ตอนที่ ๖
ไปถึงร้านอาหารกึ่งผับที่เพื่อนๆ ในกลุ่มของดลยาอีก5-6 คนรออยู่ก่อนแล้ว
“ดิว เอ สิ มาเร็วทันใจดีจริงๆ นั่งกันเลย ฉันนึกว่าจะต้องรอนานซะแล้ว” พีชญาเพื่อนในกลุ่มร้องเรียกโบกมือมาจากโต๊ะที่อยู่ด้านใน
“พอดีพวกฉันมีตัวช่วยเลยมาได้เร็วทันใจ นี่พี่รันพี่สาวของดิว คนที่ช่วยเอาราชรถมาเกย ทำให้พวกเรามาได้แบบรวดเร็วทันใจเธอไง” สิตาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับมิรันตีในฐานะพี่สาวของดลยา ทำเอาเจ้าตัวชักสีหน้าเมื่อได้ยิน แต่ก็ไม่ได้โต้เถียงอะไร
“เชิญนั่งก่อนค่ะ แหม...มีพี่สาวสวยเท่ห์ขนาดนี้ไม่เห็นเคยบอกกันเลยนะดิว” พีชญาหันไปต่อว่าดลยา
“พี่เค้าเป็นลูกสาวป้าน่ะ ไปเรียนเมืองนอกเพิ่งกลับมา” ดลยาทำได้แค่บอกเบาๆ ทำเอาคนที่ถูกกล่าวถึงยิ้มในหน้าอย่างพึงพอใจ
“เอ้าๆ อย่ามัวแต่ชักช้า ใครอยากกินอะไรสั่งกันเลย พวกเธอมาทีหลังรีบๆ ตามให้ทันก็แล้วกัน” ว่าพลางยกแก้วชูให้เห็นถึงสีเหลืองอำพันของสุราชั้นดีที่อยู่ในแก้วนั้น
“ดื่มกันด้วยเหรอคะ” มิรันตีอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“นิดหน่อยค่ะพี่ ฉลองให้กับการก้าวออกไปทำงานเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวไงคะ พี่ดื่มด้วยกันนะคะ” สิตาบอกยิ้มหวานเอ่ยชวนพร้อมยื่นแก้วที่มีน้ำสีสวย เชิญชวน
“ไม่ดีกว่าค่ะ พี่ต้องขับรถ เชิญน้องๆ ตามสบายเลยจ๊ะ” มิรันตรีปฏิเสธอย่างเคยชินกับกฎของเมืองที่เธอจากมา เวลาขับรถเธอจะไม่ดื่ม
“อ่อน...มาฉันดื่มเอง” ดลยาต่อว่าอย่างหมั่นไส้ พร้อมกับดึงแก้วนั้นยกดื่มเสียเอง มิรันตีมองตามอย่างไม่ค่อยชอบใจ ถึงยังไงในสายตาของเธอ ดลยาก็ยังเป็นเด็กที่ไม่สมควรดื่ม แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยว่าอะไร
ท่ามกลางความสนุกสนานของเด็กสาวที่เริ่มมึนเมา การพูดจาเริ่มเสียงดัง ความสนิทสนมเริ่มมีมากขึ้น จนกล้าพอที่จะตั้งคำถามกับมิรันตีที่นั่งยิ้มฟังสาวๆ คุยกัน
“พี่รันมีแฟนหรือยังคะ” พีชญาเอ่ยถามเสียงอ้อแอ้
“ยังค่ะ” บอกออกไปตามความจริง
“แล้วพี่เป็นทอมหรือเปล่าคะ” คำถามยังตามมา แต่คราวนี้คนถูกถามชะงักอึ้งไปเหมือนกัน
“เฮ้ย...ทำไมเธอไปถามพี่เค้าแบบนั้น” สิตาต่อว่าหน้า แดงกล่ำ ไม่รู้ว่าด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเพราะอะไร ดลยาพลอยชะงักมือที่กำลังยกแก้วขึ้นดื่ม พลางนิ่งเงียบรอคอยคำตอบ
“ก็ฉันเห็นพี่เค้าเท่ห์ ก็เลยอยากถามให้แน่ใจ แต่ถ้าพี่ไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรนะคะ พีชขอโทษ” เสียงเริ่มอ่อยเมื่อเห็นคนถูกถามนิ่งไปนาน
“ทอมที่น้องพีชถาม ถ้ามันหมายถึงหลงรักผู้หญิงด้วยกัน พี่ก็คงเป็นทอมค่ะ” ตอบยิ้มๆ ทำเอาคนถามยิ้มโล่งใจที่ไม่ถูกโกรธ และทำเอาคนที่นิ่งฟังคำตอบใจเต้นแรงขึ้นมา อย่างที่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“จริงเหรอคะ เอ้า...แล้วทำไมเธอจะต้องหน้าแดงขนาดนั้นด้วยหือสิ” หันไปล้อสิตาที่มีท่าทางเขินอายอย่างเห็นได้ชัด
“อะไรๆ แดงเดิงอะไร เธออย่ามาทำเป็นคนช่างสังเกตหน่อยเลย” สิตาปฏิเสธเสียงเบา โดยไม่ยอมสบสายตาเพื่อนๆ ทั้งๆ ที่เธอรู้สึกร้อนวูบวาบเมื่อได้ยินคำตอบนั้น
“ยายรัน....” เสียงที่ดังมาจากด้านหลัง พร้อมกับร่างหญิงสาวสวยเดินมา สีหน้าบ่งบอกถึงความดีใจ ทำเอาทุกสายตาหันมองไปตามเสียง อย่างกับเธอมีแรงดึงดูด
“คีย์มาได้ไงเนี่ย...” หันไปตามเสียง ก่อนเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“ฉันสิต้องถามเธอ พาเด็กมาเที่ยวเหรอ ” กระซิบถามยิ้มๆ พลางส่งยิ้มให้กับทุกสายตาที่จับจ้อง
“อือ...” ตอบรับเบาๆ
“เธอมากับฉันหน่อยสิ มีคนจะแนะนำให้รู้จัก” บอกพร้อมกับดึงมิรันตีให้ลุกขึ้น พร้อมกับสอดแขนเข้าคล้องแนบแน่นอย่างเคยชิน ก่อนจะโปรยยิ้มไปยังทุกสายตาที่จ้องมอง พร้อมบอกเสียงหวาน
"ขอยืมตัวรันแป๊บนึงนะคะ"
“เอ่อ...เดี๋ยวพี่มานะคะ” บอกเบาๆ ก่อนจะเดินตามการลากดึงของเพื่อนสาวออกไปอีกด้านของร้าน
“นั่นมันนางแบบนี่หว่า โห...พี่รันนี่สุดยอดจริงๆ เลยว่ะ" พีชญาหันมาบอกเพื่อนเมื่อมองจนแน่ใจ
"ไงล่ะ จ๋อยเลยเหรอแก” เอมิกาส่งเสียงล้อสิตาที่หน้าเปลี่ยนเป็นขาวเผือดแทนสีแดงเมื่อสักครู่
“เพิ่งจะมีความหวังแท้ๆ แห้วซะแล้ว” พีชญากระซิบใส่หูดลยาซึ่งนั่งนิ่งเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ก่อนจะเอื้อมมือคว้าแก้วขึ้นยกดื่ม
"อย่าไปสนใจเลย เรามาดื่มฉลองกันดีกว่า ไปซะได้ก็ดี ฉันอึดอัดจะแย่ เหมือนมีหน้าแม่ลอยอยู่บนหน้ายายนั่น มาดื่มๆ" บอกก่อนจะยกแก้วขึ้นชูให้เพื่อนๆ ซึ่งทุกคนก็ยกแก้วขึ้นชนอย่างว่าง่าย
ทางด้านมิรันตีที่โดนคีย์ตญาลากมาอีกด้านของร้าน
"ฟาง นี่รันเพื่อนสนิทคีย์ หรือคุณมิรันตี ที่คีย์หุ้นกันเปิดบริษัทที่เคยเล่าให้ฟังไง รันนี่ฟาง ธิติยาเพื่อนคีย์ เป็นนางแบบเหมือนกันรู้จักกันไว้สิ เดี๋ยวคงได้ทำงานร่วมกัน เพราะคีย์กะว่าจะชวนฟางมาเดินแบบวันเปิดตัวบริษัทด้วย" คีย์ตญาแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน ธิติยายิ้มกว้างพร้อมกับยื่นมือมาให้จับ มิรันตียิ้มตอบยื่นมือไปจับมือนั้นอย่างเต็มใจ ธิติยาเป็นสาวลูกครึ่งที่มีใบหน้าโฉบเฉี่ยวทันสมัย รูปร่างผอมบางสูงโปร่ง เหมาะกับอาชีพนางแบบของเธอยิ่งนัก
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฟางคงต้องฝากเนื้อฝากตัวกับคุณรันด้วยนะคะ มีงานเรียกใช้ได้ตลอดเวลาเลยค่ะ" เอ่ยปากบอกเสียงหวาน
"รันสิคะต้องฝากคุณฟาง รันเพิ่งจะเปิดบริษัท คงต้องให้คุณฟางช่วยชี้แนะแล้วล่ะค่ะ"
"จะฝากกันอีกนานไหมเนี่ย ทั้งสองคนน่ะเป็นเพื่อนสนิทเราทั้งคู่ เราดูแลเอง แล้วไม่ต้องมีคุณได้ไหม มันดูไม่สนิทอ่ะ" คีย์ตญาพูดแทรกพร้อมเสียงหัวเราะ พลอยทำให้ทั้งคู่หัวเราะไปด้วย จากนั้นก็พูดคุยกันทั้งเรื่องงานที่กำลังจะเริ่มทำของมิรันตี และเรื่องส่วนตัวที่ทำให้ทั้งคู่รู้จักกันดีขึ้น จนลืมว่าทิ้งคนอีกฝั่งของร้านไว้
"ทำไมพี่รันไปนานจัง" สิตาเอ่ยขึ้นเบาๆ
"ดีสิไม่ต้องกลับมาเลยยิ่งดี" ดลยาพูดแทรกขึ้นเสียงดังเพราะเริ่มมึนเมา
"ทำไมดิวถึงไม่ชอบพี่รัน ทั้งๆ ที่พี่เค้าคอยดูแลดิวอย่างดี" เอมิกาตั้งข้อสงสัย
"ไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้ว ขี้เก๊กแถมยังชอบมาหาว่าเราเป็นเด็ก ทำตัวเหมือนแม่เราตลอดเวลา เราเบื่อ" คำพูดที่พรั่งพรูออกจากปากของคนที่กำลังมึนเมาด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้คนที่เดินมาด้านหลังได้ยินชัดทุกคำ สีหน้าเคร่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด
"พี่รัน..." สิตาเหลือบไปเห็น ส่งเสียงเรียกอย่างตกใจ ทำให้ดลยาหันไปมองตาม เห็นคนที่เธอกำลังพูดถึงยืนอยู่หลังเธอ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ หันกลับมาดื่มต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"โทษทีนะคะ พอดีพี่คุยกับเพื่อนนานไปหน่อย กำลังคุยกันสนุกเลย พี่มาขัดจังหวะหรือเปล่าคะ" นั่งลงแล้วพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทั้งโต๊ะกลับเงียบสนิท
"ไม่มีอะไรนี่ พอดีพวกเรากำลังจะกลับ ถ้าคุณจะไปคุยกับเพื่อนต่อก็ได้นะ พวกเรากลับกันเองได้" ดลยาบอกเสียงดังหน้าแดงกล่ำ พอดีกับที่พนักงานเอาบิลมาวางไว้ตรงหน้า ดลยาเอื้อมมือหยิบพร้อมๆ กับมิรันตี ทำให้มือของมิรันตีวางลงบนมือของดลยาพอดี ดลยารีบชักมือออก แว่วเสียงที่บอกว่าเค้าชอบผู้หญิงดังขึ้นในหู หน้าที่แดงอยู่แล้วร้อนวูบขึ้น มิรันตีหยิบบิลขึ้นมาดูสีหน้าเรียบเฉย
"พี่ขอเลี้ยงน้องๆ เองนะคะ ถือว่าเป็นของขวัญจากพี่ล่ะกันค่ะ" เงยหน้าบอกทุกคนบนโต๊ะ
"พี่รันใจดีจังค่ะ ทั้งสวยทั้งใจดี ใครได้เป็นแฟนโชคดีที่สุดเลยค่ะ" พีชญาส่งเสียงชื่นชม ท่ามกลางเสียงขานรับของทุกคนบนโต๊ะ ยกเว้นคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่หน้างอง้ำอย่างไม่ชอบใจ
"พวกเราตั้งใจมาเลี้ยงกันเองอยู่แล้ว ไม่รบกวนดีกว่า" น้ำเสียงบ่งบอกว่าไม่พอใจ
"ไม่เป็นไรถ้าน้องดิวอยากจ่าย ก็จ่ายส่วนของน้องดิวมาล่ะกัน ส่วนที่เหลือพี่จ่ายเองค่ะ" บอกอย่างไม่สนใจ ก่อนจะหยิบเงินวางลงบนถาดให้พนักงานที่รออยู่ ดลยาเม้มริมฝีปากแน่น อย่างไม่พอใจ เมื่อโดนมิรันตีบอกแบบนั้น ลุกเดินออกไปจากร้านทันที
"เดี๋ยวเอตามไปเองค่ะ รออยู่ที่รถนะคะ" เอมิกาบอกก่อนจะรีบเดินตามออกไป
"พี่รันอย่าคิดมากนะคะ สงสัยดิวจะเมาแล้วล่ะค่ะ เมื่อกี้ดื่มไปเยอะเลย" สิตาขยับเข้ามาบอกมิรันตี ที่นั่งเงียบอยู่อย่างเป็นห่วง
"พี่เข้าใจค่ะ วัยรุ่นก็เป็นแบบนี้แหล่ะ พี่ก็เคยเป็นมาก่อน"
บอกก่อนจะส่งยิ้มให้ทุกคนที่มองมาอย่างกังวล ทำให้ทุกคนยิ้มให้อย่างรู้สึกดีขึ้น ก่อนจะพากันเดินออกจากร้าน เมื่อมิรันตีเช็คบิลเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"ดิว....ดิว... เธอจะไปไหน รอพี่รันก่อนสิ" เอมิการ้องเรียกตามหลังดลยาที่เดินลิ่วออกจากร้านด้วยความไม่พอใจมิรันตีที่ไม่ไว้หน้าเธอ
"ฉันจะกลับเอง ไม่กลับกับยายนั่นหรอก" หันมาบอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
"แต่นี่มันดึกมากแล้วนะ แล้วเธอก็เมามากแล้วด้วยจะกลับเองได้ยังไง" เอมิกาตามมาคว้าแขนไว้ได้ทัน ก่อนที่ดลยาจะเดินออกไปข้างถนน
"เธอไม่เห็นที่เค้าทำกับฉันเหรอไง" หันมาถามเสียงดังด้วยความไม่พอใจ
"ดิวทำไมเธอต้องตั้งแง่กับพี่เค้าด้วย เธอเองต่างหากที่ทำกับพี่รัน ไม่ใช่พี่รันทำกับเธอ ดูสิเดินยังไม่ตรงเลยยังจะรั้นกลับเองอีก" เอมิกาต่อว่าเสียงดังไม่แพ้กัน เธอรู้จักนิสัยที่เอาแต่ใจของดลยาดี เพราะเป็นเพื่อนกันมานาน
"เธอเข้าข้างคนอื่นเหรอ ฉันเป็นเพื่อนเธอนะ"
"เพราะเธอเป็นเพื่อนฉันไง ฉันถึงไม่อยากให้เธอเป็นแบบนี้ พี่รันเค้าคอยดูแลเธออย่างดี ทั้งๆ ที่เค้าไม่ต้องทำก็ได้ ไม่ใช่เหรอ" เอมิกาพยายามดึงรั้ง และพูดเสียงเบาลง เพราะรู้ว่าดลยากำลังแรง เมื่อเอมิกาพูดให้ได้คิด ดลยาก็นิ่งลง และเดินตามการดึงรั้งของเอมิกาอย่างไม่ขัดขืน จนถึงรถของมิรันตีที่ยืนรออยู่กับสิตาอย่างเป็นห่วง ส่วนคนอื่นๆ แยกย้ายกันกลับไปหมดแล้ว
"น้องสิกับน้องเอบ้านอยู่ทางไหนกันคะ เดี๋ยวพี่ไปส่งให้ถึงบ้านเลยค่ะ" หันไปถามสองคนก่อนจะขึ้นรถ
"ขอบคุณค่ะ พี่รันใจดีที่สุดเลยค่ะ เอกับสิอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เลยบ้านพี่รันไปประมาณ 10 กิโลค่ะ" สิตาบอกด้วยน้ำเสียงชื่นชม ทำเอาคนที่นั่งคู่อยู่ด้านหน้าทำคอแข็งเม้มริมฝีปากขึ้นมาทันที มิรันตีเหลือบมอง เห็นอาการนั้นสีหน้าเรียบเฉยอย่างไม่เข้าใจ
รถแล่นออกไปได้สักพัก คนที่เชิดหน้าคอแข็ง ค่อยๆเอนตัวหลับตานิ่ง ก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความเมา มิรันตีขับรถไปตามคำบอกของสิตา ส่งทั้งสองคนถึงบ้านอย่างเรียบร้อยแล้ว ดลยายังไม่มีทีท่าจะรู้สึกตัว รถทั้งคันตกอยู่ในความเงียบ มิรันตีขับรถไป เหลือบมองคนที่นั่งหลับอยู่ข้างๆ รอยยิ้มผุดขึ้นอย่างเอ็นดู แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของดลยาที่พูดถึงเธอที่ร้าน สีหน้าเธอกลับนิ่งขึ้น 'ไม่ชอบหน้าเราขนาดนั้นเลยเหรอ' บ่นกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับถอนหายใจ