นิยายเรื่องนี้เปิดให้จองอยู่นะคะ สนใจดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ http://yuriread.thaimeboard.com/index.php/topic,1291.msg7892/topicseen.html#msg7892Chapter 13 : Fairy Crisis (วิกฤตการณ์นางฟ้า)สาวร่างบางยืนหอบพิงต้นไม้เมื่อคิดว่าวิ่งมาได้ไกลพอสมควร ดวงตาสีเขียวมรกตมองกลับไปยังหนทางนั้นที่เพิ่งวิ่งจากมา เกือบจะยิ้มได้อย่างโล่งใจแล้วที่ไม่มีใครตามมาจัดการพวกทำตัวเหมือนถ้ำมองอย่างตน หากไม่ได้รู้สึกบางอย่างเสียก่อน บางอย่างที่ทำให้ต้องหันไปมองอีกด้านอย่างระแวง เธอแทบกรี๊ดที่เห็นผู้หญิงคนนี้ตรงนี้
“คาร่า!” ร้องเรียกชื่อนี้ออกไปอย่างลืมคิดไปว่า คนหน้าตาแบบนี้มีอีกคน หากตอนนี้เธอหรือจะคิดอะไรออก รีบจะวิ่งหนีอย่างเดียว
มาได้ไง.. เมื่อกี้ยังเล่นจ้ำจี้กันอยู่เลยนี่หว่า.. อิสซาเบลล่าคิดหัวใจเต้นแรง หวาดกลัวสาวตาสีแดงที่อยู่ๆปีกงอกออกมายังไม่พอ ยังจะมาเจอคนจับได้ว่าแอบดูหนังสดอีก อะไรมันจะแย่แบบนี้
แต่มันยังมีที่แย่กว่า เมื่อคนขายาวกว่าเธอกระโดดมาโผล่ตรงหน้าให้สะดุ้งเฮือก ตาเหลือกมองเขาอย่างตกใจ ซวยอะไรอย่างนี้!
“เจ้าหนีข้าทำไม เบลล่า!” สาวตัวใหญ่ร้องถามพร้อมจับแขนอีกคนเอาไว้ก่อนที่จะวิ่งหายไปอีก แค่ปล่อยให้คลาดสายตามาก็มากพอแล้ว
“ปล่อยข้านะ ข้าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น!” ร่างบางพยายามกระชากแขนตัวเองกลับแต่ไม่เป็นผล มือที่จับอยู่แข็งแรงเกินไป “คาร่าปล่อย!” สาวน้อยร้องลั่น เตรียมอัดศอกใส่ร่างสูง หากฝ่ายนั้นรู้ทันเกมส์ คว้าตัวเธอขึ้นลอยจากพื้นทันเวลา จับพาดบ่าราวเธอเป็นเด็กเล็กๆ แต่ก็เด็กกว่าจริงๆนั่นแหละ
“ปล่อยนะ ข้ากลัวแล้ว!” เป็นครั้งแรกที่เธอพูดแบบนี้ตั้งแต่ที่พ่อบุญธรรมเสียชีวิต เคยคิดเสมอว่าจะต้องเข้มแข็งอย่างท่านให้ได้ แต่เธอก็พลาด เธอไม่มีทางเป็นอย่างจอมโจรขวัญใจคนยากอย่างโรบินฮู้ดได้
ไม่ได้แม้จะเสี้ยวหนึ่ง...
ท่านพ่อ.. ลูกขอโทษ...
“เฮ้..หยุดนะ! เจ้าจำผิดคนแล้ว!”
และเสียงนี้ก็ทำให้คนที่ดิ้นเป็นปลาถูกน้ำร้อนราดบนบ่าของร่างสูงหยุดชะงัก อิสซาเบลล่าเหลือบตามามองเจ้าของบ่าที่อุ้มเธออยู่อย่างกล้าๆกลัวๆ และถึงจะอยู่ในความสลัวของเวลาโพล้เพล้ ดวงตาสีฟ้ากระจ่างก็เจิดจรัสชัดเจนจนไม่ต้องถามต่อแล้วว่า นี่คือใคร...
“ไคล่า!”
“ใช่.. จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ ที่ต้องคอยไล่ตามจับตัวเจ้าเข้ากรงแบบนี้..เจ้าลิงน้อย”
อิสซาเบลล่าอยากจะโกรธที่โดนว่าเป็นลิง หากสิ่งที่ทำคือหันมากอดคอร่างที่อุ้มอยู่เหมือนดีใจมาก ดีใจสิ ดีใจที่ไม่ใช่คนที่เธอแอบมองไล่ตามมาและจับตัวเธอได้ อีกอย่างแม้ไคล่าจะดูปากเสียและชอบทำรุนแรง แต่ความน่ากลัวน้อยกว่าอีกคนที่หน้าเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เพราะเธอเห็นคาร่าทำแบบนั้นกับน้องสาวคนสุดท้องหรอกนะ มันเพราะเธอมักจะเห็นออร่าประหลาดที่แผ่ออกมารอบๆตัวคาร่านั่นแหละที่ทำให้กลัว..
รู้อยู่ว่าไม่ใช่คนธรรมดาอยู่แล้ว ไม่ว่าฝาแฝดนี่หรือน้องเล็กก็ไม่ใช่..
แต่คาร่าเป็นอะไรที่ไม่เหมือนไคล่าสักนิด แค่ใบหน้าเท่านั้นที่เหมือนกัน..
และปีกที่เหมือนปีกนางฟ้าบนหลังของน้องเล็ก จะเกี่ยวกับพลังแปลกๆของคาร่าหรือไม่.. ใครจะตอบได้กันล่ะ..
“ไคล่าใช่ไหม.. ไคล่าใช่ไหม..”
เสียงร้องเรียกชื่อตนซ้ำๆพาให้เจ้าของชื่อแปลกใจ แต่ที่แปลกกว่าคือรู้สึกชอบที่ถูกเรียกแบบนี้ หรือเพราะเด็กมันเผลอเอาหน้าอกมาเบียดหน้าตนกันแน่..
อิสซาเบลคงไม่รู้หรอกว่า คนถูกกอดหน้าร้อนไปหมดแล้วเพราะสัดส่วนที่ซ่อนรูปอยู่ในเสื้อผ้าฝ้ายและเสื้อคลุมตัวโคร่งเบียดไปถูกหน้าคนอุ้ม และไคล่าก็รู้สึกใจคอไม่ดีเสียแล้วสิ จะกินเด็กเสียดีไหม.?
อา..ไม่ได้สิ คนนี้เป็นสาวต้องห้าม ต้องขออนุญาตคาร่าก่อนค่อยกิน กินสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ของมันแรง.. ถึงตัวเล็กๆแบบนี้น่าจะเคี้ยวคล่องคอดีก็ตาม..
เอ่อ..แต่แน่ใจนะว่า กำลังพูดถึงคนอยู่..
คนสิ หน้าอกนุ่มนิ่ม น่าฟัดด้วยล่ะ.. โอ้..ข้ากำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย
“ใช่ๆ ข้าไคล่า.. รู้แล้วก็เลิกกอดซะที อึดอัด น่ารำคาญ กลัวอะไรนักหนา!” แกล้งดุกลบเกลื่อนไปอย่างนั้น แค่อยากให้เด็กสาวเอาหน้าอกอวบๆออกไปจากใบหน้าตัวเองสักที
แต่ใช่ว่ารังเกียจนะ กลัวว่าจะอดใจไม่ไหว ทำอะไรมันไปต่างหาก..
เด็กสาวชะงักกึก เพิ่งนึกออกว่าตัวเองอยู่ท่าไหน พอก้มมองชัดๆก็เห็นและรู้สึกด้วยว่า ตรงหน้าอกตนชนกับอะไรอยู่ จึงรีบกระโดดผึงลงจากร่างสูงทันที
“เจ้าฉวยโอกาสกับข้าอีกแล้ว!” เสียงแหบเสน่ห์โวยวายและเตรียมจะวิ่งหนีไปอีกครั้ง หากมันจะเป็นไปได้อย่างไร ขาก็สั้นกว่าเขา...
“หยุดนะ อย่าให้ข้าต้องใช้กำลังกับเจ้า!” ไคล่าตวาดพร้อมเข้ามายืนตัวสูงตระหง่านอยู่ตรงหน้าร่างเล็ก เริ่มทนไม่ไหวกับเด็กดื้อ หากคราวนี้ใบหน้าตื่นตระหนกของอิสซาเบลทั้งแววตาหวาดกลัวก็ทำให้หยุดคิด หรือว่าจะมีเรื่องน่ากลัวจริงๆเกิดขึ้น
แต่ช้าก่อน.. นางเห็นข้าเป็นคาร่าเลยวิ่งหนีใช่ไหม.?
พี่ข้าไปก่อเรื่องอะไรหรือ.. หรือว่าที่บอกว่า จะตามไอซิสไปอาบน้ำด้วย.!
ตายล่ะ!
ดวงตาสีฟ้ามองเลิกลั่กเมื่อความคิดมาถึงจุดนี้ เป็นไปได้มากที่เด็กสาวช่างสงสัยอย่างอิสซาเบลล่าจะแอบตามคาร่ามาโดยใช้วิชาพรางตัวที่หล่อนมีติดตัว และไปเห็นบางอย่างที่ไม่สมควรจะเห็น แล้วจะเป็นตากุ้งยิงไหมเนี่ย!
คิดได้แบบนี้ก็คว้าหมับเข้าที่แขนของร่างเล็ก รีบพูดก่อนที่เด็กดื้อจะได้พูดอะไรขัดรูหูตนอีก “กลับฐานกับข้า อย่าเรื่องมาก ถึงข้าจะไม่ใช่คาร่าที่เจ้ากลัวจนหัวหด แต่รับรองเลยว่า เจ้าจะต้องเสียใจแน่ ถ้าขัดใจข้า..เบลล่า!”
อิสซาเบลล่าอยากจะคัดค้านแต่รู้ว่าไม่มีทางสำเร็จ จึงตัดใจ “ก็ได้ แต่ปล่อยได้ไหม.. ข้าเดินเองได้ ไม่ต้องลาก!”
“ปล่อยให้โง่เหรอ.. ปล่อยไปเจ้าก็วิ่งหนีอีกสิ เป็นคนดีๆไม่ชอบ ชอบเป็นลิง!” ไคล่าย้อนเสียงดัง ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายเมื่ออีกฝ่ายมองตาเหลือก “อย่าพูดมากด้วย ไม่งั้นข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้งเสีย จำไว้ว่าข้าไม่ใช่เพื่อนเล่นของเจ้า!”
คราวนี้เสียงตวาดของผู้มีอำนาจกลับไปสะกิดต่อมบางอย่างในตัวคนฟังให้โกรธจนตัวสั่น ร่างเล็กรวบรวมกำลังกระชากแขนตัวเองกลับมา อ้าปากเถียงอย่างไม่ยอมแพ้
“เจ้ามันโรคจิต โรคจิตกันทั้งบ้าน อย่านึกว่าข้าจะกลัวนะ อย่างมากข้าก็แค่ยอมตาย ดีกว่าอยู่กับพวกเจ้า!”
ว้าว.. ดื้อสุดๆ ไม่ยอมคน.. แบบนี้ชอบเลย..
ในขณะที่อีกฝ่ายเต้นเร่าๆอยู่ตรงหน้า เจ้าหญิงรัชทายาทตาสีฟ้ากลับมองหล่อนอย่างหลงใหล ไคล่าไม่ได้ยินเลยว่าหล่อนพูดอะไร คล้ายหูอื้อไปชั่วคราว แปลกใจตัวเองเหลือเกินว่า ไม่เคยนึกชอบผู้หญิงก้าวร้าว ปากจัดแบบนี้มาก่อน แต่ทำไมกับหล่อน เธอจึง..
“แต่งงานกับข้าเถอะ..อิสซาเบลล่า”
อิสซาเบลล่าอ้าปากค้างทั้งที่ยังพูดไม่จบ ยังด่าไม่จบต่างหาก..
ว่าจะถามว่าอีกคนพูดอะไรออกมาเมื่อครู่ กลัวว่าได้ยินไม่ชัดหรือหูฝาด ร่างสูงตรงหน้ากลับเดินดุ่มเข้ามาและคว้าเอวเธอไปหา ความตกใจทำให้สัญชาตญาณป้องกันตัวของเธอบกพร่อง ทั้งที่ความจริงมันควรจะใช้ได้ดีในสถานการณ์แบบนี้
หรือเพราะดวงตาสีฟ้าที่มองเธออยู่ตอนนี้มันจะมีมนตร์สะกด..
“เป็นของข้าเถอะ”
แว่วหูได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ อยากจะปฏิเสธเขาแต่ที่ทำคือยืนนิ่งจนถูกลากเข้าไปสู่ห้วงอารมณ์ประหลาดอย่างที่เธอไม่เคยได้รู้สึกมาก่อน
เมื่อริมฝีปากอุ่นนุ่มละมุนกดลงกับริมฝีปากของเธอ เพียงสัมผัสแรกก็รู้สึกคล้ายถูกสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางใจ ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างอย่างตกใจกับความรู้สึกที่ไม่เคยได้เจอ มันแปลก..
แต่รู้สึกชอบอย่างบอกไม่ถูก..
หัวใจเธอเต้นรุนแรงจนแทบจะระเบิดออกมาจากอก สับสนที่ยังทำเหมือนสมยอมให้เรียวปากของอีกคนอยู่กับปากตนแบบนั้น แม้ว่ามันจะเบียดเข้ามาจนเรียกได้ว่า บดลงมา และขยับไปในทิศทางของคนช่ำชอง เธอก็ยังนิ่งอยู่เหมือนคนไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไปดี
แต่จะปล่อยให้ผู้หญิงประหลาดนี่ย่ำยีอยู่แบบนี้น่ะเหรอ.!?
หล่อนมีคนรักอยู่แล้วด้วย แล้วเธอทำอะไรอยู่ตรงนี้!
สาวน้อยตวาดตัวเองอยู่ในใจ ในที่สุดก็รวบรวมสติและกำลัง ผลักอีกคนออกไปอย่างแรงจนร่างสูงเซเกือบเสียหลักล้ม ไคล่าดูตกใจ และคล้ายจะสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเธอ หล่อนเหมือนจำอะไรไม่ได้
ทั้งที่จูบกันแบบนี้น่ะเหรอ!?
อิสซาเบลล่าปาดปากตัวเองด้วยหลังมือ ราวจะไล่ความน่าขยะแขยงออกไป จากนั้นก็เงื้อมือขึ้นฟาดไปที่ใบหน้าของคนที่ยังยืนเหมือนคนบ้าสติไม่มีอยู่ตรงนี้
“เลวที่สุด!” เด็กสาวพูดเสียงดังและสะบัดทั้งหน้าและตัววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อจะหนีให้พ้นจากคนที่ขโมยจูบเธอไปหน้าตาเฉย จูบทั้งที่ไม่เคยเป็นอะไรกันมาก่อน และเธอไม่เคยยอมให้ใครทำแบบนี้มาก่อนด้วย
ดวงตาคู่คมสวยรินน้ำตาอย่างเจ็บใจ เช่นนี้แล้ว เธอจะมีใครคนใดได้อีก..
ข้าไม่บริสุทธิ์พอที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับใครอีกแล้ว เพราะเจ้าคนเดียว!
................................................
“ไอซิสค่อยๆเผยตัวเองออกมาแล้วนะ” คาร่าพึมพำระหว่างดื่มเครื่องดื่มให้ความอบอุ่นอยู่ภายในกระโจม ตอนกลางคืนอากาศในป่าแห่งนี้เปลี่ยนไปเป็นหนาวเย็นขึ้นอย่างไม่บอกกล่าว เมื่อเย็นยังร้อนอยู่เลย ร้อนจนต้องไปเล่นน้ำ..
ดวงตาสีเขียวใสเหลือบมองไปยังคนข้างๆที่นั่งอยู่ด้วยกันเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับหรือรับรู้จากเขา หัวคิ้วสีเงินกดลงเล็กน้อย แปลกใจกับท่าทางของคนที่ตนเรียกมาปรึกษางาน ฝ่ายนั้นดูเหม่อลอยชอบกล ทั้งที่เรื่องที่คุยกันอยู่เป็นเรื่องที่พวกเธอสองคนเท่านั้นที่จะสามารถคุยกันได้
ใช่..ไม่มีใครรู้ในสิ่งที่เธอรู้มากกว่าไคล่า..
และนี่คือการปรึกษากันจริงจัง ไม่ได้มีเรื่องแอบแฝงอย่างอื่น..
จริงหรือ.?
“ไคล่า..” เอ่ยเรียกน้องหนึ่งครั้งก็ยังไม่ได้สติ คราวนี้จึงใช้มือที่ว่างเอื้อมไปจับบ่า “ไคล่า..” ดวงตาสีฟ้าของคนหน้าเหมือนกันกระพริบปริบๆพยายามจะดึงสติกลับมา หากก็ดูว่ายังไม่ค่อยได้เรื่องนัก “เจ้าเป็นอะไรไป.. เหม่อมานานแล้วนะ ได้ยินที่ข้าพูดบ้างไหม.?”
“ทะ ท่านพูดอะไร..” เสียงคำถามตะกุกตะกักจนคนฟังส่ายหน้า ดึงมือกลับคืนมาประคองแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบใหม่ ก่อนจะพูด
“ข้าพูดเรื่องไอซิส” คาร่าเลิกคิ้วมองดูปฏิกิริยาของน้องแฝด เขาดูแปลกใจแต่คล้ายจะรู้เรื่อง
“เรื่องน้องปรากฏปีกตอนเวลาแบบนั้นหรือ.?”
แฝดพี่พยักหน้ารับ เพราะเธอเล่าเรื่องราวในน้ำตกให้เขาฟังไป เว้นเพียงไม่ได้ลงรายละเอียดของกิจกรรมนั้นก่อนที่ปีกประหลาดจะออกมาทำให้ตะลึง แค่เล่าว่ามีฉากนั้นๆเกิดขึ้น ไคล่าก็เดาได้แล้วว่า เธอกับน้องเล็กทำอะไรกันบ้าง
มันก็คล้ายกันกับที่เธอทำกับเขา..
“แล้วเจ้าล่ะ คิดเรื่องอะไรอยู่”
ดวงตาสีฟ้ากระตุกวูบกับคำถามที่เหมือนมาย้ำเตือนให้สมองไขปัญหาที่เกิดขึ้นในใจให้ ข้าทำอะไรกับเด็กคนนั้น เหตุใดนางจึงตบข้าเสียแรง..
“ไคล่า.. เจ้าไม่เคยมีความลับกับข้า” คาร่าย้ำ อีกฝ่ายเริ่มเหงื่อตกให้เห็น ท่าทางจะกำลังคิดมากจริงๆ “เรื่องโรซาลีหรือ.. ข้ายกนางให้เจ้าแล้วนี่ ข้าจะไม่เรียกใช้นาง..”
“ไม่ใช่หรอกท่าน ข้ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่” ไคล่าปฏิเสธ ยิ้มเจื่อนเหมือนไม่เต็มใจ คนฟังจึงเลิกคิ้วมองอย่างสนใจ เจอแบบนี้จะหนีพ้นหรือ...
“ท่านคุยเรื่องน้องก่อนจะได้หรือไม่ เรื่องไอซิสสำคัญกว่าเรื่องที่ข้ากำลังคิดอยู่ตั้งมาก” พยายามอย่างสุดกำลังที่จะยับยั้งไม่ให้พี่คาดคั้นมากกว่านี้ ก็ยังไม่สามารถจะหาคำตอบที่ดีให้กับตัวเองได้ แม้จะเริ่มนึกออกว่า ทำอะไรลงไปบ้างตอนนั้น แต่มันก็เหมือนยิ่งมาทำให้ไม่เข้าใจ..
ข้านึกอย่างไรที่ทำเช่นนั้นกับเจ้า..แม่เด็กเหลือขอ..
จอมโจร.!
“ข้าสัญญา จะเล่าให้ท่านฟังคนแรก” ยิ้มอ้อนพี่สาวที่คุ้นเคยใกล้ชิดกันที่สุด หากในที่สุดก็ต้องยอมเคลื่อนใบหน้าเข้าไปประทับจูบที่ปากแทนคำมั่นสัญญา รอยยิ้มพอใจจึงปรากฏบนเรียวปากสวยของคนหน้าเหมือนแต่แววตาแตกต่าง ไม่ใช่แค่สีของดวงตา
คาร่าพยักหน้ารับพาให้ลอบถอนหายใจโล่งอก นึกว่าจะไม่รอด..
“ตกลงว่า ไอซิสเผยร่างวาลคีรีเต็มตัวในช่วงเวลาแบบนั้น.?”
“ใช่.. แต่ปีกที่ควรจะเป็นสีขาวกลับเปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนพวกฝ่ายมืดมากกว่า ข้าไม่แน่ใจว่า มันเกี่ยวกับเจ้าบ้าที่อยู่ในปราสาทฝั่งนั้นหรือไม่ แม้มันจะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ หากข้ายังรู้สึกไม่ไว้ใจ”
“เช่นนั้นข้าจะลองสืบดู”
“ฝากเจ้าด้วยก็แล้วกัน”
“ด้วยความยินดีพี่สาว” รับคำอย่างขี้เล่น หากแววตาหนักแน่นจนคนมองยอมพยักหน้ารับ
“ข้าจะรอ” คาร่าหวนกลับไปจิบเครื่องดื่ม อ่านหนังสืออยู่เงียบๆแล้วเมื่อสั่งงานเสร็จ ดูสงบจนน่าอิจฉาในสายตาคนมองที่นั่งใกล้ ในขณะที่ตนรู้สึกฟุ้งซ่านอย่างบอกไม่ถูก หากมันก็ไม่นานที่จะได้คิดอะไรไปตามลำพังเมื่อมีบางคนขอมาร่วมนั่งด้วยในกระโจมหลังนี้
“คาร่า.. ไคล่า.. น้องนั่งด้วยคน ข้างนอกหนาวมาก!” น้องเล็กสุดท้องวิ่งถลามาแทรกกลางระหว่างพี่ฝาแฝดทั้งสอง แม้ไอซิสจะนั่งเบียดตัวชิดไปทางคาร่ามากกว่าแต่แฝดอีกคนก็ไม่ได้ทำท่าน้อยใจอะไรนอกจากมองอย่างรู้ทัน
ไคล่าถอนหายใจยาวก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มของตนขึ้นจิบบ้าง หันไปยิ้มให้น้องคนเล็กที่ยื่นขนมให้ รับมันมาพร้อมให้รางวัลน้องเป็นจูบที่แก้ม และยังนึกขอบใจน้องในใจที่เข้ามาได้ทันเวลา ไอซิสสามารถกระชากความวุ่นวายออกไปจากสมองเธอได้ด้วยความน่ารักน่าชัง ช่างอ้อนตามประสาน้องคนเล็ก
หากเธอกลับไม่รู้หรอกว่า ในขณะเดียวกันที่พวกเธอทั้งสามมีความสุขอยู่ในกระโจมหลังนี้ มีเด็กผู้หญิงวัยรุ่นอีกคนกำลังนั่งซึมกระทือกอดเข่าอยู่ในกระโจมอีกหลังตามลำพังกับความสับสนแบบเดียวกันกับที่เธอเพิ่งไล่มันไป