web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 150
Total: 150

ผู้เขียน หัวข้อ: My little sweet devil Chapter 6 : นางเอกหน้าร้าย นางร้ายน่ารัก  (อ่าน 4069 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
My little sweet devil Chapter 6 : นางเอกหน้าร้าย นางร้ายน่ารัก
« เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 18:45:19 »


Chapter  6  :   นางเอกหน้าร้าย  นางร้ายน่ารัก


ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสมองคนตรงหน้านิ่งๆ อันที่จริงอยากจะยิ้มถ้าไม่คิดข่มมันไว้ก่อนตามประสาคนฟอร์มมาก  ไม่อยากให้ได้ใจ  เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าเธอเห็นดีเห็นงามกับหล่อนไปด้วย  จะซวยซ้ำซ้อน  แค่ต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยกันตามลำพังก็น่ากลัวพอแล้ว  ไว้ใจได้หรือไง..ผู้หญิงพรรค์นี้.. 

นางแบบสาวส่ายหน้าถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้แต่ที่รู้คือมันไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยให้เธอหายจากอะไรที่เป็นอยู่  เธอกับหล่อนต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยกันด้วยความจำเป็น  งานแฟชั่นโชว์ที่นัดเธอมาดันเป็นงานเดียวกับหล่อนไปเสียได้  ไม่รู้เวรกรรมหรือบุพเพอาละวาดกันแน่ 

แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย ให้ตายสิ!

ทำไมระบบไฟต้องมามีปัญหาตอนนี้ด้วยนะ  พระเจ้า!

เพราะระบบไฟในงานแฟชั่นโชว์เกิดปัญหากะทันหัน  พวกเธอจึงทำงานไม่ได้ในทันทีที่มาถึงงาน  ทีมงานขอเวลาพวกเธอแก้ไขมันไม่เกินชั่วโมง  โดยการหาห้องรับรองให้พวกเธอนางแบบรับเชิญได้พักผ่อนและตระเตรียมอาหารการกินชั้นเลิศมาให้  แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ  เธอแค่อยากทำงานให้จบและกลับโรงแรม  นอนพักให้สบายใจ  แล้วเตรียมตัวบินกลับบ้านพรุ่งนี้  ไม่ใช่แบบนี้!

ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่กับผู้หญิงน่ากลัวคนนี้อีกแล้ว..

แต่แน่ใจนะว่า  ไม่อยากอยู่กับหล่อน..  หล่อนน่ารักจะตายไป..

หน้าหวานอาบยาพิษหรือเปล่า.?

“มีความสุขซะจริงนะ..”  ที่สุดก็ประชดเข้าให้ข้อหาหมั่นไส้หล่อนเสียเต็มประดา  หากหรือจะทำอะไรหล่อนได้  หน้าใสๆส่งยิ้มหวานมาให้ใจเต้นเสียอีก
 
โอ้..แล้วแบบนี้ใครที่ตกหลุมใคร..

“ฉันไม่น่าหลวมตัวตกลงยอมอยู่กับเธอเลย  ให้ตายสิ!”  คริสตินบ่นอุบ  อีกคนยังทำไม่รู้ไม่ชี้จิบชาหน้าตาเฉย  เอาส้อมมาจิ้มขนมในจานของเธอไปกินด้วยอีกต่างหาก  อดอยากมาจากไหนนะ

“คุณไม่ทานใช่ไหม..  งั้นฉันขอละกัน” 

เจ้าของขนมสั่นหัวขมวดคิ้ว  พยายามเมินไม่สนใจคนหน้าใสที่พยายามทำตัวน่ารักอยู่ตรงนี้  หากดวงตาเจ้ากรรมมันกลับไม่ค่อยเชื่อฟังกันเท่าไหร่  มันชอบชำเลืองไปมองหล่อนอยู่เรื่อยเชียว  ปากอีก  มันจะยิ้มให้หล่อนทำไมไม่รู้นะ  ทำไมฉันบังคับตัวเองไม่ค่อยได้เลย 

พระเจ้า.!  นี่มันเกิดอะไรกับฉันกันเนี่ย!

อยากมีเมียซะแล้วล่ะมั้ง.?

“ถ้าเก็กแล้วมันเมื่อยหน้า  ก็อย่าทำเลยค่ะ”  มิกิแซว  ยิ้มหวานเหมือนเคย  ช่างไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังป่วนหัวใจใครบางคนอยู่  ถึงรู้ก็จะทำ  ใครจะทำไมล่ะ  ฉันตั้งใจอยู่แล้ว..

มาเป็นแฟนกันเถอะ..คริสติน..

“มาค่ะ  ฉันป้อนให้ก็ได้นะ”  สาวตาหวานบอก  ยิ้มพอใจกับคนหน้ามุ่ยที่รีบเมินกัน  แต่ดันหน้าแดงฟ้องอาการ  ส้อมที่จิ้มชิ้นทีรามิสุสีน้ำตาลเข้มจึงยังลอยอยู่ในอากาศรอคนมารับมันไป  หากแต่รอจนเมื่อยแล้วเมื่อยเล่า  สาวอังกฤษก็ยังคงเล่นตัว  และคนที่เคยแต่เล่นตัวกับคนอื่นก็ฝืนความหงุดหงิดไม่ไหว  ดึงมันกลับมาใส่ปากตัวเองแทน  แอบยิ้มกับเสียงกลืนน้ำลายเอื้อกที่หูได้ยินที่มันเป็นไปตามคาดว่า  พอเธอเงยหน้าขึ้นมอง  หล่อนก็จะต้องเมินหน้าหนีไปเหมือนเดิม

“เฮ้อ..  จะบอกให้นะคะ  ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกนะที่เบื่อที่เราต้องมาติดแหง็กอยู่ด้วยกัน”

คริสตินหันขวับมามองหน้าคนถอนหายใจไปพูดไป  หัวคิ้วสีบลอนด์ทองอ่อนๆจนเกือบเงินกดลงจนจะแนบติดตา  ไม่เคยมีใครว่าเธอน่าเบื่อได้  ไม่มี  นอกจากรีเบคก้าเท่านั้น  และแม่ผู้จัดการนั่นก็แค่พูดประชดด้วย!

แล้วคนสวยตรงนี้ล่ะ  จะว่าไง.?

“ฉันเบื่อที่ต้องพูดคนเดียว  แล้วทีรามิสุที่นี่ก็อร่อยมากด้วยนะ  คุณน่าจะลองทานดู  แล้วจะรู้ว่า  ของแบบนี้ไม่ได้มีดีแค่ในญี่ปุ่น”  คนพูดขยิบตาขี้เล่นให้คนฟัง  เธอกำลังจะตักขนมหวานที่ว่านั่นใส่ปาก  พอดีกับที่บางคนพูด

“เธอกินอะไรแต่ละอย่าง  ไม่กลัวอ้วนเลยนะ  หรือแอบมีพุง.?” 

คนโดนแซวเรื่องพุง  ช้อนขนมยังค้างอยู่ในปากขณะมองคนแซวตาโต  แปลกนะที่เธอกลับไม่โกรธที่มีคนว่านางแบบหุ่นดีอย่างเธออ้วน  นั่นเพราะคนว่าหัวเราะให้เธอดูเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่นั่งอยู่ด้วยกัน

มิกิยิ้มอย่างลืมอาการ  เขี่ยส้อมกับจานตรงหน้าเล่นแก้ประหม่า  เธอเหมือนบ้าไปแล้วที่หลงเพ้อกับคนพรรค์นี้  ทำตัวเหมือนติ่งไอดอลตัวจริง 

“นี่เธอ..  ฉันว่าเธออยู่นะ มาทำเขินแบบนั้นทำไม  แล้วเราไม่ได้มาฮันนีมูนกันสักหน่อย”  คนช่างบ่นก็ยังบ่นได้ทุกเรื่อง  ทั้งยังลืมมองคนฟังด้วยว่า หล่อนทำหน้ายังไง  ปากก็ยังว่าไปเรื่อย  “ถ้ารู้ว่าต้องรอเตรียมงานนานขนาดนี้  ฉันรอที่โรงแรมดีกว่า”

“ถ้าทำแบบนั้น  ก็จะยิ่งเหมือนมาฮันนีมูนกันเข้าไปใหญ่สิ”   

ประโยคนี้สะกิดใจคนฟังให้หันไปจ้องหน้า  คนถูกจ้องกระพริบตาปริบๆ เถียงกลับมาตาใส  “อะไรล่ะ  ก็คุณพูดเองนะคริส”

“ฉันประชด  เธอนี่ซื่อบื้อหรือไง!” 

มิกิอ้าปากค้าง  อีกครั้งแล้วที่เธอโดนหล่อนว่าแรงๆ อยากหาเรื่องแกล้งคืนบ้าง  แต่ไม่รู้จะทำยังไง  คริสตินใส่ใจเธอเสียเมื่อไหร่ล่ะ  นั่งกอดอกหันหน้าไปทางอื่นตามเคย 

“เฮ้อ..  ฉันไม่น่าชอบคนผิดเลยนะ  ถ้าคุณเป็นแบบอิงกริดก็ว่าไปอย่าง”  พูดอย่างหวังผล  อีกคนแม้ไม่ได้หันมามองหน้าแต่หางตาก็แลเธออยู่ 

ก็ให้มันรู้ไปสิว่า  กัดคนอื่นเป็นคนเดียว!

“เค้าเป็นฮีโร่เลยนะวันนี้..  ฉันนึกว่าได้เจออัศวิน..”   สาวลูกครึ่งไอริชทำท่าเพ้อฝัน  แอบยิ้มเมื่อเห็นสายตาหมั่นไส้จากคนที่ชายตามามอง 
โอ้ย..สะใจจริง!

“มีน้องน่ารักขนาดนี้  มิน่าล่ะถึงได้ซ่อนเค้าเอาไว้  กลัวตัวเองตกกระป๋องล่ะสิ.?”  พูดไปก็แอบมองปฏิกิริยาอีกคนไปด้วย  สาวสวยรู้สึกผิดคาดที่ไม่ได้เห็นอะไรตอบกลับมาจากคนที่ยังกอดอกหันไปทางอื่น 

มิกิถอนหายใจอย่างผิดหวัง  บางทีเธออาจเป็นตัวน่ารำคาญสำหรับหล่อนจริงๆ  หากพอคิดจะเอามือถือมากดเล่นแก้เซ็ง  คนหน้าเซ็งกลับเปิดปาก

“ยอมแพ้แค่นี้หรือไง.. ใช่สินะ  เคยแต่ปฏิเสธคนอื่นนี่..”  คริสตินยิ้มถูกใจที่อีกฝ่ายเม้มปากหงุดหงิดเหมือนเด็ก  “ความจริง..  เธอก็น่ารักดีนะ  ถ้าอยากมีแฟนมากนัก  ทำไมไม่ลองคบใครสักคนดูล่ะ  น่าจะมีคนจีบเธอ..”

“ฉันเบื่อมั้ง..” 

คนฟังเลิกคิ้วประหลาดใจ  มองดูอีกคนที่เคยพูดได้แจ้วๆนั่งเท้าคางเงียบ  นี่เองที่ทำให้รู้สึกว่าความเงียบมันน่าหดหู่ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ  แปลกนะ  ทั้งที่เธอรำคาญหล่อนมากเมื่อกี้...

“ฉันเบื่อที่พวกเขาเข้ามาหาฉัน  เพราะฉันดัง  ฉันหน้าตาดี”

ประโยคนี้สะกิดใจคนฟังได้ชะงัก  ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสมองหน้าคนพูดที่หันมายิ้มซึมๆ ก่อนที่หล่อนจะก้มหน้าลงใช้ส้อมเขี่ยเศษขนมในจานเล่นราวคนไม่มีอะไรทำ   

อา.. ผู้หญิงอะไรนะ  ขนาดทำหน้าเศร้าแบบนี้ก็ยังสวย..

เฮ้..  ก็ถ้าหล่อนไม่สวยทุกท่าจะมีคนจ้างมาเล่นละครได้ยังไงเล่า  เรานี่ก็คิดอะไรแปลกจริง  อย่านะคริส..  อย่าไปหลงกลหน้าใสๆของหล่อนเด็ดขาด  อยากมีปัญหานักหรือไง...

“ถ้าฉันจะมีแฟนสักคน  เค้าคนนั้นก็ต้องรับฉันได้  ถึงฉันจะหน้าตาอัปลักษณ์”  ดวงตาสองสีมองสบกันด้วยความตั้งใจของคนพูดที่ต้องการจะสื่อสารความจริงจังให้คนฟังได้รับรู้  แล้วอยู่ๆมิกิก็รู้สึกว่าตัวเองอมยิ้ม 

ก็คริสตินหน้าแดงก่ำแบบนี้  ใครจะได้เห็นบ้างล่ะ...

หากความพอใจของเธอก็หายไปเร็วจนน่าเสียดาย  คนที่เธอหมายตาไว้เมินหน้าหนีไปอีกแล้ว  ใจแข็งจริง  จีบผู้หญิงด้วยกันมันยากขนาดนี้เลยหรือไง..

“งั้นเธอคงต้องไปเกิดใหม่แล้วล่ะ”

ดวงตาสีน้ำเงินเบิกค้างมองคนพูดอย่างตกใจ  คริสตินยิ้มให้เธอแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน  ไม่ใช่สิ  อาจจะเคยเห็นตอนที่เจอกันตัวเป็นๆครั้งแรกในสวนสาธารณะนั่น   และตอนนั้นหรือเปล่าที่เธอตกหลุมรักหล่อนจริงๆ  ไม่ใช่แค่ความรู้สึกของติ่งที่มีต่อไอดอลคนดัง   มิกิหัวใจเต้นแรงราวใครเอากลองมากระหน่ำตีอยู่ในอกเธออย่างไม่ยั้งมือ  มันอึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ได้..

ทำไม...

ใช่.. ทำไมล่ะ  ทั้งที่คนที่ช่วยเธอจากชายหยาบคายบนเครื่องบินเมื่อกี้  เป็นอีกคนแท้ๆ  คริสตินไม่ใช่อัศวินม้าขาว  อิงกริดต่างหาก..

แต่อัศวินก็มีหน้าที่แค่ปกป้องเจ้าหญิงเอาไว้ให้กับเจ้าชายเท่านั้น.. สินะ..

ต่อให้ปกป้องแทบตาย  สุดท้ายเจ้าหญิงก็ต้องคู่กับเจ้าชายอยู่ดี..  เคยมีบางคนพูดเอาไว้  ใช่..มันเป็นประโยคฮ็อตฮิตของบรรดาติ่งทั้งหลายเวลาที่เจอว่า  ไอดอลของพวกเขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว

ถึงอย่างนั้น  อย่างคริสตินน่ะเหรอ  จะเป็นเจ้าชายของเธอ..

“เธอไม่มีทางไม่สวยได้..  หรือจะแกล้งแต่งหน้าแย่ๆ ทาตัวดำๆ มาหลอกพระเอก มาพิสูจน์รักแท้  เหมือนในละครน้ำเน่าของบางประเทศล่ะ  ฉันแนะนำว่า อย่าทำเลยนะ  มันเห่ยมาก  และดูถูกพระเอกของเธอมากด้วย”  นักแสดงดังวิจารณ์อย่างไม่ไว้หน้าใคร  ไม่รู้ตัวด้วยว่าไปทำอะไรให้ใครประทับใจจนต้องมองกันอย่างตาเยิ้มขนาดนี้  ยัยมิกิ..นี่ท่าจะเป็นเอามาก...

“นี่..  หรือว่าเธอจะทำแบบนั้น.?” 

คำถามที่ออกมาอย่างตื่นๆเรียกสติคนเผลอเหม่อให้คืนกลับมา  นักแสดงสาวลูกครึ่งยิ้มหวานส่ายหน้าก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้ชะโงกหน้ามาหาอีกคนที่ตกใจจนผงะหงายเกือบตกเก้าอี้

“มิกิ.?”

“คริสคะ  คือฉัน----”

“งานพร้อมแล้วค่ะคุณหนู!” คานาเดะพุ่งพรวดเข้ามาไม่ให้เสียงก่อน  แล้วชะงักตาโตกับภาพที่เห็นคาตา  ใบหน้าของคุณหนูของตนอยู่ใกล้กับอีกคนจนแทบไม่ต้องเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป  ผู้จัดการหน้าใสรีบหันหลังให้สองสาวทันที  หัวใจเธอเต้นแรงจริงจังจนหน้าร้อนผ่าว  หญิงสาวขาสั่นไปหมด 

โอ้..พระเจ้า..  พระเจ้า..  พวกเค้าจะจูบกันแล้วใช่ไหม.?

“ขะ  ขอโทษค่ะคุณหนู!”

มิกิแอบขบฟันกรอด  ทำไมผู้จัดการเธอจะต้องมาตอนนี้  คริสตินกำลังจะเข้าเกมส์เธอแล้วแท้ๆ  แต่เอาเถอะ  คราวหน้าก็ยังมีอยู่...

ก็ให้มันรู้ไปว่าคุณจะรอดมือฉันได้ตลอดนะ..คริสติน.!

เจ้าหญิงตาสีน้ำเงินถอนหายใจ  ดึงใบหน้าตัวเองกลับมาจากคนที่ยังหน้าตาตกใจอยู่ตรงนี้  เธอยืดตัวขึ้นอย่างสูงสง่า  ตอบกลับคำของผู้จัดการสาวตัวเองอย่างนิ่มนวล  “จ้ะคานาเดะ  งั้นก็ไปกันเลยล่ะกัน..”

“คะ  ค่ะ!” 

สาวลูกครึ่งยิ้มรับคำขาน  หากพอลับตาคุณผู้จัดการที่ก้าวออกไปจากห้องก่อนโดยไม่รอกัน  เธอก็หันกลับมาหาคนที่ยังนั่งช็อคอยู่  หันไปดึงหล่อนขึ้นมาจากเก้าอี้แล้วกระซิบพูดก่อนที่จะได้ยินหล่อนโวยวายอะไร

“ถ้ายังไม่อยากให้ความลับเรื่องอิงกริดรู้ถึงหูใคร  เป็นเด็กดีกับฉันสักครั้งนะคะคริสติน..” 

คริสตินเม้มปากขัดใจเหมือนเด็ก  มันน่าหงุดหงิดใจที่ต้องมาโดนขู่ด้วยผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง  ถึงอย่างนั้นเธอยังพบว่าตัวเองไม่ได้โกรธเคืองอะไรหล่อนจริงจัง  กลับกันหล่อนทำให้เธอรู้สึกบางอย่าง  บางอย่างที่ลืมไปแสนนาน..

ชีวิตชีวา...

ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสมองตามผู้หญิงตาสีน้ำเงินที่เดินไปหาทีมงาน  เผลอยิ้มขณะมองหล่อนถูกพวกช่างแต่งหน้ากับคอสตูมรุมลากไปจัดการแต่งเนื้อแต่งตัวให้  สาวลูกครึ่งหน้าใสนั่นคงอึดอัดน่าดู  หากหล่อนยังใจเย็นพอที่จะไม่อาละวาดใส่ใคร  ยังยิ้มได้อีกด้วย  หรือนั่นมันแค่..   หน้ากาก...

“ฉันอยากให้เธอดูตัวอย่างมิกิซังเอาไว้นะคริส” 

คริสตินก้มลงหาคนพูดอัตโนมัติ  จำได้ว่านี่เสียงใคร  รีเบคก้าผู้จัดการร่างกะทัดรัดยิ้มให้ก่อนจะลากแขนเธอไปให้ถูกพวกทีมงานแต่งหน้าแต่งตัวรุมบ้างอย่างที่อีกคนโดนไปก่อนแล้ว  นางแบบสาวออกอาการไม่พอใจใส่พวกที่เข้ามามะรุมมะตุ้มเธอราวฝูงอีแร้ง  หากแต่เมื่อบังเอิญหันไปสบตาบางคนที่ตาสีน้ำเงิน  เธอกลับรู้สึกตัวเองใจเย็นขึ้นเป็นกอง  ยอมให้ทีมงานจัดการเสื้อผ้าหน้าผมจนพร้อมสำหรับงานที่จะทำได้ในที่สุด  และเธอก็ได้ขึ้นสู่เวทีพร้อมผู้หญิงประหลาดแต่น่าประทับใจคนนี้  ทำงานด้วยกันอีกครั้ง

ไม่อยากยอมรับเลยว่า  ทุกครั้งที่เผลอไปสบตาหล่อนตอนที่เดินสวนกันบนเวที  มันมีบางอย่างเปลี่ยนไปในใจเธอ  และเธอไม่อยากคิดถึงมันเลย..
คริสตินหักสายตาหนีจากดวงตาสีน้ำเงินที่มองมาหา  เธอไม่สามารถทนดวงตาคู่นี้ได้  แม้จะหลงใหลมัน..

ฉันไม่พร้อม..

...............................................

เรียวปากสวยปรากฏรอยยิ้มพอใจ  เป็นอีกครั้งที่เธอได้อยู่ตรงนี้ในฐานะที่ตัวเองชอบมากกว่า  นิ้วเรียวกดชัตเตอร์ครั้งแล้วครั้งเล่า  เสียงของมันเร้าใจเธอมากกว่าเวลาเสียงดนตรีที่ได้ยินพวกนี้เสียอีก  ถึงคนที่เธอกำลังเก็บภาพอยู่ตรงนี้จะหน้าเหมือนตัวเธอราวส่องกระจกเงา  หากความรู้สึกของเราแยกจากกัน

เธอไม่เหมาะกับแคทวอล์ก..  คริสตินต่างหากที่ควรอยู่ตรงนั้น..

อิงกริดคิดไปยิ้มไป  เธอใช้กล้องในมือบังใบหน้าตัวเองไปพลางถ่ายรูปไปด้วย  ดวงตาคู่สวยสีน้ำเงินเข้มมองผ่านเลนส์แว่นใสที่ใส่พรางความเป็นฝาแฝดกับคนที่อยู่บนเวทีเหมือนที่หมวกใบโตที่สวมไว้  เธอกำลังทำหน้าที่เก็บภาพบนเวทีให้พี่แฝดเหมือนที่เคยทำเวลาที่ไม่ต้องไปทำงานแทนกัน  แฝดน้องถอนหายใจอย่างมีความสุข  หากอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้องใกล้ๆตัวก็ทำให้เธอหันไปมองมัน  และท่ามกลางผู้คนมากมายในงานแฟชั่นโชว์  เธอแน่ใจ...

มีใครบางคนได้เก็บภาพเธอไปแล้ว...           




..............................................


กลับมาแล้วค่า  หวังว่าคงไม่ลืมกัน  (บอกแบบนี้กับทุกเรื่องที่มาลงช้าแระ ฮา..)  :07:

ไม่มีอะไรจะแก้ตัวค่ะ  ขอให้คุณได้อ่านกันอย่างมีความสุขก็พอ   :67:

และก็อย่าลืมเม้นท์ให้กำลังใจกันหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ    :61:
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 07:59:23 anhann »



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.