web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 129
Total: 129

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 3  (อ่าน 1504 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 3
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 09:57:17 »
ตอนที่ 3

สามสาวตรงไปยังบ้านของคนชราที่ปานวาดบอกว่ามีอาการป่วยและอยู่เพียงลำพัง ยังไม่ทันที่จะเดินเข้าไปในตัวเบาก็ได้ยินเสียงไอดังออกมา รสารีบรุดเข้าไปด้านในทันที ซึ่งทำให้หญิงชรารู้สึกตกใจและร้องเอะอะโวยวายขึ้นมาทันที

“พวกเธอเป็นใคร เข้ามาทำอะไรในบ้านของฉัน” หญิงชราพูดขึ้นและก็ไอเสียงดังขึ้นด้วยเช่นกัน

“สาเป็นหมอค่ะ คุณยาย” หญิงชราพยายามเพ่งมองรสาที่นั่งลงข้างๆ เมื่อหญิงชราเห็นปานวาดซึ่งเคยมาที่บ้านเธอจึงสงบลง

“ก็ยายไม่ยอมไปหาหมอ ก็เลยพาหมอมาหายายแทนไงคะ” ปานวาดพูดขึ้นยิ้มกับหญิงชราที่ยังคงไอไม่หยุด

“แต่ยายไม่มีเงินเลยนะ บอกคุณปลัดไปแล้ว”

“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงินนะคะ เรื่องนั้นเดี๋ยวจี๊ดช่วยจัดการให้” หญิงชรามองจีรธรที่ยืนอยู่ข้างๆ ปานวาด

“หลานคุณบุษค่ะ ชื่อคุณจี๊ด” ปานวาดบอกกับหญิงชรา

“สวัสดีค่ะ คุณจี๊ด” หญิงชราพนมมื้อไหว้

“อย่าไหว้จี๊ดเลยค่ะ ยายคิดว่าจี๊ดเป็นลูกเป็นหลานดีกว่านะคะ” จีรธรยิ้ม

รสาลงมือตรวจหญิงชราที่ยังคงมีเสียงไออยู่เป็นระยะ ซึ่งท่าทางดูอ่อนแรงคงจะเพราะพิษไข้และด้วยความเป็นผู้สูงอายุ รสาหันมาสบตากับปานวาดและจีรธร

“สาว่าส่งโรงพยาบาลดีกว่าค่ะ เกรงว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ถ้าให้อยู่แบบนี้คงแย่แน่ๆ ปานโทรขอรถพยาบาลมารับดีกว่านะคะ ถ้าพาไปเองคงไม่สะดวกอีกอย่างคุณยายก็อายุเยอะแล้วด้วยค่ะ”

“ได้ค่ะ” ปานวาดรีบโทรแจ้งกับทางโรงพยาบาลทันที

“ฉันไปไม่ได้หรอกหมอ ฉันไม่มีเงินจ่ายค่าโรงพยาบาล” หญิงชราบอกกับ รสาด้วยสายตาเศร้าๆ ซึ่งสายตานั้นบอกได้ถึงความโดดเดี่ยว

“เอาอย่างนี้นะคะ คุณยาย ไปโรงพยาบาลกับพวกเราก่อน เรื่องค่ารักษา พยาบาลเดี๋ยวจี๊ดจัดการให้เองค่ะ แล้วเราค่อยมาว่ากันทีหลัง
จี๊ดเชื่อว่าเดี๋ยวคุณยายแข็งแรงก็กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม ตอนนั้นคุณยายก็จะมีเงินมาจ่ายค่ารักษา พยาบาลเองนะคะ ไปกับพวกเรานะคะ” จีรธรยิ้มให้หญิงชราอย่างมีไมตรี ปานวาดเข้ามาได้ยินสิ่งที่จีรธรพูดกับหญิงชราพอดี เธอชื่นชมในความมีเมตตาซึ่งในตอนแรกที่เจอกันปานวาดแอบคิดเอาเองว่า จีรธรน่าจะออกแนวคุณหนูไฮโซเสียมากกว่า แต่กลับตรงกันข้ามกับที่เธอคิดไว้ ปานวาดยิ้มพอดีกับที่จีรธรหันมาเห็นเข้าพอดี

“ถ้าอย่างนั้นปานไปส่งคุณจี๊ดก็แล้วกันนะคะ เดี๋ยวสาไปกับรถพยาบาลเอง” รสายิ้มให้กับจีรธรและปานวาด

“รับบัญชาค่ะ คุณหมอ” ปานวาดหัวเราะเล็กๆ

“แล้วก็อย่าเถลไถลด้วยนะคะ” รสาทำเสียงเข้มอมยิ้มกับคนที่ยืนยิ้มแหยๆ อยู่ข้างจีรธรซึ่งแอบงงๆ กับการสนทนาระหว่างสองคนนี้

หลังจากที่ส่งหญิงชราและรสาไปกับรถพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ปานวาดก็ทำตามที่รับปากกับรสา

“คุณปลัดคะ จี๊ดขอถามอะไรหน่อย” จีรธรถามขึ้น

“ค่ะ ได้เลยค่ะ คุณจี๊ด”

“มีคนแก่ที่ต้องอยู่คนเดียวอีกเยอะไหมคะ เอาเท่าที่คุณปลัดรู้” น้ำเสียงของจีรธรดูจริงจังในความรู้สึกของปานวาด

“ก็น่าจะมีอยู่พอสมควรค่ะ เพราะว่าลูกหลานต้องไปทำงานในเมืองหรือไม่ก็เข้ากรุงเทพ”

“เราน่าจะมีวิธีช่วยเหลือคนชราที่อยู่ละแวกใกล้เคียงนะคะ คุณปลัดคิดว่าอย่างไรคะ” จีรธรหันมาทางคนที่ขับรถอยู่

“ดีใจนะคะ ที่ได้ยินคุณจี๊ดพูดแบบนี้ อีกหน่อยคนที่นี่คงรักคุณจี๊ดไม่น้อยไปกว่าคุณน้าบุษกับคุณน้าบัวแน่ๆ” ปานวาดยิ้มสบตากับจีรธรซึ่งกำลังหลบสายตาที่มีเสน่ห์คู่นั้นที่กำลังมองมาที่เธอ

บุษบากับปทุมมาศกำลังรอหลานสาวสำหรับการรับประทานอาหารมื้อค่ำ วันนี้ดูจีรธรเงียบๆ ไปหลังจากที่กลับจากการไปเยี่ยมหญิงชราซึ่งตอนนี้ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จีรธรเล่าเรื่องราวที่เธอได้ไปพบเจอกับหญิงชราที่ป่วยอยู่เพียงลำพังอย่างละเอียด สายตาเศร้าๆ ของจีรธรทำให้น้าสาวทั้งสองของเธอสบตากันและยิ้มเล็กๆ

“หลานน้าทำไมหงอยไปเลย ไม่ได้ยินเสียงแจ้วๆ บ้านเงียบไปเยอะเลยนะบัว” บุษบาอยากแหย่ให้หลานสาวของเธอสบายใจขึ้น

“บุษก็ไปแหย่หลาน” ปทุมมาศทำเสียงเอ็ดบุษบาที่อมยิ้มแล้วมองไปทางจีรธร

“จี๊ดนะ จะไม่ทิ้งน้าบุษกับน้าบัวให้อยู่ลำพังเหมือนกับคุณยายแน่ๆ ค่ะ น่าสงสารจับใจเลยนะคะ” จีรธรพูดขึ้นเอนตัวซบลงที่ไหลของ
ปทุมมาศซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ

“ลูกหลานของคุณยาย ก็คงมีความจำเป็นค่ะ ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง พวกเขาก็คงไม่อยากทิ้งให้คนแก่อยู่บ้านคนเดียวหรอกค่ะ” ปทุมมาศกระชับอ้อมกอดที่เธอกำลังโอบจีรธรไว้

“ก็คงจริงอย่าน้าบัวว่าค่ะ เฮ้อเจอแต่เรื่องเศร้า เอาเรื่องดีดีน่ารักๆ มาเล่าให้หลานฟังดีกว่าค่ะ น้าบัว เดี๋ยวคืนนี้จี๊ดนอนไม่หลับกันพอดี” จีรธรเริ่มยิ้มทะเล้นให้กับบุษบา

“เรื่องอะไรคะ” ปทุมมาศถามขึ้น

“ก็น้าบัวไปเจอกับน้าบุษที่ไหนคะ” จีรธรยักคิ้วหลิ่วตาให้บุษบาที่กำลังส่งสายตาและยิ้มหวานๆ ให้กับปทุมมาศ อันที่จริงเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าปทุมมาศจะจำได้หรือเปล่าว่าเจอกันครั้งแรกเมื่อไหร่

“มหาวิทยาลัยค่ะ” ปทุมมาศมองสบตากับบุษบาเมื่อเธอได้บอกกับจีรธรที่ตอนนี้ลุกขึ้นนั่งตัวตรงตั้งใจฟังดวงตาเป็นประกาย

“โห นานมากเลยค่ะ” จีรธรลากเสียงยาวๆ

“ไม่ต้องลากเสียงยาวขนาดนั้นก็ได้ ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้นนะเธอ” บุษบาทำเสียงเอ็ดหลานสาวของตัวเอง

“วันนั้นเราสองคนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเป็นวันแรกด้วยกันทั้งคู่ จี๊ดรู้ไหมน้าบุษของจี๊ดสวยมาก วันที่ได้เจอกันน้าบุษหันมามองน้าแล้วยิ้มให้เล่นเอาน้าเดินไม่เป็นเลยค่ะ” ปทุมมาศยิ้มอายๆ ให้บุษบาที่นั่งอมยิ้มฟังปทุมมาศเล่า

“รักแรกพบ” จีรธรรำพึง

“เปล่าไม่ใช่ อย่าเดา” บุษบาพูดขึ้น

“อ้าวแล้วยังไงต่อคะ น้าบัว” จีรธรหันไปถามปทุมมาศ

“เราสองคนเรียนกันคนละคณะ แต่ตอนปีแรกๆ ก็เจอกันตอนเข้าเรียนนะ ทุกครั้งที่ได้เจอกันน้าบุษของจี๊ดก็ยิ้มสวยๆ ให้ทุกครั้ง”

“หลงรักเลยหรือเปล่าคะ” จีรธรถามปทุมมาศ

“เปล่าค่ะ ก็แค่รู้สึกดีดีอยากเป็นเพื่อนด้วย ตอนนั้นคิดแค่นั้น”

“แต่น้าคิดมากกว่าเพื่อนนะ” บุษบาพูดขึ้น

“โอ้ ไม่ฟังน้าบัวเล่าดีกว่า ย้ายข้าง” จีรธรหัวเราะคิกคัก เห็นยิ้มอายๆ แก้ม แดงๆ ของปทุมมาศแล้ว จีรธรรู้สึกว่าหัวใจของเธอได้รับพลัง
ความอบอุ่นจากน้าสาวของเธอทั้งสองคนที่มีให้กัน

“ชอบเลยหรือคะ น้าบุษ” จีรธรถามขึ้น

“ตอนนั้นไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลาน้าบัวมานั่งอยู่ใกล้ๆ รู้แต่ว่าตื่นเต้นมาก”

“จริงหรือคะ ไม่เห็นเคยเล่าให้บัวฟังเลย” ปทุมมาศอมยิ้มลุกไปนั่งลงข้างๆ บุษบา ซึ่งไม่ได้ตอบคำถามทำเพียงแค่พยักหน้าแทนการตอบรับ

“จี๊ดถามน้าบุษเยอะๆ เลยนะ ท่าทางจะมีอะไรที่น้ายังไม่รู้อีกเยอะแน่ๆ เลย”

“เสร็จละ น้าบุษแอบมีความลับกับน้าบัว” จีรธรทำเสียงเข้ม

“ก็ตอนนั้นไม่รู้นี่คะ ว่าชอบบัวแบบไหน แต่ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องตื่นเต้น แค่เห็นหน้าหัวใจก็เต้นโครมครามแล้วนะ” บุษบาหันมายิ้มกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ และหอมแก้มอย่างแผ่วเบา จีรธรซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยิ้มในความน่ารักของภาพที่เห็นแต่ก็อยากแกล้ง จึงทำเป็นปิดตาแต่นิ้วก็ไม่ได้มิดชิดยังคงแอบมองผ่านช่องนิ้วมือของตัวเอง

“นี่ถ้าไม่เห็นกับตา จี๊ดจะไม่เชื่อเลยนะคะ ว่าน้าบุษจะหวานขนาดนี้” จีรธรหัวเราะคิกคัก

“ไม่อายหลานหรือคะ บุษ” ปทุมมาศยิ้มอาย

“จี๊ดปิดตาแล้ว ไม่ต้องอายหรอกค่ะ” บุษบายิ้มนึกขันกับท่าทางของจีรธร

“แสดงว่าน้าบัวกับน้าบุษก็ไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองน่ะ ชอบผู้หญิง” จีรธรถามขึ้นด้วยความสงสัย เธอไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกของการที่
ชอบผู้หญิงด้วยกันแบบคนรักเป็นอย่างไร

“ไม่รู้ค่ะ แต่ก็รู้สึกดีดี อยากเจอทุกวัน อยากให้น้าบุษของจี๊ดยิ้มให้ อยากไปนั่งเรียนอยู่ใกล้ๆ” ปทุมมาศบอกเล่าความรู้สึกของเธอในตอนนั้น

“แล้วน้าบุษล่ะคะ รู้สึกอย่างไร”

“หวง” บุษบาตอบสั้นๆ ปทุมมาศตีเข้าที่แขนแล้วหัวเราะเล็กๆ

“จริงเหรอบุษ” ปทุมมาศถามขึ้น

“จริง หวงมากด้วยค่ะ ก็หนุ่มๆ เข้ามาก้อร่อก้อติกตลอดเลย”

“ตอนนั้นเห็นนิ่งๆ ไม่เห็นบอกกันบ้าง ไม่อย่างนั้นคงตกลงใจเป็นแฟนตั้งแต่ตอนเรียนปีหนึ่งแล้วนะคะ” ปทุมมาศพูดขึ้นเบาๆ

“อ้าวแล้วกว่าเป็นแฟนกันตอนเรียนปีไหนคะ” จีรธรรีบถามขึ้น

“น้าง่วงแล้วยัยจี๊ด ไว้วันหลังค่อยมาซักฟอกเรื่องของผู้ใหญ่ต่อ” บุษบาพูดแหย่หลานสาว

“น้าบุษพูดเหมือนด่าจี๊ดทางอ้อมยังไงไม่รู้นะคะ ความรักดีดีใครๆ ก็อยากรู้นะคะ ก็ได้จะแอบไปสวีทกันก็บอกกันดีดีซิคะ หลานสาวคนนี้หลีกทางให้แต่โดยดีอยู่แล้ว ฝันดีค่ะ น้าบุษ น้าบัว” จีรธรหอมแก้บุษบาและปทุมมาศซึ่งจีรธรแอบกระซิบอะไรบางอย่าง

“ฝากดูแลน้าบุษด้วยนะคะ”

“ค่ะ” ปทุมมาศยิ้มให้จีรธรที่เดินเข้าห้องนอนไปแล้ว

ปทุมมาศกับบุษบานั่งลงบนเตียงนอนสีขาวสะอาด ปทุมมาศอมยิ้มนึกถึงเรื่องที่บุษบาเล่าให้จีรธรฟังเรื่องความหวง เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในความนิ่งๆ ที่บุษบามีแอบซ่อนเอาความหวงเอาไว้

“ถามจริงๆ ค่ะ หวง บัวจริงๆ หรือคะ” ปทุมมาศถามขึ้นและขยับเข้ามาใกล้ๆ จนใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่มากนัก

“มากค่ะ บัว” บุษบาตอบยิ้มอายๆ ไม่กล้าสบตาปทุมมาศที่กำลังจ้องมองมาที่เธอ

“ไม่เห็นเคยบอกเลยนะคะ”

“ก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร” บุษบากระซิบบอกปทุมมาศซึ่งเข้ามาโอบกอดเธอไว้

“บัวรักบุษ มากนะ” ปทุมมาศกระซิบบอกบุษบา

“จริงเหรอ พิสูจน์หน่อย ว่ารักมากแค่ไหน” บุษบายิ้มทะเล้นให้ปทุมมาศ

“ร้ายนักนะคะ” ปทุมมาศเริ่มจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มของบุษบา ซึ่งจูบตอบอย่างอ่อนโยน ความรักที่มีอยู่เต็มหัวใจทั้งสองดวง กำลัง
จะหยิบยื่นความรู้สึกดีดีให้กันและกัน

“ไม่ได้ร้ายสักหน่อยเลย”

“ก็ได้ถ้าอย่างนั้นก็ต้องพิสูจน์เหมือนกัน ว่าหวงแค่ไหนบัวจะนับจากจำนวนจูบที่บุษจูบเลยนะ คอยดู อยากรู้เหมือนกันค่ะว่าหวงกันแค่ไหน” ปทุมมาศยิ้มทำสายตาทะเล้นใส่บุษบา ซึ่งตอนนี้เข้าจู่โจมด้วยการจูบอย่างร้อนแรง เสื้อผ้าอาภรณ์ของปทุมมาศกำลังถูกปลดออกอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบาจนเธอไม่รู้สึกตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองเหลือเพียงร่างกลายเปลือยเปล่า เรือนร่างถูกสัมผัสไปด้วยมืออันแสนจะอบอุ่นของบุษบาที่รึงเร้าอยู่ที่บริเวณเนินออกของเธอ ปทุมมาศค่อยๆ พรมจูบไปที่ร่างกายเปลือยเปล่าของบุษบาเช่นกัน เนื้อตัวนิ่มๆ และนุ่มนวลกำลังเบียดชิดจนแนบแน่น มือซุกซนของทั้งสองกำลังถ่ายเทความรักและความอบอุ่นให้กันและสัมผัสนั้นทำให้หัวใจสองดวงและร่างกายเปลือยเปล่าแนบแน่นจนเป็นหนึ่งเดียว ค่ำคืนแห่งความสุขกับลมหายใจอันแผ่วเบา และสายตาสองคู่อันอ่อนโยน จูบเล็กๆ ที่บอกผ่าน
ความรักที่มีมากมายที่ได้มอบให้กันและกัน

“ฝันดีค่ะ บัวรักบุษมากที่สุดในโลกเลยค่ะ” ปทุมมาศกอดกระชับบุษบา

“บุษก็รักบัว รักเท่าที่หัวใจดวงเล็กๆ ดวงนี้รักได้ค่ะ”




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.