web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 11
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 7
Total: 7

ผู้เขียน หัวข้อ: จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 2  (อ่าน 1516 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 2
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:24:23 »
ตอนที่ 2

การสนทนาของสองสาวที่ได้พูดคุยกัน เพราะอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกลับสร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สองสาวแลกเปลี่ยนเรื่องราวหลากหลายในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ และสิ่งที่ชอบเหมือนกันเป็นที่สุดก็คือ เรื่องราวความอร่อยของขนมไทย ซึ่งถือเป็นอาชีพของนิมา เธอได้รับการถ่ายทอดมาจากมารดาซึ่งก็ได้เรียนมาจากคุณยายอีกที น่าจะเรียกได้ว่า เป็นครอบครัวขนมไทยมาตั้งแต่เธอยังไม่เกิดก็ว่าได้

“ท่าทางคุณทิพย์ คงชอบออกกำลังกายนะคะ” นิมาถามขึ้นหลังจากที่แอบคิดไปถึงตอนที่เปิดดูแผลเพื่อช่วยทายาให้ ในใจก็นึกขำตัวเองว่าทำไมถึงได้ไปย้อนนึกถึงขึ้นมาได้อีก

“ทราบได้อย่างไรคะ” ทิพย์ยิ้มๆ กับท่าทางยิ้มอายๆ ของคนที่ถามเธอ

“ก็ตอนทาแผนให้ แอบเห็นรูปร่างที่ดูแข็งแรงเหมือนคนที่ดูแลร่างกายอย่างดีทีเดียว รูปร่างดีขนาดนี้ คงไม่ใช่ว่ามานั่งทานขนมหวานแล้วรูปร่างดีหรอกนะคะ” นิมาอธิบายไปเรื่อย ไม่กล้าสบตากับดวงตากลมโตที่กำลังจ้องมองเธอเหมือนกำลังจับผิดอะไรบางอย่าง

“ช่างสังเกตนะคะ ก็ออกกำลังกายบ้างค่ะ ชอบทานขนมคงต้องขยันออกกำลังกายใช่หรือเปล่าคะ อย่างคุณทิพย์ก็น่าจะมีบ้าง ถ้าให้เดาละก็ ดูนิ่งๆ เรียบร้อย แบบนี้อย่างน้อยก็ต้องโยคะ ใช่หรือเปล่าคะ” ทิพย์อมยิ้มมองสบตากับนิมาเพื่อรอคำตอบ เธอค่อนข้างมั่นใจว่านิมาน่าจะชอบการออกำลังกายด้วยการทำโยคะแน่ๆ

“เป็นการออกกำลังกายที่สะดวกสุดๆ สำหรับนิ่มค่ะ ตื่นเช้ามาก็ยืดเส้นยืดสายสักหน่อย เลิกงานก่อนอาบน้ำอาบท่าก็อีกนิดหน่อย พอให้นอนหลับสบาย ไม่ได้จริงจังนักหรอกค่ะ” นิมาบอกเรื่องการออกกำลังกายของเธอ

“ลองไปวิ่งเหยาะๆ ออกกำลังกายตอนเช้ากันดูบ้างไหมคะ ขับรถผ่านมาเห็นมีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง จากร้านนี้วิ่งไปได้สบายเลย” ทิพย์นึกแปลกใจตัวเองที่ทำไมถึงได้เอ่ยปากชวนสาวสวยเจ้าของร้านขนม ซึ่งกำลังนั่งยิ้มๆ อยู่ตรง หน้าขึ้นมาได้ เพราะปกติแล้วเธอเป็นคนที่จัดอยู่ในจำพวกถามคำตอบคำ แต่กับนิมาคนนี้เธอรู้สึกว่ารู้จักมักคุ้นจนเหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่งในครั้งแรกที่ได้รู้จักกัน ซึ่งมันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเธอได้

“ก็น่าสนใจนะคะ แต่สภาพร่างกายนิ่มจะไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ” นิมาอมยิ้มนึกขำกับสิ่งได้พูดออกไป

“วันแรกๆ ก็เบาๆ ก่อน รับรองได้ค่ะว่า ถ้าโยคะอยู่เช้าค่ำขนาดนี้ อีกหน่อยคุณทิพย์อาจจะหลงรักการวิ่งในตอนเช้าเพิ่มขึนอีกอย่างก็ได้นะคะ เช้าวิ่งเย็นค่อยโยคะ” ทิพย์เสนอความคิดเห็น

“คนเดียวคงไม่ไหวค่ะ กรุงเทพอันตรายมีอยู่ทุกหย่อมหญ้าเลยค่ะ ตอนเช้าๆ ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ยิ่งระหว่างทางที่จะต้องวิ่งไปที่สวนสาธารณะนั่นยิ่งน่าหวั่นใจมากที่สุด คุณทิพย์เพิ่งกลับจากต่างประเทศก็ต้องระมัดระวังหน่อยนะคะ” นิมาบอกด้วยความห่วงใยเพื่อนใหม่ของเธอ

“ใครบอกล่ะคะ ว่าจะให้ไปวิ่งคนเดียว” คนที่พูดขึ้นแกล้งยักคิ้วแหย่นิมา

“เราจะไปวิ่งออกกำลังกายด้วยกันอย่างนั้นหรือคะ” นิมาถาม

“ใช่ค่ะ ที่อารัมภบทมาทั้งหมดนั่น คือ การชวน คุณนิ่มค่ะ” ทิพย์ยิ้มทะเล้นให้นิมาที่กำลังนึกขำกับคนที่ทำหน้าทะเล้นอยู่ตรงหน้า

“ก็น่าสนใจนะคะ แต่อุปกรณ์ยังไม่พร้อมเลยค่ะ ไม่มีรองเท้าวิ่ง” นิมาบอกกับคนที่กำลังก้มลงไปมองที่เท้าของเธอ

“น่าจะขนาดใกล้เคียงกัน ทิพย์ซื้อมายังไม่ได้ใส่เลยค่ะ ลองดูหน่อยไหมคะ รองเท้าวิ่งโดยเฉพาะเลยนะ” ทิพย์รอคำตอบจากนิมาที่ทำท่าแปลกใจ

“นี่ถ้าไม่ใช่เพิ่งรู้จักกัน นิ่มคงคิดว่าคุณทิพย์วางแผนมาชวนนิ่มวิ่งแน่ๆ ดูจริง จังมากเลยนะคะ”

“หรือว่าวางแผนไว้กันนะ” สองสาวหัวเราะขึ้นพร้อมกันเมื่อได้ยินประโยคที่ทิพย์พูดขึ้นพร้อมกับคิ้วที่ขมวดแทบจะชนกันกับท่าทางที่กำลังครุ่นคิด

“นอกจากสวย น่ารัก แล้วยังตลกอีกนะคะ” นิมาอมยิ้ม

“สวยมีคนชมบ่อยค่ะ แต่น่ารักกับตลก เพิ่งได้ยินจากคุณนิ่มเป็นครั้งแรก”

“ไม่น่าจะใช่นะคะ คุณทิพย์ก็ออกจะน่ารัก”

“เอาไว้นานกว่านี้สักหน่อย ค่อยชมก็ได้ค่ะ เปลี่ยนใจก็ยังทันอยู่นะคะ” ทิพย์หัวเราะเล็กๆ กับหน้าตาแปลกๆ ของนิมา

“แม่เคยบอกกับนิ่มเสมอค่ะ ว่าทุกคนมีความน่ารักอยู่ในตัวเอง เพียงแต่ว่าจะนำความน่ารักนั้นออกมาให้เห็นหรือไม่ แต่ตอนนี้นิ่มว่านิ่มเห็นนะคะ” ทิพย์ยิ้มกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินนิมาพูดออกมา ผู้หญิงคนนี้มีความจริงใจที่แสดงออกค่อนข้างชัดเจน ซึ่งตอนที่ชมเธอว่า สวย น่ารัก ตลก ทิพย์แอบคิดอยู่ว่าอาจจะชมเธอด้วยมารยาทของคนที่เพิ่งได้รู้จักกัน แต่สายตาที่ดูเด็ดเดี่ยวซึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่กำลังบอกกับเธอว่า ผู้หญิงคนนี้ชมเธอจริงๆ

“มารบกวนนานแล้ว ลูกค้าเริ่มเยอะแล้วค่ะ ทิพย์มาดึงเจ้าของร้านสาวสวยไว้เสียนาน เดี๋ยวลูกค้าคนอื่นจะว่าเอา พรุ่งนี้มารับไปวิ่งนะคะ จะเตรียมรองเท้ามาให้พร้อมเลยค่ะ” ทิพย์พูดแกมบังคับไปในตัว นิมายิ้มๆ กับคนที่กำลังลุกขึ้นยืนหลัง จากที่กำลังจะขอตัวกลับ

“ไม่ให้เตรียมตัวเลยนะคะ ได้ค่ะ ลองดูอย่างมากก็แค่ให้คุณทิพย์แบกกลับ มาส่งที่ร้าน” นิมาหัวเราะ ความน่ารักและเป็นกันเองของนิมาทำให้ทิพย์ยิ้มได้ตลอด เวลาที่ได้พูดคุยได้ ทิพย์หัวเราะขึ้นเช่นกัน หากแต่ว่าตอนนี้แผลที่เกิดจากน้ำชาที่หกรดเข้าที่ตัวเธอเริ่มออกอาการเจ็บแปลบขึ้นมาบ้างแล้ว

“ไม่รู้ใครจะแบกใครกลับนะคะ”

“ไปคะ นิ่มไปส่งที่รถนะคะ แต่เดี๋ยวค่ะ ทำไมท่าเดินแปลกๆ เจ็บแผลใช่หรือเปล่าคะ คุณทิพย์” นิมาสังเกตเห็นและรีบถามทันที

“ชักมีอาการแสบๆ รู้สึกผิวตึงๆ แต่ไม่เป็นอะไรค่ะ”

“ไปหาหมอดีกว่าไหมคะ นะ” นิมาพูดด้วยความเป็นห่วง

“มียาแล้ว คนน่ารักให้มา สัญญาว่าจะทาจนกว่าจะหายนะคะ” ทิพย์ยิ้มๆ ให้กับคนที่แสดงออกถึงความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด

“เบอร์โทรนิ่มค่ะ ถ้าอยากให้พาไปหาหมอโทรได้ตลอดนะคะ” นิมายื่นนาม บัตรให้กับทิพย์ที่อมยิ้มมองสบตากับนิมา

“ขอบคุณค่ะ โทรได้เฉพาะให้พาไปหาหมอเท่านั้นหรือคะ ถ้าให้พาเที่ยวโทรได้ไหมนะ”

“ได้ค่ะ นิ่มเปิดโทรศัพท์ไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้วค่ะ ขับรถดีดีนะคะ”

“ใจดีสมกับเป็นสาวไทยเลยนะคะ” ทิพย์ยิ้มให้นิมาแล้วโบกมือลาก่อนที่จะขับรถออกไปพร้อมความรู้สึกดีดีที่มีอยู่ในหัวใจ

ทองทัดอยากขอบคุณนิมาน้องสาวของว่าที่เจ้าสาวของเขาด้วยการเชิญรับประทานอาหารในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เขาจึงได้บอกกล่าวและปรึกษากับนารินเรื่องอาหารที่นิมาชอบ ทองทัดอยากชอบคุณสำหรับขนมอร่อยๆ ที่ฝากมาให้อย่างสม่ำเสมอซึ่งบางวันก็มีอาหารเช้าฝากมาด้วย ทองทัดนึกขอบคุณความมีน้ำใจของน้องสาวของนารินอยู่บ่อยๆ

“นิ่มชอบอาหารประเภทไหน และชอบทานอะไรบ้างครับ” ทองทัดพูดคุยกับนารินหลังจากมื้ออาหารเช้าจบลงเรียบร้อยแล้ว

“ผัก ผลไม้ ปลา นาไม่รู้ว่านิ่มกลัวอ้วนหรือรักสุขภาพนะคะ” นารินนึกขำสีหน้าแปลกๆ ของทองทัดที่เหมือนไม่ได้คำตอบกับสิ่งที่ได้
ถามออกไป

“ตอบแบบนี้จะเลือกร้านถูกไหมล่ะครับ ชอบปลา ถ้าอย่างนั้นก็อาหารทะเลดีไหม เสาร์นี้เลยนะ ฝากนาชวนนิ่มด้วยนะครับ” ทองทัดยิ้มให้นาริน

“ทัดกลัวนิ่มไม่ยอมยกนาให้หรืออย่างไรคะ ขยันเอาใจกันเหลือเกินนิ่มอย่างโน้นนิ่มอย่างนี้ ว่าแต่ว่าถ้านาแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่บ้านทัด นิ่มก็ต้องอยู่ที่ร้านคนเดียว นารู้สึกเป็นห่วงน้องเหมือนกันนะคะ” นารินบอกกับทองทัดกับความกังวลใจของเธอที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอบตกลงแต่งงานกับทองทัดแล้ว

“ทำไมนา ไม่ชวนน้องไปอยู่ด้วยกันกับเราล่ะ ให้อยู่ที่ร้านคนเดียวก็น่าเป็นห่วงอยู่นะ ขนาดตอนนี้อยู่สองคนพี่น้องทัดเองก็ยังเป็นห่วงเลยครับ” ทองทัดออกความคิดเห็น

“นิ่มคงไม่ยอมแน่ค่ะ รายนั้นขี้เกรงใจจะตายไป แต่เดี๋ยวนาจะลองพูดดู เช้าก็ออกมาร้าน ค่ำๆ ก็กลับไปนอนที่บ้านทัดก็น่าจะดีนะคะ แต่อย่างไรนาก็คงต้องให้น้องเป็นคนตัดสินใจค่ะ”

“ก็ลองดู บอกน้องไปตรงๆ เลยว่าเราสองคนเป็นห่วง หรือแต่งงานแล้วก็รีบมีลูกเลยก็น่าจะดี เอาลูกเป็นข้ออ้างว่าให้นิ่มไปช่วยดูแลหลาน” ทองทัดหัวเราะเล็กๆ กับสายตาดุๆ ของว่าที่ภรรยาของเขา

“คุยกันแล้วไม่ใช่หรือคะ ว่ารออีกสักสองสามปี รอให้นามั่นใจในตัวทัดให้มากกว่านี้สักหน่อย ใช่ว่าแต่งงานแล้วคนเราจะไม่เปลี่ยนแปลงเสียเมื่อไหร่” นารินพูดดูจริงใจ

“ทัดจำได้กับข้อตกลงทุกอย่างที่เราคุยกันนะ แค่ล้อเล่นเอง เอาเป็นว่าเราสองคนก็หาทางช่วยกันหว่านล้อมนิ่มก็แล้วกัน” ทองทัดบอกกับนาริน

“ขอบคุณนะคะ ที่ทัดเป็นห่วงนิ่ม ญาตินาถ้านับจริงๆ จังๆ ก็คงมีเพียงแค่นิ่มคนเดียวเท่านั้น ญาติทางพ่อกับแม่ก็แค่ติดต่อกันบ้างแต่ก็ไม่ค่อยบ่อยนัก”

“นิ่มก็เหมือนน้องสาวทัดเหมือนกันนะครับ ก็ต้องเป็นห่วงเป็นใย เพราะนิ่มมีความกรุณาให้กับนายทองทัดคนนี้เป็นอย่างมากที่ยอมยกพี่สาวให้มาเป็นภรรยา เพราะถ้าน้องนิ่มไม่ชอบทัดขึ้นมา ทัดรู้นะว่านาก็เลือกที่จะไม่แต่งงานกับทัด”

“นิ่มเคยบอกหรือว่าชอบทัด” นารินยิ้มทะเล้น

“จริงด้วย ตกลงทัดคิดเอาเองใช่ไหม” สองหนุ่มสาวหัวเราะขึ้นพร้อมๆ กัน

“เข้าข้างตัวเองตลอดเลย” นารินอมยิ้มมองดูทองทัด ผู้ชายที่กำลังจะเข้ามาดูแลชีวิตของเธอในอีกไม่กี่วันข้างหน้า




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.