คนถูกขังมองดูประตูที่ปิดสนิทอย่าท้อใจก่อนจะหันไปสำรวจจุดต่างๆที่พอจะใช้เป็นทางออกได้แต่กลับพบว่าทุกจุดถูกปิดตายไปหมดแล้ว
เวลาผ่านไปไม่นานประตูที่คิดว่าถูกปิดตายก็ค่อยๆเปิดออกพร้อมกับใครบางคนที่มัทนาแน่ใจว่าไม่ใช่คนที่จับเธอมาขังแน่ๆ
ปาลิตาจ้องมองคนที่ยืนอยู่ในห้องอย่างชิงชังก่อนจะเดินเข้าไปแล้วรีบปิดห้องเพื่อไม่ให้ใครสงสัย
“คุณเข้ามาทำไม”
“ทำไมฉันจะเข้ามาในนี้ไม่ได้ล่ะในเมื่อที่นี่ก็บ้านฉันเหมือนกัน”
“ต้องการอะไร”
น้ำเสียงห้วนๆที่ถูกเอ่ยออกมาไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกโกรธแต่อย่างใดเพราะมีสิ่งอื่นที่สำคัญยิ่งกว่า
“อย่าระแวงไปเลยฉันมาดี”
“คุณเนี้ยนะ!”
“ทำไมล่ะฉันไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ลองไปส่องกระจกสิ”
ปาลิตาแทบจะระงับอารมณ์ไม่อยู่หากไม่มีแผนป่านี้เธอคงได้ลงไม้ลงมือกับคนตรงหน้าไปแล้ว
“เอาเถอะเธอจะคิดยังไงก็ช่างแต่อยากให้รู้ว่าวันนี้ฉันมาดี”
คนพูดพยายามส่งยิ้มที่เป็นมิตรไปให้มัทนาแต่กลับได้รับเพียงหน้านิ่งๆกลับมาทำให้ปาลิตาเริ่มชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาบ้าง
“ฉันไม่อยากให้เธออยู่ที่นี่และเธอก็ไม่ต้องการอยู่ที่นี่เท่ากับว่าตอนนี้เรามีเป้าหมายเดียวกัน”
“หมายความว่า…”
“ฉันพูดขนาดนี้คงไม่ต้องแปลอะไรให้มากความแล้วล่ะมั้งแต่ถ้าเธอยังไม่ค่อยเข้าใจฉันจะบอกให้…”
จากนั้นปาลิตาก็เล่าแผนการช่วยเหลือให้คนถูกขังฟังก่อนจะบอกเส้นทางลับที่ตัดผ่านไปถึงถนนใหญ่ที่สามารถเรียกรถประจำทางได้ง่ายๆและเพียงแค่รู้หนทางที่จะสามารถไปจากที่นี่ได้มีหรือที่มัทนาจะไม่ตอบตกลง
นั่นคือคำพูดสุดท้ายระหว่างเธอกับปาลิตาเพราะตอนนี้มัทนากำลังเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเพราะหากครั้งนี้เธอพลาดนั่นก็อาจหมายถึงโอกาสที่จะไม่มีวันได้รับอีกและเหมือนท้องฟ้าจะเป็นใจเมื่อจู่ๆแสงแดดที่สามารถแผดเผาให้ละลายกำลังค่อยๆถูกเมฆดำปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าและไม่ทันได้คิดอะไรต่อเมื่อเริ่มมีหยดน้ำหยดลงมาทีละหยดๆจนในที่สุดแปรเปลี่ยนเป็นสายน้ำที่เทลงมาแบบไม่ขาดสาย
มัทนามองดูหนทางที่เหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดอย่างท้อใจเพราะเธอกำลังเริ่มคิดได้ว่าแผนการที่ปาลิตาวางไว้อาจจะเป็นการกลั่นแกล้งเธอซะมากกว่าแต่ในเวลานี้การหันหลังกลับจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอจะทำ
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วบ้านโดยเฉพาะภายในห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้มีเพียงสามพี่น้องเท่านั้นที่นั่งอยู่
ปาลิตาเหลือบมองหน้าพี่สาวคนโตด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะเพราะบัดนี้อีกฝ่ายรู้แล้วว่าคนที่อยู่ในห้องหายไปและหากเธออ่านสายตาที่มองมาทางตัวเองไม่ผิดเชื่อว่าหทัยภัทรกำลังสงสัยเธออยู่
“ใครเป็นคนทำ”
ในที่สุดหทัยภัทรก็เอ่ยแทรกความเงียบออกมาจนได้แต่ทั้งๆที่คำถามไม่ได้ระบุชื่อคนทำผิดแต่ไม่รู้ทำไมสายตาของคนพูดถึงได้จับจ้องไปทางน้องสาวคนเล็กตลอดเวลา
“ตาเปล่านะคะ ตาไม่ได้ทำอะไร”
ปาลิตาปฏิเสธเสียงแข็งหากแต่สีหน้าที่ลนลานกลับไม่สามารถปิดได้มิด
“พี่จะให้โอกาสตอบอีกครั้งอย่าคิดที่จะโกหกเพราะเธอทั้งสองคนก็น่าจะรู้ดีว่าพี่เกลียดคนโกหกมากแค่ไหน”
คนพูดเอ่ยออกมาด้วยสีหน้านิ่งๆจากนั้นก็เดินเข้าไปใกล้ผู้ต้องสงสัยที่ตอนนี้เริ่มมีเม็ดเหงื่อซึมออกมามากขึ้นทุกที
“ตาเป็นคนทำใช่มั้ย”
“คือ คือตา…”
“ขอให้พูดความจริงแล้วพี่จะไม่เอาโทษ”
เท่านี้ปาลิตาก็รู้แล้วว่าหทัยภัทรรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้วใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อค่อยๆซีดลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่เจ้าตัวจะใช้มือสั่นๆเช็ดเหงื่ออย่างมีพิรุธ
“ตาทะ ทะทำเองค่ะ”
“ทำไมถึงขัดคำสั่งพี่”
“ตาแค่ไม่อยากฝืนใจใครถ้าเค้าไม่อยากอยู่เราก็ปล่อยเค้าไปสิคะจะรั้งให้เสียศักดิ์ศรีทำไม”
ถึงจะกลัวคนตรงหน้ามากแค่ไหนแต่ปาลิตาก็ยังสามารถเอ่ยความคิดของตัวเองออกมาได้หมด
“มันเรื่องของพี่อย่าทำอะไรนอกเหนือจากคำสั่งพี่อีกไม่งั้นอย่ามาหาว่าพี่ใจร้าย”
น้ำเสียงบวกกับสีหน้าจริงจังของคนพูดสามารถตรึงคนฟังได้แบบอยู่หมัดเพราะตอนนี้ปาลิตาแทบจะกระดุกกระดิกตัวไม่ได้เลย
“แล้วมัทนาไปทางไหนทำไมพี่ให้คนไปหาแล้วไม่เจอ”
“ตาไม่ทราบค่ะ”
“ปาลิตา! ”
การตวาดเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงดุดันทำให้ปาลิตาถึงกับถอยหนีอย่างลืมตัวก่อนจะหันไปเจอใบหน้านิ่งๆของคนตรงหน้าที่มองมาทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน
“ตา ตาให้ยัยนั่นไปทางป่าท้ายไร่ค่ะแต่ตาหวังดีนะคะยัยนั่นจะได้เจอรถอย่างที่ต้องการ”
ประโยคบอกเล่าที่ได้ยินทำเอาคนฟังถึงกับหัวใจหล่นวูบ มิน่าเธอให้คนงานหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอซะทีที่แท้คนที่ตามหาก็เข้าไปในสถานที่ที่ไม่มีใครอยากเข้าไปนี่เองและไม่ต้องรอช้าเมื่อหัวใจสั่งการให้เท้าทั้งสองข้างก้าวเดินไปยังสถานที่อันตรายแห่งนั้นด้วยตัวเองเพราะหากปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปอีกเธออาจจะเสียมัทนาไปตลอดกาล
“มัทนา มัทนา”
หทัยภัทรตะโกนเรียกชื่อคนที่ตามหาเสียงดังพร้อมกับการมองหาไปรอบๆโชคดีที่เธอชำนาญเส้นทางและรู้ว่าควรหลีกเลี่ยงยังไงให้พ้นจากเจ้าถิ่นที่มีพิษรุนแรงแต่หากพวกมันรวมตัวกันขึ้นมาเธอก็อาจจะแย่ได้
“มัทนาตอบฉันสิเธออยู่ไหน”
เสียงตะโกนดังก้องไปทั่ว ในบางครั้งก็เป็นเสียงสะท้อนกลับมาให้ได้ตกใจเป็นระยะๆแต่หทัยภัทรก็ไม่ลดละความพยายามในการตามหาแม้ร่างกายจะเริ่มหมดแรงไปทีละน้อยก็ตามและในที่สุดความพยายามก็เป็นผลเมื่อเธอเห็นเงาร่างๆของคนที่ตามหาแต่พออีกฝ่ายหันมาเห็นเธอก็หนีหายไปทันทีแต่มีหรือที่หทัยภัทรจะปล่อยไปง่ายๆ
หญิงสาววิ่งตามคนคิดหนีมาติดๆอาจเพราะความสนใจได้ถูกดึงดูดไปที่คนตรงหน้าหมดแล้วการระวังตัวจึงละหลวมมีช่องโหวงขึ้นมาทันทีและเหมือนศัตรูตัวฉกาจจะล่วงรู้มันจึงค่อยๆเลื้อยออกมาและจัดการฉกที่ขาจนเจ้าของขาสวยถึงกับล้มลงไปกองกับพื้น
หทัยภัทรมองงูที่เลี้อยกลับเข้าไปในพุ่มไม้ด้วยอาการตาลาย เธอพลาดที่ลืมระวังตัวจนถูกกัดแล้วกลางป่าที่ใกล้มืดแบบนี้จะมีใครผ่านเข้ามาเพื่อช่วยเธอบ้างนะ
ดวงตาปรือๆที่เกือบปิดหันไปสะดุดเข้ากับใบหน้าขาวที่ดูซีดเพราะเปียกจากสายฝนที่เพิ่งหยุดไปแต่เธอก็จำได้ดีว่าคนตรงหน้าเป็นใครแม้จะมองไม่ถนัดก็ตาม
“ไม่รู้จะตามมาทำไมให้เป็นภาระ”
คนพูดเอ่ยหน้านิ่งก่อนจะย่อตัวนั่งลงดูรอยกัดที่ขาของคนที่นั่งอยู่ก่อนจะรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาพันบนแผลเพื่อกันพิษงูจะไหลเข้าสู่หัวใจจากนั้นก็ก้มลงดูดพิษออกเพื่อช่วยบรรเทาให้เจื่อจางลง
“ไม่ต้อง”
เจ้าของแผลร้องห้ามพร้อมกับออกแรงดึงขาของตัวเองออกมาแต่ด้วยพิษของงูที่เริ่มออกฤทธิ์ทำให้หทัยภัทรรู้สึกมึนงงและไม่มีแรงเอาเสียเลยนั่นจึงทำให้เธอไม่สามารถขัดขืนคนตรงหน้าได้เลยแม้แต่น้อย
มัทนาดูดพิษออกมาก่อนจะพ่นออกไปอีกทางทำแบบนี้ราวสามสี่ครั้งก่อนจะค่อยๆช้อนตัวคนเจ็บขึ้นมาอุ้มอย่างเบามือ
“ตัวเล็กแค่นี้ตัวหนักชะมัด”
คนพูดเหลือบตาลงมองคนที่อยู่ในอ้อมแขนที่ตอนนี้ไม่มีแรงตอบโต้เธอแม้แต่น้อยก่อนจะเขย่าตัวคนใกล้หลับแรงๆ
“อย่าหลับสิ”
“ฉันง่วง”
“อย่ามาหลับแบบนี้นะ คุณควรจะพูดขอบใจหรือทำอะไรเพื่อเป็นการตอบแทนที่ฉันช่วยคุณบ้าง”
“ไว้ตื่นก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
ท่าทางอ่อนแรงของหทัยภัทรทำให้มัทนารู้สึกใจเสียขึ้นมาทันทีก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วมากขึ้นเพราะขืนชักช้าคนที่เธออุ้มอยู่คงได้หลับไปตลอดกาล
“มองหน้าฉันสิ”
เงียบไม่มีเสียงตอบกลับแต่อย่างใดนั่นทำให้มัทนาถึงกับหยุดการก้าวเดิน
“คุณคงเกลียดขี้หน้าฉันมากถึงได้ไม่ยอมมองกัน”
เมื่อการบังคับไม่ได้ผลมัทนาจึงเปลี่ยนเป็นบทเศร้าทันทีและดูเหมือนจะได้ผลเมื่อดวงตาที่ใกล้ปิดสนิทค่อยๆเปิดออกพร้อมกับการส่ายหน้าไปมา
“ถ้าเธออยากให้ฉันมองฉันก็จะมองหรือแม้เธอไม่ให้ฉันมองฉันก็จะมอง…ฟังแล้วงงมั้ย”
“ก็นิดหน่อย”
“ฉันจะมองเธอแม้เธอไม่อยากให้มอง”
“แล้วตะกี้ทำไมไม่มอง”
“ก็ฉันง่วง”
“ง่วงก็ต้องมอง มองหน้ามัทไว้เพราะถ้าคุณหลับตื่นมามัทอาจจะไม่อยู่ตรงนี้แล้ว”
“ไม่ได้นะ”
หทัยภัทรพยายามเปิดตาให้กว้างที่สุดเพราะเกรงว่าหากตัวเองจะเผลอหลับจะเป็นอย่างที่อีกคนพูดจริงๆ
การกระชับวงแขนที่คอของคนตัวเล็กทำให้มัทนายิ้มออกมาน้อยๆหากตัดเรื่องแย่ๆออกไปหทัยภัทรก็ถือได้ว่าเป็นคนน่ารักคนหนึ่งแต่ถึงไม่ตัดเรื่องแย่ออกไปเธอก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่าผู้หญิงคนนี้ได้ขโมยหัวใจของเธอไปแล้วโดยใช้ความร้ายกาจที่เธอคิดจะตัดทิ้งในตอนแรกเป็นเครื่องมือ
คนบนเตียงค่อยๆลืมตาก่อนจะรีบลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับอาการหน้ามืดเกือบล้มดีที่ได้ใครอีกคนในห้องเข้ามาประคองไว้
“มัท”
หทัยภัทรมองหน้าคนเข้ามาช่วยประคองด้วยรอยยิ้มที่ค่อยๆจางลงก่อนจะหันไปมองรอบๆห้องด้วยใบหน้าที่ผิดหวัง
“ในห้องนี้มีแค่เราสองคนเท่านั้นแหละค่ะส่วนคนที่พี่หทัยหาอยู่ตอนนี้เค้าไป…”
“ไปไหน! ไปได้ยังไงพี่ไม่ได้อยากจะหลับซะหน่อยเค้าจะทิ้งพี่แบบนี้ไม่ได้นะ”
ปาลิตามองท่าทางร้อนใจของคนบนเตียงด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ตอนนี้เธอคงต้องยอมรับความพ่ายแพ้เสียทีเพราะยิ่งเธอทำอะไรมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้พี่สาวของตัวเองเผยความรู้สึกออกมามากเท่านั้น
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับเงาลางๆของคนที่คิดว่าหนีหายไปแล้วนั่นทำให้หทัยภัทรถึงกับผละตัวออกจากน้องสาวก่อนทำท่าทางเหมือนจะลุกขึ้นจนมัทนาต้องรีบวางข้าวต้มในมือไว้ที่โต๊ะแล้วรีบวิ่งมาประคอง
“ทำไมไม่ระวังเลยไม่รู้ตัวเองหรือไงว่าเป็นคนเจ็บอยู่”
“ก็ฉันดีใจ”
“คนรอดตายก็ต้องดีใจกันทั้งนั้นแหละ”
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น”
มัทนายกมือขึ้นแตะหน้าผากคนพูดก่อนจะประคองให้นั่งลงที่เตียงช้าๆ
“คนป่วยมักจะเพ้อไปเรื่อยกินข้าวแล้วก็กินยาซะจะได้หายแล้วเลิกพูดเรื่องไร้สาระซะที”
ประโยคที่ถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งๆทำเอาคนฟังถึงกับจุกเพราะไม่เคยมีใครมาทำท่าทางแบบนี้ใส่ตัวเองสักครั้งหากเป็นคนอื่นเธอคงให้คนงานหิ้วปีกไปทิ้งนอกไร่แล้ว
“ฟังพูดเข้าไม่ถนอมใจคนป่วยเลยนะ”
“จะกินมั้ย”
ประโยคคำถามทำให้คนฟังหน้างอลงไปอีกแต่หทัยภัทรก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะหากเล่นตัวในตอนนี้อาจจะทำให้คนป้อนลุกหนีไปได้เพราะฉะนั้นการอ้าปากเพื่อให้คนตรงหน้าป้อนข้าวจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและเธอก็พอใจที่สุดแล้วในเวลานี้
มัทนามองคนป่วยที่ตอนนี้กลายร่างเป็นเด็กไปแล้ว ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าตอนนี้หทัยภัทรกำลังพยายามอ้อนเธออยู่แต่เธอก็ต้องเก็บความรู้สึกยินดีเอาไว้เพราะอยากเอาคืนบ้าง หญิงสาวหันไปมองด้านหลังของคนที่เดินออกไปเงียบๆก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าคนที่กำลังกินข้าวต้มอย่างใช้ความคิด
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนที่เดินออกไปถึงได้ยอมเข้ามาพูดขอร้องให้คนที่ตัวเองเกลียดอยู่ต่อแถมยังอ้อนวอนให้ช่วยดูแลคนที่ตัวเองหวงอีกแต่ถึงปาลิตาไม่ขอเธอก็ไม่คิดจะทิ้งคนบนเตียงไปไหนในเวลาแบบนี้หรอก
นิยายเรื่องอื่นๆ
คุณหนูที่รัก yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576 ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259 เกมรัก สะดุดใจ yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672 ปีกรัก yuri
http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521 สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762 ไออุ่นรัก
http://www.yuriread.com/index.php?board=117.0 สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ