ตอนที่ 31
นิมาเดินเรื่อยเปื่อยมาบริเวณด้านข้างของโรงแรมซึ่งถูกจัดเป็นสวนขนาดย่อมระหว่างรอเวลานัดหมายของการไปรับประทานอาหารมื้อค่ำ เสียงพูดคุยของคนสองคนได้ยินมาแว่วๆ นิมาจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใคร และคาดเดาได้ว่าเสียงของผู้หญิงอีกคนนั้นเป็นใคร
“มาให้กอดก่อน จะให้แอบกอดแบบนี้หรือจะให้กอดในที่สาธารณะ” เสียงของเจนจิราดังชัดขึ้นเมื่อนิมาเดินเข้าไปใกล้ๆ
“ปล่อยทิพย์เถอะค่ะ เดี๋ยวใครก็มาเห็นเข้า” พูดจบทองทิพย์ก็เห็นนิมาซึ่งยิ้มจางๆ ให้อยู่ไม่ไกลนัก
“ไม่ทันแล้ว คุณนิ่มเห็นเข้าให้แล้ว” เจนจิรารั้งตัวทองทิพย์มากอดไว้ โดยไม่ ได้คิดว่าทองทิพย์จะหันมาจูบเธออย่างดูดดื่มจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น
“ดีกว่ากอดหรือเปล่าล่ะคะ” ทองทิพย์พูดยิ้มๆ ชำเลืองมองไปทางนิมาที่ก็ไม่ได้ละสายตาจากภาพที่เห็น
“จูบเก่งขึ้นเยอะนะคะ” เจนจิรายิ้มและจูบเล็กๆ ไปที่ปากเรียวบางสีแดงของทองทิพย์ที่กำลังจูบเธออย่างร้อนแรงอีกครั้ง
“คงเพราะความคิดถึง” ทองทิพย์มองสบตาเจนจิราโดยที่ไม่ได้หันไปมองทางนิมาอีกเลย
“ไม่กลัวคุณนิ่มเอาไปฟ้องพี่ทัดหรือคะ” เจนจิราแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเป็นคนตรงและคิดว่าเรื่องที่ชอบผู้หญิงด้วยกัน ถ้าพี่ชายเกิดถามขึ้นทองทิพย์ก็คงจะบอกไปตามตรงแน่
“ฟ้องก็ดีสิ พี่ทัดจะได้ไม่ต้องมาถามอะไร” ทองทิพย์พูดด้วยสีหน้าเหมือนไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรนัก
“ร้ายกาจไม่เคยเปลี่ยน แต่ก็น่ารักดีนะ เจนชอบ” เจนจิราเข้าไปคลอเคลียกับทองทิพย์มากขึ้น เพราะเห็นว่านิมาเดินไปทางอื่นแล้ว
“แล้วแฟนเจนล่ะ หายไปไหน” ทองทิพย์ถาม
“เลิกไปแล้ว เจนคิดถึงทิพย์มากรู้ไหม ขอโทษที่เคยทำให้เสียใจ” เจนจิราพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว”
“พูดเหมือนเริ่มต้นใหม่ได้อย่างนั้นหรือเปล่าคะ” เจนจิรายิ้มกว้างขึ้นและตั้งตารอคำตอบจากทองทิพย์ แต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของทองทิพย์นอกจากรอยยิ้มแปลกๆ
“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวคนอื่นรอ” ทองทิพย์รีบพูดตัดบทหลังจากที่หันไปทางที่นิมายืนอยู่เมื่อสักครู่ แต่ก็ไม่พบแล้ว
“ไม่เป็นไร เจนจะพยายามต่อไป ถ้ายังรู้สึกดีดีกันอยู่ก็ไม่น่ายาก” เจนจิราอมยิ้มมองสบตากับทองทิพย์ที่ก็ยิ้มให้เธออยู่เช่นกัน
บรรยากาศของการรับประทานอาหารเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยร่วมด้วยเสียงหัวเราะ หากแต่ว่ายกเว้นสองสาวที่นั่งเงียบๆ และมองสบตากันในบางครั้ง ซึ่งไม่ได้รอดความใส่ใจของกลุ่มเพื่อนของนิมาไปได้ แป้งร่ำรู้สึกหมั่นไส้ที่เห็นเจนจิราดูเอาอกเอาใจทองทิพย์มากมายเสียจนทำให้เพื่อนรักของเธอดูเศร้าไป
“น้องนิ่มไม่เห็นค่อยทานอะไรเลยครับ” วาทิตที่นั่งอยู่ข้างๆ กำลังตักอาหารใส่จานให้นิมาซึ่งบอกขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่ค่อยหิวค่ะ ก็เมื่อตอนเย็นเราไปแวะทานโน่นนี่กันมาตั้งหลายอย่างก็เลยยังรู้สึกอิ่มอยู่เลยค่ะ พี่วา” นิมายิ้มให้วาทิต
“นั่นสินะ แต่อาหารอร่อยนะครับ ทานสักหน่อยดีกว่า ทานอาหารทะเลไม่อ้วนแน่” วาทิตตักอาหารเพิ่มให้นิมา
“ขอบคุณค่ะ พี่วานี่น่ารักนะคะ แปลกใจที่บอกว่ายังไม่มีแฟน” นิมาพูดแหย่วาทิต แป้งร่ำกับพุทธชาดได้ยินก็ยิ้มๆ ชำเลืองมองไปทางทองทิพย์ที่ทำทีเป็นไม่ได้ใส่ใจกับการพูดคุยของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับเธอ
“โสดกับโสดได้พบกัน ไม่แน่เหมือนกันนะ ว่าไหมคุณพุด” แป้งร่ำพูดเสียงดังเสียจนได้ยินกันทั่ว ทองทัดอมยิ้มมองสบตากับนารินที่ยิ้มๆ กับท่าทางยิ้มกริ่มของสามี
“ถ้าพี่วาจะจีบเพื่อนพุดจริงๆ ล่ะก็ บอกนะคะ จะเป็นกองหนุนให้เลยค่ะ” พุทธชาดหันไปพยักพเยิดกับแป้งร่ำ เสียงโห่ร้องดังตามมาทำเอาทั้งวาทิตและนิมายิ้มอายๆ กับเรื่องที่กำลังถูกพูดถึง
“อย่าแซวเลยครับ สงสารน้องนิ่ม” วาทิตพูดออกตัวแทนนิมา
“แมนมาก นายวาทิต” ทองทัดพูดขึ้นตามมาด้วยเสียงหัวเราะ
“ทิพย์อิ่มแล้วค่ะ ขอตัวออกไปเดินเล่นก่อนนะคะ” ทองทิพย์พูดโพล่งขึ้นแต่วงสนทนาก็ดูเหมือนไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะประเด็นเรื่องระหว่างวาทิตกับนิมาดูน่าสนใจกว่า เจนจิรามองดูทองทิพย์แล้วจึงเดินตามออกไปด้วย
“คุณรักว่าออกอาการไหม” พุทธชาดกระซิบถามรักษา
“คุณพุดคิดว่าอย่างไรล่ะคะ” รักษาถามกลับ
“เคยคิดว่าดูออกนะคะ แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจ” พุทธชาดพูดเสียงอ่อยๆ
“ถ้าไม่มีอาการจะลุกหนีออกไปหรือล่ะ” รักษาพูดยิ้มๆ
วาทิตชวนนิมาออกมาเดินเล่น หลังจากมื้อค่ำจบลง ทุกคนที่มีคู่ก็แยกย้ายกันไปเดินเล่นกินลมชมวิวกันตามอัธยาศัย วาทิตจึงอาสาที่จะอยู่เป็นเพื่อนนิมาและสัญญากับทองทัดและนารินว่า จะดูแลอย่างดี
“น้องนิ่มมีอะไรในใจหรือเปล่า ดูเงียบๆ ไปนะครับ” วาทิตถาม
“ไม่มีอะไรมากค่ะ นิ่มดูแย่เลยหรือคะ พี่วา” นิมายิ้มให้วาทิต
“เปล่าครับ พี่อาจจะเป็นห่วงมากไป เห็นเงียบๆ ไม่ค่อยคุย ทานก็น้อย”
“ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ นิ่มจะชวนพี่วาคุย จะได้หายห่วง แล้วจะคุยจนพี่วาบอกว่าหยุดได้แล้วพี่รำคาญ” นิมากับวาทิตหัวเราะขึ้นพร้อมกัน
“ได้แบบนั้นก็ดีสิ” วาทิตยิ้มเดินเคียงข้างไปกับนิมา ลมทะเลที่พัดมาช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับทั้งสองคน
พุทธชาดและรักษา รวมถึงแป้งร่ำที่กำลังเดินควงแขนสามีได้มองไปทางเพื่อนรักของพวกเธอและวาทิตที่กำลังเดินเล่นพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ทำให้ทั้งสี่คนยิ้มกับภาพที่ได้เห็นแม้จะมองอยู่ไกลๆ แต่ก็รู้สึกดีที่วาทิตสามารถทำให้นิมามีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้
“คงนึกเสียดาย ถึงได้มายืนแอบมองอยู่โน่น” แป้งร่ำพูดทำให้อีกสามคนมองตามสายตาที่แป้งร่ำกำลังมองไปทางทองทิพย์ที่ยืนมองนิมากับวาทิตอยู่
“คุณพุดรอสักครู่นะคะ รักจะไปคุยกับทิพย์เดี๋ยวกลับมา หรือจะไปรอที่ห้องก่อนก็ได้ค่ะ” รักษาบอกกับพุทธชาดซึ่งกำลังทำหน้างงๆ กับสิ่งที่ได้ยิน
“ไปคุย” พุทธชาดพูดขึ้น
“ไปช่วยกำราบสาวร้ายให้ อย่างไรเสียรักก็อยู่ข้างแม่นิ่มนวลของพวกเราอยู่แล้ว ดูสิหน้าบอกบุญไม่รับแอบมองนิ่มเดินอยู่กับคนอื่น ไปเติมเชื้อไฟสักหน่อยจะเป็นไรไป สนุกดีออกนะ” รักษาอมยิ้มกับหน้าตาเหรอหราของทั้งพุทธชาดและแป้งร่ำที่ไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้ยินรักษาพูดอย่างนี้
“คุณพุดเอ๋ย รู้บ้างไหมว่าคุณแฟนตัวเองร้ายมากขนาดไหน กล้าวิ่งไปเติมเชื้อไฟสาวร้ายให้ คิดแล้วเสียวแทน” แป้งร่ำหัวเราะเล็กๆ
“แสบๆ แบบนี้สิดีนัก น่ารักจะตาย เพราะนั่นก็ทำให้รู้ว่าคุณรักของพุดรักแม่นิ่มนวลไม่น้อยไปกว่าเราสองคนเลยนะ” พุทธชาดอมยิ้มมองดูรักษาซึ่งกำลังเดินไปหาทองทิพย์
“ฉันว่าเราไปรอข้างในดีกว่า เดี๋ยวแม่สาวร้ายหันมาเห็นเข้าจะเสียแผน”
“ถึงมือคุณรักคงได้เรื่องแน่” พุทธชาดอมยิ้มมองไปทางรักษากับทองทิพย์ที่กำลังพูดคุยกันอยู่
รักษาเดินมาหยุดยืนข้างๆ ทองทิพย์ที่ดูจะตกใจเล็กน้อยเมื่อรักษามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ มองไปทางที่นิมากับวาทิตกำลังเดินเล่นกันอยู่
“ดูอะไรอยู่คะ เห็นมองอยู่นานแล้ว” รักษาแสร้งถามทองทิพย์
“ดูเส้นขอบฟ้าค่ะ” ทองทิพย์พูดโดยที่ไม่ได้หันมามองทางรักษาเลย
“หรือคะ นึกว่ามองนิ่มเหมือนที่รักมองเสียอีก รักดีใจที่เห็นแม่นิ่มนวลของพวกเราหัวเราะและยิ้มได้” รักษาพูดยิ้มๆ ชำเลืองมองไปทางทองทิพย์ที่ยังคงจ้องมองไปที่นิมากับวาทิตอยู่เหมือนเดิม
“จะไปมองทำไมกันล่ะคะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทิพย์เสียหน่อย ทิพย์ไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอกค่ะ” ทองทิพย์หันมายิ้มจางๆ ให้รักษาที่กำลังยืนยิ้มให้อยู่
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า รักก็เข้าใจผิดมาตลอด”
“เข้าใจผิดเรื่องอะไรกันคะ คุณรัก” ทองทิพย์ถาม
“ช่างเถอะค่ะ ถ้าอย่างนั้นจะได้เชียร์ถูกคน ก่อนหน้านี้แอบเข้าใจผิดก็เลยเชียร์ผิดคนไปด้วย” รักษาอมยิ้มกับสิ่งที่ตัวเองพูด
“คุณรักมีอะไรพูดกับทิพย์ตรงๆ เลยก็ได้นะคะ เพราะทิพย์คิดว่าคุณรักเป็นเพื่อนทิพย์คนหนึ่งเหมือนกัน” ทองทิพย์พอจะเดาออกว่ารักษาจะพูดเรื่องอะไร
“ที่ว่าเชียร์ผิดคนน่ะ รักเคยคิดว่าทิพย์น่ะชอบนิ่มก็เลยแอบเชียร์อยู่เงียบๆ เวลานิ่มไปปรึกษาเรื่องทิพย์ รักยังแอบเข้าข้างทิพย์ตลอด แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าตัวเองเข้าใจผิด เพราะดูท่าทางทิพย์ก็ไม่ได้สนใจอะไรแม่นิ่มนวลนัก” รักษาเริ่มแผนของตัวเอง
“ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งชาติตระกูล หน้าที่การงาน การศึกษา ผู้หญิงที่ไหนไม่เลือกก็บ้าแล้วค่ะ” ทองทิพย์พูดขึ้น
“นิ่มก็มีพร้อมทุกอย่าง ไอ้ที่ทิพย์พูดมามันคงไม่ได้สำคัญอะไร คนเราบางทีแค่รักกัน ดูแลเอาใจใส่กันและกัน มันมีค่ามากกว่าแก้ว
แหวนเงินทองหรือหน้าตาอีกนะคะ คนเรามันไม่เหมือนกัน รักอาจจะไม่ได้รู้จักนิ่มมานานนัก แต่จากที่สัมผัสมาผู้หญิงคนที่เราสองคนกำลังมองอยู่เป็นคนดีที่น่าคบหา เวลารักกับคุณพุดทะเลาะกันทีไรก็ได้นิ่มนี่แหละช่วยทำให้เข้าใจกัน ไม่ว่าจะดึกดื่นค่อนคืนขนาดไหนขอให้รู้ว่าเพื่อนมีปัญหานิ่มก็ไปหาพวกเราเสมอ ทิพย์ลองคิดสิขนาดเพื่อนยังดีด้วยขนาดนี้ เป็นแฟนหรือคนรักจะขนาดไหน ถ้าชอบแล้วปล่อยให้หลุดมือไปก็บ้าแล้วนะรักว่า”
“ที่คุณรักพูดมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทิพย์ไม่ใช่หรือคะ”
“นั่นสิ แต่รักว่าทิพย์ต้องถามใจตัวเองสักหน่อยแล้วนะว่า ที่ยืนจ้องมองอยู่แบบนี้ แอบหวงบ้างหรือเปล่า พี่วาน่ารักและมีพร้อมทุกอย่างจะฉกแม่นิ่มนวลไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าไม่เกี่ยวจริงจะมายืนหน้าเข้มจ้องเพื่อนของรักอยู่ทำไมกันคะ”
“ถ้าอย่างนั้นทิพย์ขอตัวเข้าไปข้างในดีกว่าค่ะ คุณรักจะได้ไม่เข้าใจผิดคิดว่าทิพย์มายืนจ้องมองเพื่อนของคุณรักอยู่” ทองทิพย์ถอนใจ
เล็กๆ และเดินจากไป รักษายังคงยืนอมยิ้มจ้องมองไปที่วาทิตกับนิมา
นิมาและวาทิตกลับเข้ามารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ซึ่งกำลังนั่งดื่มกันอยู่ แก้วไวน์ถูกยื่นให้แต่นิมาส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วหยิบแก้วส่งต่อให้วาทิตแทนซึ่งรับไปพร้อมกับรอยยิ้มและคำขอบคุณ
“ขอบคุณครับ น้องนิ่มไม่ดื่มสักแก้วล่ะจะได้หลับสบาย” วาทิตบอก
“ไม่ดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้อยากตื่นเช้าๆ มาสูดอากาศบริสุทธิ์ ไม่อยากให้อาการเมาค้างตามไปถึงตอนเช้าน่ะคะ เชิญพี่วาตามสบายค่ะ” นิมายิ้มให้วาทิต
“แม่คนนี้ต้องรอให้อกหักค่ะพี่วา ดื่มเป็นน้ำเปล่าเลย” แป้งร่ำอมยิ้ม
“ขายเพื่อนเสียแล้วแป้ง เรื่องนานมาแล้วอย่ารื้อฟื้น” นิมาพูดน้ำเสียงดุดุ
“พี่วาเก่งนะคะ ทำให้แม่นิ่มนวลของพวกเรากลับมายิ้มได้” พุทธชาดพูด
“ผมก็อยากให้น้องๆ มีความสุขกับการมาพักผ่อนทุกคนนั่นแหละครับ”
“น่ารักจริงๆ” แป้งร่ำพูดแล้วอมยิ้ม
“นิ่มขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ พบกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ เผื่อว่าจะมีใครตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ถ้าให้เดาสงสัยคงจะต้องตื่นมาดูคนเดียว
แน่ๆ” นิมาพูดจบก็บอกลาเพื่อนๆ ที่ท่าทางคงจะดื่มกันอีกนาน
เสียงสัญญาณเตือนของลิฟต์ดังขึ้น นิมามัวแต่เช็คข้อความจากโทรศัพท์พอลิฟต์เปิดจึงก้าวออกมาโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนยืนอยู่ แล้วเธอก็ถูกคว้าตัวออก ไปทางด้านบันไดหนีไฟ กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยทำให้นิมาไม่ร้องเอะอะโวยวายเพราะพอจะรู้ว่าคนที่กำลังพาเธอเดินออกมานั้นเป็นใคร
“ปล่อยได้แล้วค่ะ มีอะไร” นิมาพูดขึ้นหลังจากประตูทางหนีไฟปิดลงไปและทองทิพย์ก็หยุดเดินแล้ว
“เปล่า” ทองทิพย์พูดเพียงแค่นั้น นิมาจึงทำท่าจะเดินจากไป
“บ้าหรือเปล่า” นิมารำพึงเบาๆ
“เดี๋ยวสิ” ทองทิพย์ยังคงรั้งตัวไว้ด้วยการโอบกอดจากทางด้านหลัง
“มีอะไรก็ว่ามาเดี๋ยวแฟนทิพย์มาเห็นเข้า จะมาโวยวายใส่นิ่ม” นิมาพูดเสียงเข้มและหยุดยืนอยู่นิ่งๆ ให้ทองทิพย์โอบกอดไว้
“ขอกอดอยู่อย่างนี้ แค่ครู่เดียว” ทองทิพย์กระซิบบอกนิมา
“ปล่อยเถอะทิพย์ มันไม่มีประโยชน์อะไร เราควรจะหยุดกันได้แล้ว ในเมื่อทิพย์ไม่ได้อยากเดินไปข้างหน้ากับนิ่ม เราก็น่าจะหยุดกันไว้แค่นี้ นิ่มไม่อยากโกรธหรือเกลียดทิพย์ เพราะถึงอย่างไรเราก็เหมือนเป็นญาติกันไปแล้ว นิ่มอยากให้ทั้งพี่ทัดและพี่นาสบายใจ” นิมาบอกสิ่งที่เธอคิด แต่สัมผัสอันอบอุ่นจากการโอบกอดก็อาจจะทำให้เธออ่อนแอลงได้
“หยุดง่ายดีจริง หรือว่ามีทางเลือกที่ดีกว่า” ทองทิพย์ถาม
“ทิพย์ก็มี นิ่มก็มี เรามีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ไม่ใช่หรือคะ” นิมาพูด
“นิ่มเลือกแล้วอย่างนั้นหรือเปล่า”
“เลือกหรือไม่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทิพย์นี่คะ พูดอะไรว่าอะไรนิ่มไว้บ้าง นิ่มจำได้นะ นี่คือวิธีหนึ่งหรือเปล่าที่จะมาทำให้นิ่มเจ็บปวด นิ่มจะไม่ยอมเป็นของเล่นของทิพย์หรอกนะ” นิมาพูดเสียงเข้ม
“เหรอ” ทองทิพย์ดึงตัวนิมาให้หันกลับมาและจูบเข้าที่ริมฝีปากเรียวบางซึ่งมีสีของลิปสติกอ่อนๆ ชวนน่าสัมผัส นิมาพยายามผลักทองทิพย์ออกจากตัวเธอ
“ปล่อยได้แล้ว ปล่อยนิ่มเดี๋ยวนี้นะ” เสียงที่ได้ยินไม่ได้หยุดทองทิพย์แต่กลับทำให้ยิ่งเบียดตัวเข้าแนบชิดนิมามากขึ้น
“โอ๊ย” เสียงของทองทิพย์ดังขึ้นและค่อยๆ ขยับตัวออกห่างจากนิมาเล็กน้อย ริมฝีปากของทองทิพย์เริ่มมีเลือดไหลออกมาให้เห็นเจ้าตัวเอามือแตะไปที่รอยแผลซึ่งถูกนิมากัดจนเลือดออก ท่าทางของนิมาในตอนนี้ก็ดูตกใจ แต่เพราะด้วยความโมโหจึงแสดงท่าทีไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ได้เห็น
“ไปทำแผลซะ แล้วอย่าทำแบบนี้กับนิ่มอีก” นิมาพูดเสียงเข้ม
“รู้แล้วว่าเกลียด ขอบคุณที่ชัดเจน” ทองทิพย์พูดจบก็เดินจากไป นิมามองตามแล้วถอนหายใจโดยไม่รู้ว่าเพราะโล่งอกหรือเพราะกำลังทุกข์ใจกันแน่