อนนต์กับเรณูมองหน้ากันด้วยความสงสัยด้วยมีอะไรหลายๆอย่างที่ดูแปลกไปตั้งแต่ตำแหน่งประจำของการนั่งกินข้าวที่เปลี่ยนไปแล้วไหนจะท่าทางที่ดูเอาอกเอาใจของลูกสาวคนโตที่ตั้งแต่เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยกันยังไม่มีโอกาสได้เห็น
“อัยย์อิ่มแล้วค่ะ”
ไอฟ้าหันไปบอกคนที่กำลังตักกับข้าวให้เธอมือเป็นระวิงไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้รับคำตอบรับที่ทำให้หัวใจพองโตรู้สึกอิ่มจนไม่นึกหิวแม้แต่น้อยแต่คนข้างๆนี่สิบทจะเอาใจก็อ้อนซะเธอลืมอิ่มไปเลยทีเดียว
“พี่ว่าอัยย์กินน้อยไปนะ”
“อิ่มแล้วจริงๆค่ะอิ่มใจร่างกายเลยไม่หิว”
คนพูดเอ่ยออกมาเบาๆเพราะอยากให้ได้ยินกันแค่สองคนแต่เธอก็พอจะดูออกว่าบุคคลที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยอีกสองคนคงนึกสงสัยกับการกระทำของเธอทั้งคู่อยู่บ้าง
“ปากดีจัง”
ศิศิราไม่พูดเปล่าแต่กลับค่อยๆยื่นมือมาสัมผัสกับริมฝีปากของคนข้างๆพร้อมกับการเกลี่ยเบาๆ
“กินข้าวหยั่งกับเด็กเลอะหมดแล้ว”
“เอ่อ…ขอบคุณค่ะ”
ไอฟ้าตอบรับอย่างเขินๆพร้อมกับการดึงตัวเองให้ออกมาจากการสัมผัสของคนข้างๆเพราะรู้สึกว่าการกระทำของศิศิราจะเรียกความสนใจจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะแม่เลี้ยงของเธอที่ดูจะติดใจเป็นพิเศษถึงขนาดไม่กระพริบตา
หลังจากการทำงานที่ยุ่งวุ่นวายมาตลอดทั้งวันได้จบลงศิศิราค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้าแต่ก็น่าแปลกเพราะทันทีที่เห็นใครอีกคนอยู่ใกล้ๆเธอก็รู้สึกเหมือนได้รับการเติมพลังให้คืนกลับมาอีกครั้ง
เสียงเคาะประตูทำให้คนกำลังใช้ความคิดต้องดึงตัวเองกลับมาสู่โลกความเป็นจริงก่อนจะเอ่ยให้คนที่ยืนรออยู่หน้าประตูเข้ามาได้
“เข้ามา”
“เอกสารสรุปการประชุมเรื่องจำนวนสินค้าค่ะ”
“โอเค ขอบใจมาก”
ศิศิรารับแฟ้มงานมาอ่านครู่หนึ่งก่อนจะเซ็นให้ผ่านเมื่อเช็กข้อมูลทุกอย่างว่าถูกต้องจากนั้นก็ยื่นแฟ้มคืนให้กับเลขาที่ยืนรออยู่แต่พอไม่ได้รับการตอบรับและเห็นว่าเจ้าหล่อนกำลังเหม่อมองอะไรอยู่ความรู้สึกหงุดหงิดก็พุ่งเข้ามาครอบครองความคิดทันที
“จะให้ฉันถือแฟ้มอีกนานมั้ย”
น้ำเสียงดุๆทำให้เลขาสาวที่กำลังจ้องไอฟ้าอยู่ถึงกับผงะจนต้องรีบหันกลับมาส่งยิ้มแหยๆให้กับเจ้านายสาวก่อนจะรีบรับแฟ้มแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็วเพราะเริ่มรับรู้ถึงภัยน่ากลัวที่กำลังจะมาเยือน
“หมั่นไส้! ”
ไม่ใช่แค่เพียงประโยคบ่นระบายอารมณ์เท่านั้นเพราะคนพูดคว้าปากกาที่อยู่ใกล้มือที่สุดเขวี้ยงไปทางคนที่นั่งไม่รู้เรื่องให้ได้เป็นคนที่ต้องรับกรรมที่ไม่ได้ก่อ
“โอ๊ย! ”
ไอฟ้าร้องขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกว่ามีวัตถุลึกลับพุ่งมาปักที่กลางหัวและคงไม่ต้องเดาว่าเจ้าสิ่งนี้มาจากไหนเพราะคนลงมือเดินมาส่งสายตาหาเรื่องอยู่ที่ตรงหน้าเธอนี่แล้ว
“เล่นอะไรคะเนี้ย”
“ไม่ได้เล่นเอาจริง”
เป็นประโยคคำพูดที่ฟังดูจริงจังอีกทั้งสายตาที่มองมานั่นอีกราวกับว่าศิศิรากำลังจะขย้ำคนฟังให้แหลกคามือ
“เอ…จำได้ว่าอัยย์ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”
“ก็ลองทำดูสิ! พี่เอาตายแน่”
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไอฟ้าก็ยังอุตส่าห์เดินอ้อมไปหาคนหน้างอพร้อมกับการดึงตัวเข้ามากอดหลวมๆ
“โอ๋ๆ ไม่ทำค่ะไม่ทำเด็ดขาด”
“ดี”
“ว่าแต่ทำอะไรคะ”
ทันทีที่พูดจบคนในอ้อมกอดก็จัดการบิดเนื้อบริเวณท้องน้อยของคนพูดทันทีก่อนหันไปจ้องหน้าเจ้าของวงแขนที่กอดตัวเองอยู่
“ที่ถามนี่จะทำใช่มั้ย”
“เปล่าค่ะ”
“แล้วจะถามทำไม! ”
“เอ่อ…นั่นสิเนาะ”
ไอฟ้ารับคำอย่างงงๆแต่หากยังฝืนเซ้าซี้ต่อไปเธอคงจะมีงานเข้าแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวแน่ๆ
สรุปก็คือยอมรับผิดทั้งๆที่ยังไม่รู้ประเด็นที่ทำให้เกิดปัญหา ศิศิรานี่นำพาความตื่นเต้นมาให้เธอได้ตลอดเวลาจริงๆ
เย็นนี้ไอฟ้าต้องพบกับความหงุดหงิดอย่างเลี่ยงไม่ได้เมื่อพบว่ามีใครมานั่งรอศิศิราแล้วไหนจะท่าทางหัวเราะหยอกล้อราวกับอยู่กันเพียงลำพังนั่นอีกนี่กะจะไม่เห็นหัวเธอเลยใช่มั้ย
สองหนุ่มสาวลุกขึ้นพร้อมกันก่อนจะมาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะของคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน
“สวัสดีครับคุณอัยย์”
“สวัสดีค่ะ”
“เข้ามาตั้งนานไม่ได้ทักทายกันเลยนะครับผมก็มัวแต่คุยกับน้ำจนลืมไปเลย”
วัลลภเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ไอฟ้ารู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกไม่ชอบและเห็นว่ามันกวนอวัยวะเบื้องล่างเป็นที่สุดหากแต่มารยาทก็ทำให้เธอทำได้แค่เพียงการส่งยิ้มกลับคืนไปเท่านั้น
“เย็นนี้ว่างมั้ยครับ”
คนถูกถามนิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนจะหันไปเหล่มองคนที่ยืนข้างๆชายหนุ่มที่ทำท่าทางเหมือนไม่สนใจเธอเพราะเอาแต่ก้มดูแฟ้มบนโต๊ะ
“วันนี้วันเกิดผมครับน้ำเค้าเลยจะพาไปเลี้ยง”
คนพูดเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ไอฟ้าคิดว่าถ้าปากฉีกได้ถึงสามร้อยหกสิบองศาวัลลภคงจะทำไปแล้ว
“ผมก็เลยมาชวนคุณอัยย์ไปด้วยกันจะได้จัดหนักให้กับเจ้ามือ”
น้ำเสียงกวนๆของวัลลภทำให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้ามืออย่างศิศิราอดไม่ได้ที่จะฟาดมือลงที่แขนของคนพูดแบบรัวๆจนคนถูกฟาดต้องคว้ามือของคนข้างๆเอาไว้
“เจ็บนะครับ”
“ก็อยากพูดมากทำไมถ้าจะกินขนาดนั้นน้ำเปลี่ยนใจดีกว่า”
“ไม่ได้นะคำไหนคำนั้น”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพยานปากเอกที่ยืนนิ่งเหมือนก้อนหิน
“เปลี่ยนใจไม่ได้แล้วจริงมั้ยครับคุณอัยย์”
“ค่ะ”
ไอฟ้าตอบรับสั้นๆก่อนจะมองไปที่มือของคนทั้งคู่ที่ยังเกาะกุมกันอยู่ความน้อยใจเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อรู้สึกได้ว่าศิศิราสนใจใครคนอื่นมากกว่าตัวเอง
“สุขสันต์วันเกิดนะคะแต่อัยย์คงไปด้วยไม่ได้พอดีมีนัดแล้ว”
พูดจบไอฟ้าก็เก็บแฟ้มที่โต๊ะก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มที่วางอยู่ตรงหน้าศิศิราเพื่อเอามาเก็บแต่กลับถูกมือของอีกฝ่ายแยกแฟ้มไป
“มีนัดกับใคร”
ศิศิราเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่ใครเลยจะรู้ว่าหัวใจของเธอมันสั่นไหวมากมายขนาดไหนแต่ที่ทำเป็นไม่สนใจเพราะไม่อยากแสดงอาการให้มากจนผิดสังเกตแต่พอได้ยินว่าคนตรงหน้ามีนัดเท่านั้นแหละอาการเก๊กทุกอย่างที่พยายามสร้างขึ้นก็ถูกโยนทิ้งอย่างรวดเร็วจนไม่เหลือฟอร์ม
“เพื่อนค่ะ”
“เพื่อนที่ไหนทำไมพี่ไม่รู้”
“เพื่อนจริงๆค่ะพี่น้ำไม่รู้จักหรอก”
ไอฟ้าพายามสร้างรอยยิ้มส่งให้กับคนที่คุยด้วยแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อศิศิราเหมือนกับกำลังจะหาเรื่องเธอ
“ไม่รู้จักงั้นเหรอพี่ว่ารู้จักนะแล้วก็รู้จักดีด้วย”
“ไม่รู้จักจริงๆค่ะแล้วเจอกันที่บ้านนะคะ”
พูดจบไอฟ้าก็หมุนตัวจะเดินไปที่ประตูแต่ขาทั้งสองข้างก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมองเห็นใครยืนอยู่ที่หน้าประตู
“นภา”
ไอฟ้าเอ่ยเรียกชื่อบุคคลที่สี่ด้วยน้ำเสียงที่แทบไม่ได้ยินลางสังหรณ์บางอย่างกำลังค่อยๆชัดเจนขึ้นและมันก็กระจ่างจนไม่อยากจะมองเห็นเมื่อหันไปมองหน้าหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“สวัสดีค่ะทุกคน”
นภาเอ่ยทักทายคนในห้องด้วยรอยยิ้มก่อนจะมาหยุดยืนข้างๆไอฟ้าพร้อมกับการคว้าแขนอีกฝ่ายมาครอบครอง
“สวัสดีค่ะอัยย์นภาคิดว่าจะมาไม่ทันซะอีก”
“ค๊ะ”
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ”
“เอ่อคือ…”
“ไม่ต้องคือค่ะยังไงวันนี้อัยย์ก็ปฏิเสธนภาไม่ได้”
คนพูดยิ้มออกมาอย่างเจ้าเลห์พร้อมกับการกระชับแขนที่จับแขนของคนข้างๆให้แน่นขึ้นเพื่อความมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะหนีไปไหนไม่ได้แต่สิ่งที่นภาลืมตระหนักมากที่สุดก็คือหญิงสาวอีกคนที่ยืนดูอยู่ข้างหลังที่ตอนนี้ความอดทนได้สิ้นสุดลงแล้ว
ไอฟ้าถึงกับตัวปลิวเมื่อถูกคนที่เดินมาข้างหลังกระชากตัวจนเซเกือบล้มและรวดเร็วยิ่งกว่าความเร็วแสงเมื่อศิศิราจัดการแกะมือของนภาออกจากแขนของไอฟ้าพร้อมกับการหยุดยืนนิ่งระหว่างๆคนทั้งคู่
“จะไปกินอะไรล่ะวันนี้ฉันเป็นเจ้ามือเอง”
ศิศิรายกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับการหมุนตัวไปเกี่ยวแขนของไอฟ้าเอาไว้เหมือนต้องการสื่ออะไรบางอย่างให้คนที่มองอยู่ได้รู้
“ท่าทางคุณนภาจะหิวแล้วเราไปกันดีกว่าค่ะ”
พูดจบศิศิราก็กึ่งลากกึ่งจูงคนข้างๆให้เดินตามตัวเองมาคืนก่อนเธออาจจะพลาดที่ปล่อยให้ไอฟ้าคลาดสายตาแต่มันจะไม่มีอีกแล้ว!
วัลลภมองตามสองพี่น้องที่เดินด้วยท่าทางทุลักทุเลอย่างสงสัยแต่ก็สะบัดมันทิ้งไปเมื่อหันไปเห็นคนที่โดนทิ้งเช่นเดียวกันกับตัวเอง
“ดูรักกันดีนะครับพี่น้องคู่นี้”
“งั้นมั้งคะ”
“ผมว่าเรารีบตามไปดีกว่ารู้สึกเป็นห่วงคุณอัยย์ยังไงชอบกล”
พูดจบวัลลภก็เดินตามคนทั้งคู่ไปโดยมีนภาเดินตามมาเงียบๆเพราะกำลังใช้ความคิดอยู่
เธอว่านับวันศิศิราก็ยิ่งจะดูหวงไอฟ้ามากขึ้นจนเธอชักจะเข้าใกล้ได้ยากขนาดเรื่องงานที่น่าจะเป็นข้ออ้างได้ดีที่สุดแต่กลับถูกศิศิราเปลี่ยนแผนใหม่หมดโดยการให้คนอื่นมาดูแลแทนไอฟ้าและอ้างเหตุผลต่างๆนาๆจนเธอเถียงไม่ออก
และจากท่าทางเมื่อสักครู่มันดูชัดเจนจนเธอคงจะปล่อยเวลาให้สูญเปล่าไม่ได้อีกแล้วถึงเวลาที่ไอฟ้าควรจะได้รับฟังความในใจขอเธอสักที…
นิยายเรื่องอื่นๆ
คุณหนูที่รัก yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259เกมรัก สะดุดใจ yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672ปีกรัก yuri
http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762กำแพงหัวใจ
http://www.comeon-book.com/comeonv3/story.php?SID=20284สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyouขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ปล. ได้หนังสือกันแล้วใช่มั้ยเอ่ยใครยังไม่ได้แจ้งไรท์ด้วยน๊า...^^