Dream ฝันค้างบนทางรัก Yuri
บทที่ ๑๗ : เปิดเผยใจ...อุ่นไอรัก
กลางดึกของค่ำคืนนั้นนงนภัสเฝ้าดูแลฐิติณัชชาอยู่ไม่ห่าง ร่างบางของรุ่นน้องสาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงสีหวานภายในห้องพักของรีสอร์ท หลังจากที่อาจารย์แพทย์ประจำคณะที่ได้เดินทางมาด้วยตรวจดูอาการเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวนำผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตามเนื้อตัวของสาวรุ่นน้องเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายที่เพิ่มขึ้นจากพิษไข้
“ฟางรักพี่ฟ้านะคะ...” ฐิติณัชชาเพ้อออกมาด้วยพิษไข้ทำให้คนที่กำลังเช็ดตัวอยู่หยุดมือลงด้วยความสะเทิ้นอาย “รักอย่างนั้นเหรอ....” สิ่งที่ได้ยิน สาวรุ่นน้องกำลังสารภาพรักกับเธอใช่ไหม
“น้องฟางว่าอะไรนะคะ” หญิงสาวแนบหูไปที่ปากของสาวรุ่นน้องแต่ทว่าร่างบางกลับรัดร่างของเธอแน่นจนเธอหายใจไม่ออกแต่ประหลาดนักเธอกลับรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเมื่อได้อยู่ในอ้อดกอดนี้
“น้องฟางคะ ปล่อยพี่เถอะค่ะ” นงนภัสดิ้นรนหนีก่อนลุกขึ้นมาจากเตียง...หัวใจเต้นแรงและถี่ราวกับทะลุออกมานอกอก
เมื่อตอนที่ร่างของสาวรุ่นน้องตกลงไปในสายน้ำอันเชี่ยวกราก เธอรู้สึกเป็นห่วงนักหนาจนต้องกระโดดลงไปช่วย ความรู้สึกห่วงใยเช่นนี้เรียกว่ารักใช่ไหม หญิงสาวคิดในใจ ก่อนที่จะตกใจในความคิดของตัวเอง เธอรักสาวรุ่นน้องคนนี้นะหรือ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?
“พี่ฟ้า ช่วยฟางด้วย ช่วยด้วยค่ะ...” เสียงละเมอด้วยพิษไข้ของฐิติณัชชาดังขึ้นอีกครั้ง เธอรีบเช็ดตัวให้รุ่นน้องสาวจนเสร็จเรียบร้อยเสียงนั้นก็ได้เงียบลง หญิงสาวเพ่งพิศใบหน้างามแต่ซีดเซียวก่อนประทับจุมพิตไปที่แก้มใสนั้นอย่างรักใคร่
กลิ่นหอมกรุ่นของแก้มใสที่เธอได้สัมผัส มันทำให้จิตใจของเธอเตลิดไปไกล ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่นี้สัมผัสเพียงแผ่วๆ แต่มันกลับตราตรึงในความรู้สึกของเธอเป็นหนักหนา
คืนนี้เป็นคืนที่พี่รหัสกับน้องรหัสที่เป็นเพศเดียวกันจะได้นอนห้องเดียวกัน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นงนภัสมาอยู่ที่นี่ในห้องเดียวกันกับฐิติณัชชา นงนภัสยืนมองสาวรุ่นน้องอยู่ชั่วครู่ก่อนก้าวขึ้นเตียงของตัวเองซึ่งอยู่ข้างๆกัน ก่อนหลับตานอนอย่างเป็นสุข
...........................................................................
แสงอรุณได้สาดส่องลอดม่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน ฐิติณัชชาตื่นนอนขึ้นมาด้วยอาการทุเลาลงจนแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนกวาดสายตาไปรอบๆห้องและเห็นเรือนร่างบอบบางผู้หญิงคนหนึ่งซุกกายหลับใหลอยู่บนเตียงข้างๆ ไม่ห่างออกไปมีทั้งซองยาและแก้วน้ำ รวมทั้งกาละมังใบเล็กที่มีผ้าขนหนูสีขาวผืนน้อยอยู่ในนั้น เธอมองอยู่ชั่วครูก่อนละสายตากลับมาที่ดวงหน้างามล้ำของนงนภัส ทำไมนงนภัสมานอนในห้องนี้ หญิงสาวคิดอย่างงๆ ก่อนที่จะโน้มตัวลงพินิจดูอย่างใกล้ชิด เกลี่ยเส้นผมบางๆที่ปรกหน้าออกเผยให้เห็นแก้มเรื่อผุดผ่องต้องตาต้องใจยิ่งนักจึงก้มลงจุมพิตประทับแก้มหอมกรุ่นของรุ่นพี่สาวอย่างหลงใหลอยู่มิวาย
“ตื่นแล้วเหรอคะน้องฟาง อาการของน้องทุเลาลงแล้วใช่ไหมจ๊ะ” นงนภัสลืมตาขึ้นมาถามกึ่งงัวเงีย
“ค่ะพี่ฟ้า ฟางค่อยยังชั่วแล้วค่ะ แต่ทำไมพี่มานอนห้องเดียวกันกับฟางคะนี่” สาวรุ่นน้องตอบด้วยความขวยเขิน สิ่งที่เธอทำเมื่อครู่ไม่ต่างจากการลักหลับเลยสักนิด
“ก็พี่เป็นพี่รหัสของฟางไงคะ เมื่อคืนเราเลยต้องนอนด้วยกันน่ะค่ะ” นงนภัสตอบ เมื่อคืนน้องสาวคนนี้บอกว่ารักเธอ รักจริงๆหรือแค่เพ้อด้วยพิษไข้กันหนอ
“ฟางรักพี่ฟ้านะคะ” ฐิติณัชชาพูดพร้อมกับจ้องมองใบหน้างามด้วยสายตาหวานหยดจนนงนภัสต้องก้มหน้างุดด้วยความสะเทิ้นอาย
“คะ” นงนภัสพูดไม่ออกนอกจากตอบรับแผ่วเบา
“พี่ฟ้ารักฟางบ้างไหมคะ” ฐิติณัชชาถามพร้อมกับจ้องหน้านงนภัส แต่อีกฝ่ายกลับหลบตา
“ฟางขอโทษที่รักพี่ฟ้านะคะ ถ้าพี่อึดอัดก็ถือซะว่าฟางไม่เคยพูดมันออกมาเลยได้ไหมคะ” ฐิติณัชชาตัดพ้อด้วยน้ำเสียงน้อยใจก่อนเดินไปเปิดม่านที่หน้าต่างของห้องพักออกเพื่อชมทัศนียภาพของหมู่ไม้ภายนอกเรือนพัก
“รักสิคะ พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พี่ก็รักฟางนะคะ” นงนภัสพูดพร้อมกับเดินมาโอบกอดฐิติณัชชาไว้จากทางด้านหลัง
“จริงๆเหรอค่ะ ฟางดีใจจังเลยค่ะ” ฐิติณัชชาโอบกอดเรือนร่างอ้อนแอ้นของนงนภัสด้วยความรู้สึกเต็มตื้นในหัวใจ ฝ่ายรุ่นพี่สาวเองก็กอดตอบสาวรุ่นน้องด้วยความรู้สึกมิต่างกัน
“พี่ฟ้าขา ฟางรักพี่ฟ้ามาตั้งแต่วันแรกที่ฟางเจอพี่ฟ้าแล้วรู้ไหมคะ ตั้งแต่วันนั้นฟางก็สัญญากับตัวเองว่า ผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนเดียวที่ฟางจะรักตลอดไป” ฐิติณัชชาเอ่ยถ้อยคำฝากรักด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่เปี่ยมด้วยความอ่อนหวาน
“พี่ก็รักฟางค่ะ” นงนภัสอังหลังมือกับหน้าผากคนรักเบาๆ ยิ่งเห็นหน้าแดงเรื่อๆเพราะพิษไข้ของฐิติณัชชาก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงจับหัวใจ
“ถ้าฟางเป็นอะไรมากกว่านี้ พี่คงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆ”
“แค่พี่ฟ้าลงไปช่วยฟาง ฟางก็ดีใจมากที่สุดแล้วค่ะจริงๆนะคะ” ฐิติณัชชาพูดพร้อมสวมกอดร่างเล็กของนงนภัสที่ยังอยู่ในชุดนอนแสนเซ็กซี่
“พี่รักฟางนะคะ” ไม่พูดเปล่าแต่รุ่นพี่สาวหันมาสบตาร่างสูงของรุ่นน้องสาว ด้วยสายตาหวานซึ้งทำให้ฐิติณัชชาจูงมือรุ่นพี่สาวให้มานั่งตักตนเองบนตียงสีชมพู บรรจงแตะริมฝีปากแผ่วเบาไปตามแก้มใสที่ปราศจากเครื่องสำอางใดๆ แก้มหอมๆเล่นเอาฐิติณัชชากดปลายจมูกคลึงเคล้าและเคลื่อนริมฝีปากตัวเองเข้าหาปากสวยของนงนภัส
“มันเร็วเกินไปรึเปล่าคะ” นงนภัสพูดด้วยความรู้สึกขวยเขิน แต่เมื่อเห็นใบหน้า น้อยใจของสาวรุ่นน้องและเป็นฝ่ายรั้งใบหน้าสวยๆนั้นเข้าใกล้เสียเอง
“แต่ว่า...ถ้าเป็นฟางก็คงไม่เป็นไรมั้งคะ”
ดูเหมือนว่าประโยคที่นงนภัสพูด เมื่อครู่จะไม่ได้รับการโต้ตอบจากอีกฝ่ายเสียแล้ว เมื่อริมฝีปากอุ่นจัดของฐิติณัชชาประกบปากเธอแผ่วเบา ปลายลิ้นพลิ้วหวานที่ร้อนเร่าค่อยๆ กดสอดแทรกรุกเร้าเข้าหาอย่างเว้าวอน
คนร่างสูงพลิกร่างบางให้มาอยู่ข้างใต้ คลับคล้ายประติมากรรมอันงดงามบนเตียงสีหวาน เมื่อหญิงสาวที่รักประดุจนางฟ้าในดวงใจมานอนอยู่ตรงนี้ ฐิติณัชชาบรรจงแตะริมฝีปากลงบนซอกคอขาวของนงนภัส
ไม่มีเหตุผลใดๆที่รุ่นพี่สาวจะต้องปฏิเสธ เมื่อในห้องนี้มีเพียงพวกเธอสองคนเท่านั้น จากนั้นทั้งสองคนโอบกอดเรือนกายของกันและกันไว้ด้วยอ้อมกอดแห่งความรัก ความภักดีทั้งหมดทั้งมวลในหัวใจ....
...........................................................................
เส้นผมยาวสลวยสยายคลอเคลียกับอ้อมแขน ร่างเล็กที่หลับใหลในอ้อมกอดช่างน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ฐิติณัชชาหอมเรือนผมของนงนภัสเบาๆอย่างแสนรัก
“อื้มม...ฟางคะกี่โมงแล้ว” นงนภัสงัวเงียถามคล้ายละเมอพร้อมกับซุกกายเข้าหาไออุ่นเหมือนไม่ยอมให้อ้อมกอดนี้หายไปจากกายเธอ
“ยังเช้ามืดอยู่เลยค่ะพี่ฟ้า นอนต่อได้อีกค่ะ” สาวรุ่นน้องพูดพร้อมกอดนงนภัสแนบแน่น
“นอนต่อไปได้ยังไงค่ะ เดี๋ยววันนี้มีพิธีที่พี่รหัสจะต้องกลัดเข็มกลัดกับใส่ตุ้งติ้งให้น้องรหัสด้วย ลุกเถอะค่ะ เดี๋ยวไปช้าโดนเพื่อนๆพี่ทำโทษนะคะ” นงนภัสพูดพร้อมก้มหน้างุดซ่อนใบหน้าซึ่งแดงราวลูกตำลึงสุกเอาไว้กับอกอุ่นของรุ่นน้องสาว
“ต่อไปนี้เราสองคนไม่ใช่แค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันแล้วใช่ไหมคะ ตอนนี้เรารักกันใช่ไหมคะ” ฐิติณัชชาถามขอคำยืนยันจากปากอีกครั้งให้มั่นใจ
“รักสิคะ รักสุดหัวใจเลย แล้วเราก็จะเป็นคนรักกัน เหมือนๆกันกับเกดกับพี่อัยย์ หรือคู่รักคนอื่นๆใช่เปล่าคะ”
“ค่ะ เหมือนๆคุณแม่กับคุณอา ฟางจะรักพี่ฟ้าตลอดไปนะคะ” ขาดคำฐิติณัชชาก็โอบกอดนงนภัสให้แนบชิดกว่าเดิมเพื่อยืนยันว่ารักกันนี้จะคงอยู่ตลอดไปอย่างแน่นอน
“ชื่นใจจังค่ะ แต่ไปอาบน้ำได้แล้วนะคะ สายมากแล้ว”
“ไม่เอา ฟางอยากนอนกอดพี่ฟ้าอีกนี่คะ” สาวรุ่นน้องทำเสียงกระเง้ากระงอดอย่างขัดใจก่อนกระชับร่างนั้นให้แน่นขึ้นไปอีก
“อย่าดื้อสิคะ พี่จะไปอาบน้ำแล้วนะ” นงนภัสผละออกจากอ้อมกอดอุ่น หยิบชุดนอนที่ตกอยู่ข้างๆเตียงขึ้นมาสวมอย่างลวกๆก่อนเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าเช็ดตัวสีชมพูอ่อนเดินเข้าห้องน้ำไป
“งั้นฟางอาบด้วยคนนะคะ” ฐิติณัชชารีบวิ่งตามเข้าไปห้องน้ำ
“เบาๆ สิค่ะ จั๊กจี้” นงนภัสหัวเราะคิก เมื่อมือเนียนนุ่มเต็มไปด้วยฟองสบู่ค่อยๆลูบไล้ผ่านร่างกายเปลือยเปล่าของเธออย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม
“เบาแล้วค่ะ พี่ฟ้าบ้าจี้เอง...อีกนิดนะคะ มา เดี๋ยวฟางล้างสบู่ให้” ว่าแล้วร่างสูงของฐิติณัชชาก้เอื้อมมือไปเปิดฝักบัวให้สายน้ำชำระฟองสบู่จากเรือนกายคนรักให้เหลือเพียงผิวสวยใสสะอาด
“ไหนดูสิ สะอาดหมดจดรึยัง” ไม่พูดเปล่าแต่สาวรุ่นน้องกัมลงไปใช้ริมฝีปากสัมผัสเนินอกคนตัวเล็กกว่า
“อื้อ...ไม่เอาค่ะ มาเดี๋ยวพี่ถูหลังให้บ้างนะคะ” นงนภัสพลิกร่างฐิติณัชชาให้หันหลังไปบ้าง เธอเทครีมอาบน้ำและขยี้ฝ่ามือให้เกิดฟองเต็มฝ่ามือ ก่อนจะบรรจงสัมผัสร่างกายฐิติณัชชาอย่างที่เธอเพิ่งได้รับเมื่อสักครู่
“ฟางรักพี่ฟ้าจังค่ะ” ฐิติณัชชาเอ่ยคำรักเบาๆในลำคอด้วยอารมณ์เสน่หาเธอไม่เคยมีคนรักมาก่อนจึงเป็นครั้งแรกที่ได้อาบน้ำร่วมกับคนรักเช่นนี้ รักมากมายจนไม่กล้าคิดว่าหากปราศจากความรักจากรุ่นพี่สาวเธอจะอยู่ในโลกใบนี้อย่างมีความสุขได้อย่างไร
“พี่ก็รักฟางค่ะ” นงนภัสยิ้ม มือเรียวจับฝักบัวให้สายน้ำรินรดชะล้างเรือนร่างของฐิติณัชชาให้หมดฟองสบู่
“ฟางว่าเช็ดตัวกันเถอะค่ะ เดี๋ยวเขาจะสงสัยกันว่าทำไมเราลงไปช้ากันนัก” ฐิติณัชชาเอื้อมไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อตัวเองและคนรักเอาไว้ ก่อนจะพากันออกไปจากห้องน้ำ เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย นงนภัสจึงมานั่งปรงผมที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“ก๊อกๆ ฟ้าตื่นรึยัง เปิดประตูให้มิ้นท์หน่อยคะ” เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นตามมาด้วยเสียงเรียกของพิมพ์ฤดาดังขึ้นทำให้นงนภัสวางแปรงหวีผมไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งและลุกขึ้นจะไปเปิดประตูให้เพื่อนสาวร่วมชั้นปี
“เดี๋ยวฟางไปเปิดเองค่ะ” ฐิติณัชชาโบกมือห้ามไว้ ก่อนเดินไปเปิดประตู
“อ้าว หายดีแล้วเหรอคะ แล้วฟ้าตื่นหรือยัง” น้ำเสียงเหมือนเต็มไปด้วยความห่วงใยแต่สายตาและสีหน้าตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
“พี่ฟ้ากำลังแต่งตัวอยู่ข้างในค่ะ” ฐิติณัชชาผายมือไปยังนงนภัสซึ่งกำลังแปรงผมอยู่ พิมพ์ฤดามองตามเข้าไปก่อนถือวิสาสะเดินไปหานงนภัส
“มิ้นท์ช่วยแปรงผมไหมคะ...” พิมพ์ฤดาพูดพร้อมแย่งแปรงหวีผมมาไว้ในมือ ก่อนแปรงไปที่เรือนผมนุ่มสลวยของนงนภัส
“งั้นฟางลงไปรอพี่ฟ้าที่ห้องอาหารนะคะ” ฐิติณัชชามองภาพนั้นอย่างหึงหวงก่อนตัดสินใจออกจากห้องโดยไม่รอ
“ฟางรอพี่ด้วย มิ้นท์คะฝากล็อกห้องด้วยนะคะ” นงนภัสลุกตามฐิติณัชชาไปอีกคน ทิ้งให้พิมพ์ฤดา ถือแปรงหวีผมค้างอยู่อย่างนั้น ก่อนกระแทกมันลงบนโต๊ะเครื่องแป้งอย่างหัวเสีย
“ฉันจะแย่งฟ้ามาเป็นของฉันให้ได้ คอยดู!!” พิมพ์ฤดากล่าวอย่างเข่นเขี้ยวก่อนออกไปจากห้องอย่างไม่สบอารมณ์
...........................................................................