web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 121
Total: 121

ผู้เขียน หัวข้อ: นกของทิฆัมพร บทที่ 9  (อ่าน 1206 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อาพัทธ์ อันธการ

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 74
นกของทิฆัมพร บทที่ 9
« เมื่อ: 27 ธันวาคม 2013 เวลา 00:02:15 »
บทที่9

'ขอบคุณนะที่ส่งกระต่ายมาให้ ข้าวตั้งชื่อว่าสโตน เพราะอ้อยชอบนั่งนิ่งเหมือนก้อนหินไง ชื่อไม่ค่อยเข้ากับหน้าตุ๊กตาเท่าไหร่ แต่ข้าวว่าชื่อนี้แหละโอเคแล้ว อีกอย่างอ้อยไม่ต้องเปลืองเงินแล้วนะ ข้าวรู้ว่างานที่อ้อยทำอยู่ได้เงินไม่มาก อ้อยเก็บไว้ดีกว่า

เรื่องเพื่อนใหม่ ข้าวคิดว่าดีที่อ้อยจะมีใครไว้ให้คุยหรือช่วยเหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บ้าง การอยู่คนเดียวมากเกินไปมันหดหู่นะ แม้แต่กับอ้อยเองก็เถอะ ข้าวรู้ว่าอ้อยชินที่จะอยู่คนเดียว แต่การจะอยู่บนโลกได้เราจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับคนมากมาย ถือว่าเป็นการฝึกละกัน

อีกไม่นานเราก็จะได้เจอกันแล้ว ข้าวหวังว่าเวลาจะหมุนเร็วขึ้นกว่านี้อีกหน่อยตอนที่เราอยู่ไกลกัน แล้วก็หมุนให้ช้าลงมากๆ เวลาเราอยู่ด้วยกัน คืนนี้ข้าวคงต้องนอนแล้ว ฝันดีนะ...ที่รัก

ข้าวเอง'

จดหมายฉบับถัดมาเร็วกว่าที่ทิฆัมพรได้คาดการณ์ไว้ อาจจะเป็นเพราะเจ้าปุกปุยขนนุ่มนั้นก็ได้ หล่อนชอบคำลงท้ายของจดหมายเหลือเกิน ข้าวหอมไม่เคยพูดคำนี้ให้ฟังมาก่อนเลย เธอเดาว่าคนเขียนก็คงเขินอายไม่น้อยเหมือนกัน

หญิงสาวกอดจดหมายไว้แนบอก จำทุกอักษรได้ขึ้นใจ และมีแรงฮึดที่จะทำงานหนักอีกครั้ง หล่อนเก็บจดหมายลงซองและใส่ในกระเป๋าหลังของกางเกงยีนด้วยความเบามือ



"มาส่งตั้งหลายวันแล้วไม่คิดจะชวนหนูเข้าไปในบ้านบ้างเหรอ" สาวแกร่งเอ่ยปากเอง เพราะขืนรอให้คนหน้านิ่งพูดเธอคงไม่มีวันได้ฟัง

"ที่บ้านไม่ค่อยสะดวกรับแขกน่ะ" ประโยคค่อนข้างยาวผิดปกติออกมาจากคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง

น้ำเสียงนุ่มนั้นเหมือนจะเรียบเฉยแต่หล่อนจับความรู้สึกและอารมณ์ได้ว่ามีความเบื่อหน่าย และเกลียดปะปนอยู่ แต่เธอก็ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ในสิ่งที่ตัวเองคิด

"ทำไมล่ะ" พรรณรายอยากรู้เหตุผลที่แท้จริง

"แม่ไม่ค่อยชอบให้ใครเข้าบ้าน" หญิงสาวได้ยินเสียงถอนหายใจคล้ายกับคนร่างบางไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้

"อืม" หล่อนรับรู้ ปล่อยให้ความสงสัยอยู่ภายในใจ เธอไม่อยากทำให้ทิฆัมพรรู้สึกไม่ดี ถ้ารู้จักกันนานกว่านี้บางทีคนนิ่งอาจจะไว้ใจจนเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ กับเธอได้



"ดีข้าว" เสียงหวานทักเมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องเรียนยามเช้า

"ดีปราง จันทร์" หล่อนทักกลับพลางส่งยิ้มอย่างอารมณ์ดี

"พรุ่งนี้วันหยุดแล้วไปเที่ยวกันไหม" รักษณาลีเอ่ยปากอย่างกระตือรือร้น

"ที่ไหนล่ะ" วรดาถามก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ

"คิดว่าจะไปชะอำไม่ก็น้ำตก ข้าวอยากไปที่ไหนมากกว่ากันล่ะ" สาวน่ารักมองหน้าอย่างต้องการคำตอบ

"แล้วปรางกับจันทร์อยากไปที่ไหนมากกว่ากัน" เธอเฉยๆ ทั้งคู่ สำหรับหล่อนไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก แค่ได้ไปพักผ่อนก็ถือว่าดีแล้ว

"จันทร์เขาอยากไปน้ำตก รายนี้เขาไม่ค่อยชอบอากาศร้อนๆ หรอก แต่ปรางอยากไปทะเลอยากยืนในห่วงยางแล้วโต้คลื่นเล่น" ดวงตาสีเข้มพราวระยับ มันเปี่ยมไปด้วยความต้องการและความมุ่งมั่น

"แล้วนี่จะชวนเก่งไปด้วยรึเปล่า" เธอยังไม่อยากตอบเพราะลำบากใจที่จะเป็นคนตัดสิน ถ้ามีอีกคนไปด้วยจะได้ช่วยๆ กัน

"คงไม่ชวนอ่ะ ไม่งั้นต้องจองห้องแยกนะ จะให้ผู้ชายมานอนห้องเดียวกันมันไม่ค่อยดี" เพื่อนสาวพูดพร้อมทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

"อือ แต่ก็คงต้องบอกเหตุผลเก่งแหละ ไปแล้วไม่บอกเดี๋ยวจะเสียความรู้สึก" หญิงสาวคิดเผื่อ แค่อภิชัจเป็นผู้ชายคนเดียวของกลุ่มอีกฝ่ายก็น่าจะรู้สึกแปลกแยกมากพอแล้ว

"เราบอกเอง" เป็นปพิชญาที่พูดออกมาด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างเรียบเฉย เธอไม่ค่อยแปลกใจที่คนตรงหน้าอาสา จันทร์เป็นคนคิดมากและคาดเดาได้ยาก

"ตกลง" หล่อนและปรางพูดออกมาพร้อมกัน



สุดท้ายวรดาก็ตัดสินใจว่าจะไปน้ำตก เพราะเข้าหน้าฝนแล้วไปทะเลอาจจะไม่ค่อยสนุกสักเท่าไหร่นัก ปรางก็ไม่ได้ว่าอะไร จันทร์จึงโทรไปจองห้องพักแบบกระทันหัน โชคดีเพราะช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงที่จะมีนักท่องเที่ยวเยอะจึงมีห้องว่างเหลืออยู่

หล่อนหยิบยากันยุงใส่ในเป้เผื่อไปด้วยเพราะคาดว่าอาจจะมียุงเยอะ เธอพกหลายอย่างเผื่อไว้เอง คงไม่สนุกถ้าเป็นไข้เลือดออกหรือเกิดไม่สบายขึ้นมา และไม่สามารถพาไปโรงพยาบาลได้ทัน

จากนั้นจึงนั่งรถเมล์ไปที่หมอชิตเพื่อที่จะได้ต่อรถไปยังจุดหมาย คนผมยาวนัดกับเพื่อนไว้ที่นี่เพราะสะดวกที่สุด

เวลาทั้งเช้าและเลยไปถึงบ่ายหมดไปกับการนั่งรถไปยังน้ำตกเก้าโจนหรือที่เรียกว่าน้ำตกเก้าชั้นในจังหวัดราชบุรี เธอรู้สึกปวดก้นกว่าตอนที่นั่งรถจากกาญจนบุรีมากรุงเทพฯ เสียอีก อาจจะเพราะคราวนั้นพ่อขับรถมาส่งจึงสบายกว่าก็เป็นได้

"ถึงสักที" ปรางบ่นกระปอดกระแปด เหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าใส ส่วนจันทร์ก็มีสีหน้าไม่ต่างกันเพียงแต่ไม่พูดอะไรออกมาเลย

"อือ เอาของไปเก็บที่พักก่อนแล้วค่อยมาเล่นน้ำเหอะ" หล่อนเสนอเพราะอยากไปนั่งพักสักครู่หนึ่งให้คลายความเมื่อยล้าก่อน



ทางขึ้นน้ำตกแต่ละชั้นทำเอาขาเธอสั่น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แค่เพียงขึ้นไปชั้นแรกก็เดินตั้งเกือบ 10 นาที พอขึ้นไปชั้นที่สองและสามเธอก็ยอมแพ้ไม่ไหวอีกต่อไป ปล่อยให้สองสาวเพื่อนรักเดินขึ้นไปที่ชั้นอื่น หล่อนนั่งเล่นน้ำใสอยู่ที่ชั้นนี้จนกว่าทั้งคู่จะลงมา

ปรางตั้งใจว่าจะขึ้นไปให้ได้ถึงชั้นสุดท้ายคือชั้นที่ 9 ถ้าฝนไม่ตกหญิงสาวก็คิดว่าน่าจะลำบากแต่คงทำได้ วันนี้แดดไม่ออก แต่ฟ้าก็ไม่มืดครื้มจึงคาดเดาได้ลำบากว่าจะเป็นอย่างไร

"ข้าวไม่ไหวแล้วเหรอ" คนน่ารักตะโกนถามเมื่อหันหลังกลับมาแล้วเห็นเธอนั่งอ่อนแรง

"ไปเหอะ ข้าวรอตรงนี้แหละ ระวังด้วยนะ" หล่อนไม่วายเตือน กลัวว่าจะพลาดพลั้งลื่นล้มกันก่อนจะไปถึงปลายทาง

"อือ ข้าวก็เหมือนกัน" ปรางยิ้มให้ก่อนจะเดินนำหน้าเพื่อไปสู่ชั้นที่ 4 ซึ่งคงไม่ค่อยมีคนเดินขึ้นไปสักเท่าไหร่เพราะมีหลายคนหยุดแค่ชั้นที่ 3 เหมือนเธอจำนวนมาก วรดาไม่แปลกใจเพราะแค่นี้ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้ว ถ้าข้อเท้าเธอเป็นจิ๊กซอว์ป่านนี้คงหลุดเป็นชิ้นๆ



กว่าที่รักษณาลีและปพิชญาจะกลับลงมาก็เย็นเต็มทนแล้ว เนื้อตัวทั้งคู่ค่อนข้างมอมแมมและเปียกชื้น เดาได้ไม่ยากว่าคงหกล้มกลางทาง และลงเล่นก่อนจะลงมา

"เป็นไงสวยไหม" หญิงสาวถามยิ้มๆ

"อือสวยมาก" จันทร์ตอบปากแย้มยิ้มเล็กน้อยอย่างพึงพอใจ

"ตามนั้นแหละ แต่ทางขึ้นทั้งลื่นทั้งชัน เกือบตกตั้งหลายรอบ" อีกคนบ่นแต่ใบหน้ากลับดูมีความสุข ตรงข้ามกับคำพูดสิ้นเชิง

"กลับกันเถอะ ข้าวหิวแล้วนั่งรอตั้งนาน" หล่อนยืนขึ้นบิดตัวไปมาแก้เมื่อย เธอนั่งรอตั้งเกือบสองชั่วโมง

"อือ" ทั้งสามเดินลงมายังข้างล่าง



"ได้อาบน้ำอุ่นนี่ดีจริงๆ" คนผมยาวสยายพูดพลางทำหน้าพริ้ม

"ทำยังกะอยู่บ้านไม่ได้อาบ" หญิงสาวเอ่ย ขำที่คนตรงหน้าชอบแสดงออกมากเกินความเป็นจริง

"ก็ได้อาบ แต่มันไม่เหมือนกันนี่" เพื่อนสาวยังคงทำหน้าตาอิ่มเอมใจ

"มาเล่นเกมกันดีกว่า" วรดาชวน เธอพกโดมิโนมาชุดหนึ่ง เพราะเห็นว่ามีขนาดเล็กสะดวกต่อการเอามาด้วยและไม่กินพื้นที่มากนัก

"นึกว่าจะต้องนั่งเบื่อไม่มีอะไรทำซะแล้ว" คนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำ คว้ามือเพื่อนสนิทให้มานั่งหันหน้าเข้าหากันบนเตียง แล้วเริ่มการสุ่มหยิบตัวต่อขึ้นมา

"ไม่ไหวแล้ว" คนผมสวยเอนหลังนอนลงไปบนเตียงนุ่มทั้งๆ ที่ขายังขัดสมาธิอยู่

"อือ นอนเถอะ" จันทร์เป็นคนพูดหลังจากเพิ่งเล่นเกมสุดท้ายจบและหล่อนเป็นผู้ชนะ

"ก็ดีเหมือนกัน ยังรู้สึกเหนื่อยจากตอนบ่ายอยู่เลย" คนสวยเห็นด้วย เริ่มรู้สึกปวดหลัง แขน และขาได้สักพักแล้ว

"เราขอนอนตรงกลางนะ" ปรางเด้งตัวขึ้นมาก่อนพูดพร้อมรอยยิ้มแปลกๆ

"ได้สิ" เธอตอบตกลง

"อือ" จันทร์เองก็ยอมเช่นเดียวกัน



"ปราง" เสียงเรียกจากด้านขวาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

"หือ" หล่อนส่งเสียงในลำคอขานรับ

"คิดอะไรอยู่" น้ำเสียงนิ่งๆ นั้นดูเหมือนจะรู้ทันสิ่งที่เธอต้องการ

"ไม่ได้คิดสักหน่อย" หญิงสาวไม่อยากบอก

"อย่าทำอะไรไม่ดีล่ะ เดี๋ยวข้าวจะโกรธแทนชอบ" ปพิชญาเตือน คนผมสลวยรู้ว่าคนข้างๆ หวังดี

"อาหะ" รักษณาลีตอบแบบไม่จริงจังและไม่รับปาก




email+facebook : N.Rattanawadikant@gmail.com
fanpage : www.facebook.com/อาพัทธ์-อันธการ/107884562739822

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.