Chapter 2 : ผู้หญิงที่สวยที่สุดแอนนาเบลล์ยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในขณะที่มีเด็กน้อยนั่งมองอย่างสงสัยอยู่ในรถเด็กของเขา อิซซาเบลคงกำลังแปลกใจว่าหม่ามี๊กำลังทำอะไรอยู่ ถือชุดนั้นทีถือชุดนี้ที เอามาทาบตัวเองอยู่ในกระจกอยู่ได้ นานแล้วนะ ทำไรเนี่ย.. ทำไมไม่มาเล่นด้วยอ่ะ หม่ามี๊...
“อิซซี่คะ แย่แล้วอ่ะ หม่ามี๊สวมชุดเก่าไม่ได้ ทำไงดี..” สาวตัวเล็กบ่นขึ้นมากับลูกสาวทำราวกับเขาเข้าใจ เธอยิ้มเมื่อเห็นเจ้าตัวน้อยทำหน้างงๆ ความเอ็นดูยังคงมีอยู่เสมอถึงจะหงุดหงิดอยู่เล็กๆ แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับลูกนี่นา..
“หม่ามี๊อ้วนเองเนอะ ทำไงได้ ไม่เกี่ยวกับหนูสักหน่อยเนอะ” เธอพูดกับลูกและก้มลงอุ้มเขาออกมาจากรถเข็น หอมแก้มหอมของเด็กทารกวัยสี่เดือนและเขย่าร่างน้อยๆเบาๆทำให้เขาเพลินและปล่อยให้ซบบ่าเธออย่างที่ชอบ เธอหายอาการเซ็งกับหุ่นตัวเองที่กำลังกังวลอยู่ไปได้เล็กน้อยเมื่อได้ลูกน้อยดึงความสนใจ หากแต่พอหันไปเห็นกองเสื้อผ้าที่วางอยู่บนเตียงนอนก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง อารมณ์มันกลับมา
“โกรธแล้วนะราเชล ไม่เตือนกันเลยว่า ฉันกำลังจะกลายเป็นหมู” บ่นงึมงำในลำคอเพราะเธอเครียด
เพราะเธอลืมคิดไปว่า หลังคลอดลูกแล้วนอกจากจะดูแลเลี้ยงลูก เธอต้องดูแลร่างกายตัวเองควบคู่ไปด้วย กินอาหารเสริมเพิ่มน้ำนม กินแคลเซียมเพื่อทดแทนที่ลูกดึงเอาไประหว่างท้อง และอื่นๆอีกหลายอย่างที่ควรทำ ออกกำลังกายให้รูปร่างกลับมาเฟิร์มเหมือนเดิมเหมือนก่อนที่จะท้อง ตอนที่จะใส่ชุดออกงานไหนๆกับราเชลจะได้ทำได้อย่างไม่อายใคร ไม่อายว่า แค่มีลูกคนเดียวก็กลายเป็นยัยหมูพะโล้แบบนี้ แต่สรุปแล้วที่เธอทำได้ ก็แค่กินอาหารเสริมพวกนั้นแต่ไม่มีเวลาจะกระชับหุ่น และนั่นก็เพราะความผิดคุณคนเดียว..ราเชล.. เพราะคุณไม่เตือนฉัน!
“ฉันเบื่อจริงๆเลย ที่คุณชอบปกป้องฉันแบบที่ไม่ควรจะปกป้อง” หญิงสาวครางขึ้นมาอย่างอ่อนใจ ดวงตาซึมๆมองลูกน้อยที่นอนเล่นบนเตียงของเธอกับคู่ชีวิต รอบตัวเขามีเสื้อผ้าที่เธอรื้อมาจากตู้หลังใหญ่เต็มไปหมด เสื้อผ้าที่เธอใส่แล้วไม่ได้ออกมาเหมือนที่เคยเป็นก่อนหน้านี้ ก่อนที่เธอจะมีเบบี๋...
ปกติก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่กับเรื่องเสื้อผ้า ก็ส่วนใหญ่อยู่แต่บ้าน เลี้ยงแต่ลูก ราเชลไม่ให้เธอออกไปไหน เพราะถ้าเธอไป หมายความว่าลูกก็ต้องไปด้วย แน่นอนเพราะอิซซาเบลยังเล็กมาก ยังต้องการเธอ ถึงจะดื่มนมผงสำหรับเด็กทารกได้บ้างแล้วแต่หากได้ดื่มจากอกเธอมันย่อมจะดีกว่า และเธอก็อยากให้เขาดื่มด้วย เพราะน้ำนมจากเต้าเรามีฟาร์มของเธอ มันมีมากจนอาจจะเรียกได้ว่ามากเกินไป หากไม่มีใครมาช่วยจัดการเอามันออกไปบ้าง เธอจะต้องเจ็บมากแน่ๆ มันคัด..
เหตุที่เป็นแบบนี้ เนื่องจากตอนแรกกลัวว่าจะไม่มีน้ำนมให้ลูกดื่ม จึงเที่ยวหาอาหารเสริมที่จะช่วยให้ร่างกายผลิตมันมาทานเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม แต่พอเอาเข้าจริงมันกลับมีมากเกินไป ลูกเกือบจะกินไม่ไหวต้องปั๊มเก็บใส่ตู้เย็น และมันก็จึงเป็นเหตุผลที่เธอไม่ค่อยได้ออกไปไหนนอกจากไปซื้อของใช้ให้ลูกที่ซุปเปอร์ฯ จะไปเที่ยวเปิดเสื้อให้นมลูกก็คงไม่ไหว อายเขาตายสิ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคืองานส่วนที่เธอรับผิดชอบ สาวบลอนด์ที่รักของเธอหอบมาให้ทำที่บ้าน เอาไว้ทำเวลาว่างจากเจ้าตัวน้อย เวลาที่เขาหลับ ความจริงหล่อนไม่ได้อยากให้เธอทำงานแล้ว อยากให้เลี้ยงลูกอย่างเดียว แต่เธอหรือจะยอม เธอไม่มีทางยอมจะให้หล่อนทำงานคนเดียวหรอก ไม่ยุติธรรม อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยๆกันสิ แต่เพราะไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ชุดที่ใส่เลยไม่ได้อยู่ในความสนใจ พอจะใช้ทีก็ถึงกับอึ้ง.. มันใส่ไม่ได้..อ้วน..
“หม่ามี๊รู้นะคะว่า ลูกคงไม่เข้าใจหรอก และไม่ใช่ความผิดของลูกด้วย ปะป๊าลูกต่างหากที่ผิด เค้าชอบโกหก..” แอนนาเบลล์ก้มซบหน้าลงกับพุงน้อยๆของลูกสาว หวังให้กลิ่นหอมละมุนและความอบอุ่นที่ได้จากเด็กทารกทำให้ความรู้สึกตอนนี้ดีขึ้น และหลังจากนี้เธอจะได้ตัดสินใจว่าจะออกไปซื้อเสื้อผ้าใหม่มาแทนของเก่าที่อาจจะต้องโละทิ้งลงถังขยะหรือเอาไปบริจาค หรือจะหันไปออกกำลังกายกระชับรูปร่างดี หรือจะเอาแบบเร็วคือกินยาลดความอ้วน แต่อย่างหลังเธอทำไม่ได้แน่นอน เมื่ออิซซาเบลยังทานน้ำนมจากเต้าอยู่แบบนี้ เธอกินอะไร เขาก็กินด้วย กินอะไรก็ต้องระวัง...
งั้นก็คงต้องซื้อชุดใหม่หมดแล้วล่ะ อีกไม่กี่วันจะต้องออกงานพร้อมราเชลแล้วเนี่ย จะไปลดทันได้ยังไง แต่ไม่ไปได้ไหมล่ะ ไม่อยากเลย... มันเป็นข้อเสียของผู้หญิงจริงๆ ไม่สวย ไม่พร้อม ไม่มั่นใจ ใครจะไปหุ่นดีเหมือนชีล่ะ ท้องก็ไม่เคยท้อง แถมทำงานนอกบ้านตลอดด้วย เดินไปเดินมา จะเอาเวลาที่ไหนมาอ้วนเหมือนฉัน!
“เบลล์เล่นอะไรเนี่ย เสื้อผ้าออกมาจากตู้ได้ไง..” ราเชลถามตกใจเมื่อเข้ามาเห็นสภาพห้องนอนที่ตอนนี้เหมือนกลายเป็นร้านขายเสื้อผ้าที่ยังไม่ถูกจัดให้เป็นระเบียบ หรือไม่ก็คล้ายๆห้องนอนของเธอกลายเป็นมุมขายเสื้อผ้าลดราคาที่มักจะกองสุมกันอยู่ในกระบะ รอเวลาให้คนมาเลือกซื้อ แต่นี่มันคือเสื้อผ้าที่ผู้หญิงคนนั้นที่นอนนิ่งคว่ำหน้าอยู่บนตัวของเด็กน้อยที่นอนแกว่งมือดุ๊กดิ๊กเล่นอยู่บนเตียงตรงหน้าเธอไม่ใช่หรือไร มันไม่ใช่เสื้อผ้าเกรดต่ำหรือหลุดเทรนด์ที่เอามาโละขาย มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่..
“เบลล์-----”
“ฉันเกลียดคุณ..ราเชล”
คนโดนเหวี่ยงไม่รู้อิโหน่อิเหน่ยืนอึ้ง ราเชลกระพริบตาพยายามตั้งสติ “เธอพูดว่าอะไรนะ เกลียดฉัน.? เรื่องอะไร เรื่องพริงเกิ้ลที่ฉันป้อนเธอเมื่อวานเหรอ”
คราวนี้แอนนาเบลล์เป็นคนนิ่งไปบ้าง สมองรีบทบทวนว่าเมื่อกี้พูดอะไรออกไป เธอบ้าไปแล้วที่พูดกับคู่ชีวิตแบบนั้น ราเชลไม่ได้ทำอะไรผิด นอกจากเรื่องที่หล่อนไม่ยอมบอกว่า..เธออ้วน..
แต่นี่แหละที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดล่ะ..
คนตัวเล็กดึงตัวเองขึ้นมาจากพุงน้อยของลูกสาว มองตาขวางไปที่ปะป๊าของเขาที่ยังทำหน้างง สงสารหล่อนนะ แต่โกรธมากกว่า..
“เรื่องนั้นก็ด้วยค่ะ แต่เรื่องที่ใหญ่กว่า คือคุณเป็นคนทำให้ฉันต้องทำห้องนอนรกแบบนี้”
คนสมองดีเริ่มใช้มันให้เป็นประโยชน์และพอคิดออกว่าอีกคนหมายความว่ายังไง เธอก็ทำตาโต “โอ้.. เธอคิดมากไปแล้วเบลล์!” ร่างสูงรีบถลามานั่งข้างๆสุดที่รักทันที สองแขนยาวกางออกตั้งใจจะรวบตัวอีกสาวมากอดปลอบอย่างเคย แต่ผิดหวังเมื่อหล่อนถอยหนี ส่งสายตาพิฆาตให้มองตาค้าง
“ฉันถามคุณหลายครั้งแล้วนะว่า ฉันอ้วนไปไหม ฉันน่าเกลียดไหม คุณก็บอกแค่ว่า ฉันโอเคแล้ว แต่ที่แท้.. คือคุณหลอกฉัน คุณโกหก!” มือบางชี้ไปตามกองเสื้อผ้าที่เกะกะเต็มห้อง ตาที่มองอีกคนยังมีเปลวไฟ “แล้วดูนั่น เสื้อผ้าพวกนั้น ฉันใส่ไม่ได้แล้ว เพราะมัน ฉันถึงรู้ความจริง!”
แต่แทนที่จะทำหน้าซีดหรือโกรธเธอตอบกลับมา สาวบลอนด์ตรงหน้ากลับนั่งยิ้ม ส่ายหน้าน้อยๆ หล่อนหันไปอุ้มลูกน้อยที่นอนแผ่ มองนู่นนี่ไม่รู้เรื่องของผู้ใหญ่ขึ้นมานั่งตัก ท่าทางเหมือนไม่สนใจที่เธอพูดสักนิด หรือมันไม่สำคัญ...
“ราเชล.. คุณทำไม---”
“ฉันพูดแบบนั้น เพราะสำหรับฉัน เธอสวยที่สุด เธอเป็นผู้หญิงที่สวยพอๆกับแม่ของฉัน สวยที่สุดของอิซซี่”
ดวงตาสองสีมองจ้องกันเมื่อหล่อนมองเธอด้วยรอยยิ้มที่ไม่เคยต่างไปจากเดิม และตอนนี้เองที่เธอเริ่มเข้าใจความหมายของสิ่งที่หล่อนพูด
“ผู้หญิงที่เป็นแม่ สวยที่สุดสำหรับลูกเสมอ เพราะเธอเหล่านั้น ยอมเสียสละอะไรหลายๆอย่างในชีวิต เพื่อสร้างเขาให้เกิดขึ้นมา..” ดวงตาอ่อนโยนของราเชลมองลงหาเด็กน้อยบนตัก จูบหน้าผากเขาและพูดต่อ “และเธอสวยสำหรับฉัน เพราะถ้าไม่มีเธอ ไม่มีความเสียสละของเธอ ชีวิตบริสุทธิ์นี้คงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ให้ฉันรัก เราคงไม่ได้มีลูกด้วยกัน”
แอนนาเบลล์เริ่มรู้สึกถึงก้อนน้ำตาที่ลำคอ เธอน่าจะรู้ว่าหล่อนคิดอะไร รู้สึกเสียใจกับอารมณ์งี่เง่าที่ไม่น่าจะเกิด เธอเลือกเองแท้ๆ เธออยากจะเป็นแม่คน..
“ฉันขอโทษ.. และขอบคุณที่คุณเห็นฉันแบบนั้น แต่ฉันก็อดจะโกรธไม่ได้ พอนึกถึงว่าจะทำให้คุณอายเวลาเดินไปกับฉันในงาน เพราะฉันน่าเกลียด คุณน่าจะบอกความจริงกับฉัน ไม่ใช่บอกเรื่องที่คุณคิด”
สาวบลอนด์ยังยิ้มอยู่ขณะพาตัวเองกับลูกมาใกล้แม่ของเขา แอนนาเบลล์มองหน้าอีกคนแปลกใจ และอดจะยิ้มไม่ได้เมื่อเสียงใสๆนุ่มๆพูด
“อิซซี่ขา.. ลูกมองหม่ามี๊สิคะ หม่ามี๊สวยมั้ย.. หม่ามี๊สวยที่สุดในโลกเลยเนอะ ไม่มีใครสวยเท่าหม่ามี๊ของเราอีกแล้ว”
หล่อนเอามือน้อยๆของลูกมาลูบแก้มเธอ พาให้ยิ้มทั้งน้ำตาคลอแต่ไม่วายจะขอบ่น “ยังจะสอนให้ลูกโกหกอีกเหรอ.. ฉันพูด คุณไม่ฟังเลยหรือไงราเชล”
“โกหกที่ไหนล่ะ พูดเรื่องจริงทั้งนั้น เธออ้วนตรงไหนเหรอ บอกหน่อยสิ ตัวเล็กนิดเดียว” ราเชลถามยิ้มๆ ทำส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองดูหุ่นของภรรยา พาให้คนถูกมองนั่งเขินหน้าแดง แอนนาเบลล์รีบยกสองแขนมาปิดหน้าอกเพราะรู้ว่ามันเป็นจุดที่ถูกจ้องมากที่สุด “หรือว่า ที่เธอบอกว่าใส่ชุดพวกนั้นไม่ได้ เพราะ....มันใหญ่ขึ้น แต่ก็ไม่แปลกนะ เพราะปกติมันก็ใหญ่อยู่แล้ว มาให้อิซซี่เล่นอีก มันก็ต้อง......”
“ทะลึ่ง!” มือบางคว้าหมอนมาดันหน้าคนพูดให้หยุดก่อนที่หล่อนจะทำให้เธออายมากกว่านี้ เอาเรื่องจริงมาล้อได้ยังไง ฉันอึ๋มแล้วไง คุณก็ชอบนี่นา..คนบ้า.. เธอคิดจะพูดแต่ที่ทำคืออุ้มลูกสาวออกจากมือหล่อน “เอาอิซซี่มาเลย ได้เวลาแล้ว และถ้าคุณว่างและใจดีพอก็เก็บของให้ด้วยนะ”
คนโดนหมอนตีนั่งหัวเราะ เอามาหมอนมากอดแทนลูกสาวที่โดนแย่งไป ยังอยากกอดเขาอยู่แต่ก็ได้เวลาจริงๆอย่างที่แอนนาเบลล์บอก เจ้าตัวน้อยต้องทานนมแล้ว นมจากเต้าด้วย ก็ไอ้ที่เธอล้อแม่เขาอยู่เมื่อกี้ไง...
“คิดมากไม่เลิกเลย..เบลล์ของฉัน” ราเชลพึมพำยิ้มๆ และยกหมอนที่กอดอยู่มาหอมไปหนึ่งฟอด ให้พอได้กลิ่นของสุดที่รัก ก็นี่หมอนของเบลล์.. นำมันไปเก็บเข้าที่และเริ่มลงมือจัดการกับเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเต็มห้อง บอกตามตรงนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่เธอทำแบบนี้ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยต้องทำงานบ้านมากขนาดนี้เลย กับชีวิตของคุณหนูของบ้านกิลเบอร์ก แต่กระนั้นที่ทำตอนนี้ก็เต็มใจ ก็ฉันรักเค้านี่...
ดวงตาสีฟ้ามองพิจารณาชุดหนึ่งของภรรยาก่อนที่จะนำมันใส่ไม้แขวน และเธอเห็นแล้วถึงสิ่งที่แอนนาเบลล์กำลังกังวล “เอิ่ม.. เมื่อก่อนเบลล์ตัวเล็กกว่านี้จริงๆด้วยแฮะ” สาวบลอนด์ตกใจกับความจริงข้อนี้ที่เพิ่งเจอ แต่สักพักเธอก็ยิ้มกับความคิดใหม่ที่น่าสนใจกว่า “แต่ถึงจะตัวใหญ่ขึ้น ก็ไม่ได้อ้วนนี่นา แบบนี้สิ เขาถึงเรียกว่ามีน้ำมีนวล เมื่อก่อนผอมไป” พูดอยู่คนเดียวแล้วก็หัวเราะขำกับที่ตัวเองพูด แต่มันก็เรื่องจริง แอนนาเบลล์ตอนนี้ดูเปล่งปลั่งกว่าแต่ก่อน คงเพราะอ้วนขึ้น..
ราเชลส่ายหน้ายิ้มๆและเก็บของต่อไป เก็บเสร็จแล้วจะได้ตามไปหาภรรยากับลูกสาวสุดที่รักที่แอบไปหม่ำๆกันที่ห้องของเขาที่เป็นห้องของเขาจริงๆ แอนนาเบลล์ชอบพาลูกไปนั่งเล่น นอนเล่นที่นั่นเป็นครั้งคราวเพราะต้องการจะหัดให้ลูกสาวที่อีกไม่นานต้องแยกห้องออกไปได้คุ้นเคยกับห้อง ไม่ร้องงอแงเวลาต้องอยู่คนเดียวกับตุ๊กตาและเครื่อง Baby Monitor
“เฮ้อ..เสร็จ” แม่บ้านกิตติมศักดิ์ถอนหายใจโล่ง ยืนชื่นชมผลงานตัวเอง มองดูเสื้อผ้าที่กลับไปแขวนไว้เป็นระเบียบในตู้เสื้อผ้า สักพักก็หันหลังให้มันและเดินจากไป จำได้ว่า เธอต้องไปวางแผนที่จะทำให้คุณแม่ตัวเล็กมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ว่าคนที่สวยที่สุดของเธอ ก็คือหล่อนคนเดียว..
..............................................
มันเป็นงานราตรีของคนสีม่วงหรือไร จะมองไปทางไหนก็มีแต่ผู้หญิง และเธอยังรู้สึกว่าตัวเองถูกมองด้วยสายตาที่รู้เลยว่าหมายความว่าอย่างไร พวกสาวๆคล้ายจะเห็นเธอเป็นขนมหวานไปแล้วหรือถึงได้มองแล้วบางคนถึงกับมีอาการเลียริมฝีปากตัวเอง ราวกับหิวอะไรสักอย่าง แต่อย่าบอกนะว่าจะกินฉัน ฉันมีลูกแล้ว..
“ไฮ..เม็ท ฉันไม่อยากเชื่อ เธอกลัวสาวๆที่นี่” เสียงใสๆที่ทักทายนี้พาให้คนฟังยิ้มโล่งใจ เธอมีพวกแล้ว ไม่ได้อยู่คนเดียวท่ามกลางหมาล่าเนื้อทั้งฝูง...
“เฮ้.. ถ้าที่นี่มีผู้หญิงสาวๆน่ารักๆ แทนพวกฮายีน่า ฉันจะยินดีมากเลยนะราเชล” เม็ทธานีส์ตอบเสียงดังอย่างไม่เกรงใจ พาให้อีกคนส่ายหน้า นึกสงสารสาวๆรอบๆที่พากันหน้าซีดหน้าเสียและเฉดตัวออกไปจากตรงนี้กันหมด คงเศร้าน่าดูที่ถูกเลสตัวแม่วิจารณ์ซะเสียหาย คนอะไรใจร้ายจริง
“เธอก็พูดเกินไป พวกหล่อนอาจจะแค่อยากมาทำความรู้จักเธอเท่านั้นแหละ หรือไม่ก็อยากจะมาอยู่เป็นเพื่อน เห็นอยู่คนเดียว” ราเชลออกความเห็นแต่สาวลูกครึ่งอังกฤษ-ญี่ปุ่นกลับส่ายหน้าไม่สนใจ พาให้แปลกใจ “ตอนแรกนึกว่าจะชอบซะอีก ถึงได้ชวนมา”
“โอ้.. อย่าบอกนะว่า งานคืนนี้มีแต่พวกแบบนี้หมด ที่เธอบอกฉันมันเป็นงานเปิดตัวโครงการใหม่ในปราสาทคอมเพล็กซ์ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่งานชุมนุมพวก---”
“เปล่าๆ อย่าเข้าใจผิดสิ มันก็งานที่ฉันบอกนั่นแหละ แต่พักนี้ไม่รู้เป็นอะไรเวลาฉันจัดงานอะไรขึ้นมา ก็เหมือนดูดสาวๆให้มากันเพียบ ผู้ชายน้อยกว่า ที่มาก็มาเพราะสนใจงานโชว์จริงๆ พวกมาเก็บบรรยากาศก็มีบ้างแต่ก็น้อย” เจ้าของงานบอกตามตรงด้วยความงงแต่อีกคนยิ้มเหมือนเข้าใจ “ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงอ่ะ”
เม็ทธานีส์จิบเครื่องดื่มตัวเองก่อนไม่ยอมตอบคำถาม เห็นคนรอเริ่มหน้านิ่วก็ยิ้มกว้างขึ้นอีก “นี่ไม่รู้จริงๆเหรอว่า ทำไมพวกฮายีน่าพวกนั้นชอบมางานเธอ” ถามไป คนฟังก็ส่ายหน้ากลับมาพาให้ต้องส่ายหน้าขำ แต่คราวนี้ต้องรีบพูดก่อนจะโดนเหวี่ยงจากเจ้าภาพช่างวีน สรรพคุณนี้ยังอยู่คู่กับหล่อน “เพราะเธอเป็นแบบพวกเค้าไง พวกเค้าเลยมา เผื่อว่า อาจจะโชคดีได้เพื่อนๆของเธอที่ก็น่าจะเป็นแบบเธอไปควงเล่น สาวเลสนักสนุกก็เป็นแบบนี้แหละ เธอไม่รู้หรือไง..”
ราเชลกระพริบตากับคำอธิบายและพบว่าเธอพูดได้แค่คำว่า “โอ้” เท่านั้น ดวงตาสีฟ้าหันกลับไปมองกลุ่มสาวๆที่เพื่อนจากต่างแดนเรียกฉายาจนเสียภาพพจน์ และก็เริ่มจะมองเห็นเหมือนกับที่เม็ทธานีส์บอกจริงๆ
“แล้วเธอล่ะ เธอไม่คิดอยากจะควงพวกนั้นเล่นบ้างเหรอ ระหว่างที่ซิลเวียไม่มีทางจะรู้เห็นแบบนี้ และฉันก็ไม่ใช่คนปากโป้งด้วย” สาวบลอนด์คนสวยถามลองเชิง เธอเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้ากลับมา เชฟใหญ่ดูเหมือนจะสนใจแค่เครื่องดื่มที่อยู่ในมือหล่อนเท่านั้น แต่ไม่ใช่...
“ถึงเค้าไม่รู้ ฉันก็ทำไม่ลง นึกถึงเวลาที่เค้าอาจจะรู้สักวัน แล้วฉันสงสาร เค้าอุตส่าห์ไว้ใจให้ฉันมาคนเดียว ถ้าเป็นทีน่า ไม่ยอมนะ ถ้ายอมก็จะโทรจิกตลอดเวลา แต่กับซิลเวียไม่ใช่ เค้าให้เกียรติ เค้าไว้ใจ และฉันจะไม่ทำให้เค้าผิดหวัง”
คนฟังนิ่งอึ้งไปสักพักแล้วก็ยิ้ม ยกเครื่องดื่มตัวเองขึ้นมาขอชนกับคู่สนทนา เหตุเพราะว่าหล่อนตอบได้ถูกใจ แทบไม่คิดว่าจะได้ยินแบบนี้ ราเชลจิบเครื่องดื่มและมองดูอะไรในงานไปเรื่อยเปื่อยรอเวลาที่งานจะเริ่มอย่างเป็นทางการและจะได้ขึ้นเวทีไปพรีเซ็นต์งาน จากนั้นจะได้ขอตัวกลับที่พัก คิดถึงคนที่บ้านเต็มทีแล้ว
ในที่สุดแอนนาเบลล์ก็ไม่ยอมมางานนี้จริงๆ แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องอ้วนและไม่มีชุดใส่ มันเพราะไม่มีใครดูเจ้าตัวเล็ก ทุกๆคนมางานกันหมด ซอนย่าก็อยู่นั่นเป็นพิธีกร ลอร่าก็เป็นคนประสานงานของงานนี้ ไม่มีใครว่างสักคน ครั้นจะปล่อยลูกไว้กับพี่เลี้ยง หล่อนก็ไม่ยอม สุดท้ายเธอก็ฉายเดี่ยว..
“ฉันเพิ่งรู้ว่า.. ใครๆก็สวยไม่เท่าซิลเวียของฉันก็งานนี้เอง” เสียงพึมพำแทรกเสียงดนตรีเบาๆในงานพาให้คนเหม่อหันไปมองหน้าคนพูด หล่อนยิ้มเหมือนเข้าใจว่าคนฟังกำลังงง “เรื่องจริงนะราเชล เมื่อก่อนฉันเจ้าชู้มาก เห็นใครก็สวยก็อยากได้ แต่ตอนนี้คนละเรื่องเลยล่ะ”
“เพราะซิลเวียเหรอ..”
เม็ทธานีส์ยิ้มพยักหน้ารับแต่พูดเสริม “ตอนนี้เพราะซิลเวีย แต่เมื่อก่อนเพราะทีน่า ฉันเลยสรุปเอาเองว่า เพราะรัก เลยเห็นคนของตัวเองสวยที่สุด”
ราเชลยิ้มขำกับข้อสรุปที่ดูมั่วๆและเข้าข้างความคิดตัวเองของเพื่อน “โอ้..ก็ฟังดูเข้าท่านะ พอเป็นเหตุผลได้ว่า ทำไมสาวพวกนั้นถึงต้องกินแห้ว ที่แท้ไม่มีใครสวยเลยในความคิดเธอตอนนี้”
“ใช่แล้ว.. หรือเธอไม่คิดแบบนั้น มีใครที่นี่สวยกว่าแม่ของอิซซี่บ้างล่ะ ตอบได้ไหม..” สาวสำเนียงอังกฤษจ๋าถามท้าทาย เป็นไปตามคาด คนโดนถามส่ายหน้ากลับมา ยิ้มและหันไปจิบเครื่องดื่ม ดูไม่ค่อยสนใจสิ่งแวดล้อมเท่าใดนักและเธอรู้ว่าเพราะอะไร ก็เคยเป็นมาก่อน..
เม็ทธานีส์มองอีกสาวอย่างพิจารณาและส่ายหน้าให้กับสีหน้าแห่งคำถามเวลาที่หล่อนหันมามองสงสัย แต่ในใจเธอคิด..
เธอโชคดีที่ได้เจอคนที่ใช่เร็วกว่าคนอื่นนะราเชล.. ช่วยรักษาเค้าเอาไว้ให้นานๆ ฉันจะคอยลุ้นด้วยคน.. ให้เธอได้อยู่กับคนที่สวยที่สุดของเธอได้ตลอดไป...
.......................................
อ่านมาลงต่อค่ะ ยังย้ายมาจากบอร์ดเก่าไม่หมดเลย เยอะๆ