web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 125
Total: 125

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ ๖ : ภาพเงาที่ลวงตา  (อ่าน 1549 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทอถักอักษรา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 73
บทที่ ๖ : ภาพเงาที่ลวงตา
« เมื่อ: 06 มกราคม 2014 เวลา 22:49:36 »



ดาวบนพื้นน้ำ
บทที่ ๖ : ภาพเงาที่ลวงตา

   “ดาวดวงสวยเริงระบำอยู่บนฟ้า         แต่ยังทอดเงาลงมายังน้ำใส
คอยเล่นล้อทอแสงให้อุ่นไอ            จนสายน้ำหวั่นไหวไปกับดาว
สายลมพลิ้วพัดพ้อโยกกอไผ่            คนอ่อนไหวใจพังยังเหน็บหนาว      
ดั่งสายน้ำได้ข้างเคียงเพียงแสงสกาว         เหม่อมองดาวบนนภาขอบฟ้าไกล
มีเราแค่ในฝันยามราตรี               แต่ความจริงทุกนาทีไม่เคยใกล้
แค่ภาพเงาที่ลวงตาให้ตายใจ            เธอยังเป็นของเขาร่ำไป....ในความจริง”
   กนกพิชญ์นอนร้องไห้บนเตียงนอนสีเดียวกับท้องฟ้ายามรุ่งอรุณ  ถึงแม้ปิญารัตน์ให้ความใกล้ชิดและบอกว่ายังรักเธอ แต่ในความเป็นจริง เขาไม่ใช่คนรักของเธอแล้ว ธนัญญาต่างหากที่เป็นคนรักที่แท้จริงของพี่เจน คนรักในปัจจุบันซึ่งเธอไม่อาจแย่งกลีบคืนมา เพราะธนัญญาช่างแสนดีและให้ความเอ็นดูเสมอตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ที่นี่ทำให้เธอไม่อาจหาญแย่งเขาคืนมาได้
   หญิงสาวนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนอนสีสดใสก่อนที่สายตาจะทอดมองไปที่ปลายเตียง แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าทำให้เธอต้องตัวสั่นด้วยความตระหนก
ร่างอรชรของหญิงสาวคนหนึ่งนุ่งผ้าไหมสอดดิ้นทองฉลุเชิงปักลายไทยยาวกรอมเท้า ห่มสไบเฉียงสีครีมนวลปักดิ้นทอง ใบหน้าที่งดงามผิวขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องเปล่งประกาย สายตาของหญิงสาวจับไปที่เรือนผมดำเงาสยายแผ่ไปทั่วแผ่นหลังขาวเนียน ลำคอระหงสร้อยคอวิบวับด้วยอัญมณีทั้งเพชรและพลอยตัดกับสีทองของตัวสาย เรื่อยลงมาถึงหัวไหล่ขาวเนียน  ลงมาเอวคอดซึ่งมีสายสร้อยทับทิมเม็ดเล็กๆถูกรวบพาดไหล่ลงมาถึงสะโพกกลมกลึง ยืนอยู่ท่ามกลางหมอกควันจางๆ สีขาวปกคลุมรอบกาย
   “คุณเป็นใคร”
   “เราคือท่าน , ท่านก็คือเรา”
   “คุณหมายความว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจ เราไม่ได้มีใบหน้าเหมือนกัน”
   “เราชื่อภัควลัญชญ์ เป็นอดีตชาติของท่าน”
   “ภัควลัญชญ์...” กนกพิชญ์ทบทวนชื่อนั้นอีกครั้ง ชื่อที่ปิญารัตน์เคยบอกว่าเป็นตัวเธอเอง
   “ใช่”
   “ถ้าคุณเป็นอดีตชาติของฉัน ก็แสดงว่าคุณไม่ใช่มนุษย์”
   “เราเป็นมนุษย์ดุจเดียวกับท่าน เพียงแต่ที่นี่ไม่ใช่ภพภูมิของเรา”
   “คุณต้องการอะไรถึงได้มาหาฉัน”
   “เรามาที่นี่เพราะต้องการพาไปท่านไปยังภพภูมิเดียวกับเรา...”
   “จะไปได้ยังไง ไม่ใช่การ์ตูนโดราเอม่อนสักหน่อย ถึงจะได้มีไทม์แมชชีนเพื่อข้ามมิติกาลเวลาไปยังอดีตได้...”
   “อีกสามเพลาเราจะมาที่นี่อีกครา...เพื่อพาท่านไปยังภพภูมิแห่งเรา...”
   พูดจบร่างของอิสตรีที่ชื่อภัควลัญชญ์ก็จางหายไปต่อหน้า กนกพิชญ์พยายามตะโกนเรียกแต่ก็ไร้ผล
   “ภัควลัญชญ์ อย่าเพิ่งไป...”
   ร่างบางของกนกพิชญ์ร้องอุทานมาด้วยความตกใจ ก่อนที่จะลืมตาขึ้น ในขณะที่เหงื่อกาฬแตกพลั่กโทรมกายทีเดียว
   “นี่เราฝันไปเหรอ ทำไมเหมือนจริงขนาดนี้” กนกพิชญ์พึมพำพลางปาดเหงื่อที่ไหลโทรมใบหน้า โดยที่ยังรู้สึกตกใจไม่หาย เพราะในความฝัน หญิงสาวคนนั้นพูดเหมือนกับว่าจะพาเธอไปอยู่ด้วย
   “แพม เป็นอะไรหรือเปล่า เปิดประตูให้พี่หน่อย” เสียงเรียกของปิญารัตน์ดังขึ้นทำลายความเงียบ
   “พี่เจนมีอะไรเหรอคะ”
   “พี่ได้ยินเสียงเสียงแพมร้อง เป็นอะไรหรือเปล่า ฝันร้ายหรือคะ”
   “ค่ะแพมฝันร้าย พี่เจนไปนอนเถอะค่ะ อีกตั้งนานกว่าจะเช้า”
   “ถ้าอย่างนั้นพี่ไปนอนแล้วนะ มีอะไรเรียกพี่ได้ตลอดเวลาเลยนะคะแพม”
   “ขอบคุณนะคะ”
   เสียงของปิญารัตน์เงียบไปแล้ว กนกพิชญ์นอนนิ่งอยู่บนเตียง แววตาครุ่นคิด ‘เมื่อสักครู่เธอฝันอย่างนั้นหรือ แต่ทำไมภาพมันแจ่มชัดราวกับเกิดขึ้นจริง...’
         .....................................................................................

แสงแดดยามรุ่งอรุณสาดส่องผ่านม่านหน้าต่าง  เข้ามาภายในห้องพัก ปลุกให้กนกพิชญ์ตื่นขึ้นมาจากความหลับใหล หญิงสาวลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแล้วหุงข้าวทำกับข้าว  หญิงสาวคดข้าวและสำรับกับข้าวใส่โถลายเถา หลังจากนั้นจึงเดินไปยังหน้าโรงเรียนซึ่งอยู่ระหว่างหมู่บ้านกับวัดประจำหมู่บ้าน
   เช้าตรู่ อากาศสดชื่นเย็นสบาย พระสงฆ์ชราเพียงรูปเดียวจากวัดในหมู่บ้านออกบิณฑบาต จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าหญิงสาวทั้งสอง หญิงสาวใส่บาตร หญิงสาวกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เมื่อพระสงฆ์สวดให้พรเสร็จ ท่านก็ยังไม่เดินต่อไป ท่านมองหน้ากนกพิชญ์นิ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบว่า
   “หมั่นทำบุญตักบาตรมากๆนะโยม กรรมเก่ามันกำลังจะตามโยมมาทันแล้ว”
   “กรรมเก่าอะไรเหรอคะหลวงปู่”
   “กรรมของโยมที่มันติดตัวโยมมาจากอดีตชาติ  กรรมที่พัวพันผูกติดกับคนอื่นมากมาย ทั้งที่โยมตั้งใจจะผูกเองและกรรมที่คนอื่นไม่ยอมละ” เมื่อพระสงฆ์รูปนั้นกล่าวจบ ท่านก็ออกเดินจากไปช้าๆเพื่อบิณฑบาตต่อไป
กนกพิชญ์พนมมือไหว้ผู้ทรงศีล หญิงสาวนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่แล้วรินหยาดน้ำจากถ้วยเล็กรดไปยังต้นไม้นั้น
   “มาทำงานแต่เช้าเลยน้องแพม หายดีแล้วเหรอคะวันนี้ถึงมาทำงานได้” เสียงจากคุณครูปรารถนาดังขึ้นจากโต๊ะทำงานเมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องพักครู
   “สวัสดีค่ะพี่ปิ่น แพมค่อยยังชั่วแล้วค่ะ...” กนกพิชญ์กระพุ่มมือไหว้ครูปรารถนา ก่อนจะเดินไปลงชื่อที่โต๊ะเล็กหน้าห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียน
   “เย็นนี้น้องแพมกลับบ้านหรือเปล่าจ๊ะ” เสียงครูปรารถนาถามขึ้นเมื่อหญิงมานั่งเตรียมการสอนที่โต๊ะทำงาน
   “แพมจะกลับพรุ่งนี้ตอนเช้าค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะพี่ปิ่น”
   “ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ กะว่าจะชวนน้องแพมไปเดินถนนคนเดินสักหน่อย เคยเดินหรือยังจ๊ะ”
   “ยังเลยค่ะ พอดีจังหวัดที่แพมอยู่ไม่มีถนนคนเดินค่ะ”
   “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ไปเดินด้วยกันหน่อยนะจ๊ะ”
   “ด้วยความยินดีค่ะพี่ปิ่น” หลังจากนั้นกนกพิชญ์ก็เตรียมการสอนต่อ
   ตอนเย็นหลังเลิกงาน กนกพิชญ์ก็ซ้อนรถจักรยานยนต์รุ่นเก่าสีเขียวมรกตของคุณครูปรารถนาเพื่อไปยังตลาดถนนคนเดินซึ่งจัดขึ้นที่ตัวอำเภอ ซึ่งเป็นถนนที่ใช้สัญจรทั่วไป โดยในช่วงเย็นของวันอังคารและวันศุกร์ ถนนเส้นนี้จะแปลงสภาพให้เป็นถนนคนเดิน  มีสินค้าหลายหลายให้เลือกซื้อ
    จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอย่างแรกเลยคงจะเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งในย่านตลาดเก่า ซึ่งเป็นชุมชนชาวจีน เรียงรายไปด้วยตึกแถวรูปทรงคลาสสิกแบบสมัยก่อน ฉาบทาด้วยสีฟ้านวลตาให้ได้ชื่นชม ยิ่งได้ลมเย็นๆ พัดผ่านมาจากสวนสาธารณะ เข้ามาปะทะใบหน้าและลำตัวเบาๆ ก็ยิ่งได้บรรยากาศ ขณะเดียวกันสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คงเป็นบรรดาร้านรวงต่างๆ ที่วางตัวตลอดแนวถนนเพื่อจำหน่ายสินค้า ซึ่งโดยมากก็เป็นสินค้าจำพวกของเล่น ของใช้ รวมไปถึงของที่ระลึกต่างๆ ทั้งพวงกุญแจ เสื้อยืดสกรีนลาย กระเป๋า และอื่นๆ เรื่อยไปจนถึงของกินมีให้เลือกอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
   ในขณะที่กนกพิชญ์กับปรารถนากำลังเลือกซื้อของกินอยู่นั้น สายตาของกนกพิชญ์ก็ไปสะดุดอยู่ที่ร้านๆหนึ่ง  เป็นร้านเล็กๆที่กรุกระจก เปิดไฟสว่างไสว ป้ายหน้าร้านสลักเป็นตัวอักษรภาษาไทยอยู่เหนือประตูกระจกอ่านได้ใจความว่า ‘อนันตะปุระ’
ซึ่งร้านดังกล่าวเป็นร้านขายของเก่า ของสะสม ของโบราณทุกชนิดแบบครบวงจร ทั้งเฟอร์นิเจอร์เก่า ชุดรับแขกมุก ตู้มุก โต๊ะมุก ชั้นวางของมุก หนังสือเก่า ของโชว์โบราณทั้งชุดกาน้ำชาจีน เครื่องไม้ลายคราม ชุดเบญจรงค์ ตะเกียง เครื่องเงิน ถมทอง พระเครื่อง เหล้าเก่า เครื่องประดับโบราณและอื่นๆอีกจิปาฐะ
   “พี่ปิ่นขา แพมขอแวะร้านนี้หน่อยนะคะ” พูดจบกนกพิชญ์ก็เดินออกจากร้านขายข้าวมันไก่เจ้าอร่อยไปยังร้านดังกล่าวทันที
   “สวัสดีค่ะ  ‘อนันตะปุระ’ อาณาจักรแห่งของโบราณ ยินดีต้อนรับค่ะ” หญิงสาวในชุดไทย ห่มสไบสีฟ้าอ่อน นุ่งผ้าโจงกระเบนสีน้ำเงินเข้มเดินมาต้อนรับกนกพิชญ์
   “แหวนวงนี้ราคาเท่าไหร่คะ” กนกพิชญ์ถามขึ้นเมื่อเธอพบแหวนทองคำโบราณวงเล็กๆสลักเสลาเป็นลายไทยโบราณทั่วเรือนแหวน ตรงหัวแหวนเป็นไพลินเม็ดเล็กสีน้ำเงินเข้มเจียระไนอย่างงดงามในกำปั่นเล็กๆที่สลักเสลาอย่างวิจิตร
   “‘พระธำมรงค์เนตรไพลิน’ มิอาจประเมินค่าได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นคุณทางเรายินดียกให้ฟรีค่ะ” หญิงสาวคนที่กนกพิชญ์คิดว่าเป็นพนักงานของร้านหยิบแหวนไปจากหญิงสาวแล้วนำไปบรรจุไว้ในกล่องกำมะหยี่เล็กๆสีน้ำเงินแล้วใส่ถุงใบเล็กๆมายื่นให้กนกพิชญ์
   “อะไรกันคะ ของซื้อของขายจะมายกให้กันฟรีๆอย่างนี้ได้อย่างไรกันคะ ดิฉันคงรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ” กนกพิชญ์ไม่ยอมรับแหวนวงดังกล่าวจากพนักงานสาวสวย
   “รับไปเถอะค่ะ แหวนวงนี้รอคอยเจ้าของมานานแสนนาน และคนเป็นเจ้าของของมันก็คือคุณ พระนางภัควลัญชญ์เทวี!!” หญิงสาวในชุดไทยพุดพร้อมนำถุงผ้าใส่ ‘พระพระธำมรงค์เนตรไพลิน’ ยัดใส่มือหญิงสาว
   “คุณเรียกดิฉันว่าอะไรนะคะ”
   “น้องแพมซื้อของเสร็จหรือยัง ไปกันเถอะเดี๋ยวมันจะค่ำมืดไปกว่านี้”
   ยังไม่ทันที่พนักงานสาวจะคำตอบคำภาม เสสียงของครูปรารถนาก็ดังขึ้นเสียก่อน พร้อมกับจูงมือกนกพิชญ์ออกไปจากร้าน
   คล้อยหลังของคุณครูสาวทั้งสองคนไปไม่กี่นาที ร้านขายของโบราณ  ‘อนันตะปุระ’  ก็อันตรธานหายไปเป็นอากาศธาตุราวกับว่าโลกใบนี้ไม่เคยมีร้านดังกล่าวมาก่อน...
               ..............................................................................











 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.