รักลวง
ปฐมบทแห่งการจองเวร
ภายในห้องน้ำที่เปิดไฟเพียงสลัวๆ หญิงสาวคนหนึ่งในชุดนักศึกษายืนอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ ภาพที่สะท้อนจากกระจกเงา คือ ใบหน้าของเธอเองที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองและรอยน้ำตา
หญิงสาวค่อยๆหยิบขวดสีน้ำตาลเข้มออกมาจากกระเป๋าสะพายใบย่อมสีชมพูอ่อน เธอมองขวดยาในมืออย่างชั่งใจ แต่ก็ตัดสินใจเปิดฝาขวดออกก่อนนำมากจรดริมฝีปากและกลืนกินของเหลวสีดำที่บรรจุอยู่ภายในขวดนั้นเข้ามาในปาก รสชาติเผ็ดร้อน เฝื่อนลิ้น แผ่เข้ามาจนหญิงสาวสำลัก เธอใช้มือปาดน้ำสีดำออกจากริมฝีปากอย่างรวดเร็วก่อนตัดสินใจกรอกน้ำสีดำนั้นอีกครั้งจนหมดขวด
ความร้อนแผ่จากลำคอสู่กระเพาะอาหาร หญิงสาวลูบหน้าท้องของตัวเองที่นูนออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มที่มุมปากอย่างเลือดเย็น วันนี้สินะที่มารหัวขนจะต้องหายไปจากร่างกายเธอ
หญิงสาวจึงเดินไปเข้าห้องน้ำห้องสุดท้าย ยังไม่ทันที่จะปิดล็อคประตู ความเจ็บปวดบริเวณท้องน้อยก็เริ่มปรากฏให้เธอได้รู้สึกก่อนที่จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนพัดพาเรี่ยวแรงของหญิงสาวให้อ่อนลง จนต้องทรุดกายลงที่พื้นห้องน้ำ เพียงชั่วครู่ของเหลวสีแดงคล้ำได้ค่อยๆไหลออกมาจากช่องคลอดของหญิงสาว หล่อนดิ้นพล่านไปทั่วพื้นห้องน้ำห้องนั้น เมื่อความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ร่างเล็กๆที่ยังไม่สมบูรณ์ของทารกก็ไหลพรวดออกมาจากช่องคลอดของหญิงสาว เลือดไหลนองไปทั่วพื้นห้องน้ำ พร้อมๆกับจังหวะการเต้นของชีพจรหัวใจที่ค่อยๆเบาลง...เบาลงทุกวินาทีและขาดหายไปในที่สุด....
“พลอยๆ แกอยู่ในนี้หรือเปล่า พลอย” ปนัดดาส่งเสียงเรียกเพื่อนสาว หลังจากที่อีกฝ่ายขอตัวมาเข้าห้องน้ำร่วมครึ่งชั่วโมง
สุขาเล็กๆจำนวนสามห้องตั้งเรียงรายอยู่ถัดไปจากกระจกเงาสำหรับสำรวจตัวเอง หญิงสาวตัดสินใจเข้าไปในห้องน้ำนั้น แสงไฟติดๆดับๆ กะพริบถี่รัวมาจากหลอดไฟนีออนด้านบนเพดาน ทำให้ห้องน้ำที่ไร้ผู้คนในช่วงเวลาโพล้เพล้ดูน่ากลัวมากขึ้น
“พลอย ไม่ตลกแล้วนะ ฉันถามว่าแกอยู่ในนี้หรือเปล่า” ปนัดดาส่งเสียงเรียกอย่างหวาดหวั่น ก่อนที่จะเดินมาไปตามห้องน้ำที่ว่างเปล่าไร้คนใช้งาน หญิงสาวเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องน้ำด้านในสุดที่บัดนี้สายน้ำขันคลั่กสีแดงคล้ำได้ไหลทะลักเจิ่งนองออกมาบนพื้นกระเบื้องสีขาวจากห้องน้ำห้องนั้น รองเท้าผ้าใบสีขาวที่ปนัดดาสวมอยู่ถูกย้อมให้เป็นสีแดงเถือกไปชั่วพริบตาเดียว
หญิงสาวค่อยๆกระชากประตูห้องน้ำห้องสุดท้ายซึ่งเปิดเพียงแง้มๆให้เปิดอ้ามากขึ้น ก่อนจะตกใจสุดขีด กับภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า....
เมื่อในห้องน้ำห้องนั้นมีร่างไร้ลมหายใจของพลอยนิลนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้องน้ำ บริเวณใต้กระโปรงนักศึกษามีร่างโชกเลือดของทารกขนาดเล็กกว่าฝ่ามือกองอยู่ด้วย
“ยัยพลอย กรี๊ด !!!!” ปนัดดาส่งเสียงกรีดร้องออกมาก่อนที่สติจะดับวูบไป
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด....” กลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งแตกฮือทันทีที่ฟังเรื่องเล่าตำนานของตึกคณะในมหาวิทยาลัยจบ ในขณะที่รุ่นพี่ปีสอง คนที่เล่าเรื่องได้แต่หัวเราะเบาๆในท่าทีที่หวาดกลัวของบรรดารุ่นน้อง
“มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะพี่น้ำปั่น ?” จิระวดี หรือ ป๋องแป้ง สาวน้อยผมหยิกยาวประบ่าที่ในเวลานี้ถูกถักเป็นเปียกลางศีรษะถามขึ้นมาอย่างไม่ค่อยจะเชื่อนัก เธอคิดว่าเป็นเรื่องหลอกเด็กที่รุ่นพี่นำมาหลอกน้องๆมากกว่า
“จริงไม่จริงพี่ก็ไม่รู้นะคะน้องป๋องแป้ง แต่เห็นรุ่นพี่เขาเล่าต่อๆกันมา เขาว่ากันว่าหลังจากนั้นวิญญาณของผู้หญิงคนนั้นยังสิงอยู่ในห้องน้ำนั้น วันดีคืนดีใครที่เข้าห้องน้ำนั้นคนเดียวมักจะเจอออกบ่อยๆกลางวันแสกๆก็ยังเจอเลย และที่สำคัญนะคะ น้องๆเคยสังเกตไหมคะว่าทำไม ห้องน้ำหญิงบนชั้นสองมันมีแค่สองห้อง ทั้งๆที่ห้องน้ำชายชั้นเดียวกันหรือห้องน้ำชั้นอื่นๆในอาคารนี้มันมีสามห้องกันทั้งนั้น...”
“ทำไมเหรอคะพี่” มีนา เด็กสาวผมยาวสลวยที่นั่งข้างๆจิระวดีเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้
คนเล่ากวาดสายตามองรุ่นน้องและเพื่อนๆแต่ละคนก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“ก็เพราะห้องน้ำในตำนาน คือห้องเดียวกันกับห้องน้ำบนชั้นสองของตึกนี้ยังไงล่ะคะ” รุ่นพี่พูดประโยคสุดท้ายก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อน
ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องที่นำมาเล่าในวันนี้เป็นเพียงเรื่องเล่าหรือเรื่องจริงกันแน่ แต่ที่แน่นอนที่สุดห้องน้ำบนชั้นสองของตึกเรียนคณะมนุษยศาสตร์แห่งนี้มีเพียงสองห้องจริงๆ พื้นที่ที่ถัดจากห้องน้ำห้องสุดท้ายถูกโบกปูนกั้นไว้ และถ้าใครเคยเข้าห้องน้ำห้องที่สองจะพบว่าด้านซ้ายของห้องน้ำมีช่องว่างเหลืออยู่ ถ้ากล้าพอที่จะชะโงกดูตามช่องว่างนั้นก็พอจะทราบว่ามีห้องน้ำอีกห้องหนึ่งอยู่ถัดจากพื้นที่ทึ่ถูกโบกปูนทับไว้
ไม่แน่ว่าเรื่องเล่าที่เป็นตำนานของตึกเรียนหลังนี้ บางครั้งอาจจะเป็นมากกว่าเรื่องเล่าก็ได้...
.......................................................................