web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 116
Total: 116

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 2 : เหนื่อย  (อ่าน 2907 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 2 : เหนื่อย
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 19:49:30 »


Chapter  2  :   เหนื่อย

ดวงตาสีเขียวมรกตมองคนสองคนสลับไปมาอยู่เป็นเวลาหนึ่งแล้ว  หนึ่งคือแคลลี่ที่นั่งใส่เสื้อกล้ามรัดรูปและกางเกงผ้าเนื้อบางสบายตัวอยู่ใกล้ๆกำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา  คาดว่าคงกำลังวุ่นวายหาอะไรที่เธอต้องการให้อยู่  อีกหนึ่งเธอก็มองดูเขา  ผู้พันแองเจล่านั่งตัวใหญ่อยู่ตรงหน้าประตูห้อง  กำลังทำความสะอาดปืนหลายกระบอกอยู่ตรงนั้น  เขานั่งเงียบไม่พูดอะไร  ไม่ได้มองอะไรใคร  เหมือนกำลังเพลินอยู่กับมัน  ไม่สนใจด้วยว่าตัวเองกำลังถูกมองอย่างพิจารณาแบบนี้

ดิออนมองดูพวกเขาอย่างสังเกตสังกา  ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากมองนักหนาเหมือนกัน  คนตัวขาวเผือกนั่นอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขนขึ้นมาเหนือข้อศอกกับกางเกงยีนส์ขายาว  แองเจล่ามัดผมสีเงินที่ยาวถึงก้นนั่นขึ้นเป็นทรงหางม้า เสื้อที่ใส่ก็แทบจะไม่ติดกระดุมสักเม็ด  ถึงได้รู้ว่าตัวขาวเหมือนคนเม็ดสีผิวไม่ทำงานแบบนี้ไง สงสัยว่าคงจะร้อนกับอากาศตอนบ่ายแก่ๆนี้ในเกาะแห่งนี้ แต่มันจะเป็นอะไรไปล่ะ ถ้าเขาจะแต่งตัวแบบนั้น ในเมื่อไม่มีอะไรในร่างกายส่วนบนของเขาให้เธอดูหรอก  นอกจากหน้าอกแบนๆที่แลดูอย่างไรก็ไม่ใช่หน้าอกผู้หญิง ถึงไม่ใส่เสื้อเลย เขาก็ไม่โป๊อยู่ดีเหมือนตอนนั้นที่เขาเคยทำครั้งหนึ่งนั่นแหละ  ทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่า  ถูกผู้ชายที่ไหนลากไปทำมิดีมิร้ายตอนนั้น

ใช่แล้ว..แองเจล่าไม่เหมือนแคลลี่เลย  ที่หน้าอกหน้าใจของหล่อนเหลือกินเหลือใช้จนเธอเห็นทีไรก็อายหน้าแดงทุกที  คนอะไรหน้าอกสวยจัง  สวยจริง  สองคนนี่หุ่นคนละเรื่องกันเลยนะ  แต่ก็ดูสมกันดี

หันมองตัวเอง  ดิออนก็กระพริบตา เธอเองก็อยู่ในชุดที่ไม่ต่างจากแคลลี่นัก  แต่ผิวขาวเหลืองอย่างคนเอเชียทั้งที่เป็นลูกครึ่งอเมริกันและรูปร่างบอบบางเหมือนลมพัดจะปลิวได้  ก็ทำให้เธอดูแตกต่างจากสาวลูกครึ่งรัสเซียที่หุ่นเหมือนสาวนักกีฬา ร่างกายดูฟิตแอนด์เฟิร์มนั่นโดยสิ้นเชิง   ทำไมไม่เกิดมาตัวใหญ่กว่านี้นะ จะได้ไม่ดูเป็นเด็กอมมือแบบนี้  น่าสงสารตัวเองจัง.. 

คิดแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่รู้ตัว  และก็ไม่รู้ตัวด้วยว่าไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่คอยสังเกตคนอื่นอยู่  มีคนมองดูเธออยู่เงียบๆเหมือนกัน  หล่อนพูดขึ้นมาแล้ว

“คิดอะไรอยู่เหรอ..  ทำไมต้องถอนหายใจ”  ดวงตาสีแดงมองคนที่ตัวเองพูดด้วยอย่างสงสัย  ดิออนทำอะไรแปลกๆ มองคนโน้นทีคนนี้ที  คิดอะไรกันนะ
สาวน้อยกระพริบตาปริบๆมองหน้าคนถาม  แล้วส่ายหน้ายิ้มเจื่อนๆพาให้คนมองถอนตัวออกจากความวุ่นวายกับคอมพิวเตอร์มานั่งมองหน้าเธออย่างจริงจัง  แคลไม่เชื่อเธออีกแล้ว  นั่นแหละแคลลี่ล่ะ  ใครจะไปปิดอะไรได้..

“แค่คิดอะไรไปเรื่อยๆ”

“แล้วคิดอะไรล่ะ  บอกหน่อยได้ไหม” แคลลี่ยังคงคาดคั้น  พาให้คนที่นั่งอยู่หน้าประตูห้องหันมามองบ้าง  แองเจล่าคงสงสัยว่าพวกเธอคุยอะไรกัน  แต่เขาไม่ได้ถามแค่ฟังอยู่เงียบๆ

ถูกถามมาขนาดนี้  ดิออนก็ถอนหายใจอีก ก่อนจะยิ้มออกมาให้คนถามมองงงๆ  “เปรียบเทียบหุ่นพวกเธอสองคนไง  พอใจหรือยังแคลลี่” 

คนฟังกระพริบตาปริบๆแล้วก็หันไปหาคนที่นั่งเงียบอยู่  ผู้พันตัวใหญ่ส่ายหน้ากลับมา  เขาคงไม่เข้าใจเธอเหมือนกัน  ดิออนยิ้มอย่างพอใจในปฏิกิริยาแบบนี้  แล้วก็พูดออกมาขำๆ

“ฉันกำลังคิดว่า  ฉันกลายเป็นลูกสาวของพวกเธอแล้วล่ะ” 

แคลลี่กระพริบตาอีกครั้งมองคนพูดตาโตแล้วก็พูดออกมาเสียงตกใจ“ลูกสาวเหรอ.. ทำไม..?”  แต่เธอก็ไม่ใช่คนเดียวที่มีอาการแบบนี้  อีกคนที่นั่งอยู่ไกลๆก็กำลังนั่งมองมาอย่างปั้นหน้าไม่ถูก ใบหน้าขาวซีดเปลี่ยนเป็นสีแดงน้อยๆ

คนอายุน้อยที่สุดในนี้เลยยิ้มกว้างแล้วพยักเพยิดหน้าไปทางสาวอายุมากกว่าทั้งสองคนคนละครั้ง “ก็ดูพวกเธอสิ  อย่าให้ฉันต้องพูดเลยนะ เห็นๆกันอยู่  เราสามคนอยู่กันเหมือนครอบครัวเลยนะ  พ่อ  แม่  ลูก..” 

ดิออนจบคำพูดตัวเองง่ายๆ ไม่สนใจจะอธิบายอะไรอีก  เธอก้มหน้าเล่นเกมส์ในมือถือที่อีกสาวยกให้เอาไว้นานแล้ว  เห็นอยู่หรอกว่าแคลลี่มองเธออยู่แต่ก็ทำไม่รู้เรื่องอะไร  จนกระทั่งหล่อนหันไปทางอื่น  สาวน้อยคิดว่าเธอคงสบายใจได้ที่จะไม่โดนถามซักไซ้อะไรขึ้นอีกให้ต้องคิดมาก  หากแต่ก็ไม่จริง  เมื่อได้ยินเสียงพึมพำของบางคนให้ต้องเงยหน้าขึ้นมองหล่อนตาโต

“ก็ดีเหมือนกันนะที่เธอคิดแบบนั้น  เพราะแอนก็บอกฉันเหมือนกันว่า  เค้าอยากมีลูกสักคน  แต่ฉันไม่อยากท้องเองเลยไม่เอา  ได้เธอเป็นลูกก็ดีนะดิออน โตทันใช้เลยล่ะ  เห็นด้วยไหมแอน..”

แองเจล่าพยักหน้ารับยิ้มๆกับคำถาม  เขาไม่ได้พูดอะไรกลับมาได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป  แต่ดิออนแน่ใจเลยว่า ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลนั่นกำลังแสดงความขบขันออกมาระหว่างที่เขาเงียบอยู่  เห็นแบบนี้เลยรู้สึกหน้าร้อนผ่าว  เด็กสาวคิดว่าเธอกำลังโดนรุม  ใช่สิ..ฉันมันตัวคนเดียวนี่นา..

“พวกบ้า.! ฉันไม่อยู่กับพวกเธอแล้ว  อยู่กันไปสองคนเลยนะ.. ขี้แกล้ง!”  สาวน้อยพูดเสียงดังและรีบลุกขึ้นเพื่อจะหนีออกไปจากห้อง  หากแต่ดิออนก็ต้องชะงักกับร่างสูงที่ยืนตระหง่านตรงหน้า ตัวเขาปิดประตูจนไม่เห็นเลย ตัวใหญ่จริงๆ

“ผู้พัน--”

“ฉันไปด้วยสิ”

สาวน้อยกระพริบตาปริบๆกับคำพูดนี้  ดิออนหรี่ตามองหน้าคนตัวสูงที่ชอบทำให้เธอเมื่อยคอเวลาที่ต้องเงยหน้าขึ้นมองเขาคอตั้งฉากแบบนี้  ทำตัวให้เตี้ยลงกว่านี้ได้ไหมเนี่ย..

“ฉันจะไปเดินเล่นข้างนอก  เบื่อ..”

“ฉันรู้..”
 
คนฟังขมวดคิ้วมุ่นและเริ่มมองหาคนช่วยเหลือ  หากแต่ใครคนนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร  มีแต่ส่งเสริมกลับมา  ดวงตาสีแดงมองเธออย่างเอ็นดู 
อีกแล้วหรือไง..  เห็นฉันเป็นเด็กตลอดเลย..แคลลี่..

“ให้เค้าไปด้วยนั่นแหละ..ดิออน   เดินคนเดียวตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่  อีกแป๊บนึงก็มืดแล้วนะ”  แคลลี่พูดตามความจริง  เธอไม่ต้องการให้สาวน้อยในความดูแลไปไหนมาไหนตามลำพัง  ถึงอยู่ที่นี่จะดูแล้วปลอดภัย  แต่กันไว้ก็ดีกว่าแก้นะ  จริงหรือเปล่า

“แต่ฉันไปเองได้ แค่ชายหาดเอง  ผู้พันจะได้อยู่กับเธอไง ไม่ดีเหรอแคล”  ดิออนพยายามแย้ง  แต่เธอก็ไม่มีทางจะชนะสองเสียงของผู้ใหญ่สองคนตรงนี้ได้ 

“แคลลี่ไม่ใช่เด็กอนุบาล  เค้าไม่ต้องการคนคอยป้อนขนมหรอกจ้ะ”

“ใช่.. แอนพูดถูก  และอีกอย่าง  เวลาฉันทำงาน ฉันอยากอยู่คนเดียว เค้าไปกับเธอน่ะ  ถูกแล้ว..”  แคลลี่สรุปความง่ายๆ และลุกขึ้นเดินมาดันตัวคนสองคนออกไปจากห้อง  ยืนมองหน้าสาวน้อยที่ยังอ้อยอิ่งอยู่หน้าประตูด้านนอก

“ไปเถอะ  แล้วมาเล่าให้ฉันฟังนะว่าไปเล่นอะไรมาบ้าง”  พูดเหมือนจะล่อหลอกเด็กให้เชื่อฟัง  และเธอก็ทำได้จริงๆ 

ดิออนพยักหน้ารับแม้จะสีหน้าไม่ค่อยดี  แคลลี่โบกมือให้สาวน้อย  และมองหน้าบอดี้การ์ดร่างยักษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ เหมือนจะบอกอะไรบางอย่างไปทางสายตา  เขาพยักหน้ารับรู้และหันจากไปตามอีกคนที่เดินหน้ามุ่ยไปก่อนแล้ว

สองคนเดินจากไปแล้ว  ร่างสูงโปร่งก็ถอนหายใจยาวออกมาขณะมองตามหลังพวกเขาไป  แคลลี่พูดกับตัวเอง

“ถ้าเธอเป็นลูกสาวฉันได้จริง  เรื่องมันคงไม่ยากแบบนี้หรอก..ดิออน”

“ฮัลโหล..  นี่ฉันเองนะ”  แคลลี่พูดเสียงนิ่งไปกับโทรศัพท์ในมือ  อีกมือใช้บีบขมับตัวเองอยู่  รู้สึกว่าไมเกรนเต้นระบำอยู่ในหัวทำให้ปวดจี๊ดอยู่บ่อยๆ หรือเพราะพักนี้เธอมีเรื่องต้องคิดมากอย่างไม่อาจจะปล่อยวาง  โรคเก่าที่ร้างราไปนานเลยกำเริบ  แย่จริงๆ

   ‘ท่านประธานเหรอคะ  เป็นยังไงบ้าง  คิดถึงจัง..’

   ปลายสายตอบเสียงใสกลับมาท่าทางดีใจ  คนฟังเลยยิ้มออกมาได้เล็กๆ ถึงจะไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับหล่อน  หากแต่การที่ได้ยินคนบอกว่าคิดถึงบ้าง  มันก็ทำให้รู้สึกดีเหมือนกัน  เธอยังมีความหมายกับใครๆ

   “สบายดี.. อากาศที่นี่ดีน่ะ ทางนั้นล่ะ  โอเคไหม  มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” 

   ‘ที่บริษัทโอเคค่ะ  น้องสาวคุณแคลทำงานได้ดี  แต่...’

   แคลลี่เกือบจะยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ  ถ้าไม่ได้ยินประโยคสุดท้ายของอีกคนเสียก่อน  คิ้วที่คลายปมออกจึงขมวดขึ้นใหม่

   “แต่อะไร..”

   ‘แต่ฉันไม่สบาย..’

“เธอเป็นอะไรล่ะ  ไปหาหมอสิ เบิกค่ารักษากับไม  เท่าไหร่ก็ได้ฉันไม่ว่า--” 

‘แคลคะ  ฉันอยากเจอคุณ..’ 

   สีหน้าตกใจระบายเต็มบนใบหน้าคนฟัง  แคลลี่กระพริบตาปริบๆเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง  แล้วก็ส่ายหน้าอย่างระอา

   “เซเลน..  ฉันมีสามีแล้ว..  เธอก็รู้..”

   ‘สามี..?  คุณเพิ่งจำได้เหรอคะ’

   ริมฝีปากอิ่มเม้มลงอย่างหงุดหงิดใจ  เธอรู้สึกเหมือนโดนต่อว่าทางอ้อม  อดีตคู่นอนเหมือนกำลังจะบอกว่า  เมื่อก่อนเธอทำตัวเป็นนางแพศยาแค่ไหน  สามปีที่เจ้าของนามสกุลที่เธอใช้ไม่อยู่ใกล้ๆ เธอมีใครมากี่คนแล้ว  เรือนร่างงดงามมีใครเคยเชยชมมันมาบ้าง  ใบหน้าหวานที่แลดูไร้เดียงสาเวลามอง  แท้จริงมันซ่อนความร้ายกาจเอาไว้มากมาย  ความเป็นจริง  เธอไม่ได้เป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนที่ใครๆคิดกันเลยสักนิดเดียว

   Bitch !

   แต่นั่นมันก็เป็นแค่อดีตไม่ใช่หรือไง  ตอนนี้เธอแน่ใจแล้วว่า  เธอต้องการอะไร  อะไรที่เธอตามหามาตลอดเวลาสามปี  ก็คนที่เธอแต่งงานด้วยนั่นแหละ  เขาคนเดียว..

   “เซเลน..  ฉันไม่ได้โทร.มาเพื่อพูดเรื่องนี้กับเธอ  ฉันมีงานให้เธอทำ!”  น้ำเสียงของคนที่โทร.ไปเปลี่ยนไปในทันทีที่เจ้าของมันเปลี่ยนอารมณ์  ได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆดังออกจากปลายสาย  แคลลี่ก็แอบถอนหายใจแผ่วบ้าง  เธอใช้ไม้แข็งกับหล่อนไม่ได้จริงๆ

   “เซเลน..  ฟังนะ  ฉันแคร์เธอ..  โอเคไหม..  แต่ฉันแต่งงานแล้ว  และฉันรักเค้า  เค้ารักฉัน  เรารักกัน”

   ‘แต่เมื่อก่อนคุณไม่ได้พูดแบบนี้แคลลี่  ไม่งั้นคุณคงไม่รับหมั้นแม่เด็กดิออนนั่นหรอก  บอกฉันมาสิว่ามันไม่จริง’

   ดวงตาสีแดงเบิกกว้างอย่างตกใจ  หัวใจเจ็บปวดแปลกๆกับคำพูดที่เหมือนมาตอกย้ำความผิดของตัวเองตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมา  เธอทำเรื่องผิดพลาดไปหลายอย่างเพราะความคิดงี่เง่าไร้สาระของผู้หญิงเหงาๆคนหนึ่งที่คิดไปเองว่าตัวเองถูกคนรักทิ้งไป  หยดหนึ่งของน้ำตาเธอไหลออกมาจนต้องกระพริบตาและปาดมันทิ้งไป  แคลลี่พูดเสียงเข้ม  เธอไม่ต้องการทนอีกต่อไปแล้ว 

พอที..  อย่าตอกย้ำว่าฉันชั่วนักเลย..  ฉันรู้อยู่แล้ว..  ฉันรู้ดี..

   “เซเลน..  เธออย่าทำให้ฉันไม่มีทางเลือกนะ  เธอรู้ดีว่าฉันเป็นยังไง”

   และคราวนี้คนที่คิดว่าถือไพ่เหนือกว่าก็ต้องยอมให้เธอเหมือนทุกครั้ง  เลขาสาวคนสนิทย่อมรู้นิสัยเธอดีกว่าใครนอกจากสามีของเธอ  เซเลนพูดเสียงอ่อนกลับมา

   ‘ขอโทษค่ะ..เจ้านาย  พร้อมรับคำสั่งแล้วค่ะ’

   “ดีมาก  ต้องแบบนี้สิ  ถึงจะน่ารักนะ..เลขาที่รัก” รอยยิ้มพอใจเกิดขึ้นบนริมฝีปากอิ่ม  ถึงรู้ดีว่าอีกคนก็ไม่ได้ดีใจนักกับคำชมแบบนี้ของเธอ  แต่เซเลนคงไม่กล้ากับเธอแล้ว  หล่อนรู้ว่าจะเจออะไร  ถ้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับแคลลี่  มิลเลอร์..

   ‘ไม่ต้องชมแล้วค่ะ  สั่งงานเถอะ  ฉันต้องไปรับใช้น้องสาวคุณต่อนะคะ  เดินมามองหน้าแล้วด้วย’

   “โอเค.. งั้นฟังให้ดีนะ  ติดต่อหมอผ่าตัดสมองที่ดีที่สุดให้ฉันที  เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่  ไม่มีปัญหา  ทำได้ไหม..เซเลน..”  ออกคำสั่งอย่างชัดเจนออกไปอย่างไม่สนใจว่าคนฟังจะตกใจแค่ไหนกับมัน  แคลลี่ย้ำอีก

   “เซเลน..  เธอได้ยินที่ฉันพูดไหม..”

   ‘ดะ  ได้ยินค่ะ..เจ้านาย   จะรีบจัดการให้ค่ะ  แต่บอกหน่อยได้ไหมคะว่า  จะเอาไปทำอะไรให้ใครคะ’

   “ไม่ใช่เรื่องของเธอ” แคลลี่พูดเสียงแข็งแสดงถึงความไม่พอใจอย่างเต็มที่และคนฟังคงรู้ดีว่า  กับอารมณ์นี้หล่อนไม่ควรจะกวนใจเธอให้มากมายนัก  เซเลนตอบรับกลับมาเสียงรื่นเริง  หล่อนก็เป็นนางแพศยาเหมือนกันกับเธอนี่แหละ  เปลี่ยนหน้าได้ไวจริงๆ

   “ทราบแล้วค่าๆ ไม่อยากรู้ก็ได้   แล้วจะติดต่อไปนะคะ”

   “โอเค..  ฉันจะรอนะ  ขอบใจ” พูดจบก็คิดว่าจะวางสายทันที  แต่แคลลี่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินอะไรจากอีกฝ่ายอีกครั้ง

   ‘รักคุณนะคะ..เจ้านาย’

   “เซเลน..  เธอ---”  เปิดปากว่าจะต่อว่าคนพูดกลับไปกับความพูดไม่รู้ฟังของหล่อน  แต่เธอก็ได้แต่ถอนหายใจและส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยๆ  เซเลนชิงตัดสายไปแล้ว

   แคลลี่ยกมือขึ้นกุมหน้าผาก  หลับตาลงอย่างอ่อนใจ  ทำไมหล่อนช่างดื้อดึงนัก  และทำไมปัญหาของเธอมันมากมายเหลือเกิน  จะแก้มันได้ยังไง..

   “แอน.. ฉันจะทำยังไงดี.. ฉันไม่เคยเก่งเหมือนพี่ได้เลย.. เกลียดตัวเองจัง”  เธอพึมพำเสียงเบาและทรุดลงฟุบหน้ากับโต๊ะทำงานอย่างอ่อนแรง  แอบหวังเหลือเกินว่าจะมีใครสักคนคนที่เธอต้องการมาอุ้มเธอไปเข้านอน

   ตอนนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน..


TBC.


   



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.