web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 149
Total: 149

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ ๒๓ : ‘ปั้นน้ำเป็นตัว’  (อ่าน 1589 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทอถักอักษรา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 73
บทที่ ๒๓ : ‘ปั้นน้ำเป็นตัว’
« เมื่อ: 05 เมษายน 2014 เวลา 14:19:51 »
  Dream ฝันค้างบนทางรัก Yuri
             บทที่ ๒๓ : ‘ปั้นน้ำเป็นตัว’

   ออกจากย่านหอพักหลังมหาวิทยาลัยขับไปตามถนนคอนกรีตเรียบสนิท ไปทางตะวันออกสักหนึ่งกิโลเมตรเศษๆ จะพบกับร้านไอศกรีมร้านหนึ่ง มีป้ายขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าร้าน เขียนด้วยตัวอักษรสีชมพูบนพื้นสีฟ้าอ่านได้ใจความว่า ‘ปั้นน้ำเป็นตัว’
ร้านไอศกรีมเล็กๆที่ชื่อร้านเก๋ไก่นี้  ตัวร้านทาสีชมพูหวานแลดูสะดุดตายิ่งนัก เมื่อเข้ามาในร้านก็พบว่าในร้านมีโต๊ะเล็กๆทาสีขาวสะอาดตา ทุกโต๊ะมีกระถางปลูกดอกไม้ขนาดเล็กที่มีดอกจิ๋วๆแต่ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ทำให้ร้านดูกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักเรียน นักศึกษายิ่งนัก
ภายในร้ายไอศกรีมดังกล่าว นงนภัสนั่งทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง เป็นครั้งที่สองที่เธอได้มาทานไอศกรีมร้านนี้ ครั้งนั้นเธอมากับพิมพ์ฤดาเพื่อนสาวร่วมชั้นปี แต่ครั้งนี้เธอมากับฐิติณัชชา สาวรุ่นน้องซึ่งได้กลายมาเป็นคนรักของเธอแล้วในเวลานี้
   “พี่ฟ้าคะ ไอศกรีมมาแล้ว ไม่รีบทานเดี๋ยวมันจะละลายนะคะ” เสียงเรียกของฐิติณัชชาทำให้นงนภัสตื่นจากภวังค์ หญิงสาวหันมายิ้มบางๆให้คนรักก่อนตักไอศกรีมเข้าปาก
   “สตรอเบอร์รี่ช็อกโกสีสันน่าทานจังเลยค่ะ” สาวเจ้ายังคุยจ้อไม่หยุดปากเมื่อมองไปยังไอศกรีมถ้วยนั้นซึ่งผสมผสานระหว่างสตอเบอร์รี่สีชมพูสดกับช็อกโกแล็ตสีเข้มได้อย่างลงตัว ฝ่ายรุ่นพี่สาวจึงตักไอศกรีมในถ้วยของตนเองใส่ปากเจ้าหล่อนด้วยความเอ็นดู
   “อร่อยหรือเปล่าคะ ทานอีกคำไหมคะ” นงนภัสถามเมื่อเห็นสาวรุ่นน้องใบหน้าแดงเรื่อด้วยความเขินอาย
   “อร่อยมากค่ะ ฟางป้อนพี่ฟ้าบ้างดีกว่า  ฟ้าใสวิปปิ้งครีม ร้านนี้อร่อยนะคะ” ซึ่งฟ้าใสวิปปิ้งครีม เป็นไอศครีมเปลี่ยนสี ไอศครีมอัญชัญสีฟ้า พอราดด้วยน้ำมะนาวก็จะเปลี่ยนสีเป็นสีชมพูทันที เป็นการทดลองเล็กๆ ในร้าน ‘ปั้นน้ำเป็นตัว’ เสิร์ฟพร้อมวิปปิ้งครีมสด เนื้อเนียนละมุนลิ้น
   สองสาวผลัดกันป้อนไปศกรีมกันอย่างหวานชื่น หลังจากที่ทั้งคู่ชวนกันมารับประทานไอศกรีมร้านดังที่เคยมารับประทานเมื่อคราวที่แล้ว กลิ่นดอกมะลิที่ดอกกำลังบานสะพรั่งจากกระถางดอกมะลิที่ตั้งอยู่บนโต๊ะส่งกลิ่นหอมหวานเย็นๆชื่นใจลอยอวล แข่งกับกลิ่นไอรักที่ลอยวนอยู่รอบกายของหญิงสาวทั้งสอง
   วิปปิ้งครีมสดเนื้อเนียนละมุนลิ้น ถูกใจสาวรุ่นน้องยิ่งนัก หญิงสาวรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย ครีมสดเลอะมุมปากของหญิงสาว โดยที่เจ้าตัวไม่ทันรู้สึก
   “ฟางคะ ครีมเลอะปาก เดี่ยวพี่เช็ดให้นะคะ”
   “จริงเหรอคะ...”
   ฐิติณัชชายื่นใบหน้ามาใกล้นงนภัส สาวรุ่นพี่จึงหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดที่ริมฝีปากของสาวรุ่นน้องอย่างเบามือ      
   “ขอบคุณมากค่ะ”
   ความใกล้ชิดก่อให้เกิดความรู้สึกวาบไหว  สองสาวโน้มใบหน้ามาใกล้กันเรื่อยๆ แต่ในขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของนงนภัสก็ดังขึ้น
   “สวัสดีค่ะคุณแม่” นงนภัสพูดเมื่อปลายสายคือมารดาของเธอ
   “ลูกฟ้า เย็นนี้กลับบ้านนะลูกเดี๋ยวแม่ไปรับ” ปลายสายตอบกลับมา
   “ได้ค่ะ...สวัสดีค่ะ” นงนภัสกล่าวเมื่ออีกฝ่ายบอกกล่าวเพื่อยุติการสนทนา
   “พี่ฟ้าจะกลับบ้านเหรอคะ ฟางคงเหงาแย่เลย” เมื่อนงนภัสวางสายแล้ว ฐิติณัชชาจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อย ใบหน้างอง้ำ
   “พี่กลับแค่ไม่กี่วันเอง เราคุยโทรศัพท์กันได้นี่คะ อย่างอแงสิคะ เจอกันบ่อยๆ เดี๋ยวฟางจะเบื่อพี่ซะก่อน...” นงนภัสพูดพร้อมกับหยิกแก้มสองข้างของคนแสนงอนเบาๆ
   “ฟางไม่มีวันเบื่อพี่ฟ้าหรอกค่ะ จริงๆนะคะ พี่ฟ้ารีบกลับมานะ ฟางจะรอค่ะ” สาวรุ่นน้องยิ้มให้คนรักพร้อมกับรับประทานไอศกรีมต่อ
   “เราไปไหนต่อดีค่ะ...” นงนภัสถามเมื่อรับประทานไอศกรีมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
   “ไม่ดีกว่าค่ะ เรากลับกันเถอะ เย็นนี้พี่ฟ้าต้องกลับบ้านเดี๋ยวมันจะค่ำเสียก่อนค่ะ” ฐิติณัชชาตอบด้วยน้ำเสียงสดใส  ไร้อาการแง่งอน
   เมื่อจ่ายเงินค่าไอศกรีมเรียบร้อยแล้ว ฐิติณัชชาก็พานงนภัสกลับบ้านด้วยรถยนต์คันใหม่สีฟ้าใสซึ่งบิดาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้า
   “ขับรถดีๆนะคะ...” นงนภัสพูดพร้อมกับเลื่อนตัวไปหอมแก้มสาวน้อยเบาๆ เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวจอดที่หน้าหอพักของเธอ
   “ค่ะ ฟางกลับแล้วนะคะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับออกรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของตนเอง เมื่อนงนภัสลงจากรถยนต์เรียบร้อยแล้ว
   นงนภัสยืนมองอยู่จนรถนต์คันดังกล่าวลับสายตาไปแล้ว หญิงสาวจึงเดินเข้าหอพักเพื่อจัดกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน เมื่อหญิงสาวกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ก็พบเพียงเกศรา ส่วนแฟนสาวของเพื่อนสนิทได้กลับหอพักของตนเองแล้ว
   “ไปทานไอศกรีมกับแฟนมา อร่อยหรือเปล่ายายฟ้า” เกศราแซวเพื่อนสาวเบาๆ ยังผลให้ใบหน้าของหล่อนแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
   “อร่อยจ๊ะ...” ตอบอย่างอ้อมแอ้มก่อนจะเดินไปจัดกระเป๋าเสื้อผ้า โดยนำเสื้อผ้าชุดเก่าใส่ตะกร้า เพื่อให้แม่บ้านของหอพักนำไปซัก แล้วใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ลงไป
   “ไม่ต้องอายหรอกยายฟ้า ไปชิ้งกุ่งกันมาแล้วแท้ๆ” เพื่อนสาวยังคงแซวไม่หยุด
   “ภาษาอะไรของแกยายเกด ชิ้งกง ชิ้งกุ่งอะไรกัน” ต่อว่าเพื่อนเบาๆไม่จริงจังนัก
   “ทำเป็นอายนะยายฟ้า แล้วนี่จัดกระเป๋าจะไปไหนอีก อย่าบอกนะว่าจะไปเที่ยวกันสองคน”
   “ไม่ใช่หรอกเกด ฉันจะกลับบ้าน วันนี้คุณแม่จะมารับ” ตอบพร้อมกับนำกระเป๋ามาไว้บนเตียงนอน เพื่อรอมารดามารับกลับบ้าน
   “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ นงนภัสจึงเดินไปเปิดประตู
“คุณพ่อ...” นงนภัสพูดด้วยน้ำเสียงสั่นระคนดีใจ เมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าประตู คือ บิดาของเธอ บิดาซึ่งเธอไม่ค่อยจะพบหน้าบ่อยนัก โดยที่มารดาของเธอยืนห่างออกไปไม่ไกลนัก หญิงสาวโผเข้ากอดบิดาด้วยความคิดถึง เช่นเดียวกับบิดาก็โอบกอดร่างเล็ก บอบบางของบุตรสาวเอาไว้เช่นกัน
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่” เกศราพนมมือไหว้ บิดามารดาของเพื่อนสาว
   “สวัสดีจ๊ะหนูเกด ไปกันหรือยังลูก” รับไหว้เกศราและหันมาถามบุตรสาว
   “ไปก่อนนะเกด อาทิตย์หน้าเจอกันนะ” บอกลาเพื่อนสาว ก่อนถือกระเป๋าเดินตามบิดามารดาไปขึ้นรถซึ่งจอดไว้หน้าหอพัก
   “คุณพ่อมาอย่างไรคะ ลางานมาเหรอคะ” นงนภัสยื่นหน้าเข้ามาถามจากเบาะหลังที่เธอนั่งอยู่
   “เปล่าหรอกลูก พ่อกลับมาอยู่ที่นี่กับหนูและแม่ พ่อคงไม่กลับไปแล้ว” หันมายิ้มให้ลูกสาวด้วยความเอ็นดู ก่อนเบือนหน้าไปที่ถนนต่อ
   “จริงๆเหรอคะ ฟ้าดีใจที่สุดเลยค่ะ” นงนภัสโถมกายกอดบิดาเอาไว้ด้วยอารามดีใจ
   “เบาๆลูก  คุณพ่อขับรถอยู่” นางอนงค์รีบส่งเสียงเตือนเพราะเกรงเกิดอุบัติเหตุขึ้น
   “ขอโทษค่ะ ก็ฟ้าดีใจนี่คะคุณแม่” นงนภัสปล่อยบิดา ก่อนนั่งลงที่เบาะตามเดิม
   หญิงสาวนึกฝันถึงครอบครัวอบอุ่นตามประสาพ่อแม่ลูก ที่เธอไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าใดนัก เพราะบิดาต้องทำงานอยู่ต่างประเทศ 
   รถยนต์ญี่ปุ่นคันดังกล่าวมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านชานเมือง เมื่อรับประทานอาหารก่อนเข้าบ้าน   
   “ทานอะไรดีลูก” บิดาที่แลดูยังหนุ่มแน่นหันถามบุตรสาว
   “ทานสุกี้ดีไหมคะ ฟ้ากำลังอยากทานพอดีเลยค่ะคุณพ่อ” ตอบด้วยกิริยาท่าทางน่าเอ็นดู จนบิดาต้องเอามือลูบศีรษะเล็กนั้นอย่างเอ็นดู
   “ตามใจลูกแล้วกัน ไปกันเถอะคุณ” ชายหนุ่มเดินโอบกอดร่างบอบบางของภรรยาและบุตรสาวคนละข้างก่อนเดินเข้าไปรับประทานอาหารที่ร้านสุกียากี้ เจ้าอร่อย...
   ขณะที่นงนภัสกำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยและมีความสุขกับครอบครัว  ขณะเดียวกันแสงไฟจากโทรศัพท์ของหญิงสาวก็กระพริบขึ้นภายในกระเป๋าถือซึ่งเธอลืมไว้บนรถยนต์ของผู้ให้กำเนิด โทรศัพท์ของเธอกระพริบอย่างต่อเนื่องตามสายที่โทรเข้ามาจนกระทั่งดับไปเองในที่สุด...
            ..................................................................

   ฐิติณัชชาขับรถยนต์ออกมาจากหอพักของนงนภัส  จนมาถึงบ้านที่เธอพักอาศัยอยู่กับบิดา หญิงสาวขับรถมาถึงหน้าประตูบ้าน หน้าประตูทาสีแบบสมัยใหม่ มองดูคึกคักตัดกับตัวตึกสีขาว มีป้ายสีทอง เขียนว่า ‘ประพันธ์กุล’
รั้วบ้านก่อด้วยอิฐครึ่งหนึ่ง แล้วใช้เหล็กแหลมเสริม ซึ่งกรงเหล็กโปร่งนั้นทาด้วยสีทอง ทำให้คนภายนอกแลเห็นบริเวณภายในได้ถนัด เนินสูงนั้นปลูกหญ้าเขียวขจี ตัดเรียบราวกับปูด้วยพรมผืนมหึมา
ตัวบ้านใหญ่ แลดูเป็นตึกโอฬารมีมุขสี่ปีก  ทรงแปลกแลเห็นชัดว่าปลูกใหม่ด้วยแบบและวัสดุก่อสร้าง เป็นบ้านสองชั้น Style ร่วมสมัยแบบญี่ปุ่น  ออกแบบได้อย่างทันสมัย ในรูปแบบความเป็นเอกลักษณ์ของชนชาติญี่ปุ่น แบบบ้านหลังนี้ เป็นโครงสร้างบ้าน ที่ดูแปลกใหม่ บิดเบี้ยว รูปทรงห้าเหลี่ยม บ้านโครงสร้างที่เป็นห้าแยก มีหลังคาโดม ให้ความสว่างสดใส สามารถรับแสงจากธรรมชาติได้ทุกด้าน ออกแบบโดยมีหน้าต่างบานใหญ่ ฉาบปูนสีขาว การผสมผสาน ในรูปแบบของชาวญี่ปุ่นและรูปแบบโมเดิร์น จึงได้แบบบ้านในสไตล์ร่วมสมัยที่ลงตัวยิ่งนัก
ยามที่เฝ้าหน้าประตู เมื่อเห็นว่าเป็นรถของคุณหนูเจ้าของบ้านก็ลุกขึ้นทำความเคารพและกุลีกุจอเปิดประตูเหล็กให้หญิงส่าว  ฐิติรัชชาจึงขับรถไปตามถนนคอนกรีต ซึ่งทอดจากประตูไปยังตัวตึก
สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้แปลกๆ ทั้งสีสันและรูปทรง ปลูกดารดาษอยู่สองข้างถนนนั้น หญิงสาวนำไปจอดไว้ในโรงรถ  เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้วเจ้าของบ้านสาวก็เดินอ้อมตึกไปมุมโปรดที่สวนหย่อมซึ่งสร้างไว้ทางทิศใต้ของตัวบ้าน ภายในสวนประกอบด้วยภูเขาหรือเนินดินสลับกับที่ราบ มีน้ำตก ลำธาร สระน้ำ โขดหิน หาดทราย มีเกาะกลางทะเลสาบ
ปลูกพันธุ์ไม้ประดับ ที่ใช้ประดับในสวนแบบนี้ประกอบด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด อาทิ ต้นสน พืช พลับ โอ๊ก เมเปิล ซากุระ หลิว ไผ่ อาซาเลีย ปรง ชา เฟิร์น ไม้ซุ้มต่าง ๆ มอส กก บัว ไอริส ฯลฯ
          น้ำในลำธาร ไม่ลึกนัก ในน้ำใสสะอาดมองเห็นก้อนหิน ก้อนกรวดที่ก้นลำธารและปลาแฟนซีคาร์พหลากสีสวยงาม ว่ายวนเวียนไปมาทำให้มีระรอกน้ำ เมื่อมองดูแล้วจะเกิดความรู้สึกว่ามีชีวิตชีวามากขึ้น
ลำธารนี้มีสะพานสำหรับข้าม โดยใช้แผ่นหินสกัดที่มีความโค้งเล็กน้อยวางพาดขวางลำธาร ริมตลิ่งทั้ง  ๒ ฝัง จะฝังก้อนหินรูปทรงสูงเอาไว้เป็นเสาสะพาน  ธารน้ำมีขนาดกว้างขวาง มีเกาะอยู่สระน้ำ บนเกาะประดับด้วยก้อนหินเมื่อมองไกล ๆ มีรูปร่างคล้ายเต่า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นศิริมงคลแก่บ้าน เพราะคนญี่ปุ่นถือว่าเต่าเป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนและปลูกต้นสนไว้บนเกาะด้วย โดยถือว่าต้นสนเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงถาวร เพราะต้นสนทนต่ออากาศอันหนาวเย็นได้ ซึ่งน้ำตก ลำธารนี้ เลียนแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง คือพื้นที่เป็นเกาะของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง โดยทำการดัดแปลงและย่อส่วนให้เล็กลง
หญิงสาวเดินทางทางเดินไปสู่เรือนน้ำชา ซึ่งเป็นศาลาทรงญึ่ปุ่นหลังเล็ก บนพื้นปูกระดานขัดเป็นเงางามหญิงสาวนั่งมองทัศนีภาพอยู่ชั่วครู่ ‘ยาเอะ’ พี่เลี้ยงวัยกลางคนเดินถือถาดบรรจุกาใส่ชาญี่ปุ่นกับของว่าง มาวางไว้บนโต๊ะ ยาเอะจัดการชงน้ำชา ก่อนรินใส่ถ้วยใบโปรดไว้ให้
   “คุณพ่อไม่อยู่เหรอคะ บ้านเงียบจังเลยค่ะ” ฐิติณัชชาถามขึ้นมาเบาๆ หลังจากจิบชาญี่ปุ่นหอมละมุน รสชาติดีแล้ว
   “คุณท่านไปสัมมนาต่างจังหวัดค่ะคุณหนู” เสียงตอบเป็นภาษาไทยกระท่อนแท่นดังขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินหายไปในตัวบ้าน
   ฐิติณัชชาคีบเกี๊ยวซ่า (Gyoza) ชิ้นหนึ่งใส่ปากเคี้ยว ตามด้วย ทาโกะยากิ รสชาติเยี่ยม ฝีมือยาเอะนั่นเอง  หญิงสาวหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหานงนภัส  โทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย หญิงกระหน่ำโทรหลายสายก็ยังไม่มีคนรับจนกระทั่งสายได้ถูกตัดไปจึงได้หยุด
   เวลาผ่านไปจนกระทั่งดึกดื่น หลังจากรับประทานอาหารค่ำและอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฐิติณัชชาในชุดนอนผ้าไหมญี่ปุ่นบางเบาสีน้ำทะเล ก็เข้านอนบนเตียงนอนสีท้องนภา มือได้หยิบโทรศัพท์มากดโทรหานงนภัสอีกครั้ง
“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้  กรุณาติดต่อเข้ามาภายหลังค่ะ” เสียงที่ดังจากปลายสายทำให้ฐิติณัชชากดวางสาย ป่านนี้รุ่นพี่สาวจะทำอะไรอยู่หนอ หญิงสาวหลับตาเพื่อข่มความคิดถึง ก่อนจะหลับไปอย่างง่ายดายด้วยความเหนื่อยอ่อนกับกิจกรรมรับน้องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
.......................................................................
   









 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.