web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 55
Total: 55

ผู้เขียน หัวข้อ: จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 19  (อ่าน 1520 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 19
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:52:29 »
ตอนที่ 19

บรรยากาศการฉลองงานแต่งงานของทองทัดและนารินเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ซึ่งดังอยู่เป็นระยะไม่ขาดสาย น้องสาวของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั่งยิ้มมองดูพี่สาวและพี่ชายของพวกเธอ นิมากุมมือทองทิพย์และกระชับให้แน่นขึ้น ทองทิพย์จึงหันมายิ้มให้นิมาพร้อมสายตาหวานเยิ้ม ซึ่งนั่นก็ไม่ได้รอดสายตาอีกสามคู่ของสามสาวที่มองอยู่และแอบอมยิ้มเมื่อได้เห็น

“เหมือนฉลองสองคู่นะ คืนนี้” แป้งร่ำพูดแล้วยิ้มให้กับนิมาและทองทิพย์

“ทำไมสองคู่ล่ะ แป้ง” นิมาถามและทำหน้าตาสงสัย

“แม่นิ่มนวลยังไม่รู้ตัว” แป้งร่ำทำท่าพยักพเยิดไปทางพุทธชาดและรักษาซึ่งยิ้มทะเล้นให้แป้งร่ำ

“คุณแป้ง หมายถึง คุณนิ่มกับคุณทิพย์นั่นแหละค่ะ” รักษาอธิบายให้อีกสองสาวได้เข้าใจ

“ทิพย์กับนิ่มหรือคะ” ทองทิพย์พูดขึ้น

“มองแม่นิ่มนวลของพวกเราเสียตาเยิ้มขนาดนั้น สงสัยคุณทิพย์จะไม่รู้ตัวนะคะ” แป้งร่ำแกล้งเอาไหล่ไปสะกิดนิมาที่นั่งอยู่ติดกับเธอเป็นการหยอกเอิน ซึ่งทำให้นิมายิ้มกว้างอย่างเขินอาย แก้มทั้งสองข้างเริ่มแดงขึ้น เมื่อถูกเพื่อนทั้งสามจ้องมองมาที่เธอ

“เลิกจ้องได้แล้ว เพื่อนอายนะ” นิมาพูดขึ้น ทองทิพย์นำมืออีกข้างวางลงบนมือของนิมาและกระชับขึ้นอีกเล็กน้อยให้นิมารู้สึกอุ่นใจว่ามีเธออยู่ข้างๆ

“มีใครเคยบอกไหมว่าเวลายิ้มอายๆ นิ่มสวยมาเลยนะ” พุทธชาดพูดและมองสบตากับนิมาที่ยิ้มสวยๆ ให้ก่อนที่จะหันไปสบตากับทองทิพย์

“เพิ่งมีคนบอกเหมือนกัน คุณพุด” นิมาอมยิ้ม

“ใครกันหนอ ทำให้แม่นิ่มนวลยิ้มอายๆ จนได้รับคำชม” เสียงหัวเราะดังขึ้นในระหว่างกลุ่มของเพื่อน ทำเอานิมารู้สึกเขินอายมากขึ้น จนกระทั่งคู่บ่าวสาวมาหยุดยืนอยู่ที่โต๊ะของพวกเธอ

“หัวเราะอะไรกันคะ สาวๆ” นารินทักทายน้องสาว และกลุ่มเพื่อนๆ ของน้อง สาวของเธอ

“คุยกันเรื่อยเปื่อยค่ะ เหนื่อยไหมคะ พี่นา พี่ทัด” พุทธชาดรีบพูดตัดบทเรื่องของทองทิพย์และนิมา เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอคงยังไม่พร้อมที่จะบอกกับทั้งพี่สาวและพี่เขยเป็นแน่

“นิดหน่อย เพราะได้พวกน้องๆ ช่วยนั่นแหละ ขอบคุณมากนะคะ” นารินหันไปยิ้มกับทองทัด

“ขอบคุณมากนะครับ น้องๆ แกด้วยนะ ทิพย์” ทองทัดตบบ่าน้องสาวเบาๆ

“ทิพย์แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะคะ พี่ทัด” ทองทิพย์แหย่พี่ชายของเธอ

“พี่รู้ว่าแกเป็นกำลังใจให้อยู่ตลอดกับทุกๆ เรื่อง ถึงแม้ว่าแกจะไม่พูดไม่บอกอะไรก็ตาม แต่พี่รู้ว่าแกรักพี่มากพอๆ กับที่พี่รักแกนั่นแหละ ใช่หรือเปล่า” ทองทัดเอามือวางลงบนศีรษะน้องสาวของเบาๆ

“รู้ได้อย่างไรคะ ไม่เคยบอกเลยสักครั้ง” ทองทิพย์พูดพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งทำให้ทุกคนยิ้มไปด้วยกับความน่ารักของสองพี่น้อง

“รักก็ต้องบอกบ้างนะ พี่รู้แต่คนอื่นเขาอาจจะไม่รู้ก็ได้” ทองทัดพูดเป็นนัยๆ จนทำให้ทองทิพย์หันไปมองสบตากับนิมา

“ใช่แล้วค่ะ คุณทิพย์ แป้งเห็นด้วยกับที่พี่ทัดพูด เห็นด้วยไหมแม่นิ่มนวล” แป้งร่ำพูดและพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นเพื่อนยิ้มอายๆ อีกครั้ง

“เกี่ยวอะไรกับนิ่มล่ะ” นิมาพูดออกมาทำให้กลุ่มเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ยิ้มกว้างขึ้น

“พี่มีข่าวดี แต่ให้พี่ทัดเป็นคนบอกดีกว่า” นารินยิ้มให้สาวๆ ที่หันมามองเธอกับทองทัดเป็นตาเดียว

“อีกสองอาทิตย์ พี่จะเลี้ยงขอบคุณพวกน้องๆ ที่หัวหิน แล้วก็คงต้องรบกวนขอยืมบ้านพักด้วยนะครับ คุณทองทิพย์” ทองทัดยิ้มกับทุกคนและตามมาด้วยเสียงร้องเย้ของกลุ่มสาวๆ ที่นั่งอยู่

“แหมมันก็บ้านของพี่ทัดด้วยนั่นแหละ” ทองทิพย์พูดขึ้น

“ใช่เสียที่ไหน มันเป็นชื่อของแก ถ้าพี่จะใช้ต้องขออนุญาตแกก่อนก็ถูกแล้ว ตกลงตามนี้นะครับ ห้ามปฏิเสธด้วย” ทองทัดพูดจบก็ยิ้มให้กับทุกคนก่อนที่จะขอตัวเดินไปพูดคุยกับแขกคนอื่นๆ

สัญญาณสั่นเตือนโทรศัพท์ของทองทิพย์ แสดงอาการสั่นจนเจ้าของต้องหยิบขึ้นมาดู เพราะนึกไม่ออกว่าเป็นใครที่โทรหาเธอในช่วงเวลานี้ เพราะคนที่เธอรู้จักก็ดูเหมือนจะมาอยู่ในงานกันหมดแล้ว แต่หลังจากได้เห็นว่าเป็นชื่อของใคร ทองทิพย์ก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังเต้นแรงขึ้นด้วยความวิตกกังวล มือของเธอเย็นเฉียบโดยไม่รู้ตัว แต่นิมาที่กุมมือเธออยู่รู้สึกและสัมผัสได้

“มีอะไรหรือเปล่าคะ มือเย็นเฉียบเลย” นิมากระซิบถามทองทิพย์ที่ยังคงกำโทรศัพท์ไว้แน่น

“ไม่มีอะไรค่ะ ทิพย์ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” ทองทิพย์บอกกับนิมา ท่าทีแปลกๆ ของทองทิพย์อยู่ในสายตาของพุทธชาดที่เฝ้า
สังเกตอยู่ตลอดเวลา

“แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร” นิมาถามพร้อมกระชับมืออันเย็นเฉียบของทองทิพย์ให้แน่นขึ้นอีก

“ไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวทิพย์มานะ”

เสียงดนตรีบรรเลงเพลงกลบเสียงสนทนาของทองทิพย์กับนิมา ซึ่งพุทธชาดพยายามจับสังเกตในระหว่างที่ทองทิพย์ยกหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาดู สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที นิมาเพื่อนของเธอก็แสดงอาการห่วงใยทองทิพย์ออกมาให้เห็นเด่นชัด

“มีอะไร คุณพุด จ้องแม่นิ่มนวลกับคุณทิพย์เขม็งเลย” แป้งร่ำถาม

“ไม่แน่ใจว่ามีอะไรหรือเปล่า” พุทธชาดกระซิบบอกแป้งร่ำ ซึ่งทั้งสองกำลังมองตามทองทิพย์ที่ขอตัวออกไปทางสวนด้านข้างของตัวร้านพร้อมโทรศัพท์ที่ดูจะกระชับไว้แน่นจนเกินไป

เสียงดนตรีที่ยังคงบรรเลงอยู่ รวมถึงเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะได้ยินสลับกันไปมา แต่คนที่เหมือนไม่ได้ยินอะไรเลยในขณะนี้น่าจะเป็นนิมา หลังจากที่ทองทิพย์ออกไปคุยโทรศัพท์และหายไปสักพักใหญ่ๆ เริ่มทำให้นิมารู้สึกกังวลใจและห่วงใยกับอาการแปลกๆ ของทองทิพย์ พุทธชาดสังเกตเห็นอาการกระสับกระส่ายของเพื่อนจึงคิดว่าน่าจะพูดอะไรสักอย่าง

“นิ่มตามไปดูคุณทิพย์หน่อยสิ พุดเห็นออกไปนานมากแล้วนะ” พุทธชาดกำลังปลุกนิมาออกจากความคิดที่เป็นกังวลและเป็นห่วงอยู่

“ดีเหมือนกัน ขอบคุณนะ คุณพุด” นิมายิ้มจางๆ ให้พุทธชาด

“ขอให้ลางสังหรณ์พลาดทีเถอะ” พุทธชาดพูดกับตัวเองก่อนที่จะหันไปทางเวทีด้านหน้าร้านซึ่งแป้งร่ำได้ชวนรักษาออกไปเต้นยืดเส้นยืดสาย พุทธชาดอมยิ้มเมื่อมองเห็นเพื่อนรักและคนรักของเธอกำลังสนุกสนานกับการเต้นรำ

ทองทิพย์ยืนอยู่ในมุมมืดข้างๆ ต้นโมกต้นใหญ่ซึ่งออกดอกสีขาวเต็มต้นและส่งกลิ่นหอมมากตั้งแต่นิมาเปิดประตูออกมา เธอจึงสูดดมกลิ่นหอมๆ นั้นเข้าไปจนเต็มปอดพร้อมรอยยิ้ม เพราะดอกโมกสีขาวและกลิ่นหอม คือหนึ่งชนิดของดอกไม้ที่เธอชื่นชอบอยู่มาก ทองทิพย์ไม่ทันสังเกตว่ามีคนเดินออกมา เพราะเธอมัวแต่ยืนคิดอะไรอยู่ในใจจนเหมือนกับไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว

“ทำไมมายืนอยู่มืดๆ ตรงนี้คะ ไม่กลับเข้าไปข้างใน” นิมาถามขึ้น เมื่อมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของทองทิพย์ซึ่งกำลังพยายามเช็ดน้ำตาโดยไม่อยากให้นิมาเห็นว่าเธอร้องไห้

“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ค่ะ อีกอย่างแถวนี้ดอกไม้ก็หอมมากด้วย” ทองทิพย์ยิ้มจางๆ ให้นิมา

“ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ” นิมาพูดขึ้นพร้อมกับช่วยเช็ดคราบน้ำตาให้ กับทองทิพย์

“อะไรคะ”

“เราสองคนรู้สึกดีดีต่อกันจริงหรือเปล่า ทำไมมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ แล้วหลบมาร้องไห้คนเดียวแบบนี้คะ ทำไมถึงไม่บอกให้นิ่มรับรู้ทุกข์ที่อยู่ในใจทิพย์บ้าง หรือว่าทิพย์ไม่ได้รู้สึกดีดีเหมือนที่นิ่มรู้สึกกับทิพย์” นิมาใช้มือทั้งสองข้างประคองใบ หน้าของทองทิพย์ให้มองสบตากับเธอ

“ถ้าทิพย์บอกว่าไม่มี ก็คือ ไม่มีค่ะ นิ่ม” เสียงแข็งกร้าวของทองทิพย์พร้อมด้วยสายตาร้ายกาจเริ่มฉายแววให้นิมาได้เห็น

“ถ้าอย่างนั้น นิ่มไม่กวนทิพย์ดีกว่า แต่อย่าอยู่ตรงนี้นานนักนะคะ คนข้างในเป็นห่วง” นิมาบอกกับทองทิพย์และรีบเดินกลับเข้าไปในร้านทันทีพร้อมกับความ คิดที่ค้างคาอยู่ในใจ

“ทิพย์ควรจะทำอย่างไรล่ะ นิ่ม” ทองทิพย์รำพึงกับตัวเอง

นิมากลับมานั่งลงที่เดิม พุทธชาดเห็นหน้าตาไม่ค่อยดีของเพื่อน รวมถึงทองทิพย์ก็ไม่ได้ตามกลับเข้ามา พุทธชาดจึงขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ กุมมือเพื่อนรักของเธอไว้

“มีอะไรหน้าตาไม่ค่อยดีเลย นิ่ม” พุทธชาดถามและพยายามสังเกตอาการของเพื่อนรักของเธอ

“ไม่รู้เหมือนกัน คุณพุด” นิมาบอก

“ไม่รู้คืออะไร พุดไม่เข้าใจ เอาอย่างนี้ไปเจออะไรมาเล่ามาเดี๋ยวนี้” พุทธชาดจ้องเพื่อนของเธอเขม็ง นิมาเริ่มบอกเล่าเรื่องราวของเธอ
กับทองทิพย์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ทำให้พุทธชาดถอนใจเล็กน้อย

“ก็อย่างที่เล่า” นิมาพูดหลังจากเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“ยอมบอกไหมว่าใครโทรมา” พุทธชาดถาม

“ไม่ได้บอก แต่คนโทรมาคงสำคัญมากแน่ๆ ไปยืนร้องไห้คนเดียวแบบนั้น แถมยังพูดเหมือนดุนิ่มด้วยที่ไปถาม” นิมาบอกกับพุทธชาด

“บ้าหรือเปล่า เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จะเอาอย่างไรกันแน่ พุดจะไปถามให้รู้เรื่อง คนจะคบหากันไม่เปิดใจมันก็ไม่ถูกนะ นิ่ม” พุทธชาดพูดเสียงเข้มทำท่าจะลุกออกไปหาทองทิพย์อย่างที่พูด

“ไม่ต้องก็ได้ คุณพุด เอาไว้นิ่มจะลองคุยดูอีกที เดี๋ยวสักพักอาจจะยอมบอกอะไรบ้างก็ได้” นิมาบอกกับพุทธชาดที่หันมาสบตากับเพื่อน

“แน่ใจนะว่าจัดการได้” พุทธชาดถาม

“แน่ใจไม่ต้องห่วง” นิมายิ้มให้กับพุทธชาด สายตาอันเด็ดเดี่ยวที่จ้องมองมาทำให้พุทธชาดรู้สึกหายห่วงไปได้บ้าง

“พุด แป้ง คุณรัก นิ่มโทรหาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะ ดูแลตัวเองดีดี โดย เฉพาะหัวใจ คนเราชอบคิดเสมอว่าตัวเองแข็งแรงพอ แต่ถึงเวลาจริงๆ แล้ว มันจะอ่อนแอเสียจนตัวเราเองยังตั้งรับไม่ทันเลยนะ นิ่ม”

“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ คุณพุด” นิมายิ้มให้พุทธชาดด้วยความขอบคุณ

รถยนต์จอดสนิทอยู่ที่บริเวณหน้าตึกใหญ่ซึ่งเป็นเรือนหอของทองทัดและนาริน พิธีการส่งตัวคู่บ่าวสาวก็ดำเนินไปตามประเพณี นิมากับทองทิพย์จึงมีหน้าที่ต้องดูแลและส่งญาติผู้ใหญ่กลับ และขณะนี้ความเงียบก็กลับเข้ามาเยือนซึ่งทุกอย่างกลับเป็นเหมือนปกติเหมือนเช่นทุกคืน นิมายังไม่ได้พูดคุยหรือไถ่ถามอะไร เพราะสิ่งที่ทองทิพย์บอกกับเธอว่าไม่มีอะไรนั่นทำให้นิมาเลิกสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น นิมากำลังจะเดินกลับไปที่ตึกเล็กที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นที่พักสำหรับเธอ โดยมีทองทิพย์เดินตามไปห่างๆ

“เดี๋ยว” เสียงของทองทิพย์รวมถึงมือที่กำลังจับ และกระชับเข้ากับของข้อ มือของนิมาทำให้คนที่เดินอยู่หยุดชะงักในทันที

“มีอะไรคะ ทิพย์กำลังทำให้นิ่มเจ็บ” นิมามองไปที่ข้อมือของตัวเองและคิดว่าคงจะได้รับการปล่อย แต่กลับตรงกันข้าม เพราะข้อมือของเธอกำลังถูกบีบให้เจ็บมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้เอะอะโวยวายอะไรกลับหันมามองจ้องกับสายตาที่จ้องเขม็งมาที่เธอผ่านความมืดมิดของยามค่ำคืน

“เจ็บแค่นี้เองคงไม่เท่าไหร่หรอก นิ่ม” เสียงเรียบๆ ของทองทิพย์ดูน่ากลัว นิมาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทองทิพย์แสดงออกเหมือนอยากจะทำร้ายเธอ สายตาคมๆ ที่จ้องมองมาบอกได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ ซึ่งนิมาจะต้องหาคำตอบให้ได้

“ที่ข้อมือมันเล็กน้อย เจ็บเดี๋ยวเดียวก็คงหาย แต่ถ้ามันเกิดที่ใจมันคงยากนะคะ ปล่อยได้แล้ว” นิมาพูดเสียงแข็งไม่ยอมลดละสายตาที่จ้องมองกัน

“เหรอ” ทองทิพย์เข้าสวมกอดนิมาเอาไว้แนบแน่น พร้อมกับประทับริมฝีปากของเธอไปที่ริมฝีปากเรียวบางของนิมาที่ปิดสนิท นิมายืนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบรับหรือขัดขืนแต่อย่างใด ริมฝีปากของเธอยังคงปิดสนิทไม่ว่าคนที่จูบเธอจะพยายามอย่างไรก็ไม่เป็นผล มือทั้งสองยังคงแนบชิดอยู่กับลำตัว ความนิ่งของนิมานั้นทำให้ทองทิพย์ยอมถอยออกมาและปล่อยนิมาแต่โดยดี

“ถ้าจะร้ายก็หาเหตุผลดีดี ตอบคำถามของหัวใจตัวเองด้วยนะคะ ว่าอยาก จะร้ายกับนิ่มแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า แล้วทิพย์ก็ชัดเจนกับสิ่งที่ทิพย์ต้องการหรืออยาก จะทำ ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้อยู่ จนกระทั่งเกิดแผลขึ้นในหัวใจนิ่มละก็ นิ่มก็จะไม่ยืนนิ่งๆ อยู่แบบนี้แน่ๆ อ้อถ้าจะร้ายก็ไม่ต้องมาถูกเนื้อต้องตัวนิ่มอีก ช่วยอยู่ห่างๆ ถอยห่างออกไปไกลๆ ก็จะดีมากนะคะ ถ้าไม่มีอะไรก็กลับตึกตัวเองไปได้แล้ว นิ่มจะได้ไปนอนเสียที” นิมาพูดในสิ่งที่เธอคิด ที่เธอรู้สึกให้คนที่ยืนจ้องมองเธอตาไม่กระพริบได้รับรู้

“เหมือนถูกท้ารบเลยนะคะ ก็ดีอยากรู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วใครจะชนะ” ทองทิพย์ยิ้มกวนๆ มองสบตากับนิมาก่อนที่จะเดินเอาไหล่กระแทกไปที่ไหล่ของคนที่ยืนอยู่ เพื่อที่จะเดินกลับไปที่ตึกของเธอ

“เกิดบ้าอะไรขึ้น” นิมารำพึงกับตัวเองและมองตามทองทิพย์ที่กำลังเดินไปที่ตึกเล็กอีกหลัง




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.