web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 29
Total: 29

ผู้เขียน หัวข้อ: What a Coincidence! Chapter 3  (อ่าน 2873 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nuffy

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 93
What a Coincidence! Chapter 3
« เมื่อ: 18 มกราคม 2014 เวลา 23:41:37 »
Chapter 3

ตั้งแต่ที่ฟางมา ไม่รู้ว่าเธอกระดกเบียร์ไปไม่รู้กี่แก้วโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ทำเอาฉันและเพื่อนๆ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“ไอ้เรียวววว เพื่อนมึงกระดกใหญ่แล้วถ้าไม่ห้ามมันจะแย่เอานะเว้ย” แนนกระซิบเตือนฉัน

“แล้วไอ้ที่บอกว่ามึงต้องรับผิดชอบอ่ะ ไม่เห็นจะพูดออกมาเลยสักกะแอะ” โต้งสำทับ

ฉันนั่งจ้องเพื่อนสาวหน้าแรงด้วยความรู้สึกที่ไม่สบายใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฟางกันแน่

ก่อนที่สาวหน้าแรงจะยกแก้วเบียร์ขึ้นซดเป็นรอบที่ 15 ฉันยื่นมือเข้าไปกดแก้วเอาไว้ให้อยู่ที่เดิม แล้วดึงมือฟางมากุมไว้

“ฟาง เกิดอะไรขึ้นกับแกวะ ทำไมแกถึงเป็นแบบนี้”

สาวเจ้าของชื่อหันมาทันที ดวงตาของเธอช่างน่ากลัวเสียนี่กระไร ดวงตาคมๆ คู่นั้นพร้อมที่จะกรีดหน้าของฉันให้เป็นแผลได้ด้วยการมองเพียงแค่ครั้งเดียว

“แกถามตัวเองดีกว่าว่าแกไปทำอะไรไว้”

“เฮ้ย ฉันไม่รู้จริงๆ ฉันทำผิดอะไร ผิดตรงไหน บอกมาดิ”

“เพราะแกนั่นแหละที่ทำให้ฉันต้องเลิกกับพี่เม” ฟางสะบัดมือออกแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้ง “น้องเอาเบียร์มาเพิ่มหน่อย” เธอตะโกนสั่งเด็กเสิร์ฟเมื่อพบว่าเบียร์ทั้งหมดที่ฉันกับเพื่อนๆ สั่งนั้นลงกระเพาะของเธอไปหมดแล้ว

“พอเถอะน่า มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ฉันว่า “เกิดอะไรขึ้นไหนลองเล่าให้ฟังสิ ถ้าฉันผิดจริงฉันขอโทษ”

“แกต้องขอโทษฉันอยู่แล้วแหละก็ในเมื่อมันเป็นความผิดของแก แล้วแกต้องรับผิดชอบในสิ่งที่แกทำไปด้วย”

“แล้วมันอะไรละวะ!” ฉันเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้างแล้ว “คุยกันให้รู้เรื่องก่อนดิ นี่แกจะกินให้เมาตายกันไปข้างนึงเลยหรือยังไง”

“เออ ฉันอยากเมา แล้วมันหนักหัวแกตรงไหน ช่ายเซ่ หัวแกคงมีไว้ใส่แต่หนังสือในห้องสมุดใช่มั้ยล่ะไอ้บรรณารักษ์”

“มันจะมากไปแล้วนะเว้ย! ไอ้ฟาง แก...” ฉันลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห แต่ก็ถูกแนนกับโต้งดึงเอาไว้

“ใจเย็นเว้ยเรียว เพื่อนแกกำลังเครียด ท่าทางจะเมาแล้วด้วย ค่อยพูดค่อยจากัน” สาวแว่นว่า

“เออใช่ มึงนั่งลงเหอะ มานั่งนี่มา ใจเย็นๆ ไว้ก่อน เดี๋ยวกูจัดการให้” ว่าแล้วเกย์หนุ่มก็สลับที่กับฉันมานั่งข้างสาวหน้าแรงแทน

โต้งรับขวดเบียร์มาจากเด็กเสิร์ฟแล้วสั่งเบียร์พร้อมกับแกล้มเพิ่ม เขาตักอาหาร 2 – 3 อย่างใส่จานแล้ววางไว้ตรงหน้าสาวหน้าแรง

“ตัวเองกินอันนี้ก่อนนะ เดี๋ยวโต้งตักให้นะครับ” เขาเลื่อนจานเข้าไปใกล้ฟางอย่างใจเย็น

สาวหน้าแรงหันมาหาเกย์หนุ่มพลางยิ้มหวานหยาดเยิ้ม “แหมม ไม่ต้องคงต้องครับก็ได้ ผู้หญิงด้วยกันแท้ๆ”

“อ๊าย ตาถึงนะยะ เห็นฉันเป็นผู้หญิงด้วย ไม่เหมือนอีชะนีสองตัวที่นั่งอยู่แถวนี้หรอก ชอบเห็นฉันเป็นกระโถนท้องพระโรง ไม่เป็นผู้หญิงมีปิ๊กาจี้เหมือนมัน” ยังไม่ทันไรก็โดนว่ากระทบซะแล้ว ไอ้เพื่อนบ้า

“ไม่หรอก ตัวเองสวยออก” ฟางพูดเสียงอ้อแอ้ “เค้าชื่อฟางนะ ตัวเองชื่ออะไรอ่ะ”

“เค้าชื่อโต้ง ส่วนโน่นแนน” สาวแว่นโบกมือให้อย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ได้ยิ้มหวานๆ ตอบมาจากสาวหน้าแรง “แล้วนั่นก็เรียว” รอยยิ้มหุบทันทีและกลายเป็นแยกเขี้ยวเมื่อเห็นฉัน

“เค้าไม่อยากรู้จักกับมัน!” ฟางพูดเสียงดัง “มันทำให้เค้าต้องเลิกกับแฟน” ว่าแล้วเบียร์อีกครึ่งแก้วก็ถูกเทลงคอ

“กินดุจริงเว้ย” แนนพึมพำ ในขณะที่ฉันนั่งหน้าเครียด

“ไม่เอาน่าๆ มากินข้าวกันก่อนน้า ร้องไห้เดี๋ยวตาบวมไม่สวยนะคะ” โต้งเทเบียร์ลงแก้วของสาวหน้าแรง

“อื้อ... โต้งใจดีจังเลย... อยากได้มาเป็นแฟนจัง ทำไมผู้ชายไม่เป็นแบบนี้มั่งน้า”

“ไม่ได้หรอกย่ะ ฉันก็มองหาผู้ชายเหมือนกัน ว่าแต่เป็นไงมาไงเหรอฟางถึงได้มาที่นี่”

ฟางตักข้าวใส่ปาก และรับไก่ทอดจากแนนขึ้นมากินโดยไม่ปลายหางตามามองฉันแม้แต่น้อย “ก็เพราะไอ้เพื่อนไม่รักดีน่ะสิที่ทำให้เค้าต้องมาถึงที่นี่ เพราะมันทำให้เค้าต้องเลิกกับแฟน”

“แล้วที่ฟางเลิกกับแฟนอ่ะ ฟางเป็นคนบอกเลิกเค้าหรือเค้าเป็นคนบอกเลิกฟาง”

“เค้าเป็นคนบอกเลิกเอง”

แนนหันมากระซิบกันฉัน “อ้าวไหงแล้วมาโทษมึงวะไอ้เรียว”

“ถามกู แล้วกูจะไปถามใครละวะ โน้นไปถามเจ้าของเรื่องโน้น”

เราสองคนรอฟังโต้งค่อยๆ ล้วงความลับจากสาวหน้าแรง

“ฟางเป็นคนบอกเลิกแล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้เรียวมันล่ะ”

“ก็ฟางเห็นไอ้พี่เมจูบกับยัยใบเฟิร์นที่ห้างเมื่อตอนเย็นน่ะสิ!” ตอบมาแบบไม่ตรงคำถาม เริ่มเมาแล้วชัวร์

“ห๋า...” ฉันอุทานเสียงดังทำให้สาวหน้าแรงหันมามอง แต่ก็สะบัดหน้ากลับไปทันที หลังจากนั้นก็ตามด้วยเบียร์จนหมดแก้ว

เกย์หนุ่มได้ทีก็กระทุ้งต่อ “แล้วฟางทำยังไงอ่ะ เป็นเค้านะเค้าจะเดินเข้าไปตบหน้ามันทั้งคู่เลย”

“กระทืบซ้ำ เอาน้ำกรดราด ถ่ายคลิปไว้เก็บเอาไว้ดูเล่นเพื่อความสะจาย ฮึ ฮึ ฮะ ฮะ ฮ่า” แนนพูดต่อและทำเสียงหัวเราะแบบตัวร้ายในละครทำเอาโต้งค้อนปะหลักปะเหลือก แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะจากฟาง

“เค้าไม่ได้ทำอะไรขนาดนั้นหรอก ก็แค่เดินเข้าไปแล้วบอกเลิกไอ้เมเท่านั้นเอง” จากพี่เมเป็นไอ้เมไปเสียแล้ว “บอกกับมันว่าไม่ต้องมายุ่ง เลิกกัน ชาตินี้ขอไม่ให้เจอหน้าอีก”

“แล้วไงต่อๆ” แนนกับโต้งซักต่อ ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเหลือเกินนะพวกมึงนี่

“ไอ้เมก็พยายามโทรหาเค้า มันบอกว่ามันไม่อยากเลิกกับเค้า มันบอกเค้าว่ามันเจอกับยัยใบเฟิร์นที่ภูกระดึงแล้วยัยนั่นยั่วมัน ตอนที่เค้าไปนอนกับไอ้เรียวยัยนั่นเข้าไปในเต้นท์ของไอ้เมแล้วก็มีอะไรกัน”

“โหหห แม่งเลวว่ะ ไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลยแถมโยนขี้ใส่” สาวแว่นพูดอย่างออกรส

“ผู้ชายแม่งก็แบบนี้ทุกคน เค้าอ่ะโคตรเบื่อเลย เค้าโดนแต่พวกมันมาจีบเพื่อจ้องจะมีอะไรกันด้วย แต่พอเค้าไม่ให้มันก็ไปหาคนอื่น โว้ยย ทำไมกูต้องเจอแต่ผู้ชายเลวๆ แบบนี้ด้วยวะ” ว่าแล้วก็ซดเบียร์จนหมดแก้ว

“อีโต้ง มันชักจะไม่ไหวแล้วนะเว้ย เพลาๆ หน่อย” ฉันเตือนเพื่อนเพื่อไม่ให้ฟางกินเบียร์เยอะไปกว่านี้

“เออน่า ปล่อยไปก่อน เชื่อกูเถอะ หน้าตาแรงๆ แบบเนี้ยะคอแข็งชัวร์” เกย์หนุ่มตอบกลับมา

โต้งและแนนป้อนข้าวใส่ปากฟางคนละคำสองคำเหมือนเด็ก ซึ่งสาวหน้าแรงก็อ้าปากรับอย่างยินดี แถมยังหัวเราะคิกคักชอบใจ

“เพื่อนมึงเมาแล้วรั่วนี่หว่า เหมือนเด็กๆ เลย” สาวแว่นพูด

“ครายว่าเมา เค้ายางม่ายเมาน้า ยางกินด้ายอีกเยออออ” เสียงเริ่มไปแล้วค่ะคุณเพื่อนขา

“มาต่อๆๆ ตัวผู้แบบนั้นไม่ต้องสนใจมันหรอกน่า ฟางสวยออก หุ่นก็ดี อกก็อึ๋ม หาแฟนได้อีกเยอะ” โต้งพูดชม

“ฮึ... ใครว่าล่ะ ก็เพราะหน้าตาแบบนี้ รูปร่างแบบนี้นี่แหละ ผู้ชายที่เข้ามาจีบถึงได้มีแต่เหี้ยๆ ทั้งนั้น ไม่เคยมีใครจริงใจกับเค้าเลย เข้ามาเพราะแค่เรื่องเซ็กส์ เค้าไม่ชอบแบบนี้เลย ไม่ชอบๆๆๆๆๆ” ฟางรำพึงรำพรรณ น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย ว่าแล้วสาวหน้าแรงก็น้ำตาร่วง

“ฮึกๆๆๆ ฮือ ไม่เคยมีใครรักเค้าจริงๆ เลย เค้าต้องอยู่คนเดียวตลอดเลย ฮืออ แงงงงงงงงงง” เอาล่ะครับท่าน ร้องไห้กันยกใหญ่กันเลยล่ะทีนี้

สาวแว่นและเกย์หนุ่มต่างเข้ามาปลอบมากอดกันยกใหญ่ ประหนึ่งแม่ยกเข้าประคบประหงมพระเอกลิเก แถมยังมีแอบร้องไห้ตามน้ำไปด้วย ทั้งสามคนนั่งกอดคอร้องไห้ร่วมสิบนาที ทั้งๆ ที่เพิ่งจะรู้จักกัน แต่กลับสามารถกอดกันได้เหมือนรักกันมาแต่ชาติปางก่อน

“เค้าอยากได้คนที่รักเค้าจริงๆ อ่า ไม่ใช่คนที่มาเพื่อมาหวังเอาประโยชน์จากเค้าอ่า ทำไมไม่เห็นมีใครส่งคนแบบนี้มาให้เค้าเลยอ่า แงงงงงงงงง” ยังคงร้องไห้ต่อไป

“เค้าก็อยากได้ผู้ชายที่รักผู้ชายจริงๆ ด้วยเหมือนกันนะตัวเอง ฮืออออ” เสียงนี้เป็นของโต้ง

“เค้าเองก็อยากได้ผู้ชายสักคนที่จะมาเป็นพ่อของลูกเค้าเหมือนกันน้า  อยากได้คนมาคอยเช็คแว่นให้เค้าตอนแว่นมัวด้วย หนุ่มๆ ที่รักสาวแว่นมันหายไปไหนหมดดดดดด” เสียงนี้เป็นของสาวแว่น

ละครโศกเศร้าเคล้าน้ำตาจริงๆ เลยวุ้ย เมื่อไหร่จะได้เรื่องวะเนี่ย

“ไอ้เรียว มึงมาปลอบเพื่อนหน่อยดิวะ” แนนเรียกฉันที่ยังคงนั่งดูเหตุการณ์อยู่เฉยๆ แม่งเหมือนได้ดูละครน้ำเน่าเลยว่ะ

ฉันมองหน้าเพื่อนแบบเซ็งๆ “ไม่อ่ะ ก็ดูมันดิ พอพวกมึงเข้าไปมันก็อ้อน แต่พอกูจะเข้าไปตามันขวางอย่างกะหมาบ้าตอนหน้าร้อน”

“ว่าครายเป็นหมาบ้าฮะ ไอ้เพื่อนบ้า ฮือออออออออออ” นั่นแน่ ร้องไห้ไปด่าไปก็ได้ด้วย เก่งจริงๆ

“โอ๋ๆๆๆ ไม่ต้องสนใจพวกปากหอยปากปูนะฟางน้า โต้งอยู่นี่นะคะ คนดีขา”

“ค่า...” โอ้ย กูอยากจะอ้วก

เมื่อสาวหน้าแรงหยุดร้องไห้ โต้งก็เค้นข้อมูลต่อไป โดยมีแนนป้อนข้าวป้อนน้ำให้เป็นพัลวัน

“ไหนๆๆ ต่อๆๆๆ แล้วไอ้เมมันว่ายังอีก”

“ไอ้เมมันก็บอกว่า ใบเฟิร์นมายั่วมัน มันถ่ายคลิปวิดีโอไว้แบล็คเมล์มัน ก็เลยมานัดเจอกันวันนี้ พอดีกับที่เค้าจะไปซื้อของให้แม่ เค้าเห็นพวกมันยืนจูบกันในลิฟต์อ่ะ”

“เลวที่สุด” สาวแว่นว่า

“ชั่วช้า ต่ำทราม หญิงร้าย ชายเลว น่าจับส่งตำรวจ ฆ่ามานนนนนน” เอา... เอากันเข้าไป ให้ท้ายกันเข้าไป

“เค้าก็เลยกดลิฟต์เข้าไป พวกมันก็ตกใจใหญ่เลย เค้าเลยบอกเลิกกับไอ้เมตรงนั้นเลย”

“แล้วมันเกี่ยวกับไอ้เรียวตรงไหนเหรอ” แนนถาม น่าน เข้าแก๊บซะทีนะพวกมึง ปล่อยให้กูนั่งดูละครน้ำเน่าอยู่ได้ เสียเวลาตั้งนาน

สาวหน้าแรงนั่งตัวตรงขึ้นมาทันที เธอจ้องมาที่ฉันเขม็ง “มันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เค้าต้องเลิกกะไอ้เม”

จากที่ฟังมา กูเกี่ยว... ด้วยซะเมื่อไหร่ เกย์หนุ่มและสาวแว่นก็งงไม่แพ้กัน

“ไม่เข้าใจอ่ะ” โต้งพูดแบบงงๆ

“เค้าจะอธิบายให้ฟัง” ก่อนที่จะเล่า ฟางก็ยกเบียร์ขึ้นมากระดกอีกเป็นรอบที่ร้อยกว่าๆ

“ไอ้เรียว ไอ้เรียวจันทร์ ไอ้พระจันทร์เสี้ยว” โอ้วว จำความหมายของชื่อฉันได้ด้วย เก่งๆ ตบมือให้เปาะแปะ

“ถ้าเค้าไม่เจอกับมันที่ภูกระดึง ไอ้เมก็ไม่ได้เจอกับยัยใบเฟิร์น และเค้าก็ไม่ต้องเลิกกับไอ้เม”

เอ่อ... นี่มันตรรกะข้อไหนของแกเหรอ... แค่เจอด้วยความบังเอิญเนี่ยนะ มันเอาไปคิดเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนั้นเลยเหรอ... แล้วทำไมไม่คิดมั่งละว่า ถ้าแกไม่ได้ไปภูกระดึง แกก็คงไม่ต้องเลิกกับไอ้เม

“ฟางเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า เพราะที่เราฟังมาไอ้เรียวมันไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยนะ” สาวแว่นพยายามเถียง

“เกี่ยวเซ่!” สาวหน้าแรงตะโกนเสียงดังจนคนโต๊ะอื่นหันมามองเป็นตาเดียว แต่ฟางก็ยังคงไม่สนใจ

“เกี่ยวมากด้วย เพราะถ้าเค้าไม่เจอกับมัน คืนนั้นไอ้เมก็คงไม่ได้เจอกับยัยใบเฟิร์น เค้าก็คงนอนเต้นท์เดียวกับไอ้เมอีก”

จู่ๆ ฟางลุกขึ้นอย่างโงนเงน แล้วเดินตรงมาที่ฉัน

“แก... ไอ้เรียว… แกต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่แกทำลงไป!”

จะให้กูรับผิดชอบอะไรละวะ ที่ฟังมากูยังไม่รู้เลยว่ากูผิดตรงหนายยยยยยย แถมยังหาที่ผิดไม่ได้อีกด้วยยยยย

“จะให้ทำอะไร” ฉันพูดแบบงงๆ

สาวหน้าแรงเดินเข้ามานั่งแหมะบนตักของฉัน ตัวของเธอส่งกลิ่นเบียร์คละคลุ้ง ผสมกับกลิ่นน้ำหอมจากต้นคอ ตอนนี้หน้าของฉันกับฟางห่างกันเพียงแค่คืบ ทำให้ฉันมองดูหน้าเพื่อนสาวอย่างเต็มๆ ตา ใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดวงตาบวมช้ำจากการร้องไห้ ที่หน้าผากมีเหงื่อซึมเล็กน้อย มันทำให้ฉันรู้สึกสงสารเพื่อนขึ้นมา แต่ในใจก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร

“แกต้องรับผิดชอบ” กลิ่นเบียร์ฟุ้งออกมาจากปากอันอวบอิ่มของเพื่อนสาว

“รับผิดชอบแบบไหน” ฉันถาม

“แก... ต้อง... รับ... ผิด... ชอบ” หว๋ายยยย ฟางเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น ฉันพยายามหนีแต่ก็ถูกล็อคคอเอาไว้ จึงพยายามส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ แต่ดูเหมือนพวกมันจะนั่งเฉยๆ เพื่อรอลุ้นว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันต่อไป

สาวหน้าแรงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทีละนิดๆๆๆ ดวงตากลมโตที่ประกอบไปด้วยขนตายาวสวยค่อยๆ หรี่ลงๆ จนเกือบปิดแล้ว ลมหายใจอุ่นๆ ของเพื่อนสาวกระทบที่จมูกของฉัน มันทำให้ฉันขนลุก เหวยยย ช่วยด้วยยยย

“แก... จะ... ต้อง... อ๊อก” ฟางเบือนหน้าหนีไปทางด้านข้าง แล้วเธอก็อาเจียนออกมา

“อุวะ กูก็นึกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ดันมาอ้วกซะได้ ‘รมณ์เสีย” โต้งที่ลุ้นจนตัวโก่งกระทืบเท้าอย่างไม่สบอารมณ์ ในขณะที่แนนทำหน้าเซ็ง โหห นี่ถ้าไอ้ฟางชักมีดมาแทงฉัน พวกมันก็คงจะนั่งดูเฉยๆ ใช่มั้ยเนี่ย!

ฉันรีบประคองฟางให้นั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่งทันทีแล้วลูบหลัง

“อีโต้งมึงเอาอะไรให้เพื่อนกูแดกเนี่ย! อ้วกออกมาหมดเลย”

“อะไรวะ เห็นหน้าแรงๆ แบบนี้แต่คอไม่แข็งเลย กูนึกว่าจะกินได้พอๆ กับกูตอนกูอกหักซะอีก” เกย์หนุ่มบ่นพลางหยิบขวดเบียร์ให้ฉันดู มันคือเบียร์ช้าง

“อีนี่ ใครเค้าใช้ให้สั่งเบียร์ช้าง ผู้หญิงกินนะเว้ย ไม่ใช่กะเทยล่ำบึกอย่างมึง” ฉันด่าเพื่อนขณะที่ฟางยังคงส่งเสียงโอ้กอ้ากอยู่

“เอ๋า! ก็เพื่อนมึงบอกว่าอยากเมา กูก็จัดให้เลยนี่ไง”

แนนพลิกเมนูดูราคาของ “ว้า ไม่น่าเลยนะฟาง เสียดายของหมด ของดีๆ ทั้งน้าน”

“เออ ใช่ ไอ้เรียวเพื่อนมึงต้องหารด้วยนะเว้ย เบียร์ไม่รู้ตั้งกี่ขวด” สาวแว่นยังคงนั่งกินอาหารที่เหลืออยู่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

โว้ย ไอ้ขี้งก “เออ มื้อนี้กูออกเอง มาช่วยกันหน่อยเลยเร็วๆ”

“จริงนะ” สาวแว่นพูดอย่างดีใจ “งั้นเดี๋ยวกูสั่งของหวานก่อนแล้วค่อยไปดูฟาง อีโต้งมึงเอาอะไร”

“ทับทิมกรอบ” เกย์หนุ่มตอบพลางเทน้ำแข็งลงบนผ้าเช็ดหน้าแล้วส่งให้ฉัน

“งั้นกูเอาไอติมช็อคโกแลตชิป ไอ้เรียวมึงจะกินไรป่าว”

เวลาแบบนี้ยังมีหน้ามาถามอีก ไม่กงไม่กินมันแล้ว “ไม่เอาเว้ย มาช่วยเลยเร็ว อย่าชักช้า ให้มันว่อง”

“ไม่ต้องสั่งให้ฟางเนอะ งั้นน้องเอาสองอย่างที่พี่ว่าไปก็แล้วกัน แล้วเช็คบิลเลย เก็บกับคนที่กำลังดูคนอ้วกอยู่นะ” โอ้ยยย อีแนน มึงจะเอาอะไรกับกูนักหนา

สาวแว่นค้นของในกระเป๋าถือแล้วก็ยื่นยาให้ฉันสองเม็ด “ไปเอาน้ำมา ฟางอ้วกเสร็จแล้วเดี๋ยวให้กินยานี้ละกัน รับรองเห็นผลแก้เมาค้างได้ชะงักนัก แนนคอนเฟิร์ม”

“เออ” ฉันเดินผละออกจากเพื่อนสาวหน้าแรงเพื่อรินน้ำ ในขณะที่แนนและโต้งกำลังดูแลฟางที่ตอนนี้นอนแผ่แบบหมดเรี่ยวแรงบนเก้าอี้ที่วางเรียงกันสามตัว

“เมาแอ๋เลยนะเนี่ย” สาวแว่นว่า “แต่ก็น่าสงสารว่ะ จากที่เล่ามาขนาดสวยๆ แบบนี้ยังอาภัพเรื่องผู้ชายเลย แล้วอย่างกูจะเป็นไงวะเนี่ย”

“อย่างเพิ่งพูดตลกเลย แล้วทีนี้ทำไงดีเนี่ย เอากลับบ้านยังไงดีวะ” เกย์หนุ่มว่า “มึงรู้จักบ้านฟางมั้ยวะเรียว”

ฉันส่ายหน้า “ไม่เคยไปที่บ้านอ่ะ ไม่รู้จักด้วย”

โต้งพูด “เฮ้ออ... กรรมหนอกรรม ส่งให้สาวสวยต้องมากินเหล้า เมาเคล้าน้ำตาเพราะความรัก” ว่าแล้วเกย์หนุ่มก็เริ่มร่ายกลอน “มิใยเมาเหล้าแล้ว ยังเมารัก”

“สุดจะหัก ห้ามจิตคิดไฉน” แนนพูดต่อ

“แค่เมาเหล้าเช้าสายก็หายไป”

“พอเลยพวกมึง” ฉันขัด “อย่าเพิ่งตลก... อย่าเพิ่งมารำลึกถึงสุนทรภู่ในวันนี้ ...เอางี้ให้ฟางกลับไปนอนบ้านกูก็แล้วกัน” ฉันว่า

“ดีเลย มึงจะได้ถามด้วยไงว่ามึงต้องรับผิดชอบยังไง” สาวแว่นว่า

“ใช่ๆๆๆๆ จะได้รู้กันไปซะทีนึง ว่าเค้าอยากให้มึงทำอะไร”

“เออ” ฉันตอบแบบเซ็งๆ
...

ฉัน แนน และโต้ง ช่วยกันพยุงฟางไปที่รถของเธอเอง เกย์หนุ่มและสาวแว่นโบกมือลาฉัน โต้งจะไปส่งแนนที่บ้าน ส่วนฉันต้องขับรถของสาวหน้าแรงกลับบ้านของตัวเอง

เสียงเพลงแนวบอสซ่านุ่มๆ ที่ดังออกมาจากวิทยุของฟางทำให้ผ่อนคลายความเครียดไปได้โข ฉันหันไปมองหน้าเพื่อนสาวเป็นระยะๆ เพื่อดูอาการว่าอยากจะแหวะขึ้นมาอีกเมื่อไหร่จะได้จอดรถ แต่ฟางก็หลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาของสาวแว่น ฉันมองใบหน้าของฟางขณะที่หลับด้วยความเป็นห่วงพลางคิดว่าทำไมกันนะ พระเจ้าถึงใจร้ายกับสาวสวยคนนี้ยิ่งนัก

อีก 20 นาทีต่อมาฉันก็ขับรถมาถึงบ้านตัวเอง นายคมเคียวพี่ชายของฉันยังกลับมาไม่ถึงบ้านคงออกไปเที่ยวอีกตามเคย ฉันเอารถเข้าบ้านแล้วพยายามแบกเพื่อนสาวลงจากรถอย่างทุลักทุเล และกว่าที่จะแบกสาวหน้าแรงขึ้นไปบนห้องได้ก็ใช้เวลาร่วมๆ 10 นาที

“เหนื่อยจริงเว้ยวันนี้” ฉันบ่นกับตัวเองพลางมองเพื่อนสาวที่นอนสลบอยู่บนเตียง “อาบน้ำดีกว่า”

พออาบน้ำเสร็จฉันก็เอาผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดตัวให้ฟาง เพื่อที่จะได้สบายตัวและลดกลิ่นแอลกอฮอล์จากร่างสวยๆ นั้นลงบ้าง เมื่อเช็ดตัวเสร็จสาวหน้าแรงก็ลืมตาตื่นขึ้นมา

“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ”

“ฮื่อ” สาวหน้าแรงพยักหน้าอย่างแรงจนฉันคิดว่าได้ยินเสียงกระดูกดังกร๊อบ

จู่ๆ ฟางถลกกระโปรงขึ้นมา พลางจะถอดกางเกงใน

“เอ้ย! แกจะทำอะไรอ่ะ”

“ปวดฉี่” สาวหน้าแรงบอกด้วยเสียงงัวเงีย

“มานี่เลย” ฉันกึ่งลากกึ่งจูงเพื่อนสาวไปที่ห้องน้ำ “อ้ะ ถึงแล้ว เชิญตามสบาย”

ฉันเดินกลับมาเลือกชุดนอนให้สาวหน้าแรงเปลี่ยน ช่วงระหว่างที่รอเธอเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 10 นาทีฟางก็ยังไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำ

“ฟาง แกเป็นไรป่าว” ฉันเคาะประตูห้องน้ำ

“ฟาง ฟาง แกเป็นไรป่าววะ” ไม่ใช่ตกส้วมตายไปแล้วนะเว้ยเฮ้ย

ฉันบิดลูกบิดประตูห้องน้ำ ดีนะที่ไม่ได้ล็อค “ฟาง ฉันเข้าไปนะเว้ย” เมื่อเปิดประตูเข้าไปฉันก็พบกับ..

สาวสวยในชุดแซ็กกระโปรงนั่งหลับอยู่บนชักโครก โดยที่ถอดกางเกงในค้างไว้อยู่ที่น่อง!

“หาเรื่องให้กูจริงนะมึง” ฉันบ่นพลางเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวที่นอนสลบไสล และพยายามหิ้วปีกฟางขึ้นมา

“ฟางตื่นก่อนๆ ตื่นๆๆๆ” ฉันปลุก แต่สาวเจ้าก็เงียบ เฮ้อ ยุ่งจริงเว้ย

ฉันค่อยๆ ลากสาวหน้าแรงออกมาจากห้องน้ำไปที่เตียง โดยเพิ่งจะมาสังเกตว่ากางเกงในตัวน้อยที่กองอยู่ตรงน่องนั้นได้หลุดหายไปกองอยู่หน้าห้องน้ำ ฉันเดินเข้าไปเก็บแล้วหย่อนลงในตะกร้าซักชุดชั้นใน หลังจากเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฟาง

ฉันรูดซิปชุดแซ็กของฟางออกรวมทั้งปลดตะขอเสื้อชั้นในโดยพยายามไม่มองดูรูปร่างที่ยั่วยวนผู้ชายของเพื่อน ถึงแม้จะไม่อยากมองแต่สายตาเจ้ากรรมมันก็อดมองไม่ได้ จนต้องหาทางออกด้วยการหาผ้าผืนใหญ่มาคลุมร่างนั้นไว้แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลยนอกจากช่วยเน้นส่วนเว้าส่วนโค้งของสาวหน้าแรงให้ชัดขึ้น โอ้ย ทำไมมือสั่นวะ ผู้หญิงด้วยกันแท้ๆ ฉันพยายามไม่มองฟางและใช้วิธีมองเพดานห้องตัวเองขณะที่ใส่เสื้อผ้าให้เพื่อน

จู่ๆ คำพูดของยัยฝ้ายและยัยซีที่พูดถึงเพื่อนสาวหน้าแรงก็ดังขึ้นในหัว โดยเฉพาะเรื่องรูปร่างอันน่าอิจฉาของฟาง ใช่! มันน่าอิจฉาจริงๆ น่ากินด้วย เห... นี่ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย

ฉันสวมเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงนอนขายาวให้ฟาง กว่าจะเปลี่ยนชุดให้เสร็จก็เหนื่อยเหมือนกันเว้ย สาวหน้าแรงนอนหลับที่เตียงของฉันอย่างสบายโดยที่ท่านอนของสาวเจ้าเป็นท่าสไปเดอร์แมนกางแขนกางขาซะเต็มพื้นที่ แล้วนี่กูจะนอนยังไงเนี่ย

ฉันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโต้งและแนนเพื่อบอกว่าฉันกับฟางกลับมาถึงบ้านด้วยความปลอดภัย ซึ่งทั้งสองคนก็ถึงบ้านแล้วเช่นเดียวกัน

“ฟางเขยิบหน่อยดิ นอนด้วยๆ” ฉันสะกิด

สาวหน้าแรงเปลี่ยนท่าจากท่าสไปเดอร์แมนเป็นตะแคงซ้าย เปิดพื้นที่ส่วนหนึ่งของเตียงให้กับฉัน

เมื่อล้มตัวลงนอน สาวเจ้าก็พลิกตัวกลับมาเป็นตะแคงขวาแขนซ้ายตีเข้าที่ท้องฉันดึงปึ้ก!

จุก... จุกว่ะ จุกจนพูดไม่ออกเลย แล้วไอ้ขาที่มารัดขาฉันก็แน่นยิ่งกว่าหนวดปลาหมึกซะอีก!

คืนนี้กูจะได้นอนมั้ยเนี่ย!





 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.