web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 130
Total: 130

ผู้เขียน หัวข้อ: เกินห้ามใจ ตอนที่ 8  (อ่าน 1834 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • แอดมิน
  • เริ่มติด
  • *****
  • กระทู้: 251
  • I'm sociopath. I don't have feelings.
เกินห้ามใจ ตอนที่ 8
« เมื่อ: 22 มกราคม 2014 เวลา 07:32:21 »
ตอนที่ 8

เป็นที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในทุกสัปดาห์ของวันอาทิตย์ ที่คนในบ้านจะได้เห็นหน้าแขกประจำอย่างภัทรพล ชายหนุ่มผู้เทียวไล้เทียวขื่อลูกสาวเจ้าของบ้านเป็นเวลาหลายเดือน
แม้ในใจจะรู้สึกสงสาร แต่วรินทร์ก็เลือกตีหน้านิ่งใส่คนที่นั่งยิ่มเผล่อยู่บนโซฟา ตัวเดิมกับที่นั่งอยู่ทุกอาทิตย์

ถึงวรินทร์จะไม่บอกความจริง แต่เธอก็ไม่ให้ความหวังผู้ชายทุกคนที่เข้ามาจีบ ยิ่งกับภัทรพลด้วยแล้ว

“มาทุกอาทิตย์ไม่เบื่อบ้างเหรอคะ”

“ไม่เบื่อหรอกครับ”

“รินทร์บอกหลายทีแล้วว่าคิดกับพี่…”

“แค่พี่ชาย…เข้าใจครับ” ภัทรพลจ้องเข้าไปในดวงตาดำขลับนั้นอย่างหลงใหล “ถ้าอย่างนั้น น้องรินทร์จะให้เกียรติไปทานข้าวกับพี่ชายคนนี้ได้ไหมครับ”

วรินทร์ส่ายหน้า อดไม่ได้ที่จะระบายยิ้มออกมากับการอ้างคำว่าพี่ชายมาย้อนให้เธอเป็นฝ่ายเสียเปรียบเอาซะเอง

“ตื้อจังเลยนะคะ”

“คราวนี้พี่พัฒนานะ” ภัทรพลแซวตัวเอง “จากที่มานั่งมองหน้าคุยกัน ในที่สุดพี่ก็จะได้ไปทานข้าวกับน้องรินทร์สักที ไชโย!”

“รินทร์ยังไม่ได้ตอบตกลงเลย”

ชายหนุ่มหุบยิ้มแทบจะไม่ทัน “อ้าว! แล้วสรุปน้องรินทร์ตกลงไหม”

“ตกลงค่ะ แต่ว่า…” วรินทร์เอ่ยดักคนที่จะชูกำปั้นขึ้นเหนือหัวอย่างดีใจ “ให้รินทร์โทรชวนเพื่อนไปด้วยนะคะ”

ใจจริงภัทรพลอยากไปด้วยกันสองต่อสอง หลังทานอาหารเสร็จจะได้ชวนวรินทร์เดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า และถึงขนาดหวังไว้ในใจว่าจะได้เป็นคนช่วยถือกระเป๋าหรือหอบหิ้วของให้หญิงสาวตอนช๊อปปิ้ง

ไม่มีทางเลือกแล้วนี่…ถึงแม้จะไปในฐานะพี่ชาย แต่เขาก็ยังได้ไปกับวรินทร์ ดีกว่าต้องทนมานั่งอยู่ในบ้านเฉยๆ อย่างนี้

คิดได้ดังนั้น ภัทรพลก็แย้มยิ้มสว่างไสว

“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชายครับ”

“ผู้หญิงค่ะ คนนี้เขาว่างทุกวัน”

วรินทร์กดโทรศัพท์โทรหาสาวเจ้าที่ไม่ยอมทำงานทำการสักที วันๆ เอาแต่มาขลุกตัวอยู่ในห้องทำงานกับเธอจนโดนภาคินดุไปเสียหลายที

ภัทรพลถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง สายตามองวรินทร์ที่กำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสาว เหมือนจะได้ยินว่าชื่อพอลหรือพอร์ชอะไรนี่แหละ ดวงหน้าสวยที่ยิ้มแย้มสดใส ชายหนุ่มนึกอยากจะเห็นสีหน้าแบบนี้ไปทุกวัน

สิ่งที่ได้มายาก น่าท้าทายให้แสวงหา

แต่สิ่งที่ได้มาง่ายๆ พอเวลาผ่านไปคุณค่ากลับลดลงไปตามกาลเวลา

ภัทรพลเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองพยายามทำอยู่ ผลลัพธ์ของมันจะต้องออกมาคุ้มค่า สมกับที่เขาอดทนรอมานานอย่างแน่นอน



ภัทรพลกะพริบตาปริบๆ มองเพื่อนสาวของวรินทร์ที่ดูจะเอาอกเอาใจกันออกนอกหน้า ทั้งตักอาหารให้ ป้อนบ้างในบางที หรือแม้กระทั่งหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดปากที่เปื้อน

…นี่มันอะไรกัน

วรินทร์เห็นอาการตาค้างของชายหนุ่มที่นั่งตรงข้าม จึงหันไปตำหนิพีชญาผ่านทางสายตา แต่ฝ่ายที่โดนดุกลับยักไหล่ แถมยังแลบลิ้นใส่เธออย่างอารมณ์ดี

ขี้แกล้งจังนะพอร์ช…วรินทร์แยกเขี้ยวใส่

“สนิทกันจังเลยนะครับ”

“สนิทมากๆ เลยค่ะ รู้ใจกันทุกอย่าง ไม่มีอะไรจะมาแทรกกลางระหว่างเราได้” พีชญาตอบด้วยสำเนียงแปร่งๆ พร้อมกับหันไปควงแขนเพื่อนสาวที่นั่งอ้าปากหวอ

“รู้จักกันตั้งแต่เด็กค่ะ” วรินทร์พูดแก้เก้อ มือเรียวพยายามแกะมือปลาหมึกจากเพื่อนสาวออก

ภัทรพลยังยิ้มในหน้าทั้งที่ในใจรู้สึกประหลาด แต่ปากก็เอ่ยไปเหมือนคนไม่ได้คิดอะไร

“ถ้าอย่างนั้น น้องพอร์ชก็ต้องรู้จักน้องรินทร์ดี ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร” ภัทรพลมองหน้าพีชญา “ถ้าพี่จะขอปรึกษาเรื่องน้องรินทร์บ้างเป็นครั้งคราว คงไม่รบกวนนะครับ”

“ไม่รบกวนหรอกค่ะ ถามพอร์ชได้ทุกอย่าง รู้ทุกเรื่องทั้งอาหารที่ชอบ ดอกไม้ที่ชอบ แบรนด์เสื้อผ้าที่ชอบ รวมไปถึงเรื่องรสนิยมด้วย ใช่มั้ยรินนี่”
จะเน้นคำว่า ‘รสนิยม’ ทำไมคะคุณเพื่อน

“ใช่ค่ะ ยัยคนนี้เค้ารู้ทุกเรื่อง” วรินทร์พยักหน้ายอมรับ

“แล้วรสนิยมน้องรินทร์เป็นยังไงเหรอครับ” ภัทรพลถามสาวสวยทั้งสองคน รู้อยู่แล้วว่าวรินทร์คงไม่ตอบ จึงมุ่งสายตาไปที่สาวผมสีคาราเมลแทน

“รินนี่ชอบอะไรที่…” พีชญาลากเสียงพลางใช้นิ้วจิ้มปลายคาง “เล็กกะปุ๊กลุก แล้วหน้าตาต้องน่ารักถูกจริตด้วยนะคะ รินนี่จะถูกใจเป็นพิเศษ”

ไม่บอกไปเลยล่ะคะว่าเธอชอบผู้หญิงตัวเล็กน่ารัก

วรินทร์นั่งหน้านิ่ง ยิ้มและหัวเราะไปบ้างตามเรื่องตามราว ปล่อยให้คนร่วมโต๊ะสองคนเขาคุยกัน หัวข้อสนทนาก็หนีไม่พ้นเรื่องของเธอนั่นแหละ ดูเหมือนยัยคนข้างๆ จะสนุกสนานกับการเอ่ย
ประโยคที่ความหมายแสนจะคลุมเครือ ถ้าภัทรพลจับสังเกตได้แล้วเอาไปฟ้องแม่เธอล่ะก็…ยัยตัวยุ่งข้างๆ โดนหนักแน่



“นั่นท่านประธานหรือเปล่า” เอมิตากระซิบถาม ระหว่างที่พวกเธอสองคนกำลังจะเดินผ่านโต๊ะหนึ่งในร้านอาหาร การกระทำนั้นเรียกให้คนถูกมองหันมาสนใจ

ทันทีที่วรินทร์เห็นเธอ ริมฝีปากอิ่มปรากฏรอยยิ้มสวยออกมา แต่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น ใบหน้าสวยก็กลับไปนิ่งเฉยเหมือนเดิม ภัทรพลเห็นกิริยาที่แปลกไปของวรินทร์จึงหันมามองตาม

ไนน์…

คงจะไม่มีใครสังเกตว่าอดีตคนรักอย่างภัทรพลและนรีกมลต่างเบิกตาค้างมองหน้ากัน ก่อนจะแสร้งทำเฉยราวกับคนไม่เคยรู้จัก ใจของชายหนุ่มตกลงไปถึงตาตุ่มเพียงได้เจอะหน้าคนรักเก่า กลัวว่านรีกมลจะอาละวาดใส่วรินทร์ที่ตอนนี้นั่งอยู่กับเขาเพียงสองต่อสอง

“สองคนนี้เป็นพนักงานที่บริษัทของรินทร์ค่ะ คนทางซ้ายชื่อเอมิตา ส่วนอีกคนชื่อนรีกมล เป็นอดีตเลขาของรินทร์เอง”

…อดีตเลขา

เดี๋ยวนะ! แล้วที่เขาเคยบอกนรีกมลไปว่า…

“เธอชื่อ…วรินทร์ ทายาทของดับเบิ้ลเอ็มกรุ๊ป พูดไปไนน์ก็ไม่รู้จัก”

แสดงว่านรีกมลรู้จักวรินทร์มาก่อนที่เขาจะบอกเลิก…ให้ตายสิ ไอ้ภัทรเอ้ย!

ภัทรพลมองหน้าหญิงสาวร่างเล็กที่ยืนส่งยิ้มบางไปให้เจ้านาย โดยไม่ยอมหันมาสบตาเขาแม้แต่น้อย

“งั้นไนน์ขอตัวก่อนนะคะ” นรีกมลตัดบท แล้วลากแขนเมษาไปยังโต๊ะที่หมายตาไว้ตั้งแต่แรก

“นะ…เอ่อ คุณนรีกมลเป็นเลขาของน้องรินทร์มานานรึยังครับ”

“ตั้งแต่แรกที่รินทร์เข้ามาทำงานในบริษัท ก่อนจะขึ้นเป็นประธานน่ะค่ะ” วรินทร์เอียงหน้ามองอย่างสงสัย ก่อนจะถามหลังเห็นแววตาครุ่นคิดของคนตรงหน้า “ทำไมคะ”

“ปะ เปล่าครับ” ภัทรพลส่ายหน้า มือหนายกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแก้เก้อ

วรินทร์หรี่ตามอง ก่อนจะจุดยิ้มประหลาดที่มุมปาก “พี่ภัทรสนใจเลขาของรินทร์เหรอคะ”

ภัทรพลตาเหลือก รีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน “ไม่ไช่อย่างนั้น พี่แค่อยากรู้เฉยๆ”

“แล้วไปค่ะ” วรินทร์กลับไปตีหน้านิ่ง “คนนี้พี่ภัทรห้ามยุ่ง มีคนเล่าว่าแฟนเขาโหดมากเลยนะคะ”

ภัทรพลขมวดคิ้วอย่างสงสัยกับประโยคนั้น เพิ่งเลิกกันนรีกมลมีแฟนใหม่แล้วเหรอ หรือว่าคนพูดจะหมายถึงอดีตแฟนเก่าอย่างเขา แต่ก็ไม่น่าใช่…ตัวเขาเองไม่ได้โหดหรือคอยหึงหวงใส่นรีกมล เพราะตัวเองก็อยู่ต่างประเทศ

แล้วคนโหดที่ว่า…หมายถึงใครกัน

“มาแล้วค่ะ” พีชญายิ้มร่าเริงก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง มองหน้าคนนู้นทีคนนั้นทีอย่างสงสัย “พอร์ชไม่อยู่มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ทำไมทำหน้าเครียดกันทั้งคู่เลย”

ทั้งสองร่วมใจกันเอ่ยปฎิเสธอย่างพร้อมเพรียง

ตลอดมื้ออาหารทั้งภัทรพลและวรินทร์ต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ถามคำตอบคำจนพีชญานึกสงสัย วรินทร์น่ะเงียบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่กับภัทรพล…พีชญาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงนิ่งไป



ภัทรพลคิดไว้แต่แรกอยู่แล้วว่าจะมาช่วยถือของให้วรินทร์ตอนเดินช๊อปปิ้ง และดูเหมือนว่าความปรารถนาของเขาจะเป็นจริง…แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
เพราะของที่ต้องถือ กลับเป็นของพีชญาแทบทั้งสิ้น

ชายหนุ่มไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี ตอนนี้ทำได้เพียงเดินตามและมองสองสาวที่หัวร่อต่อกระซิกด้วยสายตาละห้อย ถึงจะมาช่วยถือของให้คนที่ชอบ แต่การช๊อปปิ้งก็ถือเป็นสิ่งที่ผู้ชายอย่างเขาไม่พึงประสงค์อยู่วันยังค่ำ

น้องพอร์ชซื้ออีกแล้วเหรอครับ…ภัทรพลโอดครวญในใจ

“พี่ภัทรช่วยพอร์ชถือถุงนี้ด้วยสิคะ” พีชญาเดินยิ้มหวานมาแต่ไกล ภัทรพลคิดว่ามันเป็นยิ้มมรณะเสียมากกว่า

สาวผมสีคาราเมลดัดลอนยื่นถุงเสื้อผ้ามาให้ชายหนุ่มที่ยืนยิ้มแห้งอยู่นอกร้าน พีชญาเอ่ยขอบคุณ ก่อนจะหันไปควงแขนเพื่อนสนิทแล้วพากันเดินไปร้านอื่น

ภัทรพลยกบรรดาถุงจากมือทั้งสองข้างขึ้นมาดู แล้วก็ได้แต่ลอบถอนใจ ก่อนจะเดินไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ชายหนุ่มไม่ได้สนใจโทรศัพท์มือถือที่สั่นสั้นๆ อยู่ในกระเป๋ากางเกง รู้อยู่แล้วว่าตอนนี้ตัวเองไม่มีมือที่สามที่จะไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ

เพราะตอนนี้…วรินทร์สำคัญที่สุด

นรีกมลยื่นหน้าออกไปมองหนึ่งหนุ่มสองสาวที่เข้าออกร้านต่างๆ เป็นว่าเล่น เธอเห็นคนที่ส่งข้อความไปหาชะงักไปเล็กน้อย เขาใช้มือที่ไม่ว่างคลำๆ แถวกระเป๋ากางเกง แต่เมื่อเห็นว่าไม่ไหวจึงเลิกพยายามแล้วเดิมตามอีกสองสาวไปต้อยๆ

นรีกมลกำโทรศัพท์ในมือแน่นอย่างขัดใจ อุตส่าห์โกหกเอมิตาว่าติดธุระกับทางบ้านแล้วลอบติดตามคนทั้งสามมาก็เสี่ยงพอดู ไม่รู้ว่าเอมิตากลับบ้านหรือยังเดินห้างต่อ หากถูกจับได้เธอต้องถูกเพื่อนสาวคาดคั้นเป็นแน่ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดีเลยแม้แต่น้อย

ความลับของเธอ จะให้วรินทร์รู้ไม่ได้

นรีกมลเดินตามไปเมื่อคนทั้งสามเดินไปอีกร้าน สายตาจ้องมองใบหน้าสวยของคนเป็นนายที่ดูจะมีความสุขซะจนน่าหมั่นไส้

ใช่สิ! มีผู้หญิงให้ควง แถมผู้ชายยังเดินตามหลังต้อยๆ คอยช่วยถือของให้อย่างกับเจ้าหญิง

นรีกมลรู้สึกราวกับว่าในอกกำลังลุกโพรงไปด้วยเปลวไฟ เธอไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองว่าที่เป็นแบบนี้ มันเกิดจากสาเหตุอะไร…เป็นเพราะเห็นแฟนเก่าไปชอบผู้หญิงคนใหม่ หรือ เพราะรอยยิ้มสวยของคนเป็นนายที่ขยันแจกจ่ายยิ้มให้คนอื่นไปทั่วกันแน่

ความร้อนภายในอกยิ่งประทุขึ้นไปอีกเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ภาพที่วรินทร์เดินไปแบ่งถุงจากภัทรพลเพื่อช่วยถือ ริมฝีปากอวบอิ่มส่งรอยยิ้มอ่อนหวานไปให้ชายหนุ่ม วรินทร์ไม่ได้สนใจพีชญาที่ร้องประท้วงอยู่ข้างตัวเลยแม้แต่น้อย

นรีกมลรู้สึกรักคุณพอร์ชขึ้นมาก็ตอนนี้แหละ

“รินนี่อ่ะ พี่เขาไม่ได้ลำบากซะหน่อย ใช่มั้ยคะพี่ภัทร” พีชญาหันไปถามภัทรพลเสียงหวานเจี๊ยบ

“เอ่อ ครับ ไม่ได้ลำบากอะไรเลยน้องรินทร์ ให้พี่ถือเองดีกว่านะ” ภัทรพลรู้สึกเสียวสันหลังอย่างประหลาดกับน้ำเสียงหวานๆ นั่น จึงยื่นมือไปรับถุงที่เพิ่งส่งให้วรินทร์มาถือไว้อย่างเดิม แต่หญิง
สาวกลับเบี่ยงมือหนี

“รินทร์ถือน่ะดีแล้ว ในเมื่อเจ้าของเขาไม่ยอมถือนี่คะ” ว่าพลางหันมาตำหนิเพื่อนสาวที่ยืนทำหน้าบูด “ในเมื่อพี่ภัทรเป็นพี่ชายรินทร์ จะไปรบกวนได้ยังไง”

คนหน้าบึ้งแอบยิ้มอย่างสมใจยามเห็นภัทรพลหน้าซีด ก่อนจะหันไปกระซิบเบาๆ ให้วรินทร์ได้ยินกันสองคน

“รินนี่ว่าพอร์ชทำไมอ่ะ อุตส่าห์ช่วยกันผู้ชายให้ ทำคุณบูชาโทษชัดๆ”

“รินทร์ให้พอร์ชมาเป็นเพื่อนเพื่อช่วยกันพี่ภัทรก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไปแกล้งพี่เค้า” วรินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เรื่องนี้ให้รินทร์จัดการเองดีกว่า พอร์ชคอยดูอยู่วงนอกแล้วกันนะ”

แม้จะขัดใจ แต่พีชญาก็ยอมรับการตัดสินใจของเพื่อน จึงลากแขนข้างที่ว่างอยู่ของวรินทร์ให้เดินต่อ ปล่อยให้คนมองอยู่มุมไกลต้องขัดใจไปด้วยอีกคน

โทรศัพท์มือถือที่สั่นอีกครั้ง ทำให้ภัทรพลที่มือข้างหนึ่งเป็นอิสระจำต้องหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน เพียงแค่เห็นรายชื่อคนส่ง ชายหนุ่มก็ต้องเงยหน้ามองไปข้างหน้าว่าวรินทร์และพีชญาสนใจตนอยู่หรือไม่ เมื่อเห็นทั้งสองกำลังเพลิดเพลินกับการเลือกเครื่องประดับ จึงรีบเปิดอ่านข้อความแรก

ไนน์จะบอกเรื่องของเราให้คุณรินทร์รู้

ภัทรพลพ่นลมออกมาทางจมูก ชายหนุ่มไม่ได้ตกใจกับข้อความสักเท่าไหร่ เพราะเขาบอกเลิกนรีกมลก่อนที่จะมาจีบวรินทร์ จึงไม่มีความผิดติดตัวที่ต้องปิดบัง

ภัทรพลเลื่อนนิ้วเปิดอ่านข้อความที่สอง

ไนน์รู้ว่าคนที่คุณวรินทร์ชอบเป็นใคร

ข้อความนี้สิน่าสนใจ…

ภัทรพลขมวดคิ้วอ่านข้อความนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ใจจริงอยากรู้ว่าคนที่วรินทร์ชอบเป็นใครมาจากไหน หน้าตา ฐานะ และชาติตระกูลเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้ประเมินสถานการณ์ถูก

นั่นสิ! เขาลืมไปเลย นรีกมลเคยเป็นเลขาของวรินทร์ ย่อมรู้เรื่องนี้เป็นธรรมดา แต่ทำไมเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้ ทั้งๆ ที่รู้จักวรินทร์มาก่อนที่เขาจะบอกเลิก

ยังไม่ทันได้คิดอะไรให้ลึกไปกว่านี้ เสียงแปร่งๆ ของสาวตาหยีก็เรียกให้หลุดจากภวังค์ ภัทรพลจึงต้องรีบเดินไปหาสาวเจ้าเพราะกลัวจะโดนวีนใส่

นรีกมลยิ้มในหน้าเมื่อเห็นท่าทางเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดของอดีตคนรู้ใจ หญิงสาวตัดสินใจไม่เดินตามต่อ เพียงภัทรพลได้อ่านข้อความที่เธอจงใจโยนระเบิดไว้ในใจอีกฝ่ายแล้วก็เป็นพอ

ถ้ารู้ว่าคนที่คุณรินทร์ชอบคือไนน์…พี่ภัทรจะรู้สึกยังไงนะ

ไม่พอใจ เคืองโกรธ หรือเจ็บแค้น

นรีกมลนึกอยากเห็นสีหน้าตอนนั้นของภัทรพลเหลือเกิน



พีชญานั่งแกร่วในห้องทำงานของวรินทร์อย่างเช่นที่เป็นอยู่ประจำ แม้จะได้ย้ายมาห้องที่ใหญ่ขึ้น แต่บรรยากาศโดยรวมก็ยังเหมือนเดิม โดยเฉพาะเจ้าของห้องที่ชอบนั่งทำหน้าเคร่งเครียดท่ามกลางเอกสารและจดจ่ออยู่แต่กับงานในคอมพิวเตอร์พกพา

ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูทำให้วรินทร์ละจากงานและเอ่ยปากอนุญาตให้ผู้มาเยือนเข้ามาได้ พีชญากลอกตาขึ้นมองเพดานอย่างเบื่อหน่าย เธอรู้อยู่แล้วว่าคนที่ไม่ต้องติดต่อขอพบประธานบริษัทกับเปรมจิต เลขาหน้าห้องของวรินทร์คือใคร

ภาคินเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ทันทีที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามเจ้าของห้อง หางตาก็เหลือบไปเห็นคนที่เขาคิดว่าชอบมารบกวนการทำงานของญาติผู้น้อง

“มาอีกแล้วเหรอยัยพอร์ช” ภาคินขมวดคิ้วถามเสียงเข้ม

พีชญาเลิกคิ้วพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงยียวน “แล้วพี่ภาคเห็นว่าพอร์ชมาไหมคะ”

ภาคินจ้องหน้าคนตาหยีนิ่ง ก่อนจะเบนสายตากลับมาสนทนากับวรินทร์ดังที่ได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก ปล่อยให้คนกวนประสาทได้แต่ทำท่าฮึดฮัดอย่างขัดใจ

“ลูกค้าที่คุณชาติคุยงานด้วย จะไม่ยอมเจรจาหากไม่ได้คุยกับรินทร์โดยตรง”

“ทำไมคะ มีปัญหาอะไร”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณชาติโทรมาบอกว่าให้พี่กับรินทร์รีบไปด่วน” ภาคินถอนหายใจอย่างหนักหน่วง

“งั้นเรารีบไปกันดีกว่า” วรินทร์รีบลุกขี้นคว้าเสื้อสูทที่พาดไว้บนเก้าอี้ทำงานขึ้นมาสวมอย่างลวกๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกหน้ามืดจนต้องจับพนักเก้าอี้ไว้ แต่เพียงชั่วครู่ทุกอย่างห็หายเป็นปกติ วรินทร์คิดว่าคงเป็นเพราะการที่เธอลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน

ภาคินเห็นญาติผู้น้องหลับตาแน่นจึงเอ่ยปากถาม “เป็นอะไรรึเปล่า”

“เปล่าค่ะ” วรินทร์ลืมตาแล้วส่งยิ้มบางไปให้ “พี่ภาคลงไปก่อนเลย ขอรินทร์คุยกับพอร์ชสักเดี๋ยว”

ภาคินหรี่สายตาไปมองเพื่อนสาวของเจ้าของห้องที่นั่งกอดอกมองเขายิ้มๆ “อย่านานนักล่ะ รินทร์ก็รู้ว่าลูกค้าเจ้านี้รายใหญ่ เกิดชวดงานนี้ไปเพราะเพื่อนรินทร์ล่ะก็…พี่จะบอกคุณน้าพิมายว่าประธานคนใหม่เห็นเพื่อนดีกว่าบริษัท”

“ค่ะ แป๊บเดียวจริงๆ” วรินทร์ให้ความมั่นใจกับภาคินที่พยักหน้ารับ แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

หลังเห็นอีกคนไปแล้ว พีชญาจึงหัวเราะคิกคักแล้วเอ่ยประโยคล้อเลียน “พี่จะบอกคุณน้าพิมาย…โธ่! ตัวโตอย่างกับยักษ์ยังมีนิสัยช่างฟ้องเหมือนเด็กๆ”

วรินทร์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ “ก็กลับไปทำงานให้แด๊ดสิพอร์ช มัวแต่เอ้อระเหยลอยชายไปวันๆ คนอื่นเห็นเค้าจะมองไม่ดี”

“ช่างเขาสิ!” พีชญาเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “เพิ่งเรียนจบ ก็ขอเวลาได้เที่ยวสนุกก่อนจะต้องตรากตรำทำงานแบบรินนี่…แด๊ดน่ะ เข้าใจพอร์ชอยู่แล้ว”

“แต่การที่พอร์ชมาห้องรินทร์บ่อยๆ นี่ เรียกว่าเที่ยวเหรอคะ หื้ม…”

พีชญาอ้าปากจะเถียงแต่ก็ไม่มีคำพูดโต้แย้งใดๆ หลุดออกมา “รินนี่อ่ะ”

“ถ้าไม่อยากฟังพี่ภาคบ่น ก็หางานหาการทำซะ” วรินทร์เดินมาจับไหล่เพื่อนสาว “พอร์ชจะได้ไม่ว่างมาห้องรินทร์บ่อยๆ ยัยตัวป่วนสิ้นลายล่ะคราวนี้”

วรินทร์ปิดท้ายประโยคด้วยการหัวเราะใส่คนตาหยีที่พยายามทำตาโตใส่ แถมยังหยิกที่แขนเธอจนต้องเปลี่ยนจากเสียงหัวเราะเป็นร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดแทน

“หึ! รีบไปเลย เดี๋ยวพี่ภาคของรินทร์ก็โทรมาจิกหรอก” วรินทร์ยิ้มให้เพื่อนสาวแล้วรีบเดินออกไปจากห้องทันที

พีชญาที่ไม่รู้จะอยู่ในห้องที่มีแค่เธอคนเดียวไปอีกทำไม จึงคว้ากระเป๋าสะพายบนโซฟา แล้วเดินไปยังจุดมุ่งหมายใหม่ที่ตั้งใจไว้

...ห้องรองประธานบริษัท

ตอนใกล้จะถึงห้อง เสียงสนทนาที่ไม่เบานักทำให้พีชญาต้องรีบเดินเข้าไปหาที่มาของเสียง

คุยอย่างกับทะเลาะกันเลยแหนะ

“…บอกมาเลยดีกว่า” เสียงผู้ชายฟังคุ้นหูจบลงพร้อมกับพีชญาที่เดินเลี้ยวผ่านหัวมุมมาถึงห้องพอดี

“บอกอะไรคะพี่ภัทร” พีชญาหรี่ตามองภัทรพลที่ยืนเอามือค้ำโต๊ะทำงานของเลขารองประธาน

ประโยคนั้นเรียกสีหน้าตกใจของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อภัทรพลรู้ตัวว่าเผลอทำกิริยาที่ไม่เหมาะสมจึงรีบปรับสีหน้าแล้วยืดตัวขึ้นยืนตรง

“พี่ถามคุณ…เอ่อ คุณเลขา คุณชื่ออะไรนะ”

“นรีกมลค่ะ”

“ใช่ พี่ถามคุณนรีกมลว่าห้องทำงานของน้องรินทร์อยู่ที่ไหน”

ทำไมภัทรพลถึงมายืนหลงอะไรอยู่ตรงนี้ ห้องทำงานของเพื่อนเธอก็อยู่ชั้นเดียวกัน ห่างกันไม่ไกล พนักงานข้างล่างก็น่าจะบอกแล้ว

แม้จะไม่เชื่อในสิ่งที่ภัทรพลบอก แต่พีชญาเลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้แล้วส่งยิ้มไปให้คล้ายจะไม่ใส่ใจ

“เดินตรงไปแล้วเลี้ยวผ่านหัวมุมนี้ก็เจอแล้วค่ะ” พีชญาชี้ไม้ชี้มือประกอบ

“อ่อ ขอบคุณครับ” ภัทรพลลูบท้ายทอยแก้เก้อ “งั้นพี่ไปหาน้องรินทร์ดีกว่า”

“เดี๋ยวค่ะ รินนี่เพิ่งออกไปหาลูกค้าเมื้อกี้นี้เอง”

ภัทรพลชะงักแล้วหยุดยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้พูดอะไร พีชญายิ้มหวานแล้วมองหน้าชายหนุ่มกับอดีตเลขาของเพื่อนสลับกันไปมาเหมือนจะค้นหาอะไรบางอย่าง

“ว่าจะมาคุยเล่นกับคุณเลขาซะหน่อย” พีชญาเอ่ยอย่างเสียดาย “แต่ไม่รบกวนดีกว่า ดูท่าจะงานยุ่งนะคะ คุณนรีกมลถึงได้ไม่ยอมละออกจากงานเลย”

นรีกมลเลยหน้าขึ้นมายิ้มบางโดยไม่ได้เอ่ยปฏิเสธแต่อย่างใด ในขณะที่ภัทรพลก้มหน้าลงมองพื้น พลางขมวดคิ้วเป็นปมอย่างคนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดสินใจได้ว่าตัว
เองควรแสดงความบริสุทธิ์ใจให้เพื่อนของวรินทร์เห็น ดูก็รู้ว่าคนตรงหน้าไม่เชื่อคำพูดก่อนหน้าของเขาแม้แต่น้อย และที่สำคัญวรินทร์และพีชญาต่างไม่มีความลับต่อกัน เรื่องที่เขามาหานรีกมลถึงที่นี่ย่อมลอยไปถึงหูของวรินทร์อย่างแน่นอน

ถ้าเพียงแต่นรีกมลยอมรับโทรศัพท์จากเขา เท่านี้ก็ไม่ต้องทนสงสัยจนถึงขนาดต้องถ่อมาหาถึงที่ทำงาน

“ไม่ต้องรบกวนคุณนรีกมลหรอกครับ พี่มีเรื่องจะปรึกษาน้องพอร์ชพอดี…เรื่องน้องรินทร์น่ะ”

“คุยตรงนี้ก็ได้ค่ะ คุณเลขาก็พอรู้เรื่องของรินนี่อยู่บ้าง…ใช่มั้ยคะ” ท้ายประโยคพีชญาหันไปขยิบตาให้คนที่ถูกเอ่ยถึง

นรีกมลยิ้มในหน้า ก่อนจะพยักหน้ายอมรับ “บางทีอาจจะรู้มากกว่าที่คุณพอร์ชคิดไว้ก็ได้นะคะ”

“หืม…” พีชญาครางในลำคอแล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

ดูติ๋มๆ แต่จริงๆ ก็ร้ายเหมือนกันนะเนี่ย…

“น้องพอร์ชใส่ส้นสูงหนาขนาดนั้น ยืนคุยตรงนี้จะเมื่อยเอานะ พี่ว่าไปนั่งคุยกันที่ร้านอาหารแถวนี้ดีกว่า พี่จะได้เลี้ยงข้าวน้องพอร์ชตอบแทนไปด้วยดีไหมครับ”

พีชญาเห็นสายตาส่อแววขอร้องของเขาแล้ว จึงรู้ว่าต้องเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้เป็นแน่ และเธอก็ไม่เห็นเป็นการเสียหายอะไร จึงตอบตกลงแต่โดยดี

ก่อนจะไปพีชญาลอบหันไปมองดวงหน้าหวานของคนเป็นเลขา ความหวาดระแวงในนัยน์ตาทำให้เธอรู้สึกสงสัย แม้จะทำเหมือนไม่รู้จักกัน แต่เซนส์ของเธอมันบอกว่า ยังไงๆ สองคนนี้ต้องมีลับลมคมในกันแน่นอน

ถึงไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ถ้ารู้ว่าเกี่ยวกับวรินทร์ล่ะก็…

พีชญาไม่ลังเลที่จะกระโจนเข้าไปจัดการปัญหาด้วยตัวของตัวเองแน่นอน




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.