Chapter 3 (continued...)“คุณชอบฟังเพลงแนวนี้เหรอ” ดาราหน้าหวานถามคนที่นั่งข้างๆ หลังจากเพลง Gonna Fly Now เพลงประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง Rocky จบลง
“เปล่า” สาวเซอร์ตอบสั้นๆ “ก็แค่รู้ว่ามีงานก็เลยมานั่งฟังเฉยๆ”
“เหรอ”
กี้ลุกขึ้นยืนหลังจากนั่งฟังเพลงไปอีก 2 – 3 เพลง ดาราสาวกำลังจะชันตัวลุกตามแต่กลับถูกอีกฝ่ายโยนกระเป๋าสะพายให้แล้วพูดว่า
“ฝากแป๊บ เดี๋ยวมา” แล้วเธอก็เดินจากไป
พักใหญ่ต่อมาสาวเซอร์ก็เดินกลับมานั่งอีกครั้งพร้อมกับถุงจากร้านสะดวกซื้อติดมือมาด้วย เธอยื่นขวดน้ำขวดหนึ่งให้กับวีนัส แล้วก็ยื่นถุงจากร้านสะดวกซื้อให้
“ไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไร เลือกเอาเองก็แล้วกัน” กี้ว่าแล้วเธอก็นั่งเคี้ยวสโมกกี้ไบร์ทตุ้ยๆ
วีนัสหัวเราะกับภาพที่เห็นตรงหน้าแล้วก็หยิบถุงขนมขึ้นมาถุงหนึ่ง เธอพยายามจะแกะแต่ก็แกะไม่ออกจนอีกฝ่ายดึงออกจากมือไปแล้วแกะให้
“อ้ะ”
“ขอบคุณนะ” ดาราหน้าหวานพูดแล้วก็ลงมือกินขนม
สองสาวนั่งฟังเพลงไปแบบเงียบๆ โดยที่วีนัสนั่งกอดกระเป๋าของกี้อยู่ด้วย จนกระทั่งงานใกล้จะจบลง สาวเซอร์ปรบมือดังลั่นเมื่อได้ยินเสียงอินโทรของเพลง Can’t Buy me Love ของ The Beatles
“I don't care too much for money, money can't buy me love (ฉันไม่แคร์เรื่องเงิน เพราะเงินซื้อความรักจากฉันไม่ได้) wowwww”
กี้ร้องตามนักร้องรับเชิญพลางโยกตัวตามจังหวะเพลงไปด้วย ดาราหน้าหวานที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็หัวเราะแล้วก็โยกตัวตามอีกฝ่ายที่กำลังสนุกอยู่อย่างเสียไมได้ เพราะเธอก็รู้สึกสนุกกับเพลงไปด้วยน่ะสิ!
สองสาวนั่งฟังจนจบงานและเดินออกจากสวนลุมพินีเมื่อเวลาประมาณสองทุ่มกว่าๆ สาวเซอร์ก็ทำให้อีกฝ่ายส่งเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้งเมื่อกระเพาะของเธอส่งเสียงร้องออกมาดังมาก
“หิวเหรอคะ”
“ร้องดังขนาดนี้ไม่หิวก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว... ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันด้วยเจ้าพวกนี้ก็เลยงอแงหนัก” กี้ตอบพลางลูบพุงตัวเองไปด้วย
“กินอะไรดีน้า... คุณล่ะ หิวยัง” สาวเซอร์หันไปถามคนข้างๆ “โอ๊ะๆๆ ลืมๆ ขอบคุณนะ” เธอยื่นมือไปขอกระเป๋าคืนจากอีกฝ่าย
“ก็นิดหน่อย” แต่หลังจากที่อ้าปากตอบเสียงท้องของดาราหน้าหวานก็ร้องดังลั่นทำเอาอีกฝ่ายหัวเราะร่วน ส่วนคนที่ท้องร้องนั้นก็ก้มหน้างุดด้วยความอาย
“อื้อ... เห็นเพื่อนแนะนำร้านเด็ดแถวนี้ ไปกันเถอะ” ว่าแล้วกี้ก็ดึงมือดาราสาวเดินออกไปตามถนนเลียบทางไปถนนสีลม เลี้ยวซ้ายแล้วก็มาหยุดยืนอยู่หน้าร้านอาหารอีสานที่ตั้งอยู่ริมทางร้านหนึ่งที่มีพนักงานใส่เสื้อสีเขียวยืนรอต้อนรับอยู่
“ร้านนี้แหละๆ” สาวเซอร์พูดแล้วก็เดินไปหาที่นั่งพร้อมกับลากวีนัสที่ยังคงทำหน้างงๆ อยู่ลงไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเธอ
“เฮ้ย! ลืมไปเลย... คุณกินไอ้พวกนี้ได้มั้ย” กี้ที่กำลังจะสั่งอาหารก็เงยหน้าถามอีกฝ่ายราวกับเพิ่งนึกขึ้นมาได้
“ก็กินได้ แต่ไม่เอาที่เผ็ดมากนะคะ ฉันท้องไม่ค่อยดี”
ดาราหน้าหวานรู้สึกตื่นตากับจิ้มจุ่มมื้อแรกของเธอเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเธอจะเคยกินอาหารอีสานแต่ก็ไม่ใช่แบบนี้ เธอลองกินอาหารเกือบทุกอย่างราวกับเด็กได้ของเล่นใหม่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้างๆ ที่ทำให้คนนั่งฝั่งตรงข้ามอดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
“เป็นไง อร่อยมั้ย” สาวเซอร์ถาม
“ก็... กินแบบหม้อดินเผา นั่งข้างทางก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบนึง” วีนัสตอบ
“ตอบไม่ตรงคำถามเลยนะคุณเนี่ย... เคยกินแบบนี้ครั้งแรกเหรอ”
“อื้อ... ครั้งแรก อร่อยดี”
กี้ขมวดคิ้ว “อย่างคุณไม่น่าจะเคยได้กินของอะไรแบบนี้ครั้งแรกนี่นา ฉันว่าพวกกองถ่ายก็ต้องพาออกไปกินบ้างแหละ”
ดาราสาวส่ายหน้า “อยู่กองถ่ายก็กินแต่ข้าวกล่อง... พอเลิกกองก็แยกย้ายกันห้องใครห้องมัน กลับบ้านใครบ้านมัน จะมีเลี้ยงอีกทีก็ตอนปิดกล้อง แต่ก็เลี้ยงกันในร้านอาหาร แบบนี้ฉันไม่เคยกินจริงๆ ครั้งนี้นี่แหละครั้งแรก”
“เหรอ...”
เมื่อท้องอิ่มสองสาวก็รีบเดินกลับไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน เนื่องจากวีนัสจอดรถทิ้งเอาไว้ที่นั่นและห้างฯ ก็ใกล้จะปิดแล้ว สาวเซอร์เดินไปส่งอีกฝ่ายที่ลานจอดรถแล้วก็ขอตัวกลับ
“จะให้ไปส่งมั้ยคะ” ดาราหน้าหวานถาม
“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้ ฉันว่าคุณรีบกลับเถอะ”
“ทำไมอ่ะ” วีนัสเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
“คุณบอกว่าคุณเพิ่งจะเคยกินอาหารอะไรพวกนี้ครั้งแรก แถมยังบอกอีกว่าท้องคุณไม่ค่อยดี ฉันก็กลัวว่าคุณจะท้องเสีย รีบๆ กลับก็แล้วกัน ชิ่วๆ” กี้โบกมือไล่อีกฝ่าย
“เอ่อ... ค่ะ”
“ไปล่ะ” สาวเซอร์โบกมือแล้วเดินจากไป
วีนัสนั่งอมยิ้มตลอดทางจนเธอลืมไปเลยว่าตั้งแต่เช้าของวันนี้เธออารมณ์เสียเพราะเสียความรู้สึกกับใครคนหนึ่งที่อยู่ห่างไกล แต่อารมณ์ขุ่นมัวของเธอกลับถูกลบไปได้เพราะความกวนของต้นแบบตัวละครที่เธอสวมบทบาทนั่นเอง