ตอนที่ 13
หลังจากวันที่เห็นรูปตัวเองถูกอีกคนลักหลับ นับวันความรู้สึกแปลกๆ ที่มีต่อเพื่อนสาวตัวเล็กมันชักจะมีมากขึ้นทุกที่ จนตัวเองยังนึกแปลกใจ ที่บางครั้งเผลอมองตามคนตัวเล็กทำนู้นทำนี้ไปโดยไม่รู้ตัว แม้จะยังไม่ได้เคลียร์เรื่องรูปกันเลยตั้งแต่วันนั้น แต่นั้นก็เป็นเพราะตัวเธอเลี่ยงที่จะพูดถึงมันเอง ก็แหม เวลานึกถึงรูปนั้นขึ้นมาทีไร เป็นต้องรู้สึกเขินได้ทุกทีสิเอ้า!
แล้วไหนจะคืนนั้นอีก หลังจากที่ตั้งวงดวลเหล้ากันจนหมดขวด ต่างก็แยกย้ายกันไปซุกหัวนอนตามมุมโปรดของตัวเองอย่างเคยๆ กัน โดยมีมิ่งขวัญ นุชนารถ และตัวเธอเองนอนรวมตัวกันอยู่ที่ห้องโถงชั้นล่าง คนตัวเล็กได้รับเกียติให้นอนบนโซฟานุ่ม ส่วนคนตัวโตเช่นเธอและมิ่งขวัญปูผ้านวมนอนกับพื้นอยู่ใกล้ๆ แต่พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนรุ่งสาง ทันทีที่ม่านตาปรับรับแสงได้ ภาพแรกที่เห็น ดันกลายเป็นใบหน้าขาวใสน่ารักจิ้มลิ้มของเพื่อนสาวไปเสียนี่ แม้จะยังงงๆ ว่ายัยตัวเล็กลงมานอนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ภาพที่ยัยตัวน้อยนอนหลับสบายภายใต้อ้อมกอดของเธอนั้น ก็ช่างน่าเอ็นดูเสียจนไม่กล้าปลุกให้คนที่ยึดแขนเธอไปหนุนตื่นขึ้นมา
‘น่ารัก’ ความคิดแวบแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวสมอง ก่อนที่ความรู้สึกหลากหลายจะประดังประเดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนเธอเองถึงกับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นอนอมยิ้มมองร่างเล็กๆ ในอ้อมแขนของตัวเองต่อไป
ชลธิดานั่งครุ่นคิดถึงความรู้สึก และพฤติกรรมของตัวเองว่าสิ่งเหล่ามันคืออะไรกันแน่ ในขณะที่กำลังจมอยู่กับความคิดตัวเองนั้น.....
ปัง!!! เสียงตบโต๊ะดังสนั่นลั่นห้อง ทำเอาเจ้าของโต๊ะที่กำลังนั่งโยกขาเก้าอี้เล่น แต่ดันเหม่อลอยสะดุ้งตกใจ ทั้งคนทั้งเก้าอี้ต่างหงายท้องเหงิบ เสียงหัวทุยกระแทกพื้นห้องเรียนดัง โป๊ก!! ตามมาด้วยเสียงร้อง โอ๊ย!! ของเพื่อนตัวสูง แล้วก็เสียงร้อง เฮ้ย!! ของเพื่อนๆ ที่อุทานด้วยความตกใจดังตามมา
“เจ็บๆๆ” เสียงร้องโอดครวญพร้อมอาการกุมหัวชักดิ้นชักงอบนพื้น เหมือนหนอนชาเขียวโดนน้ำร้อนลวก ทำให้นุชนารถต้องรีบก้มลงไปดูอาการให้ด้วยความเป็นห่วง
“ไหนดูสิหัวแตกรึเปล่า” นุชนารถประคองคนตัวสูงให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะแหวกผมดำขลับเพื่อดูแผล แม้จะโล่งอกที่ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก แต่มันก็ปูดบวมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว
“ไม่แตกแต่ปูดเป็นลูกมะกรูดเลยอ่ะ” สาวหมวยบอกก่อนจะหัวเราะออกมาน้อยๆ
“อะ ไอ้เดียร์ กูขอโต๊ดดดดดด” มิ่งขวัญที่ยืนหน้าเสียกล่าวขอโทษเสียงอ่อย ตกใจอยู่ไม่น้อยที่การแกล้งครั้งนี้จะทำให้เพื่อนรักเจ็บตัว
“เวรเอ้ย เล่นบ้าอะไรของมึงเนี่ยไอ้ขวัญ เจ็บหัวชิหายเลย” ชลธิดาทำตาขวางเอ็ดเพื่อน
“แหะๆ โทษทีกูไม่ได้ตั้งใจ กะจะให้มึงต๊กกะใจเล่นเฉยๆ ไม่คิดว่ารีแอคชั่นจะออกมารุนแรงขนาดนี้ว่ะ” มิ่งขวัญทำหน้าสำนึกผิด รีบเข้าไปช่วยนุชนารถประคองร่างสูงขึ้นมาจากพื้น
“ไม่ต้องมาจับกูเลย ไม่ให้อภัยเว้ย กูเจ็บ กูโกรธ กูงอน เชอะ! ” ชลธิดาสะบัดหน้าอย่างแง่งอน พลางเอี่ยวตัวหนีมือมิ่งขวัญที่จะมาช่วยจับอีก
“โอ๋ๆ อย่าโกรธเค้าเลยนะ ก็เค้าชวนคุยแล้วต๊ะเองไม่คุยกับเค้าอ่า~” มิ่งขวัญเสียงอ่อย เอานิ้วจิ้มไปที่แก้มป่องงอนง้อเพื่อนสาว
“มีอะไรก็รีบๆ ว่ามาเลย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า มึงโดนฝ่ามือยูไลกูแน่” ชลธิดาว่าหน้างอ มืออีกข้างยังคงลูบหัวที่ปูดออกมาของตัวเองป้อยๆ
“รับรองว่าเรื่องนี้ถูกใจมึงแน่ๆ เพราะว่ากูมีนี้..........แต่น แต้น แต๊น” คนหน้าเหมือนฝรั่ง (แต่ไม่ใช่ผลไม้นะ) ทำเสียงดนตรีประกอบ ก่อนจะควักอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า
“บัตรเที่ยวฟรีสวนสยอง..หยอง...หยอง...หยอง...” (ทำเลียนเสียงเอคโค่)
ผลัวะ!! เสียงตบกะบาลมิ่งขวัญโดยฝ่ามือยูไลของร่างสูง ‘อามิตตาพุทธ’
“กูไม่ไป! แค่ชื่อก็ไม่น่าเที่ยวแล้ว ชิส์!” ไอ้เพื่อนเวร ชื่อเขามีอยู่ดีๆ เจือกไปเปลี่ยนให้เขาซะงั้น
“แหมๆ เล่นมุขแค่เนี่ย ตบซะหัวกูเกือบหลุดออกจากคอเลยนะมึง อ่ะนี่บัตรฟรีสวนสยาม น้ากูเอามาแจกเมื่อวาน กูเลยฉกมาคนเดียวหกใบเลย ฮ่าๆ” หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ
“ฟรีนี่เฉพาะสวนน้ำหรือรวมเครื่องเล่นด้วยว่ะ” ชลธิดารับมาดู แล้วพลิกไปมาด้วยความสนใจ
“ฟรีหมดทุกอย่างเลย แต่ว่าใช้ได้เฉพาะวันเสาร์นี้เท่านั้นนะโว้ย”
“เสาร์นี้...ก็พรุ่งนี้อ่ะดิ” ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาถาม
“ถะ ถะ ถูกต้องนะค๊าบบบบบบบ” บอกพร้อมกับชี้นิ้วทำท่าเลียนแบบพิธีกรเกมโชว์ชื่อดัง
“อ้าววว งั้นจะรอกันอยู่ใย เย็นนี้ก็รีบสลายโต๋แยกย้ายกันกลับบ้าน ไปเตรียมชุดว่ายน้ำกันเถอะพวกเรา” ร่างสูงฉีกยิ้ม ลุกขึ้นยืนพร้อมกับชูมือที่ถือบัตรไว้เหนือศีรษะตัวเอง
“โอ!” เมื่อแกนนำชักชวน ทุกคนในกลุ่มก็ชูมือขานรับออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
<
<
เช้าวันเสาร์
ทุกคนตกลงกันว่าจะนัดเจอกันที่หน้าโรงเรียน แล้วค่อยนั่งแท็กซี่ไปสวนสยอง เอ๊ย! สวนสยามด้วยกัน แต่กว่ารถแท็กซี่จะฝ่าฟันการจราจรอันคับคั้งของกรุงเทพฯ มาได้ ก็เล่นเอาผู้โดยสารต่างพากันเมื่อยขบเพราะต้องนั่งเบียดอัดกันมา โดยเฉพาะสองสาวต่างไซส์ที่โดนชโลธรเจ้ากี้เจ้าการ จับให้นั่งซ้อนตักกันมาเพราะที่นั่งไม่พอ และเมื่อเข้ามานั่งกันแล้ว มือไม้ของคนตัวสูงก็ไม่รู้จะไปวางไว้ที่ไหนได้ เพราะตักตัวเองก็ถูกสาวหมวยครอบครองพื้นที่ไปหมดแล้ว ก็เลยต้องอาศัยตักสาวหมวยเป็นที่พักพิงชั่วคราวอีกที จนดูเหมือนทั้งคู่กำลังนั่งกอดกันอยู่กลายๆ และด้วยหลายๆ เรื่องที่ยังไม่ได้เคลียร์กันเลย ทำให้ทั้งคู่นั่งตัวเกร็งกันมาตลอดทาง พาลให้เมื่อยหนักมากขึ้นเข้าไปอีก แต่ในที่สุดคนกระป๋องก็มาถึงจุดหมายปลายทางจนกันได้
วันนี้ทุกคนเลือกที่จะแต่งตัวสบายๆ มากัน ด้วยชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น เพราะเวลาเปลี่ยนชุดว่ายน้ำจะได้ถอดได้โดยสะดวกหน่อย หกสาวเดินเข้าไปยังประตูทางเข้า ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นปราสาทที่มีเสายอดแหลมสี่ต้นเหมือนในนิทานต่างประเทศ ภายในบริเวณปราสาทนั้นเป็นโซนจำหน่ายบัตรเข้าใช้บริการ และมีป้ายภาพเครื่องเล่นชนิดต่างๆ เพื่อเรียกน้ำย่อยแก่ผู้ที่มาท่องเที่ยว หลังจากผ่านจุดตรวจบัตรแล้ว ทุกคนก็เดินตามกันมาที่จุดบริการรถ ซึ่งมีไว้อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ได้นั่งไปยังบริเวณสวนสนุกและสวนน้ำโดยไม่ต้องเดินให้เมื่อย สาวๆ ต่างพากันยื้อแย่งที่นั่งบนรถกอล์ฟอย่างสนุกสนาน ตามประสาเด็กๆ ที่กำลังจะโต และเมื่อมาถึงบริเวณสวนน้ำแล้ว จุดมุ่งหมายต่อไปก็คือห้องเปลี่ยนชุด ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปคนละห้องเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำที่เตรียมกันมา พร้อมกับเช่าตู้ล็อคเกอร์เพื่อเก็บกระเป๋าสัมภาระและของใช้ส่วนตัวบางชิ้น ก่อนจะเตรียมไปล้างตัวก่อนเป็นลำดับต่อไป โดยมีมิ่งขวัญ ชลธิดา หนึ่งฤทัยและทัศนีย์เดินมาล้างตัวกันก่อนเป็นกลุ่มแรก ส่วนนุชนารถกับชโลธรยังเปลี่ยนชุดว่ายน้ำกันไม่เสร็จ จึงบอกให้คนที่เสร็จแล้วไปล้างตัวและหาที่นั่งกันก่อนเลย
สาวๆ แต่ละคนเดินคุยเล่นกันมาพร้อมกับเสื้อคลุมว่ายน้ำสีสันสดใสประดับกาย กระทั้งถึงจุดสำหรับล้างตัว สี่สาวจึงถอดเสื้อคลุมออก เหลือแต่ชุดว่ายน้ำแฟชั่นที่แต่ละคนเลือกมาประชันกันในวันนี้
ชลธิดาใส่ชุดว่ายน้ำบิกินี่ทูพีชสี่ชิ้นสไตล์สปอร์ตเกิร์ล ประกอบไปด้วยตัวบราด้านข้างและสายคล้องคอเป็นสีกรมท่า ตรงอกทั้งสองข้างเป็นสีขาวตัดด้วยเส้นสีแดงเล็กๆ ระหว่างสองสี และกลางร่องอกมีโบว์เส้นเล็กติดอยู่ด้วย ส่วนด้านล่างเป็นกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวสั้นสีกรมท่า ตัดด้วยสีขาวและแดง มีเชือกสีขาวผูกเป็นโบว์อยู่ตรงกลาง ซึ่งสวมทับบิกินี่ตัวน้อยอีกชั้นหนึ่ง ร่างสูงถอดเสื้อคลุมมีฮู้ดตัวบางเฉดสีเดียวกันออก แล้วยืนล้างตัวอวดเรือนร่างสมส่วนมีน้ำมีนวลตามแบบฉบับของเด็กสาวที่ตัวโตเกินอายุ
มิ่งขวัญใส่แบบ tankini ด้านบนเป็นเสื้อสายเดี่ยวสีขาว ตัวเสื้อเป็นสีดำลายจุดขาว ส่วนด้านล่างเป็นกางเกงสีดำ ร้อยด้วยเชือกสีขาวผูกเป็นโบว์ห้อยด้านข้างของขากางเกงทั้งสองดูน่ารัก
หนึ่งฤทัยใส่แบบวันพีช กระโปรงระบายสีกรมท่าตัดกับเส้นสีขาวเล็กๆ ที่ชายกระโปรง มีสายคาดเอวผูกเป็นโบว์สีขาว ส่วนช่วงบนเป็นสายเสื้อกล้าม ลายขวางเส้นเล็กสีกรมท่าตัดกับสีขาว สวยใสสไตล์นาวีเกิร์ล
ส่วนทัศนีย์ใส่วันพีชแบบกระโปร่งผ้าซีฟอง มีชายระบายตลอดทั้งตัว สีชมพูสดใสทำให้จากที่ผอมๆ ก็แลดูตัวใหญ่ขึ้น
เมื่อล้างตัวกันเสร็จแล้ว สี่สาวก็สวมเสื้อคลุมตามเดิม และเดินไปหาที่นั่งร่มๆ ริม wave poolและ flowing pool ซึ่งเป็นบริเวณที่พวกเธอลงความเห็นกันว่า ใกล้กับสระทั้งสองและสไลด์เดอร์ยักษ์มากที่สุด
และเมื่อได้ที่นั่งแล้ว ร่างสูงก็ถอดเสื้อคลุมออกอีกครั้ง แล้วนำมาพาดไว้กับเตียงผ้าใบ ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูซับน้ำที่แผ่นหลังให้แห้ง
“ไอ้ขวัญทาครีมกันแดดที่หลังให้หน่อยดิ” บอกพลางยื่นขวดครีมกันแดดยี่ห้อเรือกล้วยหลอดสีส้ม SPF110 กันน้ำดีเยี่ยมให้เพื่อนสาว เพราะเป็นจุดเดียวที่ตัวเองทาไม่ถึง ซึ่งมิ่งขวัญก็รับมาอย่างเต็มใจแต่มีข้อแม้ว่าชลธิดาต้องทาให้เธอด้วย
เมื่อสาวๆ ทาครีมกันแดดและยืดเส้นยืดสายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มิ่งขวัญก็ชวนเพื่อนๆ ลงเล่นน้ำ แต่ร่างสูงบอกให้เพื่อนๆ ลงไปเล่นกันก่อน ส่วนตัวเองจะอยู่โยงรอชโลธรและนุชนารถเอง นั่งรออยู่สักพักใหญ่ๆ จนแดดเริ่มจ้ามากขึ้น ร่างสูงจึงหยิบหมวกและแว่นกันแดดที่เตรียมมาขึ้นมาสวมใส่ สายตาก็คอยมองหาชโลธรและนุชนารถไปด้วย และเมื่อเห็นเพื่อนสาวทั้งสองคนเดินอยู่ไกลๆ กับท่าทางที่คอยหันซ้ายหันขวา คงเพราะกำลังมองหาพวกเธออยู่ ชลธิดาจึงลุกเดินไปหาเพื่อนสาวทั้งสองคน
“อ้อม เอม ทางนี้ๆ” เมื่อพาตัวเองเดินมาในระยะที่พอจะส่งเสียงเรียกได้โดยไม่รบกวนคนอื่นแล้ว ร่างสูงที่ไม่ได้สวมเสื้อคลุมแต่ยังเหลือบ๊อกเซอร์ตัวสั้นอยู่ โบกไม้โบกมือร้องเรียกเพื่อนสาวร่วมก๊วน
สองสาวได้ยินจึงหันไปตามเสียงเรียก พอนุชนารถเห็นคนตัวสูงเข้าก็ทำตาโตกับเรือนร่างของอีกคนที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนเด็ก ม.ต้น เลยสักนิด อกเป็นอก เอวเป็นเอว ผิวก็เนียนเรียบขาวเปล่งปลั่ง สมกับเป็นลูกสาวเจ้าของสปาแอนด์สปอร์ตคลับเสียจริงๆ
สาวหมวยสำรวจเรือนร่างงามตรงหน้าอย่างลืมตัว เรียกว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีส่วนไหนรอดสายตาเธอไปได้ เริ่มตั้งแต่หมวกแก๊ปที่ถูกสั่งทำเป็นพิเศษสีครีม ที่ปีกหมวกด้านซ้ายถูกติดด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษสีทองเคลือบกิตเตอร์คำว่า Dear ต่อมาก็เป็นดวงตาสีอ่อนที่บัดนี้ถูกปกปิดด้วยแว่นกันแดดยี่ห้อดัง RB ปรอททองดูเท่ห์ เหมาะเจาะลงตัวกับชุดว่ายน้ำแบบสปอต์เกิร์ลที่ร่างสูงสวมใส่ ซึ่งมองดูแล้วทั้งสวยทั้งเท่ห์ในคราวเดียวกัน
ชโลธรเห็นเพื่อนสาวอึ้งไปหลายวิ ก็เลยหันมาดึงมือเรียกสติให้กลับคืนมา ก่อนจะพากันเดินไปสมทบกับคนตัวสูงที่ยืนโบกมือเรียกพวกเธออยู่หยอยๆ และเมื่อเพื่อนทั้งสองเดินมาหาแล้ว ชลธิดาก็เดินนำทางพาทั้งสองคนไปยังที่นั่งที่พวกเธอได้จับจองกันเอาไว้
“อ้าว ไปไหนกันหมดแล้วล่ะ” ชโลธรถามขึ้นเมื่อวางกระเป๋าใบเล็กลงบนเก้าอี้ผ้าใบ แต่ไม่ยักกะเห็นพวกที่เหลือเลยสักคนเดียว
“นู้นนนนไง” คนตัวสูงลากเสียงตอบเสียปากจู๋ บุ้ยใบ้ให้ชโลธรดูตามก็เห็นพวกเพื่อนๆ เล่นน้ำกันอยู่ที่ฝั่งทะเลเทียม
“แหม ไอ้พวกนี้เล่นไม่รอกันเลยนะ”
“ทาครีมกันแดดกันมารึยัง” ชลธิดาถามพลางยื่นครีมกันแดดให้ชโลธร
“ฉันทาแล้วแต่เอมยัง” คนหน้าสวยตอบ
นุชนารถหันไปมองหน้าเพื่อนเลิฟอย่างงงๆ ก็พวกเธอทามากันแล้วตอนเปลี่ยนชุด แล้วทำไมถึงบอกว่าเธอยังไม่ได้ทาล่ะ ส่วนคนถูกมองก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ลอยหน้าลอยตาบอกเพื่อนตัวสูงอีกว่า...
“แกทาให้เอมมันหน่อยแหล่ะกัน ฉันจะไปเล่นน้ำแล้ว เออ แกสอนมันว่ายน้ำด้วยนะ ไอ้เอมมันว่ายน้ำไม่เป็น ไปล่ะ!” พูดจบก็ถอดเสื้อคลุมว่ายน้ำออก เผยให้เห็นชุดว่ายน้ำ tankini แบบสายคล้องคอ สีเขียวสลับขาวลายขวางเล็ก ปิดช่วงลำตัวด้านหน้าทั้งหมด ส่วนด้านล่างเป็นกางเกงสีน้ำตาลแก่ตัวสั้นแสนเรียบง่าย แม้ด้านหน้าจะดูเรียบร้อย แต่ด้านหลังกลับถูกเว้าเปลือยให้เห็นแผ่นหลังขาวเรื่อยไปจนถึงสะเอว แม้จะมีสายสีน้ำตาลแก่เส้นเล็ก ซึ่งยาวออกมาเพื่อรัดกระชับทรวงอกถูกผูกเป็นโบว์อยู่ที่กลางหลัง แต่ก็ไม่ได้บดบังความสวยงามและความเซ็กซี่ให้ลดน้อยลงเลย เมื่อลอกคราบเสร็จ คนหน้าสวยก็วิ่งหายไปกับสายน้ำทันที ทิ้งให้สองคนที่เหลือยืนเอ๋อรับประทานกันอยู่ตรงนั้น
“เออ.......เดี๋ยวฉันทาครีมที่หลังให้แหล่ะกัน ส่วนตรงอื่นแกทาเอาเองก็แล้วกันนะ” ชลธิดาบอกหลังจากที่ยืนเอ๋อไปหลายวินาที
“อืมม” นุชนารถตอบรับ ก่อนจะถอนเสื้อคลุมว่ายน้ำสีชมพูออกอย่างอายๆ
“อ้าว~~ใส่แบบนี้ไม่ต้องทาครีมที่หลังแล้วก็ได้มั้ง” ชลธิดาพูดอย่างโล่งใจ เมื่อเห็นนุชนารถใส่ชุดว่ายน้ำสีดำที่เป็นผ้าซีฟองสายเดี่ยวปกปิดส่วนบนทั้งตัวมิดชิด ไม่มีเว้าหน้าเว้าหลังให้ต้องตื่นตกใจ ส่วนด้านล่างก็เป็นกระโปรงพลิ้วผ้าซีฟองแต่งด้วยผ้าระบายเป็นชันๆ สีดำเช่นเดียวกัน ดูสวยน่ารักแบบใสๆ แต่ยังไม่ทันหายใจได้ทั่วท้องก็ต้องใจหายวาบ เมื่อสาวหมวยใช้สองมือจับชายเสื้อผ้าซีฟองสายเดี่ยวแล้วถลกขึ้นจนเห็นลำตัวขาว ก่อนจะดึงเรื่อยขึ้นไปจนเผยให้เห็นเนินอกอวบที่คับแน่นอยู่ในบราสีดำที่มีระบายน้อยๆ ที่ทรวงอก จนกระทั้งเสื้อตัวนั้นหลุดออกทางศีรษะ ทำให้เห็นสายบราเส้นเล็กผูกเป็นโบว์อยู่ที่หลังคอขาว จากนั้นก็ก้มลงถอดกระโปรงผ้าพลิ้วออกอีกตัว เหลือแต่เพียงบิกินี่ตัวจ้อยที่มีโบว์ผูกอยู่ทั้งสองข้างสีดำสนิท โอ้~~ ช่างเป็นชุดบิกินี่สีดำที่หรู เรียบ ลื่น ดูดี และเซ็กซี่ที่สุดในชีวิตของคนตัวสูงเลย อาร๊ายยย~~~ หนูจะเอาๆ
ชลธิดาเผลอกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังเอื้อก ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดปรอททองสั่นระริก แถมยังจ้องมองร่างงามตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ ตั้งแต่หน้าอกอวบ ก่อนจะไล่ลงมายังช่วงตัวที่ขาวแบบบาง ต่ำลงมาก็เป็นเอวคอดกิ่ว ก่อนจะยิ้มนิดๆ กับสะดือบุ๋มน่ามอง ส่วนหน้าท้องก็แบนราบ จนกระทั้งไปหยุดอยู่ที่สะโพกผายสวย ยิ่งดูก็ยิ่ง....... อ๊ากกกก!! ร่างสูงแทบอยากจะร้องกรี๊ด ไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันมาอีกแล้ว แต่ก็ต้องรีบสะบัดความคิดบ้าๆ ของตัวเองทิ้งไป เมื่อได้ยินเสียงเรียกของคนตัวเล็ก
“เดียร์ทาครีมกันแดดที่หลังให้เอมหน่อยสิ” นุชนารถเดินเข้ามาหา ก่อนจะหันหลังขาวนวลให้กับเจ้าของครีมกันแดด
ชลธิดารีบบีบครีมกันแดดลงบนมืออันสั่นเทา ก่อนจะหยุดสูดลมหายใจเข้าเพื่อข่มอาการตื่นเต้น จากนั้นก็ทาบฝ่ามือลงไปที่แผ่นหลังขาวเนียน แล้วค่อยๆ บรรจงเกลี่ยเนื้อครีมให้ทั่วทั้งแผ่นหลังอย่างเบามือ และแม้จะเป็นเพียงอาการสั่นเล็กๆ แต่นุชนารถก็สามารถจับความรู้สึกได้ว่า มือนุ่มที่กำลังลูบไล้แผ่นหลังของเธอนั้นออกจะสั่นอยู่น้อยๆ
สาวหมวยลอบยิ้มพอใจกับผลงานที่ออกมา ไม่เสียแรงเลยที่อุตสาห์ลงทุนไปเดินหาซื้อชุดว่ายน้ำใหม่จนขาแข็ง และในที่สุดก็ได้ชุดนี้มาตามคำยุยงของชโลธรเพื่อนเลิฟ แต่กว่าที่เธอจะทำใจใส่ชุดนี้ออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดได้ ก็เล่นเอาชโลธรปากแทบเปื่อย เพราะต้องคอยเกลี่ยกล่อมกันอยู่ตั้งนาน เลยเป็นสาเหตุที่ทำไมพวกเธอถึงออกมาช้ากว่าคนอื่น
ชลธิดายังคงลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนของสาวหมวยอยู่อย่างนั้น ทั้งๆ ที่เนื้อครีมซึมซ่าบเข้าสู่ผิวกายอีกคนหมดไปตั้งนานแล้ว แต่ทว่าคนตัวสูงยังไม่อยากที่จะละมือออกมาจากผิวสาวของคนที่ตนสัมผัสอยู่ แถมใจจริงยังอยากจะขันอาสาทาครีมกันแดดให้ร่างกายนี้ไปหมดทุกส่วนสัดเสียด้วยสิ เหอๆ แค่คิดก็............ เผลอทำหน้าหื่น เพราะกำลังจินตนาการถึงร่างกายยามไร้อาภรณ์ปกปิดของคนตรงหน้า
‘เฮ้ย! ไม่ได้ๆ ห้ามคิดอะไรบ้าๆ นะโว้ย’ ร่างสูงยืนสั่นหัวดิก เพื่อไล่ความคิดบ้าๆ ของตัวเองออกไปจากหัว แล้วพยายามเรียกสติด้านดีให้กลับคืนมา
“สะ เสร็จแล้ว ที่เหลือแกทาเอาเองก็แล้วกันนะ” กล่าวพร้อมกับยื่นครีมกันแดดให้ และแม้จะพยายามข่มเสียงให้นิ่งที่สุดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่เนี่ยแหละ
“อะ อืมม ขอบใจนะ” อีกคนก็เสียงสั่นพอกัน ก็โดนลูบนานซะขนาดนั้น อารมณ์มันก็พลอยเตลิดไปด้วยนะเซ่
นุชนารถรับครีมกันแดดมา แล้วทามันอย่างลวกๆ ก่อนจะส่งมันคืนให้กับเจ้าของ
“อยากเล่นน้ำแล้วล่ะ ฉันว่าเราไปเล่นน้ำกับพวกนั้นดีกว่าเน๊าะ” ชลธิดาเอ่ยชวนคนตัวเล็ก หวังว่าน้ำในสระคงจะช่วยลดอุณหภูมิในหัวใจให้เย็นลงได้บ้าง ซึ่งนุชนารถเองก็เห็นดีด้วยจึงพยักหน้ารับ แล้วทั้งคู่ก็เดินเคียงข้างไปด้วยกัน
แม้ชโลธรจะเล่นน้ำอยู่กับเพื่อนๆ หากแต่สายตาก็คอยมองไปทางเพื่อนอีกสองคนที่เหลืออยู่เป็นระยะๆ และพอเห็นว่าสองสาวทำท่าจะเดินมาทางที่พวกเธอกำลังเล่นน้ำอยู่ เธอก็รีบขึ้นจากน้ำและเดินตรงไปหาคนทั้งคู่ทันที
“เดียร์ทำไมไม่พาเอมไปสอนว่ายน้ำที่สระนู้น” ชโลธรชี้ไปยังสระน้ำวนฝั่งตรงข้าม
“สอนที่นี่ก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องที่ไปสระนู้นเลย” คนตัวสูงบอก ก็ไม่อยากแยกตัวไปอยู่ด้วยกันสองต่อสองให้ใจมันมีอาการแปลกๆ นี่
“สอนที่นี่ไม่ได้ คนเยอะอย่างกับหนอนแกไม่เห็นรึไง” เมื่อชลธิดามองดู ก็เห็นคนเยอะอย่างที่เพื่อนบอกจริงๆ ด้วย
“พวกแกไปสอนกันที่สระนู้นเลย เดี๋ยวฉันไปด้วย” ชโลธรว่า ก่อนจะคว้ามือเพื่อนทั้งสองคนให้เดินตามมาทันทีที่พูดจบ
และเมื่อเดินมาถึงฝั่งของสระน้ำวนแล้ว คนหน้าสวยก็ปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพังอีกครั้ง พร้อมกับกำชับให้เพื่อนร่างสูงสอนคนตัวเล็กว่ายน้ำ ซึ่งชลธิดาก็ดูจะตั้งอกตั้งใจสอนอีกคนเสียดิบดี โดยที่ไม่ได้รู้ความจริงเลยว่า ตัวเองกำลังจะสอนจระเข้ว่ายน้ำอยู่ ส่วนอีกคนก็พลอยเนียนเล่นบทมือใหม่หัดว่ายซะแตกกระจุยเหมือนกัน และแม้ทีแรกคนสอนจะเงอะๆ งะๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี ก็ได้ลูกศิษย์จำเป็นเสนอว่าน่าจะหัดลอยตัวก่อนเป็นอันดับแรก พอคนสอนเอะใจว่าทำไมถึงรู้ ลูกศิษย์ก็แถกันสดๆ หน้าตาเฉยว่าเคยเรียนมาบ้างแต่ยังว่ายไม่ได้สักที ว่าแล้วคอร์สหัดว่ายน้ำก็เริ่มขึ้น นุชนารถหัดลอยตัวในน้ำด้วยท่าเหยียดตรง โดยมีคนตัวสูงขายาวยืนถึงพื้นสระสบายๆ คอยจับมือจูงเดินถอยหลังลากอีกคนไปเรื่อยๆ จนครบรอบสระไปสองรอบ หลังจากนั้นก็ค่อยให้ลอยตัวและหัดตีเท้าไปเรื่อยๆ ไม่ช้าและไม่เร็วจนเกินไป โดยที่ชลธิดายังคอยจับมือนุชนารถเอาไว้เช่นเคย
ส่วนตัวช่วยอย่างชโลธรเอง ก็คอยดำผุดดำว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ๆ คอยหาโอกาสดีๆ ที่พอจะสร้างสถานการณ์ให้สองสาวได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น และแล้วโอกาสเหมาะๆ ที่มองหาก็มาถึง
ชโลธรหันซ้ายหันขวา เมื่อเห็นว่าปลอดคนดีแล้วจึงว่ายเข้าไปหาสองสาว ก่อนจะแกล้งทำเป็นกอดคอถามไถ่เพื่อนรักว่าฝึกไปถึงไหนกันแล้ว พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งแอบดึงสายบราที่ผูกเป็นโบว์คล้องคออยู่ด้านหลัง ให้หลุดออกจากกันด้วยความว่องไว แล้วปล่อยสายที่หลุดทิ้งไว้ทางด้านหลัง ก่อนจะว่ายหนีจากไปด้วยความรวดเร็วและแนบเนียน
“เฮ้ย!! ” ร่างสูงตกใจตาแทบถลนออกจากเบ้า เมื่อเห็นบิ๊กเปาสองลูกใหญ่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ทั้งๆ ที่ความจริงมันควรจะอยู่ภายใต้บราสีดำมีระบายตัวนั้นเซ่ แต่ทำไมมันกลับหลุดออกมาชี้หน้าเธอแบบนี้ได้ฟระ!!