เสียงเรียก
ฉันเห็นผู้หญิงมอมแมมคนหนึ่ง ใบหน้าผมเผ้าสกปรก ร่างในชุดเสื้อผ้าเก่าขาดสีมอซอนั้นกำลังเดินด้วยเท้าเปล่าเปลือย ฉันจดจ้องด้วยความสงสัย ดวงตาเธอเหม่อลอยเหมือนไม่เห็นฉันที่กำลังจะเดินสวนเธอไป เธอเป็นคนบ้าหรือเปล่า แต่เมื่อระยะห่างระหว่างเธอกับฉันร่นเข้ามาเธอก็มองเห็นฉัน
ฉันได้กลิ่นเหม็นเน่าที่น่ารังเกียจโชยจากตัวเธอ ฉันจึงรีบเดินถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็ว
เธอจ้องฉัน
ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอกำลังคิดอะไร
เธอยังคงจ้องฉันอยู่แม้ว่าฉันจะรีบสาวเท้าเดินหนีเร็วขึ้น
หรือว่าเธอคิดจะเข้ามาขอเงิน เธอหิวเหรอ...
ฉันควรวิ่งกลับไปซื้อข้าวและน้ำให้เธอหรือเปล่า ร้านเมื่อกี้คงจะมีรองเท้าถูก ๆ สักคู่แต่ฉันคงไม่ย้อนกลับไป หรือฉันควรให้เงินเธอแทน แต่เธออาจเป็นพวกขอทานอาชีพก็ได้ ถ้าเช่นนั้นฉันไม่ควรให้เงินเธอ
หรือว่าเธอจะโดนใครสักคนทำร้ายมา เธอต้องการให้ฉันช่วยหรือ...
ถ้าเช่นนั้นฉันก็ควรรีบพาเธอไปหาตำรวจแต่แถวนี้ไม่มีป้อมตำรวจเลย ถ้าต้องเรียกแท็กซี่ไปก็คงไม่มีคันไหนยอมให้เธอขึ้น แล้วถ้าเธอขอให้พาไปส่งบ้านแทนล่ะ เธออาจจะเป็นนกต่อก็ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ควรช่วยเธอ
ฉันหันไปมองเธออีกครั้ง เธอเดินตรงไปเรื่อย ๆ เช่นเดิม เธออยู่ไกลเกินกว่าที่ฉันจะเรียกเธอได้แล้ว
ฉันมีธุระด้วย ฉันต้องรีบไป…
.......
ฉันจำไม่ได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันบ้าง ฉันร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตาแม้แต่หยดเดียว ตัวฉันสกปรกและมีกลิ่นเหม็นสาบขนาดตัวเองยังไม่กล้าก้มดม ท้องฉันหิว คอฉันกระหาย ฉันเดินไปเรื่อย ๆ บนทางเท้าที่ร้อนและแข็ง เศษหินเศษแก้วแหลมคมบาดเข้าไปในฝ่าเท้าฉัน
ฉันเห็นคนอื่น ๆ เดินหนีจากตัวฉัน ฉันอยากร้องขอให้ช่วยแต่ฉันไม่เหลือเสียงอีกแล้ว
ฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ ฉันได้กลิ่นเสื้อผ้าสะอาดและน้ำหอม กลิ่นนั้นทำให้ฉันหยุดฝีเท้า
ฉันสบตากับเธอ
ฉันยังคิดอะไรไม่ออก
เธอ...
กว่าฉันจะนึกคำนี้ได้เธอก็เดินจากไปแล้ว
ฉันเห็นเธอก้าวเท้าถี่กระชั้นรวดเร็ว เธอคงมีที่ที่เธอต้องเร่งรีบไปให้ทัน เธอคงไม่มีเวลาให้กับฉัน ฉันเดินต่อไป ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะหยุดเดินเมื่อไหร่ แล้วฉันจะเรียกเธอไปทำไมในเมื่อฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าจะให้เธอช่วยอะไร ตอนนี้ในความคิดของฉัน
แค่อยากให้ใครสักคนเรียกฉันเท่านั้น...
ฉันเห็นเธอเดินบนเส้นทางที่ร้อนระอุ เธออยู่ห่างออกไปเกินกว่าที่ฉันจะเรียกเธอได้ ฉันวิ่งเข้าไปหาแล้วตะโกนเสียงดัง
“เธอ...!”