web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 12
Total: 12

ผู้เขียน หัวข้อ: จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 34  (อ่าน 3153 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 34
« เมื่อ: 19 มกราคม 2014 เวลา 14:40:47 »
   แป้งร่ำนึกอยากแกล้งนิมาและทองทิพย์จึงเดินมาเคาะประตูหน้าห้องนอนของเพื่อนแต่เช้า หลังจากที่เมื่อคืนพอจะรู้ข้อมูลจากพุทธชาดและรักษาเรื่องที่ทองทิพย์คงจะมานอนอยู่ที่ห้องเพื่อนรักของเธอแทนที่จะเป็นห้องของแฟนเก่าของตัวเองแป้งร่ำยืนอมยิ้ม หลังจากเคาะประตูห้องของนิมา แต่ก็มีเพียงความเงียบไม่มีเสียงตอบรับใดๆ

   “ทำอะไรกันนะ ท่าจะนอนหลับเป็นตาย เคาะดังขนาดนี้ยังไม่ได้ยินอีก อิอิ” แป้งร่ำเดินอมยิ้มเตรียมจะลงไปชั้นล่างเพื่อรับประทานอาหารเช้า ก็พบเข้ากับรักษาและพุทธชาดที่กำลังจะลงไปเช่นกัน

    “คุณสามีไปไหนล่ะ แป้ง” พุทธชาดถามเพื่อน

   “หลับเป็นตายเลย เหมือนแม่นิ่มนวลกับสาวร้ายของเรา ไม่รู้เมื่อคืนทำอะไรกัน ไปเคาะห้องก็เงียบเฉียบเชียว” แป้งร่ำยิ้มทะเล้น

   “คิดอะไรอยู่เพื่อนฉัน โน่นไปเดินอยู่ชายหาดตั้งแต่เช้ามืดแล้ว ท่าทางแผนคุณรักจะได้ผลนะ” พุทธชาดหันไปยิ้มให้รักษา

   “ขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เถอะคะ อย่าลืมนะ เรายังมีตัวละครอีกคนที่ไม่รู้ว่าตื่นหรือยัง” รักษาบอกกับพุทธชาดและแป้งร่ำ

   “เออนั่นสิ มาเที่ยวหรือมานอนกันแน่ แม่สาวเปรี้ยวของคุณทองทิพย์”

   “รู้สึกดีจริงๆ ที่รีบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อเช้านี้” พุทธชาดรำพึงเบาๆ

   “แหมรู้แล้วว่าหวาน แค่ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์กับคุณรักแค่นี้ถึงกับเพ้อเลยหรือ คุณพุด” แป้งร่ำหัวเราะคิกคักเมื่อได้พูดแหย่พุทธชาดและรักษา

   “ตอนแรกก็คิดว่าจะตื่นมาหวานเหมือนที่แป้งคิด แต่สาวร้ายของเราหวาน กว่าสิ เดินจูงมือแม่นิ่มนวลริมหาดรอดูพระอาทิตย์ขึ้น แถมมีจูบแก้มเบาๆ
ด้วยนะขอบอก” พุทธชาดหัวเราะเมื่อเห็นแป้งร่ำทำตาโต

   “โอ้แม่เจ้า น่าเสียดายพลาดได้อย่างไรกันฉัน เหมือนเป็นสัญญาณที่ดีหรือเปล่าคะ คุณรัก” แป้งร่ำถามรักษาที่ยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร

   ทองทิพย์นั่งลงใกล้ๆ นิมาซึ่งกำลังนั่งมองดูทะเลสีฟ้าที่ดูสวยสดใสพร้อมรอยยิ้มที่น่ารักซึ่งทำให้คนที่กำลังมองอยู่ยิ้มตามไปด้วย

   “ชอบทะเลหรือคะ” ทองทิพย์ถามขึ้นและมองไปทางทะเลสีฟ้าเช่นเดียวกับนิมา ซึ่งแม้จะได้ยินคำถามแต่ก็ไม่ได้ละสายตาจากความสวยงามตรงหน้า เพราะแสง แดดเริ่มทอประกายกระทบผืนน้ำทำให้เห็นผิวน้ำทอแสงระยิบระยับให้เห็น

   “ชอบธรรมชาติค่ะ” นิมาหันมายิ้มให้ทองทิพย์

   “แสดงว่าเป็นคนจิตใจดี” ทองทิพย์พูดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ละสายตาจากเส้นขอบฟ้าที่เธอมองอยู่

   “คงไม่เกี่ยวกับธรรมชาติหรอกค่ะ นิ่มก็ไม่ได้จิตใจดีอะไรนักหนา เวลาร้ายก็ร้ายเหมือนกันค่ะ โดนแป้งกับคุณพุดว่าบ่อยๆ ชอบมีอะไรที่คิดไม่ถึง
ประมาณว่าไม่คิดว่านิ่มจะทำนิ่มก็ทำ” นิมาบอกเล่าเรื่องราวที่เพื่อนรักทั้งสองเคยพูดกับเธอ

    “แต่คงดีกว่าทิพย์แน่ๆ คะ อย่างไรเสียทิพย์ก็เป็นสาวร้ายในสายตาของคนอื่นๆ” ทองทิพย์พูดพร้อมรอยยิ้มจางๆ

   “คนเราก็มีหลายมุม นิ่มเห็นมุมดีดีของทิพย์นะ มุมอ่อนโยน ห่วงใย ดูแล เอาใจใส่ เห็นตั้งแต่วันที่ได้ไปวิ่งกันที่สวนสาธารณะ น้ำเต้าหู้ในแก้วกระดาษทำให้นิ่มประทับใจมากและจะจำเอาไว้ตลอดไป ถึงแม้ว่า” นิมาจบการพูดของเธอเพียงแค่นั้น และนั่งเงียบๆ มองออกไปที่เส้นขอบฟ้าเช่นเดิม

    “แค่น้ำเต้าหู้แก้วเดียว สามารถทำให้นิ่มประทับใจได้ขนาดนั้นเลยหรือคะ แล้วเวลาร้ายๆ ล่ะ จำด้วยหรือเปล่า” ทองทิพย์ถาม นิมารีบหันมามองทอง
ทิพย์ใน ทันทีที่ได้ยิน

   “รู้ว่าไม่ได้อยากร้าย แต่ไม่รู้ว่าอะไรถึงทำให้ร้าย ถามก็ไม่ยอมตอบ แต่ถ้าร้ายบ่อยๆ จนทนไม่ไหว ก็อาจจะจำได้หรือไม่ก็ล่าถอยไปก็ได้นะคะ” นิมาถอนใจหลัง จากที่ได้บอกกับทองทิพย์ ซึ่งจับมือนิมากระชับเอาไว้

   “ทิพย์คงทำให้นิ่มผิดหวังเสียแล้วล่ะ เพราะด้านร้ายออกจะชัดเจนกว่า”

   “เวลาร้ายแล้วสบายใจหรือคะ” นิมาถาม

   “ไม่รู้สิ อาจจะติดจนเป็นนิสัย” ทองทิพย์พูดและกระชับมือนิมาไว้

   “ไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวแฟนทิพย์มาเห็นเข้า จะฉีกอกนิ่มเข้า” นิมาดึงมือออกจากการเกาะกุมของทองทิพย์

   “หรือกลัวนายวาทิตเข้าใจผิด แค่เดินมาก็รีบดึงมือกลับไปเลย” ทองทิพย์พูดและมองไปทางที่วาทิตกำลังเดินมา

   “จับก็ไม่เห็นจะแปลก มาสิเดินไปให้เห็นก็ยังได้” นิมาดึงมือให้ทองทิพย์ลุกตามเธอ เพื่อจะเดินไปหาวาทิตที่เดินยิ้มให้มาแต่ไกล นิมากระชับมือทองทิพย์ไว้แน่นแม้เจ้าตัวจะพยายามดึงออกก็ตามที

   “ปล่อยได้แล้วค่ะ” ทองทิพย์กระซิบบอกหลังจากที่เห็นวาทิตเดินเข้ามาใกล้

   “ทำไมล่ะ หรือจะให้บอกพี่วาว่าเมื่อคืนทิพย์นอนที่ห้องนิ่มด้วยเลยดีไหม”

   “ถ้าใครรู้ ไม่เป็นไรหรือคะ” ทองทิพย์ถามเพราะเธอก็อยากรู้เหมือนกัน

    “ไม่เห็นจะเป็นไร ทิพย์จะให้นิ่มบอกใครๆ ว่าอย่างไรก็ว่ามา นิ่มจะบอกตาม ที่ทิพย์ต้องการ คนรู้จักหรือคนรักดีล่ะ” นิมาพูดดูจริงจังจนทำให้ทอง
ทิพย์แปลกใจ

    “ไม่ดีกว่า ถ้ารักก็ไม่เห็นต้องประกาศให้ใครรู้” ทองทิพย์พูดขึ้น

    “ไม่บอกก็ไม่บอก ถ้าอย่างนั้นปล่อยมือเลยนะ” นิมาอมยิ้มดีใจที่ได้แกล้งทองทิพย์ เพราะตัวเธอเองก็ไม่อยากให้ใครๆ รู้เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่เพิ่งจะรู้จักอย่างวาทิต

   ทองทิพย์ขอแยกตัวกลับขึ้นไปที่ห้องพัก วาทิตจึงชวนนิมาเดินเล่นระหว่างรอเวลารับประทานอาหารเช้า ทองทิพย์หันมามองทางนิมาและวาทิตอีกครั้งก่อนจะหันหลังเดินกลับไปยังโรงแรมที่พัก

   ในขณะนี้ทุกคนลงมาพร้อมแล้วสำหรับอาหารมื้อเช้า นิมากับวาทิตก็เดินยิ้มแป้นเข้ามา วาทิตเลื่อนเก้าอี้ให้นิมาด้วยความสุภาพซึ่งทองทิพย์เฝ้ามองอยู่ตลอด นิมาอมยิ้มชำเลืองมองไปทางทองทิพย์ที่ทำทีเป็นไม่สนใจ

   “คุยอะไรกันมาคะ พี่วายิ้มแป้นกลับมาเลย” พุทธชาดพูดแหย่คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ

   “หลายเรื่องครับ น้องนิ่มคุยสนุกดี คุยกันได้ทุกเรื่องเลย” วาทิตบอก

   “ใช่ค่ะ เห็นด้วย เป็นเพื่อนที่แสนดี ใครได้ไปเป็นแฟนละก็ แป้งรับประกันคุณภาพค่ะ ชีวิตมีความสุขแน่ๆ” แป้งร่ำพูดพร้อมรอยยิ้มทะเล้นที่กำลังยิ้มให้รักษาและพุทธชาด

   “อีกสองวัน เจนจะกลับเชียงใหม่ จะแวะไปเยี่ยมโอบด้วย ทิพย์จะไปด้วยกันไหม” เจนจิราถามทองทิพย์ แต่สิ่งที่ได้ถามไปทำเอานิมาและเพื่อนๆ หูผึ่งตั้งใจฟังใน ทันที

   “ทิพย์งานยุ่ง เอาไว้เสร็จงานแล้วตามไปก็แล้วกันค่ะ” ทองทิพย์รีบพูดตัดบทเพราะไม่อยากให้เจนจิราพูดเรื่องโอบบุญมากนัก

   “ได้ค่ะ รีบตามไปนะ ไม่อย่างนั้นจะบินกลับมาตามเอง” เจนจิราอมยิ้ม

    “คุณเจนเป็นคนเชียงใหม่หรือครับ” วาทิตถาม

    “ใช่ค่ะ พี่วาว่างก็เชิญได้นะคะ เจนมีบ้านพักรับรองค่ะ เชิญทุกคนเลยค่ะ” เจนจิราพูดเชื้อเชิญด้วยความจริงใจ

   “ขอบคุณล่วงหน้านะคะ พวกเราไปแน่เลย” แป้งร่ำพูดจบก็แอบชำเลืองไปดูปฏิกิริยาของสาวร้าย แต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรให้เห็น

   “อากาศคงกำลังดีแน่เลยตอนนี้ น่าสนใจนะครับ ใครจะจัดทริปล่ะก็บอกด้วยนะครับ ผมไปด้วยคน” วาทิตรีบพูดเสนอตัวก่อนทำเอาหลายๆ คนอดขำกับความน่ารักและความมีอัธยาศัยดีไม่ได้

   พุทธชาดแอบสังเกตเห็นวาทิตลอบมองไปทางเจนจิราอยู่บ่อยๆ เริ่มรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่อยากคิดนัก เพราะวาทิตก็พอจะรู้อยู่ว่าเจนจิราอยู่ในสถานะแฟนเก่าของทองทิพย์ ซึ่งนั่นก็ออกจะชัดเจนอยู่แล้วว่าเจนจินาชอบผู้หญิงด้วยกัน

    “เฮ๊ยเดี๋ยวนั่นพี่อุ้ม พี่สาวยายออมสินเพื่อนเราใช่ไหม” แป้งร่ำเห็นอุ้มใจซึ่งเป็นพี่สาวของออมสินเพื่อนอีกคนหนึ่งของพวกเธอกำลังเดินมารับประทานอาหารเพียงลำพัง แป้งร่ำจึงลุกขึ้นจากโต๊ะเดินไปหาและพามาร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน

   “สวัสดีค่ะ พี่อุ้มมาคนเดียวหรือคะ” กลุ่มเพื่อนรวมถึงตัวนิมาพนมมือไหว้ทักทายคนที่กำลังเดินมาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วย นิมาจึงได้แนะนำให้รู้จักกับพี่สาวและพี่เขยของเธอ รวมถึงวาทิต ทองทิพย์และเจนจิรา

   “ผมเพิ่งได้พบตัวจริง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คนพูดถึงอาจารย์อุ้มใจกันเยอะมาก ได้ยินชื่อมานานแล้วครับ” วาทิตทักทายอุ้มใจ เพราะเขาก็กำลังจะเข้าไปเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเดียวกับที่อุ้มใจสอนอยู่

   “แม่นิ่มนวล เจอขวัญใจแค่นี้เงียบไปเลยนะเธอ” แป้งร่ำพูดแซวนิมา

   “สบายดีนะ นิ่ม พี่ไม่ค่อยได้เจอนิ่มเลย คิดถึงเหมือนกัน ยายออมชวนไปทานขนมที่ร้านว่าจะไปอุดหนุนอยู่ทีเดียว เดี๋ยวกลับจากหัวหินพี่จะแวะไปทานขนมนะคะ” อุ้มใจยิ้มสวยๆ ให้นิมาที่ได้เพียงแต่ยิ้มอายๆ

    “ยินดีค่ะ”

   “พี่นารู้หรือเปล่าคะ อาจารย์อุ้มใจคนนี้ ที่ยายนิ่มน่ะ หลงใหลได้ปลื้มชื่นชอบเอามากๆ ชอบจนขนาดว่าเจออาจารย์ทีไรใบ้กินทุกทีเลย” พุทธชาด
พูดจบก็อมยิ้มชำเลืองมองไปทางทองทิพย์ที่กำลังมองมาทางอุ้มใจ

   “ก็น่าปลื้มอยู่นะคะ ยังดูเด็กอยู่เลยนะคะ ถ้าเป็นพี่สาวยายออมสินก็แสดงว่าเป็นลูกสาวท่านรัฐมนตรีอีกคนหนึ่ง ออมสินพูดถึงอยู่บ่อยๆ เลยค่ะ ดีใจที่ได้พบกันนะคะ” นารินพูดคุยกับอุ้มใจอย่างเป็นกันเอง เพราะนิมากับเพื่อนๆ พูดถึงอาจารย์คนนี้อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พบสักที

   “ยินดีเช่นกันค่ะ นิ่มก็เคยพูดถึงคุณนาให้ฟังบ่อยๆ ค่ะ”

   “พี่อุ้มต้องกอดปลอบแม่นิ่มนวลของพวกเราแล้วค่ะ ดูเหมือนจะอึ้งที่ได้เจอพี่อุ้มนะคะ” แป้งร่ำเห็นนิมาหันมาทำหน้าดุใส่

   “กอดได้ ว่าแต่มีแฟนแล้วหรือยังล่ะ เดี๋ยวแฟนนิ่มมาเข้าใจผิดพี่จะแย่นะ” อุ้มใจแกล้งพูดหยอกนิมา เพราะเธอเคยรู้เรื่องราวความรักสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของเพื่อนรักของน้องสาวของเธอคนนี้ และเธอเองก็เคยช่วยปลอบโยนมาแล้วครั้งหนึ่ง

   “เจ้าของไม่ยอมแสดงตัวสักที มัวแต่กล้าๆ กลัวอยู่น่ะคะ กอดได้ค่ะ พี่อุ้ม เอาแค่พออุ่นใจนะคะ ไม่อย่างนั้นแม่นิ่มนวลของพวกเราจะหัวใจวายตายไปเสียก่อน” พุทธชาดอมยิ้ม และส่งสัญญาณพยักพเยิดไปทางทองทิพย์ ซึ่งดูอุ้มใจจะเข้าใจว่าเธอคงต้องร่วมเล่นละครอะไรบางอย่างกับน้องๆ พวกนี้

   “นี่แอบมีใครไม่บอกพี่หรือเปล่า นิ่ม” นารินแกล้งทำเสียงเข้ม แล้วเสียงหัว เราะของหลายๆ คนก็ตามมาหลังจากที่นารินพูดจบ

   “มาไหนขอกอดหน่อย จะตัวสั่นเหมือนเมื่อตอนเรียนหนังสือหรือเปล่าไม่รู้นะ” อุ้มใจส่งยิ้มให้พุทธชาดที่พยักหน้าแทนคำขอบคุณ

    “พี่อุ้มก็ชอบแกล้งนิ่ม รู้ว่านิ่มปลื้มก็รุมรังแกตั้งแต่เรียน จนกระทั่งไปสอนหนังสือเจอทีไรก็ขอกอดทุกที รู้ไหมคะหลงรักมาตั้งแต่เป็นนักศึกษาจนกระทั่งเดี๋ยว นี้เลย พี่อุ้มรู้หรือเปล่าคะ” นิมาพูดขำๆ โดยไม่ได้คิดอะไร หันไปเห็นทองทิพย์กำลังมองเธอตาเขียว แต่ก็แอบอมยิ้มที่ได้แกล้งโดยไม่รู้ตัว

   “อ้าวเหรอ ไม่รู้มาก่อน ให้พ่อมาขอเลยดีไหม” อุ้มใจพูดขำๆ แต่กลุ่มเพื่อนของนิมากลับร้องฮิ้วขึ้นมาเสียงดังลั่น

    “พี่นาคะ ตกลงจะเป็นคนไปขอหรือให้อาจารย์อุ้มใจมาขอแม่นิ่มนวลดีคะ น้องสาวพี่นาหลงรักอาจารย์มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะคะ” แป้งร่ำพูดเปิดทางเพราะอยากจะแกล้งสาวร้ายที่นั่งหน้าตูม แหย่เรื่องวาทิตไม่ค่อยมีปฏิกิริยาแต่กับอาจารย์อุ้มใจท่าทางจะสนุก

   “ได้เลยค่ะ แล้วแต่แม่น้องสาวก็แล้วกัน ฝากน้องด้วยนะคะ อาจารย์” นารินนึกขำกับเรื่องที่กำลังพูดคุยกัน

   “ยินดีค่ะ แต่ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ พอดีเป็นวิทยากรมาบรรยายน่ะคะ ได้เวลาแล้ว” อุ้มใจบอกกับทุกๆ คน

   “อาจารย์มาคนเดียวหรือเปล่าครับ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ทานมื้อค่ำด้วยกันนะครับ” ทองทัดเอ่ยชวน

   “นะคะ พี่อุ้ม นานๆ จะได้เจอกันแบบนี้สักที นะคะ นะ” นิมาเพิ่งรู้สึกว่าทุกคนเงียบมาก แล้วแป้งร่ำก็หัวเราะขึ้น ตามมาด้วยพุทธชาด

   “ออกนอกหน้าไปนะ แม่นิ่มนวล” แป้งร่ำพูด

    “ลืมตัวไป” นิมาหัวเราะแหะๆ

    “ยินดีค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณทัด”

   “ยิ้มแก้มจะแตกแล้วเธอ หุบๆ ไว้บ้าง” พุทธชาดพูดแหย่นิมา ซึ่งการพูดดูเหมือนจะแหย่เลยไปถึงอีกคนหนึ่งด้วย

   “นิ่มก็เดินไปส่งหน่อยสิ หรือไปเฝ้าไว้เลย พี่อุ้มจะได้ไม่หนีไปไหน” แป้งร่ำแกล้งพูดแหย่ แต่นิมาก็หันมายิ้มแล้วเดินตามไปส่งอุ้มใจที่ห้องจัดสัมมนา

   “ท่าทางพี่อุ้มจะเขี่ยเชื้อไฟได้ดีกว่าพี่วานะคะ” รักษากระซิบบอกพุทธชาดที่แทบจะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นหน้ามุ่ยๆ ของทองทิพย์

   “ไหนขอดูปากหน่อยไปทำอะไรมาคะ” เจนจิราเพิ่งสังเกตเห็น

    “ไม่เป็นไรค่ะ อุบัติเหตุนิดหน่อยเท่านั้นเอง ทิพย์ขอตัวก่อนนะคะ” ทองทิพย์บอกกับทุกคนที่มองตามเธอไป กลุ่มเพื่อนของนิมารู้ว่าทองทิพย์คงตาม
ไปดูสองสาวที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว จึงวางแผนที่จะรั้งตัวแฟนเก่าเอาไว้

   “อย่าตามไปเลยค่ะ ไปขับรถเล่นกันดีกว่าค่ะ คุณเจน ท่าทางทิพย์เหมือนอยากจะอยู่คนเดียวเลยนะคะ ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี ไปเที่ยวกับพวกเราดีกว่า
จริงไหมคะ พี่วา” วาทิตไม่ได้ฟังมัวแต่มองเจนจิรา คำถามของพุทธชาดทำให้วาทิตตกใจเล็กน้อย

   “ครับ ไปนั่งรถเล่นกันดีกว่า” วาทิตพูดอึกอักทำเอาคนที่ได้ยินนึกขำ

   “คิดอะไรอยู่ล่ะ นายวา พอพุดถามก็เลยดูตกใจ เหมือนกำลังมองสาวๆ แล้วโดนจับได้อย่างไรอย่างนั้นเลยนะแก” ทองทัดอมยิ้มเมื่อเห็นหน้าจ๋อยๆ ของวาทิต

   “พี่ทัดก็แซวผม” วาทิตยิ้มอาย แล้วแอบมองไปที่เจนจิราอีกครั้ง

   “เอาเป็นว่าไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวแดดจะร้อน เราก็ไปหามื้อกลางวันทานข้างนอกกันเลยดีไหมคะ เจ้ามือ” แป้งร่ำพูดขึ้นพร้อมกับอมยิ้มมองสบตากับทองทัด

   “ได้เลยครับ เออว่าแต่ไม่รอนิ่มกับยายทิพย์กันก่อนหรือ” ทองทัดถาม

   “เดี๋ยวพุดโทรให้นิ่มกับทิพย์ตามไปก็ได้ค่ะ พี่ทัด” พุทธชาดรีบพูดขึ้นในทันทีเพราะแผนที่เธอคิดเอาไว้ก็คือจะปล่อยให้นิมากับทองทิพย์อยู่ด้วยกันตามลำพัง

   “โอเคตามนั้น แยกย้ายกันได้” ทองทัดบอก

    “พี่วาขับคันหนึ่งนะคะ ฝากคุณเจนไปด้วย จะได้ไม่ต้องนั่งเบียดกัน พี่นากับพี่ทัดก็ไปคันเดียวกัน ในฐานะที่มาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง” แป้งร่ำหัวเราะคิกคักขึ้นหลังจากกระซิบกระซาบกับพุทธชาดไปเมื่อสักครู่

   “ช่างคิด ช่างวางแผนกันเหลือเกินนะ หวังว่าจะไม่ได้มีแผนอื่นอีกนะ” นารินทำหน้าดุใส่สาวๆ กลุ่มเพื่อนของนิมา

   “รู้ทันตลอดเลย พี่นา แต่ไม่มีอะไรสักหน่อยเลยค่ะ” แป้งร่ำอมยิ้ม




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.