนอ่อนลุกตั้ง หวามไหวจนเกินต้านทาน

เธอไม่อาจจะทานทนได้อีกต่อไป จึงจับศีรษะนั้นให้ตรงไปยังส่วนที่รินไหล หญิงยอมตามโดยง่าย ความรวดร้าวเกิดขึ้นในทันทีที่ปลายลิ้นแตะต้อง มือหล่อนกำผ้าปูที่นอนแน่น สะโพกผายยกขึ้นเหนือเตียงนุ่มอัตโนมัติ เหงื่อชื้นไปทั้งตัว บางส่วนไหลเข้าตา

ร่างบางไม่รับรู้และสนใจใดๆ ทั้งสิ้น สมองขาวโล่งมีเพียงความสุขสันต์แสนหรรษาที่นำพาให้เธอสูงขึ้น สูงขึ้น ก่อนเสียงวีดร้องเสียงแหลม

ความสุขสมแผ่ซ่านไปทั่ว ให้ความรู้สึกอิ่มเอม มือที่กำคลายออก ร่างกายผ่อนคลายจากการเกร็ง กิตติญาขึ้นมาหอมแก้มที่เปียกเหงื่อของหล่อนอย่างไม่รังเกียจ ก่อนล้มตัวนอนและหลับไป

จิณณพัตยิ้มให้กับความทรงจำสุดท้ายที่เริ่มเลือนในห้วงความคิด หล่อนกำลังเข้าสู่ความมืดมิดของความฝัน



เขานอนนิ่งอยู่ในความมืดสลัวของห้องนอน ใจรู้สึกปวดจากการถูกปฎิเสธเป็นครั้งแรก ภรรยาของเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเลย ตอนแรกคิดว่าหล่อนกลุ้มเรื่องที่ทำงาน แต่บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของเราก็เป็นได้

ภาครู้สึกหวั่นไหว ลึกๆ แล้วเขากลัว แม้จะมั่นใจว่าตัวเองทำหน้าที่คนรักได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องก็ตาม แต่นอกจากตัวเขาแล้วมีสิ่งอื่นอีกมากมายที่ไม่อาจควบคุมได้...ความรู้สึกของเธอ

พักเดียวพิมก็หายใจสม่ำเสมอเป็นจังหวะปกติเมื่อหลับใหล เขาตะแคงตัวลุกขึ้นมองดูซีกหน้าด้านซ้ายของอีกฝ่ายอย่างหวงแหนรักใคร่ ปัดปอยผมออกจากเปลือกตา ก่อนจะกระซิบข้างหูว่า

"ผมรักคุณ"

ก่อนนอนเขานึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าเมื่อได้คู่กันแล้วก็ขออย่าให้ได้แคล้วกัน นนทพันธ์หลับตาลงพร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้งเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี



"หญิง ทานข้าวเช้ารึยัง" เสียงหวานถามด้วยความเป็นห่วง หล่อนจับความรู้สึกได้

"ยัง" เธอตอบยิ้มๆ

"เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก" อีกฝ่ายเตือนด้วยน้ำเสียงเอาเรื่องเล็กน้อย

"ว่าแต่หญิง พิมล่ะ" คนตัวสูงถามกลับ เบี่ยงเบนความสนใจ

"ทานอยู่แล้ว" ปลายสายเสียงปนหงุดหงิดที่ไม่ได้ดั่งใจ

"อืม ดีแล้ว" หล่อนบอกพลางปิดเปลือกตาเพื่อพักสายตาหลังจากใช้งานอย่างหนักตั้งแต่เช้าไม่ได้พัก

"รู้ไหม หญิงน่ะดื้อกว่าพิมเยอะเลย ดื้อเงียบซะด้วย" กิตติญานึกภาพอีกฝ่ายส่ายหน้าอย่างระอาออกทันที สาวจมูกรั้นมักจะแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ เสมอ ผิดกับเธอที่ชอบเก็บกักไว้ภายในเสียมากกว่า

"รู้สิ" ตอบอย่างคนเข้าใจตัวเองดี

"เอาเถอะ พิมไม่กวนแล้ว รู้ว่างานยุ่ง แต่ให้นึกถึงคนที่เขาเป็นห่วงหญิงบ้างนะ ว่าเขาจะรู้สึกยังไงถ้าหญิงเป็นอะไรไป" น้ำเสียงแบบนี้ทำให้หญิงสาวอยากทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแล้วไปหาปลายเสียงในทันที

"ไม่ต้องห่วงนะ" เธอบอกด้วยเสียงที่ตีความหมายว่าให้วางใจ หล่อนรู้ว่าขอบเขตอยู่ตรงไหน

"คิดถึงนะ" เสียงหวานใสพูดเร็วๆ ก่อนจะวางสายไป โดยไม่ให้คนตัวสูงโต้ตอบใดๆ สาวหน้านิ่งรู้ว่าจิณณพัตเขิน เธอยิ้ม



"ฮัลโหล" คนตัวสูงรับโทรศัพท์ทั้งๆ ที่อารมณ์ไม่ดีนัก เนื่องจากการผลิตมีปัญหาและขนาดหล่อนลงมาคุมด้วยตัวเองก็ยังไม่สามารถแก้ไขทั้งหมดได้

"หญิงใช่ไหม" เสียงคุ้นเคยในความทรงจำเมื่อนานมาแล้วดังขึ้น

"ใช่ นั่นกวางรึเปล่า" เธอนึกชื่ออีกฝ่ายก่อนถามออกไป

"ใช่ค่ะ หญิงว่างคุยไหม" น้ำเสียงปลายสายดูสับสน

"ก็พอว่าง มีอะไรเหรอ" หล่อนตัดสินใจคุย กัลยาไม่ใช่คนที่จะโทรหาใครถ้าไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจจริงๆ

"หวานทิ้งกวาง" เสียงพร่าพูดขึ้นตามมาด้วยเสียงสะอึกสะอื้นร่ำไห้

"ใจเย็นๆ ก่อนนะ" หญิงสาวพยายามปลอบทั้งๆ ที่ไม่ถนัด

"กวางไม่รู้จะไปไหน กวางไม่เหลืออะไรเลย" กิตติญาถอนหายใจกับความทุ่มเทของปลายเสียง ให้ไปจนหมดทั้งตัว หัวใจ และทรัพย์สิน กัลยาเป็นคนใจอ่อนและชอบเป็นฝ่ายให้ หล่อนเคยเตือนเมื่อนานมาแล้วว่าให้เผื่อเหลือไว้ใช้เองเสียบ้าง แต่อีกฝ่ายยิ้มและบอกว่าไม่เป็นไรหรอก กวางเชื่อมั่นในตัวหวาน

"เอางี้นะ กวางมาอยู่กับหญิงก่อน ที่คอนโดมีห้องว่างว่างห้องหนึ่ง ไว้หาทางได้ค่อยว่ากันอีกที โอเคไหม" เธอตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างง่ายๆ ให้พ้นไปเปราะหนึ่งก่อน เพราะหัวหน้าคนงานฝ่ายผลิตมายืนรอจะพูดบางอย่างได้สักพักแล้ว

"อือ ขอบใจมากนะหญิง ไม่มีหญิงกวางคงไม่รู้จะทำยังไง" อีกฝ่ายละล่ำละลักขอบคุณ



"พิม"

"ยัยพิม" เสียงดังขึ้นข้างหู

"โอ๊ย อะไรนิด จะเสียงดังทำไม หูจะแตกแล้ว" หล่อนแหว

"อ้าว ก็เรียกดีๆ แล้วไม่ได้ยินนี่" เพื่อนสนิทที่ทำงานยืนหน้าบอกบุญไม่รับ

"แล้วเรียกทำไม" เธอถามด้วยอารมณ์เบื่อๆ

"หัวหน้าเรียก" อีกฝ่ายบอก พร้อมกับบุ้ยปากไปทางห้องกระจกที่อยู่ข้างหลัง

"เรื่องอะไรล่ะ" จิณณพัตขมวดคิ้ว พยายามนึกว่าตัวเองได้ทำอะไรผิดพลาดลงไปรึเปล่า

"ไม่รู้สิ แต่บอกฉันนิ่งๆ นะว่าให้มาเรียกแก คงไม่มีไรหรอกมั้ง" นิตยาคาดเดา

หญิงสาวไม่ซักไซร้ต่ออีกเพราะรู้ว่าคงไม่ได้อะไรเพิ่มเติม หล่อนจัดชุดทำงานสีเทาเข้ารูปให้เข้าที่ ก่อนจะเดินเหมือนคนมั่นใจไปยังห้องนั้น

'ก๊อก ก๊อก ก๊อก' เธอเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป

"อ้าวคุณจิณณพัต เชิญนั่งครับ" หัวหน้าในชุดสูทสีดำเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนผายมือเชื้อเชิญ

เจ้านายของหล่อนเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยสุงสิงหรือพูดคุยกับใครถ้าไม่จำเป็น เวลาสั่งงานเขาเฉียบขาดจนน่าแปลกใจ แต่เวลาพูดเรื่องละเอียดอ่อนเขาก็ทำได้ดี พูดจานุ่มนวลอย่างคนมีจิตวิทยาสูง หญิงสาวไม่เคยถูกเรียกพบเป็นการส่วนตัวอีกเลยนับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานที่นี่ เธอทำงานทันตามกำหนดเสมอไม่ว่าเร่งรีบแค่ไหน ไม่เคยทำชุ่ยๆ จนต้องโดนเรียกมาว่าบ่อยๆ เหมือนเพื่อนร่วมงานบางคน

"เอกสารเดือนที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ เพราะบริษัทเราได้รับโปรเจคใหญ่มา คุณคงทราบดีอยู่แล้ว" เขานั่งเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างสบายๆ น้ำเสียงต่ำทุ้ม

"ทราบค่ะ" หล่อนตอบตามตรง ไม่แสดงท่าทางอะไรออกไป

"คุณทำไหวรึเปล่า" ชายหนุ่มวัยกลางคนถามเหมือนเป็นเรื่องทั่วๆ ไป

"ไหวค่ะ" เธอตอบ มีความลังเลเล็กน้อยปรากฎ

"นี่คือเอกสารที่คุณส่งมาให้ผมเมื่อวานซืน" เขาเลื่อนกระดาษปึกหนามาตรงหน้าจิณณพัต

หญิงสาวไล่สายตาไปตามตัวอักษร มีคำผิดอยู่เป็นระยะ ไม่ถี่มาก แต่ถือว่าเยอะทีเดียวสำหรับหล่อน

"ผมไม่ได้ว่าอะไร" หัวหน้าชิงพูดเสียก่อน

"เอกสารคงเยอะเกินไปที่คุณจะจัดการคนเดียว ผมหาคนมาช่วยคุณแล้ว พรุ่งนี้เธอจะเข้าบริษัทแต่เช้า คุณต้องเป็นคนฝึกด้วยตัวเอง เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนผม เรียนจบมาทางด้านนี้ ไม่น่าจะมีอะไรมาก เธอชื่อดวงฤทัย" น้ำเสียงก้องพูดเรื่อยๆ

"ได้ค่ะหัวหน้า" เธอตอบรับเสียงแข็งขัน นึกโล่งใจที่ไม่โดนตำหนิ จริงๆ แล้วไม่ว่างานจะเยอะแค่ไหน แต่ถ้าอยู่ในความรับผิดชอบแล้วล่ะก็ ต้องไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ยังดีที่ว่าหัวหน้าเข้าใจและใจดีกับเธอไม่อย่างนั้นเป็นคนอื่นคนโดนว่าน้ำตาตกแล้วก็ได้



วันรุ่งขึ้นหล่อนมาทำงานแต่เช้า เตรียมพร้อมที่จะฝึกน้องใหม่ให้เริ่มงาน รู้สึกกระชุ่มกระชวยเหมือนตอนเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ๆ

พอแปดนาฬิกาตรงหัวหน้าฝ่ายบุคคลก็เดินตรงมายังโต๊ะของจิณณพัต ข้างหลังมีสาวน้อยแรกรุ่นหน้าตาดูสดใสเดินตามมาพร้อมกับรอยยิ้มน่ารัก

"พิมนี่ฝน เด็กที่บอสให้มาฝึกงานกับพิมน่ะ" อีกฝ่ายพยักหน้าไปยังคนหน้าใส

"สวัสดีค่ะ" เสียงใสเหมือนแก้วดังขึ้น มือเล็กยกขึ้นไหว้

"นี่พี่พิม มีหน้าที่ดูแลเอกสารในขั้นตอนสุดท้าย" พี่รัตน์พูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดดังปกติ

"ยินดีต้อนรับนะคะ" เธอยิ้มให้กับสาวน้อย

"คุยกันเองละกัน พี่งานยุ่งขอตัวก่อนล่ะ"

"มาๆ นั่งก่อนเดี๋ยวพี่จะอธิบายขอบเขตงานให้ฟัง" หญิงสาวเลื่อนเก้าอี้อีกตัวให้คนตรงหน้า ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเอง

"ค่ะ" ดวงฤทัยทำตามอย่างว่าง่าย

มองๆ ไปก็ดูแปลกตาไม่น้อย เพราะอีกฝ่ายคงอายุไม่เกิน 22-23 แต่ใส่ชุดของบริษัทซึ่งเป็นสูทผู้หญิงสีเทา กระโปรงทรง A ซึ่งมักทำให้คนใส่ดูมีอายุและมีความน่าเชื่อถือ ช่างขัดกับใบหน้าอ่อนวัยยิ่งนัก

"พี่มีหน้าที่ตรวจทานเอกสารทุกอย่างก่อนถึงมือคุณกานต์ซึ่งเป็นหัวหน้า ซึ่งต้องตรวจทานให้มีคำผิดน้อยที่สุด และข้อมูลถูกต้องที่สุด บริษัทอื่นอาจไม่มีเพราะแต่ละแผนกก็ต้องดูแลกันเองอยู่แล้ว แต่บริษัทของเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากจึงมีตำแหน่งของพี่เกิดขึ้นมา พี่ขึ้นตรงกับหัวหน้าเพียงแค่คนเดียว แต่ก็ต้องประสานงานกับทุกแผนกด้วย" หล่อนอธิบายยืดยาว สีหน้าของหญิงสาวรับรู้ข้อมูลใหม่อย่างสบายๆ

"เอาเป็นว่าน้องเอ่อ..." จิณณพัตพยายามนึกชื่อ

"ฝนค่ะ" เสียงใสตอบ

"น้องฝน ทำหน้าที่ตรวจคำผิดละกัน เดี๋ยวเรื่องตรวจทานข้อมูลพี่จัดการเอง น้องมาใหม่ยังไม่รู้รายละเอียดของบริษัทเรา" เธอตัดสินใจแบ่งงานออกเป็นสองส่วนเพื่อความสะดวกในการทำงานร่วมกัน

"มีอะไรสงสัยไหมคะ" คนร่างบางมองหน้าตาน่ารักนั้นอย่างเอ็นดู

"พี่มีแฟนรึยังคะ" เด็กสาวถามพร้อมกับรอยยิ้ม
--------------------------------------------
* เพลง ฝันลำเอียง โดย ละอองฟอง



email+facebook : N.Rattanawadikant@gmail.com
fanpage : www.facebook.com/อาพัทธ์-อันธการ/107884562739822

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.