Chapter 10 : เรื่องเหลือเชื่อแต่เป็นความจริง
“ฉันไม่ทราบเรื่องนี้เลยค่ะคุณลุง คุณลุงก็เห็นแล้วนี่คะว่า คนของฉันเองก็ถูกทำร้ายเหมือนกัน” แคลลี่พูดเสียงนิ่งลงไปกับโทรศัพท์ที่แนบหู ดวงตาสีแดงที่ดูเย็นชามองทอดออกไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้า สรรพนามที่ใช้เรียกเขาเปลี่ยนไปเมื่อเธอกับลูกสาวของเขาไม่ได้เป็นอะไรกันอีกต่อไป และเธอก็แน่ใจว่า เขาเองพอใจที่ดิออนถอนหมั้นเธอในที่สุด มันเป็นแผนของเขาอยู่แล้วนี่..
แต่เราจะได้รู้กันว่า แผนของใครจะแน่กว่ากัน..คุณเฟอร์ริส..
ผู้กองสาวจำเป็นต้องซ่อนความจริงข้อนี้เอาไว้ เรื่องที่เธอกับทีมของเธอเองที่บุกเข้าไปขโมยของในคฤหาสน์ที่เจ้าของมันยกหูขึ้นมาต่อว่าเมื่อเขาพบว่าเกิดเรื่องประหลาดขึ้นในบ้านของเขาและสงสัยในตัวเธอเป็นคนแรก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เฟอร์ริสจะไม่ไว้ใจเธอแบบนี้
ตอนนี้เธอเหมือนศัตรูคนสำคัญของเขาไปเสียแล้วเมื่อเธอหยิบยกคำสั่งจากกองทัพขึ้นมาอ้างสิทธิ์ดูแลลูกสาวของเขาแทนตัวเขาเอง แต่เพราะเขาเองนั่นแหละก็คือผู้ต้องสงสัยว่าจะมีเอี่ยวในเรื่องชิพส์ลับนี้คนหนึ่งเหมือนกัน แล้วมันจึงทำให้เธอจำเป็นต้องโกหกคำโตแบบนี้ทั้งที่ไม่อยากจะทำ
ใช่..ฉันยอมเป็นคนบาปกับการโกหกแบบนี้ ดีกว่าให้คนที่ฉันรักต้องอยู่ในอันตราย และฉันก็อยากจะรับผิดชอบในความผิดที่ฉันเคยทำเอาไว้ด้วย ฉันเป็นหนี้เธอ..ดิออน..
“ค่ะ แล้วจะให้คนสืบให้นะคะว่าเป็นพวกไหนที่บุกรุกบ้านคุณลุง ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ยังไงเราก็เหมือนญาติสนิทกันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ขอตัวก่อนนะคะ ฉันมีงานอื่นต้องไปจัดการ ค่ะ แล้วจะบอกดิออนให้นะคะ สวัสดีค่ะ” แคลลี่เหยียดยิ้มหยันเมื่อกดปุ่มวางหู
“พูดเหมือนเป็นคนดี เป็นคนรักลูกเลยนะตาเฒ่า!” พึมพำและมองโทรศัพท์ในมือด้วยท่าทางขยะแขยงเหมือนมันเป็นตัวแทนของคนที่ตัวเองเอ่ยว่า แล้วก็ส่ายหน้าให้มันก่อนจะเก็บมันลงในกระเป๋าเสื้อคลุมอย่างไม่สนใจมันอีกต่อไป ตอนนี้เธอมีสิ่งอื่นที่ต้องสนใจมากกว่า แซนดร้าควรจะมาถึงแล้วในเมื่อหล่อนมาด้วยเครื่องบินส่วนตัวของเธอ หรือว่ามีปัญหาอะไร..
และแล้วความกังวลใจของเธอก็หมดลงไปเมื่อสายตามองเห็นบางสิ่งปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมเสียงอื้ออึง ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มพอใจก่อนจะก้าวเดินไปหาใครบางคนที่เฝ้ารออยู่ หากแต่เมื่อถึงที่หมายแคลลี่ก็ต้องยิ้มพร้อมส่ายหน้าให้คนที่เดินลงมาจากยานพาหนะติดปีกที่จอดสนิทอยู่บนผืนดินแล้ว
“แซนดร้าคะ อย่าบอกนะว่า คุณยังเปิดเซฟไม่ได้ ก็เลยเอามาแบบนี้” แล้วน้ำเสียงขี้เล่นของเธอก็พาให้สาวหน้าบึ้งที่เพิ่งวางของลงกับพื้นเสียงดังอย่างไม่ไยดีมันเงยหน้าขึ้นมาหา แซนดร้าทำหน้านิ่งในนาทีแรกเมื่อหล่อนยกมือขึ้นทำวันทยาหัตถ์แล้วก็กลับหลุดหัวเราะพรืดเมื่อเธอเลิกคิ้วให้
“ต้องขอบคุณคุณเซร่าห์นะคะที่ใช้ของดีแบบนี้ ฉันพยายามเท่าไหร่ มันก็เปิดไม่ได้ ท่าทางจะต้องหาหนุ่มๆสักคนเอาอะไรมางัดแล้วมั้งคะ” พูดขี้เล่นไปอย่างนั้น แต่การกระทำที่ลงทรุดตัวลงไปก้มตรวจดูมันก็ทำให้คนมองเข้าใจว่าเธอกำลังจริงจังอยู่ และหล่อนจึงเข้ามานั่งลงใกล้ๆ สัมผัสท่อนแขนเธอเบาๆด้วยมืออุ่น
“ฉันว่าเราเอามันไปไว้ข้างในก่อนดีกว่าค่ะ แล้วฉันจะช่วยดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง..” แคลลี่ยิ้มจริงใจให้สาวตรงหน้าที่ในที่สุดก็ยอมพยักหน้าให้แม้จะยิ้มกลับมาอย่างไม่เต็มที่นัก
ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นยืนและกวักมือเรียกลูกน้องสองคนเข้ามาหาให้พวกเขาจัดการนำเซฟที่ว่านี้เข้าไปในห้องทำงานของเธอ ผู้กองสาวพยักหน้าให้อีกสาวเดินตามเธอเข้าไปด้านในด้วยกัน เธอคิดว่าน่าจะหาอะไรให้หล่อนได้ทานเสียหน่อย ท่าทางของแซนดร้าดูเหนื่อยอ่อนจริงๆ แต่ก็เก่งจริงๆเหมือนที่ใครบางคนการันตีให้
“คุณทำงานได้ดีนะคะ ฉันขอชม แต่การที่คุณใช้พิษกับคนของฉัน มันก็ดูจะมากไปนิดนะคะ” พูดขึ้นโดยไม่มีการเกริ่นนำ คนที่เดินข้างกันอยู่จึงหันมามองหน้าทำตาปริบๆ แต่มันก็ไม่นานกับอาการงงแบบนั้น เพราะตำรวจสาวคนนี้เป็นคนหัวไว
“ขอโทษค่ะ แต่คุณน่าจะรู้ว่าฉันไม่ต้องการเสี่ยงให้งานผิดพลาด แล้วฉันก็ขอโทษคุณนินจาของคุณไปแล้วนะคะบอส”
“โอเค.... งั้นฉันยกเรื่องนี้ให้คุณ เพราะไม่ว่ายังไง คุณก็ได้ของที่ฉันต้องการมาแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร”
“ฉันทำงานนี้ด้วยหัวใจค่ะแคล ถ้าจะให้พูดตามตรง”
หากแต่คำพูดประโยคนี้ก็ทำให้คนฟังต้องมองหน้าคนพูดอย่างสงสัย แคลลี่ชักสีหน้าจริงจังขึ้นมาใส่ขณะพูดขึ้น “คุณจะบอกว่า คุณตกหลุมรักอดีตคู่หมั้นฉันงั้นเหรอคะแซนดร้า เร็วเกินไปไหม..” แล้วคนลองเชิงก็ต้องแปลกใจกับการพยักหน้ารับของอีกสาว และก็ต้องถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดออกมาใหม่
“ความจริงแล้วฉันก็ดีใจและยินดีนะคะที่คุณมีความรู้สึกดีๆให้ดิออน แต่ตอนนี้ฉันต้องขอคุณว่า อย่าเพิ่งคิดจะทำอะไรตามใจ อย่าเพิ่งไปกวนใจเค้าให้มากนัก ถ้าคุณไม่อยากจะเจออะไรแบบเมื่อครั้งนั้นอีก” พูดจบแคลลี่ก็คิดจะเดินจากไปอย่างไม่บอกลา คิดได้ว่าเธอเสียเวลากับการพูดมากเกินไป งานอื่นยังมีรออยู่ หากแต่เสียงที่หูได้ยินตามหลังมาก็พาให้ต้องชะงักอีกครั้ง
“ฉันจะไม่ยอมแพ้คุณหรอกนะ..บอส บอกไว้ก่อน!”
สาวตาสีแดงหันกลับมามองหน้าคนพูดและหรี่ตามองหล่อนอย่างประเมิน จากนั้นก็พยักหน้ารับรู้ก่อนหันจากไปพร้อมเสียงพูดของตัวเองที่หวังว่าจะลอยตามลมมาเข้าหูของอีกคนให้ได้ยิน
“ฉันจะรอดูคุณพยายามค่ะ แต่ก่อนหน้านั้น ฉันขอแนะนำให้คุณไปอาบน้ำก่อนนะคะ กลิ่นคุณไม่ค่อยดีเลย..”
และถึงจะไม่ได้หันไปมองหล่อนอีกครั้งแคลลี่ก็แน่ใจว่า แซนดร้าต้องหัวเราะกับคำพูดของเธอแน่นอน แน่ล่ะ ก็คนประเภทเดียวกันนี่นา..
--The bodyguard--
ดวงตาสีแดงจดจ้องอยู่กับของตรงหน้า เธอกำลังคิดว่าจะทำยังไงกับมันดี และไวเท่าความคิดตัวเอง อุปกรณ์ที่จะช่วยปลดล็อครหัสเซฟที่มีลักษณะเหมือนของโจรปล้นเซฟธนาคารก็มาถึงมือเธอด้วยลูกน้องคนหนึ่งซึ่งเธอสั่งให้นำมันมาให้ แคลลี่ใช้สมาธิอยู่กับมันเงียบๆคนเดียวเมื่อเธอขอให้ตำรวจสาวชาวอเมริกันไปพักผ่อน แล้วมันก็หมดหน้าที่ของหล่อนแล้วเช่นเดียวกัน ที่เหลือนี้มันอยู่ในมือเธอ รวมถึงความเป็นไปในชีวิตของเด็กสาวคนนั้นด้วยใช่ไหม..
ดิออน.. อดทนหน่อยนะ.. ฉันสัญญา.. มันจะไม่นาน...
ทำงานตรงหน้าไปด้วยหัวใจไหวสั่น หวังใจว่ามันจะสำเร็จผลโดยไม่ต้องเสียเวลามากกว่านี้ และในที่สุดริมฝีปากอิ่มก็คลี่ยิ้มออกมาได้ ฝาเปิดที่ทำด้วยเหล็กหนาพิเศษเปิดออกให้กับเธอ หากแต่ภายใต้ความดีใจในความสำเร็จของงาน ผู้กองสาวหน้าหวานก็ยังมีความรอบคอบอยู่เช่นเดิม ดวงตาสีแดงมองจ้องเข้าไปด้านในของเซฟเมื่อมือหยิบไฟฉายขึ้นมาสาดไฟใส่มัน และสิ่งที่เห็นก็ทำให้ต้องกระพริบตา นี่แซนดร้าและคนของเธอเสี่ยงชีวิตเข้าไปเอาของแค่นี้มาเท่านั้นหรือ เป็นไปไม่ได้..
“อะไรกัน.. ตุ๊กตาหมาตัวเดียวเนี่ยนะ อยู่ในเซฟ เป็นไปได้ยังไง..” พูดขึ้นด้วยเสียงตกใจขณะนำตุ๊กตาที่ว่าขึ้นมาส่องดู แคลลี่ขมวดคิ้วมองมันอย่างหงุดหงิดคิดว่าเธอถูกใครบางคนต้มให้ไปเอาของไม่มีประโยชน์กลับมา นี่เธอถูกตลบหลังใช่ไหม.. ฝีมือใครกันนะ..
“คุณคิดอะไรอยู่ด็อกเตอร์.. จะเล่นตลกกับฉันหรือไง.. หรือว่าจะเป็น..เฟอร์ริส” และอารมณ์ร้อนๆของเธอที่ครุ่กรุ่นอยู่ตลอดเวลาเหมือนลาวาใต้ภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุทุกเมื่อก็ทำให้เกือบจะปาของในมือทิ้งอย่างไม่ใส่ใจจะหาความหมายของมัน หากไม่ได้ยินเสียงนี้เสียก่อน
“แคลอย่านะ.. นั่นหมาของฉัน!” ดิออนเข้ามาเธอและนำของในมือเธอออกไปได้ทันเวลา แคลลี่กระพริบตากับท่าทางของเด็กสาวที่ดูเหมือนไม่ใช่คนป่วยอีกต่อไป
“โทษทีๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่รู้..” พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด คนหน้ามุ่ยอย่างหงุดหงิดเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่นเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้
“นี่คุณบัดดี้ ตุ๊กตาของฉันตอนเด็กๆ เธอไปเจอมาจากไหนแคล ในห้องทำงานแม่ฉันเหรอ..” เด็กสาวถามอย่างประหลาดใจและก็เข้าใจมันทั้งที่อีกคนยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ เพราะสายตามองไปเห็นตู้เซฟที่เปิดอ้าอยู่ตรงหน้า ดิออนพูดเสียงเศร้าน้อยๆ “แม่คงตั้งใจจะเก็บมันเอาไว้ให้ฉัน ฉันทำมันหายตอนห้าขวบน่ะ”
มือบางลูบเบาๆไปบนตุ๊กตาลูกสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์บนตักตัวเองอย่างรักใคร่และคิดถึง ลืมไปเลยว่ากำลังโดนคนตรงหน้ามองด้วยสายตาอย่างไร จนกระทั่งหล่อนพูดขึ้น
“เธอไม่เป็นอะไรแล้วเหรอ..ดิออน” น้ำเสียงที่ห่วงใยไม่ต่างจากเดิมพาให้คนฟังยิ้มรับระหว่างมองตากัน
“ตอนนี้ฉันสบายดี ฉันเลยอยากมาหาเธอ มาขอบคุณ..”
น่าแปลกที่อารมณ์ร้ายๆเมื่อครู่ของเธอหมดลงไปเพราะรอยยิ้มและท่าทางแบบนี้ของเด็กสาว อาจเพราะความไร้เดียงสาที่ช่วยให้เธอเย็นลงได้ แคลลี่ส่ายหน้าให้พร้อมรอยยิ้มบางๆขณะเอื้อมมือไปสัมผัสศีรษะหล่อน
“ไม่เป็นไรจ้ะ แค่เห็นเธอยิ้มได้ ฉันก็ดีใจแล้วล่ะ” ดิออนพยักหน้ารับพร้อมแก้มแดงๆ แต่สาวตาสีแดงกลับยิ้มได้ไม่นาน อาการเครียดก็กลับมาอีกครั้ง
“แต่ฉันต้องขอโทษนะ ที่ทำได้แค่นี้ ขอโทษจริงๆ” เธอพูดถึงของที่ได้มาจากห้องลับที่หลายๆคนต้องเสี่ยงชีวิตเข้าไปเอามันมา และแน่นอนว่า คนฟังเข้าใจความหมายของเธอเมื่อหล่อนตอบกลับมาพร้อมดึงเธอเข้าไปกอดแน่น
“ไม่เป็นไรแคล.. แค่รู้ว่าเธอกับทุกๆคนพยายามทำทุกอย่างเพื่อฉัน ฉันก็มีความสุขแล้ว ถึงฉันตายตอนนี้ ฉันก็ตายอย่างมีความสุข ฉันรักเธอนะแคล รักพวกเธอทุกคน ฉันดีใจที่ได้เจอเธอ ได้เจอผู้พัน..”
ในอกของแคลลี่เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่เพราะคำพูดแบบนี้ รู้สึกทั้งตื้นตันและผิดหวังในตัวเอง สองตาของเธอเอ่อด้วยน้ำตาที่ซ่อนเอาไว้ไม่สำเร็จ ทำได้เพียงหวังว่าอย่าให้อีกคนเห็นมัน เธอไม่อยากอ่อนแอให้หล่อนดูในเมื่อหล่อนพยายามจะเข้มแข็งขนาดนี้
“ฉันจะหาทางใหม่ ฉันจะไม่หยุดแค่นี้ ฉันสัญญา ฉันต้องทำมันให้ได้”
“แคล... ไม่เอาน่า.. พอแล้ว.. ไม่ต้องหรอกนะ ฉันยอมผ่าตัด เธอกับคนอื่นๆจะได้ไม่ต้องลำบากอีก ผ่าเอามันออกไปซะ มันก็หมดเรื่องแล้วนี่”
แคลลี่กระพริบตาจนน้ำตาที่เอ่อในสองตารินออกมาจนต้องรีบปาดมันทิ้งไปก่อนจะมาเผชิญหน้ากับเจ้าของคำพูดนี้อีกครั้ง มองหน้าหล่อนอย่างตกใจ แล้วก็ส่ายหน้าให้ด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่ได้.. ฉันจะยอมให้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันยอมให้เธอเสี่ยงไม่ได้ เธอก็รู้นี่ว่า หมอที่ผ่าตัดให้เธอ แล้วมั่นใจได้ว่าเธอจะปลอดภัย ในโลกนี้มีแค่แม่เธอคนเดียวเท่านั้น” พูดแล้วก็ออกแรงไปกับมือที่บีบบ่าทั้งสองข้างของสาวตัวเล็กกว่า ลืมไปเลยว่าหล่อนจะเจ็บกับมัน และดิออนเองก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมาว่าเป็นแบบนั้นเสียด้วย หล่อนได้แต่เถียงคอเป็นเอ็น
“แต่ฉันอยากเสี่ยง ฉันอยากจบเรื่องนี้เสียทีแคลลี่ ฉันไม่อยากให้ใครต้องมาลำบากกับฉันอีกแล้ว มันมากเกินไป ฉันทนไม่ได้ที่เห็นเธอเครียดทุกวัน ฉันทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นเธออ้วกทุกๆเช้าเพราะโรคเครียดลงกระเพาะ! และเธอก็ดูอ่อนแอไปมากเหมือนไม่สบายตลอดเวลา..” แต่คนที่ต้องตกใจและตาค้างไปคราวนี้กลับเป็นเด็กสาวเสียเองเพราะสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอีกคนและคำพูดของหล่อน
“ฉันท้องต่างหากล่ะ ไม่ได้เครียดมากขนาดนั้น..”
“ท้อง..? เป็นไปได้ยังไง ก็----” ดิออนคิดคำพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไปได้แต่มองหน้าผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา แคลท้องเหรอ.. จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ก็ผู้พันน่ะเป็น....
“ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกเธอก่อน แอนขอให้ฉันมีลูกให้เค้าตั้งแต่ที่เรากลับมาดีกัน”
“แต่เธอกับเค้าน่ะเป็น... หรือผู้พันเค้าเป็น....”
และแล้วท่าทางตกใจบวกกับอาการอึกอักพูดไม่ออกก็ทำให้คนฟังหัวเราะออกมา มือสวยขยับขึ้นสัมผัสแก้มขาวที่แดงระเรื่อของเด็กสาวอย่างอารมณ์ดี
แคลลี่ยิ้มขณะพูด “แอนเป็นผู้หญิง..ดิออน ถึงจะดูไม่ค่อยเหมือน แต่ฉันรับรองว่าเค้าเป็นผู้หญิงเหมือนเธอกับฉัน”
“อ้าว.. แล้วงั้นเธอท้องได้ไงล่ะ หรือว่าเธอไป...” ดิออนตาโตขึ้นมากับความคิดของตัวเอง ทำให้คนที่รู้ทันความคิดเธอรีบส่ายหน้าไปให้ทันทีเหมือนกับที่รีบอธิบาย
“ฉันไม่นอนกับผู้ชายหรอก ไม่ต้องห่วง นี่ลูกของฉันกับเค้า นี่คือลูกของผู้พันมิลเลอร์จริงๆ ไม่เชื่อไปถามเค้าสิ” แต่ดูเหมือนยิ่งพูดก็จะทำให้อีกคนยิ่งงงไปใหญ่ เด็กสาวส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจกลับมา คงต้องอธิบายมากกว่านี้ “คือฉันทำกิฟท์น่ะ ไม่ใช่สินะ ต้องเรียกว่า “เด็กหลอดแก้ว” เพราะหมอแค่เอาตัวอ่อนที่ผสมแล้วมาฉีดให้ แล้วก็เผอิญว่าฉันโชคดี มันได้ผล..”
“ตัวอ่อน..? แล้วไปทำมาตอนไหนล่ะ ทำไมฉันไม่รู้มาก่อน ผสมเทียมมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอแคล แล้วเวลาแค่นี้นะ เธอทำได้ไง..” เด็กสาวขี้สงสัยลืมเรื่องของตัวเองไปชั่วคราวเพราะเรื่องใหม่นี้ที่น่าสนใจกว่า ผู้หญิงสองคนมีลูกด้วยกัน มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ นอกเสียจากว่า....
แคลลี่ยิ้มอย่างเอ็นดูให้กับความไร้เดียงสาของเด็กตรงหน้า แล้วก็เอื้อมมือไปคว้ามือหล่อนมาคลำที่ท้องของตัวเองที่ยังไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าว่ามันมีความเปลี่ยนแปลง ก็แค่เดือนกว่าๆเกือบจะสองเดือนเท่านั้นที่เธอพบว่าตัวเองตั้งครรภ์จากวิธีการของหมอ
“ฉันแต่งงานมาแปดปีแล้วนะดิออน เธอคิดหรือว่า ฉันจะไม่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นๆ ก่อนหน้าที่แอนจะหายไปทำงานเมื่อสามปีก่อน เค้ากับฉันไปหาหมอด้วยกันเพื่อปรึกษาเรื่องมีลูก และหมอก็แนะนำให้เราทำมันด้วยวิธีการสมัยใหม่สำหรับคู่แต่งงานเพศเดียวกัน มันมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่แอนก็ยอมทำ เพราะเค้าอยากมีลูกมากๆ แต่เราก็ทำมันสำเร็จแค่สร้างตัวอ่อนที่มีไข่ของฉันกับดีเอ็นเอของเค้าผสมกันเท่านั้น เพราะเค้าหายไปก่อน ฉันก็เลยล้มเลิกเพราะคิดว่าถูกทิ้งไปแล้ว แต่ก็โชคดีที่หมอขอร้องให้ฉันเก็บตัวอ่อนเอาไว้ในธนาคารเก็บ เก็บรักษามันอย่างดี และพอเค้าขอฉันเรื่องนี้อีกครั้งตอนที่เราดีกันแล้ว ฉันก็เลยตามใจเค้า เค้าให้คนไปเอาตัวอ่อนที่อันจริงก็คือลูกของฉันกับเค้ามาจากธนาคารเก็บที่อังกฤษ มาให้หมอที่นี่จัดการให้ แล้วมันก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ดูเหมือนฉันจะท้องผิดเวลาไปหน่อยนะ ว่าไหม..?”
ดิออนกระพริบตาปริบๆเหมือนคิดว่าตัวเองฝันไปที่ได้ยินเรื่องเล่านี้จากปากของผู้หญิงที่อดีตเธอเคยคิดว่าจะใช้ชีวิตร่วมกับหล่อน ยอมรับว่าเธอตกใจมากกับข่าวใหม่นี้ และรู้สึกโกรธเล็กๆด้วยที่หล่อนไม่ปริปากบอกเธอเลย ไม่เลยทั้งสองคน ทั้งที่มันเป็นเรื่องใหญ่แท้ๆ หรือว่าไม่เห็นว่าเธอสำคัญพอที่จะบอก
“แล้วทำไมเธอไม่เคยบอกฉัน.. ผู้พันด้วย.. พวกเธอไม่เห็นฉันในสายตาหรือไง เรื่องใหญ่ขนาดนี้นะแคล เธอท้องแต่ต้องทำงานเครียดมากๆ เธอไม่กลัวมันไปกระทบกับเด็กหรือไง ฉันไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ ไม่เข้าใจเค้า..”
“เพราะเธอไม่พร้อมกับเรื่องนี้ดิออน.. เธอป่วยอยู่ และฉันก็รู้ว่าถ้าเธอรู้เรื่องนี้ เธอจะไม่ยอมให้ฉันทำงานให้ แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอก ฉันดูแลตัวเองอยู่ ฉันรักลูกของฉัน ตอนนี้เธอควรจะดูแลตัวเองให้ดีนะสาวน้อย รู้หรือเปล่า..” พูดแล้วก็นำมือข้างที่ว่างขึ้นมาเสยเส้นผมที่หล่นลงมาเกะกะใบหน้าของเด็กสาว ถอนหายใจเบาๆกับสีหน้าที่บอกว่าน้อยใจของหล่อน
“ฉันอยากให้ลูกของฉันเป็นเหมือนเธอ น่ารัก จิตใจอ่อนโยน ไม่เอาเปรียบใครและเข้มแข็ง เธอจะอยู่ช่วยฉันเลี้ยงลูกใช่ไหม..ดิออน” ประโยคนี้เหมือนคนพูดตั้งใจจะให้อีกคนให้สัญญากับเธอว่าจะยอมรับความช่วยเหลือที่เธอเต็มใจจะมอบให้ เด็กสาวดูลังเลใจที่จะตอบคำถาม แต่ก็ยอมพยักหน้าในที่สุด พาให้คนนั่งลุ้นยิ้มออกมาได้ แคลลี่ขยับใบหน้าเข้าไปจูบหน้าผากหล่อนเบาๆและออกมามองตา
“โอเค.. ถ้างั้นตอนนี้เธอกลับไปพักผ่อนเถอะนะ เดี๋ยวฉันจะทำงานต่ออีกหน่อยแล้วจะตามไป”
“แต่ฉันไม่อยากให้เธอ....” แล้วคนที่จะหันกลับไปทำงานก็ต้องหันกลับมามองหน้าคนที่พยายามรั้งเธอเอาไว้ และก็ถอนหายใจเบาๆ
“ถ้าห่วงฉันกับหลานขนาดนี้ ตามแอนมาอยู่กับฉันก็ได้นะ แต่เธอต้องอยู่กับแซนดร้าสองคนนะ ยอมหรือเปล่า..” ผิดคาดคำขู่นี้ของเธอไม่ได้ผลเมื่ออีกคนรีบพยักหน้าให้ เป็นอันว่า ดิออนจะเรียกสามีเธอมาอยู่ด้วยจริงๆ หล่อนห่วงเธอมากถึงขนาดยอมอยู่กับคนที่ไม่ชอบหน้าได้เลยหรือนี่ น่าทึ่งจริงๆ
“ก็ได้ๆจ้ะ งั้นก็ตามใจเธอนะ” พูดเหมือนระอาใจแต่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่มีให้เด็กสาวที่ยิ้มให้อย่างดีใจก่อนจะออกไป
แคลลี่ถอนหายใจแรงพร้อมรอยยิ้มที่เหือดหายไปจากใบหน้าเมื่อไม่เห็นร่างบางในห้องนี้อีกแล้ว ดวงตาสีแดงก้มลงมองท้องตัวเองและขยับมือขึ้นมาลูบคลำมันอย่างทะนุถนอม “แม่ขอโทษนะลูก แต่ลูกเข้าใจใช่ไหมว่าแม่จำเป็น ยกโทษให้แม่ด้วยนะคะ” พูดจบก็เอามือตัวเองขึ้นประทับจุมพิตที่ฝ่ามือและวางมันลงตรงท้องตัวเองอีกครั้ง หวังให้สัมผัสนี้ไปถึงอีกชีวิตที่อยู่ข้างในและอธิษฐานให้เขาอยู่กับเธอต่อไปจนกว่าจะพร้อมออกมาดูโลกกว้าง อย่าเพิ่งน้อยใจเธอจนไม่ยอมจะเป็นลูกเธออีกต่อไป ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆ
คุณแม่ยังสาวหลับตาลงเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ให้คงที่ สูดลมหายใจเข้าลึกและผ่อนมันออกมาก่อนจะลืมตาขึ้นมาใหม่และหันกลับไปทำงานต่อ เธอต้องหาวิธีใหม่ ติดต่อคนใหม่เพื่อคลี่คลายเรื่องชิพส์นี้ให้ได้ เธอจะไม่มีทางหยุดถ้ามันยังไม่สำเร็จ หากแต่ขณะที่สมองครุ่นคิดไปกับเรื่องงานที่ต้องจัดการ สายตาเธอก็ไปเจอกับของที่อีกคนลืมทิ้งเอาไว้จึงเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาดู
“คุณบัดดี้เหรอ.. ก็น่ารักดีนะ แต่คุณเซร่าห์.. คุณเก็บของแบบนี้เอาไว้ในเซฟแน่นหนาขนาดนั้นเพื่ออะไร ก็แค่ตุ๊กตาไม่ใช่หรือไง..” พูดไปเหมือนบ่นแล้วคนพูดก็ต้องทำตาโตขึ้นมาเมื่อสมองฉุกคิดอะไรได้ ร่างสูงผุดลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้โซฟาด้วยความตื่นเต้น ลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังท้องอยู่ แต่ลูกฉันคงไม่ได้อ่อนแอขนาดที่จะยอมทิ้งแม่ของเค้าไปกับเรื่องแค่นี้หรอกน่า ไม่ต้องห่วง..
แคลลี่หยิบมีดสั้นขึ้นมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงานและจัดการผ่าชำแหละตุ๊กตาที่ถือมาด้วย และแล้วเรียวปากอิ่มสวยก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างพอใจกับสิ่งที่เจอจากมัน เธอนำคีมเล็กๆขึ้นมาค่อยๆดึงไมโครชิพส์ขนาดจิ๋วออกจากท้องตุ๊กตาลูกสุนัขที่คิดว่าจะเย็บมันให้เป็นเหมือนเดิมเมื่อเสร็จงานนี้
ดวงตาสีแดงมองมันด้วยแววตาเป็นประกาย และส่งเสียงพูดขึ้นเบาๆ “ซ่อนของเก่งจริงๆนะคะคุณด็อกเตอร์ แต่ก็ขอบคุณ ขอบคุณมากๆค่ะคุณเซร่าห์ ฉันจะใช้โอกาสที่คุณให้อย่างดีที่สุด ลูกสาวคุณจะต้องปลอดภัย ไว้ใจฉันนะคะ”
TBC.