web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 141
Total: 141

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 4 : กำลังสำรอง  (อ่าน 2727 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 4 : กำลังสำรอง
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 20:06:46 »
Chapter 4 : กำลังสำรอง


   แคลลี่นั่งกุมมือคนที่นอนไม่ได้สติอยู่ตรงหน้า  ดวงตาสีแดงมองทอดลงไปที่ใบหน้าที่กำลังหลับใหลไม่รู้เรื่องราว  เด็กสาวจะรู้ไหมว่า  ทำให้เธอเป็นห่วงมากเพียงใด  หัวใจเธอหล่นหายเมื่อได้ยินเสียงหล่อนเรียกขานชื่อด้วยน้ำเสียงทุกข์ทรมาน  จำได้ว่า เธอแทบจะสะดุดผ้าห่มบนเตียงที่ตัวเองนอนอยู่ตอนที่รีบลุกขึ้นเพื่อตามหาเจ้าของเสียงเรียกในตอนนั้น  และเมื่อมาเห็นสภาพความเป็นไปของหล่อนจริงๆ ก็แทบจะทำอะไรไม่ถูก  จึงต้องถูกอีกคนที่มีสติมากกว่า  ดึงตัวออกมาและเขาก็เข้าไปเสียบแทน  แองเจล่าอุ้มเด็กสาวที่หมดสติเข้ามานอนที่นี่  และตอนนี้เขาก็กำลังวุ่นวายกับการติดต่อหมอจากในเมืองอยู่  เรียกตัวผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองให้มาที่นี่โดยเร็วที่สุด  เขากำลังหาทางแก้ไขปัญหาให้  ขณะที่เธอได้นั่งเป็นบ้าใบ้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 

   ดิออนจะเป็นอะไรไหม..  ทำไมอยู่ๆถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ  ไหนว่าไม่เคยปวดหัวมาก่อนไงล่ะ  หรือว่า..  จะมีใครทำบางอย่างกับชิพส์นั่น   คิดไปคิดมาก็ขมวดคิ้วมุ่น  แล้วก็รู้สึกว่ามีมืออุ่นๆมาวางลงบนบ่าให้ต้องเงยหน้ามองหน้าเขา

   “เย็นนี้หมอจะมาที่นี่นะ  ระหว่างนี้ถ้าเค้าตื่นขึ้นมา  แล้วรู้สึกไม่ดีอีก  อย่างเช่นปวดหัว  ก็ให้ยาบรรเทาไปก่อนแล้วกัน”  พูดจบคนพูดก็เตรียมจะหันจากไป  หากไม่ได้ถูกรั้งมือเอาไว้ก่อน  ใบหน้าคมหันมามองคนรั้งตัวเอง  แองเจล่าเลิกคิ้วน้อยๆเป็นคำถาม

   “พี่คิดไหมว่า มันจะเกิดจากว่ามีบางคนเล่นตลกกับชิพส์ในสมองของเค้า”

   คนฟังกระพริบตาปริบๆ และนิ่งไประหว่างคิดทบทวนสิ่งที่รู้มาและประสบการณ์ที่มี  “อาจเป็นไปได้  งั้นฉันขอไปตรวจเช็คข้อมูลของชิพส์นั่นอีกครั้ง  ก็แล้วกัน” 

   “ฉันไปด้วย..”  แคลลี่รีบลุกขึ้นตามอีกคนที่กำลังจะจากไป  เขาพยักหน้าให้ในนาทีแรก  แต่ก็ถามขึ้นมาเวลาที่เธอเดินตามออกไป

   “แล้วใครจะอยู่ดูเค้าเวลาเค้าตื่นล่ะ”

   “ให้โรสมาอยู่เฝ้าก่อนได้ไหมคะ  ฉันอยากทำงานนี้” 

   คนโดนขอนิ่งไปสักพักก็พยักหน้าให้  แล้วหันไปคว้าวิทยุสื่อสารขึ้นมา  จัดการเรียกคนของตัวเองมาทำงานให้  แล้วมุ่งหน้าไปทำงานที่ว่าทันที

 
   “ฉันคิดว่า  ชิพส์นี้  มันต้องไม่ได้มีแค่แม่ของดิออนเท่านั้นหรอกค่ะที่รู้ว่ามันคืออะไร  พี่ว่าไงแอน” แคลลี่พึมพำขณะที่สองมือยังทำหน้าที่คีย์ข้อมูลอยู่ไม่หยุด 

   ที่ปลายตาเธอเห็นอีกคนนั่งคิ้วขมวดเหมือนคิดอะไรอย่างหนัก  อยากจะถามว่าเขาคิดอะไร  แต่ไม่อยากกวนสมาธิตอนนี้  จนกระทั่งเขาพูดออกมาเอง

   “การทำงานทุกอย่าง  ต้องมีการบันทึกเอาไว้  งานวิจัยทุกอย่าง  กว่าจะผ่านแต่ละขั้นตอนมาได้  นักวิทยาศาสตร์ที่รอบคอบอย่างคุณเซร่าห์น่าจะจดบันทึกงานของตัวเองเอาไว้  ที่ใดที่หนึ่ง”

   สาวผมสีน้ำผึ้งหันขวับมามองหน้าคนพูดทันที  สิ่งที่เขาพูดกระตุ้นให้เธอคิดอะไรขึ้นมาได้ด้วยเหมือนกัน  จริงสินะ  เธอลืมคิดเรื่องนี้ไปได้ยังไง  เพราะถ้าจะบอกว่าไม่มีการจดบันทึกการทำงาน  แล้วผู้หวังดีคนนั้นจะนำข้อมูลลับนี้มาบอกเธอได้อย่างไร  หล่อนจะเอามาจากไหนกันล่ะ 

   “แอน.. คุณมิลล์ยังอยู่ที่เซฟเฮ้าท์ใช่ไหม..  เราติดต่อเค้าได้ไหมคะ” ถามขึ้นมากะทันหัน  คนถูกถามเลยทำหน้างงกลับมา  แต่สักพักแองเจล่าก็หันไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นและพูดบางอย่างกับมัน  ไม่กี่นาทีเขาก็หันมาหาเธอพร้อมส่งมือถือของเขาให้  แคลลี่รับของมาและนำมาแนบหูทันที

   “คุณมิลล์คะ  นี่แคลลี่  ดารอฟสกี้นะคะ  จำได้ใช่ไหม..”

   ‘ค่ะ  จำได้ค่ะ ไม่มีทางลืม  มีอะไรให้รับใช้คะ  คุณแคล’

   “ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่อยากทราบว่า  คุณได้ข้อมูลนี้มาจากไหนคะ  ข้อมูลที่คุณให้ฉันมา  คุณเซร่าห์เป็นคนฝากคุณเอาไว้  หรือคุณขโมยมัน” 

   เสียงจากปลายสายเงียบไปทันที  แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของหล่อน  หากแต่แคลลี่ก็รู้ดีว่า  สาวมิลล์ที่ว่านี้ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร  ประวัติของหล่อนได้ถูกตรวจสอบแล้วเป็นอย่างดี  ไม่มีอะไรต่างพร้อย  แม้แต่นิดเดียว  และนี่คงเป็นเรื่องเสี่ยงๆเรื่องแรกที่หล่อนทำ  ซึ่งคงจะเป็นเรื่องสุดท้ายด้วย  ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด

   “คุณมิลล์คะ  คุณไว้ใจฉันได้นะ  หรือคุณไม่เชื่อ..”  ผู้กองสาวพยายามเกลี้ยกล่อมพยานคนเดียวของเธอ 

   ได้ยินเสียงหล่อนถอนหายใจออกมา ก็เกือบจะหมดความหวัง  หากแต่เมื่อเสียงจากหล่อนดังขึ้นอีกครั้ง ริมฝีปากอิ่มเผยก็ยิ้มพอใจ ดวงตาสีแดงเป็นประกาย

   ‘คุณแม่ของฉันเป็นผู้ช่วยของคุณนายสวอนส์ค่ะ  ฉันรับมอบสิ่งที่ให้คุณไปจากท่านมา  และฉันก็คิดว่าที่คฤหาสน์สวอนส์  น่าจะยังมีอะไรบางอย่างที่เป็นข้อมูลที่คุณต้องการได้  ในห้องทำงานของคุณนายที่ชั้นใต้ดินค่ะ’

   “เข้าใจแล้วค่ะ  ขอบคุณค่ะมิลล์”

   ‘ไม่เป็นไรค่ะ  มันเป็นหน้าที่ของผู้รับส่งสารอย่างฉันอยู่แล้วค่ะ’

   “โอเคค่ะ  ถ้าคุณว่าอย่างนั้น..  ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”  แคลลี่ทำท่าจะวางหูเมื่อเธอได้สิ่งที่ต้องการ  หากแต่เสียงที่ดังขึ้นใหม่ก็หยุดเธอ

   ‘เดี๋ยวค่ะ..คุณแคล..’

   “ค่ะ..  มีอะไรคะ..”

   ‘เอ่อ..  ฝากคุณแคลขอบคุณคุณผู้พันด้วยนะคะที่ดูแลฉันเป็นอย่างดี’ 

   ดวงตาสีแดงกระพริบปริบๆก่อนจะมองหน้าคนที่ถูกเอ่ยถึงที่ยังนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงหน้า  เขาไม่ได้มองหน้าเธอ  แต่เป็นงานในจอคอมที่สนใจ  คงจะคิดแต่เรื่องงานอยู่ตามเคย  เห็นแล้วก็ทำให้ยิ้มออกมาทั้งที่กำลังปวดหัวอยู่แบบนี้   แคลลี่ตอบปลายสายไป  เสียงของเธอฟังดูก็รู้ว่ามีความสุข

   “ค่ะ แล้วจะบอกให้นะคะ  นั่งอยู่ตรงนี้แหละ  คุณก็ดูแลตัวเองดีๆนะคะ  ถ้าต้องการอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจ  บอกกับคนของเขาได้เลย  บายค่ะ”  พูดจบก็วางหูทันที  และรีบหันกลับมาจัดการทำงานที่ค้างเอาไว้ต่อพร้อมกับเล่าเรื่องที่ได้มาให้อีกคนฟัง

   “นี่..คุณผู้พันขา..มีคนฝากมาบอกว่า ‘ขอบคุณค่ะ ที่ดูแลฉันเป็นอย่างดี’”

   หากแต่คำพูดแบบนี้พาให้คนหน้าเครียดกระพริบตาอย่างไม่เข้าใจ  และเมื่อรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร  แองเจล่าก็ขยับมือขึ้นคว้าใบหน้าของคนขี้เล่นไม่รู้เวลาให้กลับมาหาตัวเอง  มองตาหล่อนอย่างต้องการคำตอบ  แคลลี่หัวเราะน้อยๆก่อนเอ่ยพูดเสียงใส

   “ฉันว่ามีคนแอบปลื้มพี่อีกคนแล้วล่ะ  เสน่ห์แรงนะคะเนี่ย  แฟนใครนะ”

   “ก็แฟนเธอไง  หรือต้องให้ย้ำ..” 

   เจ้าของคำพูดขำๆ ล้อเล่นเพื่อหวังเปลี่ยนบรรยากาศอึมครึมให้ดีขึ้นเมื่อครู่  เริ่มรู้สึกไม่ค่อยจะขำเท่าไหร่แล้วเมื่อโดนย้อนประโยคนี้ออกมา คนตัวใหญ่กว่าทำตาเป็นประกายแปลกๆ อย่าเชียวนะ ไม่งั้นไม่ต้องทำงานกันพอดี ยิ่งชอบๆอยู่

   “ไม่ต้องค่ะ  ทราบแล้ว..  ทำงานกันต่อดีกว่านะ”  พูดจบก็ขยับเข้าไปหอมแก้มเขาเบาๆแล้วรีบดึงตัวเองกลับมา  หันหน้าเข้าหางาน  แสร้งไม่สนใจท่าทางเสียดายของอีกคน  แคลลี่เปลี่ยนอารมณ์ตัวเองทันที

   “มิลล์บอกฉันว่า  ชั้นใต้ดินของคฤหาสน์สวอนส์มีห้องทำงานลับของคุณดร.เซร่าห์อยู่  เธอว่า..น่าจะมีข้อมูลที่เราต้องการที่นั่นค่ะ” 

   คนตามอารมณ์เกือบจะตามไม่ทัน  หากแต่พัฒนาการของเธอคงดีขึ้น  จึงสามารถรับมันได้แล้ว  แองเจล่าหันกลับมาสนใจงานบ้าง  เอาไว้ก่อนน่า ยังมีเวลาอีกเยอะ  เค้าเป็นของเธออยู่แล้วนี่  เธอคิดปลอบใจตัวเอง

   “งั้นเธอจะเอายังไง  ส่งคนเข้าไปเอามา  หรือว่าจะไปเอง”

   “ฉันอยากไปเองค่ะ  แต่ไม่ใช่ว่า  ไม่ไว้ใจใครนะ  แค่คิดว่า  ถ้าฉันไป  ก็จะมีคนสงสัยน้อยกว่าคนอื่น”

   แองเจล่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ  “มันก็ถูกของเธอนะ  แต่ถ้าเธอไป  แล้วใครจะอยู่กับดิออนล่ะ  เค้าต้องการเธอนะ  อย่างน้อยเค้าก็ไว้ใจเธอมากกว่าพี่” 

   แคลลี่นิ่งคิดตามที่อีกคนให้เธอคิด  สักพักก็ตัดสินใจ “ดิออนน่าจะเข้าใจว่าฉันจำเป็นต้องทำ  และเราทั้งหมดก็กลับไปที่นั่นไม่ได้ด้วย  หรือพี่จะเสี่ยงให้เค้ากลับไปตอนนี้ล่ะ” 

   “กลับไปไม่ปลอดภัยแน่  แต่เธอแน่ใจนะแคลว่า  คุณเฟอร์ริสจะไม่สงสัย  ถ้าเธอกลับไป  ให้พี่หาคนอื่นให้เธอจะดีกว่าหรือเปล่า”  ผู้พันเสนอความเห็น  พาให้คนฟังนั่งคิดทบทวนอีกครั้ง  และเกิดคำถามตามมา

   “พี่มีคนที่ไว้ใจได้และเก่งพอหรือคะ” 

   “คิดว่ามีนะ อยากรู้ไหมล่ะว่าใคร.. เผื่อเธอจะแน่ใจว่าเค้าทำงานได้จริงๆ” 

   คำตอบนี้พาให้อีกคนสนใจจนต้องรีบพยักหน้ารับ  “ใครคะ..” 

   “ตำรวจสากลจากอเมริกา  หล่อนเป็นหน่วยพิเศษน่ะ “แซนดร้า  คูเป้”  ฉันเคยทำงานร่วมกับหล่อนหลายครั้ง”  พูดจบก็ยื่นมือไปเปลี่ยนหน้าต่างของจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าเพื่อดึงภาพของเจ้าของชื่อที่ตัวเองเอ่ยขึ้นมาให้อีกคนดู 

   แคลลี่มองดูภาพอย่างอึ้งๆ เพราะไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าหล่อนเท่านั้นที่น่าสนใจ  ประวัติการทำงานก็ด้วย  ใบหน้าหวานพยักหน้าน้อยๆระหว่างพึมพำ

   “ฉันขอเจอตัวเค้าก่อนได้ไหมคะ” 

   “ได้สิ  ไม่มีปัญหา”  แองเจล่าตอบโดยไม่ต้องคิด  และรีบดึงโทรศัพท์ของตนขึ้นมากดเลขหมาย  ปลายสายตอบรับมาว่องไว  โดยไม่ต้องรอนาน

   ‘ว่าไงคะ..คุณผู้พัน   มีอะไรให้รับใช้เหรอคะ’ 

   เรียวปากสวยเผยยิ้มถูกใจ  เสียงของหล่อนยังคงทำให้รู้สึกดี  หากแต่ก็ต้องหุบยิ้มไปทันทีที่เห็นดวงตาวาวๆสีแดงมองจ้องมา  แคลลี่สั่งให้เธอเปิดลำโพง  หล่อนจะฟังบทสนทนาด้วย  เป็นไงล่ะ..มีภรรยาขี้หึง  ก็แบบนี้...

   “ฉันมีงานให้เธอทำ  สนใจไหม..”  ตอบกลับไปด้วยการรักษาอาการให้นิ่งกว่าเดิม  เริ่มรู้สึกเหงื่อซึมตามโคนผมเพราะสายตาของคนนั่งใกล้  และยิ่งกลัวมากขึ้นเมื่อหล่อนพูดขึ้นมาแทรก

   “ขอโทษค่ะ  คุณแซนดร้าคะ  อันที่จริงเป็นฉันเองค่ะ ที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”

   ‘คุณเป็นใครคะ  ขอทราบได้ไหม’

   หัวใจคนฟังเต้นตูมตามอยู่ในอก  เมื่อเสียงผู้หญิงที่ปลายสายเปลี่ยนท้วงทำนองไป  แองเจล่าเริ่มใจคอไม่ดี  แซนดร้าจะโกรธหรือเปล่าที่เธอทำแบบนี้  แต่คงไม่  หล่อนเป็นมืออาชีพนี่นา  คนตรงหน้าเธอนี่ต่างหากที่น่ากลัวกว่าใครๆ แคลลี่จะพูดอะไรต่อล่ะนี่

   “ฉันชื่อ แคลลี่  มิลเลอร์ค่ะ  คุณคง---”

   ‘โอ้..  ภรรยาผู้พันนั่นเอง  นึกว่าใครซะอีก  ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ  เค้าพูดถึงคุณมานานแล้ว’

   ดวงตาสีแดงกระพริบปริบๆและมองหน้าคนนั่งใกล้  แองเจล่ายักไหล่กลับมา  เหมือนจะบอกว่า "ฉันบอกเธอแล้วนะว่าไม่มีอะไร  ก็ไม่เชื่อ..”

   แคลลี่หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเพราะความอาย  และเธอก็ระบายมันด้วยการหยิกต้นขาอีกคนที่เกือบจะร้องโอยออกมา  ถ้าไม่นึกขึ้นได้ว่า  คนอื่นจะได้ยิน 

   ริมฝีปากอิ่มยิ้มเยาะคนเจ็บที่มองเธออย่างคาดโทษ  จากนั้นก็หันไปสนใจกับคนที่อยู่ทางไกลอีกครั้ง  “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ  แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปกว่านี้  ฉันขอเข้าเรื่องเลยนะคะ”

   ‘ค่ะ..เชิญ..’

   “ฉันต้องการให้คุณแอบเข้าไปในที่ที่หนึ่ง  เพื่อนำบางอย่างออกมาจากที่นั่น  คุณสนใจจะทำไหมคะ”  พูดจบก็ลุ้นว่าจะได้อะไรกลับมาจากอีกฝ่าย  สองคนมองหน้ากันอย่างให้กำลังใจ 

   แคลลี่เอื้อมมือตัวเองไปคว้ามืออีกคนมา  และแองเจล่าก็เป็นฝ่ายบีบมือเธอแทน  เหมือนรู้ว่าเธอต้องการมัน  และไม่นานทั้งสองคนก็ยิ้มออกมาได้  เมื่อการรอคอยสิ้นสุด

   ‘ฉันสนใจค่ะ  แคล..’

   เจ้าของชื่อพยักหน้ารับอย่างเข้าใจและรีบพูดต่อ “งั้นขอเจอคุณก่อนเริ่มงาน  ส่วนรายละเอียดว่าจะเจอที่ไหน ยังไง  ผู้พันจะบอกคุณค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับความร่วมมือ”

   ‘ยินดีเสมอค่ะ  ฉันชอบผู้พันอยู่แล้ว  แต่เรื่องงานนะคะ  อย่าเข้าใจผิด’ 

   แคลลี่เกือบจะหัวเราะออกมากับคำพูดของอีกคนและความคิดเพ้อเจ้อของตัวเอง  มือสวยบีบมืออีกคนแน่นระหว่างมองตากันแล้วพูดออกมา “ขอบคุณอีกครั้งค่ะแซนดร้า  แล้วเจอกันนะคะ  ตอนนี้เชิญคุยกับเค้าต่อได้แล้วค่ะ”

   แองเจล่ารับหน้าที่คุยกับคนในสายต่อในเรื่องรายละเอียดของงาน  แต่สายตาก็แอบมองคนที่หันกลับไปทำงานอยู่เงียบๆข้างๆเป็นระยะ  และก็คิดขึ้นมาว่า ตัวเองโชคดีที่มีผู้หญิงคนนี้อยู่ข้างๆ

   มือขาวขยับขึ้นโดยไม่รู้ตัวเมื่อวางหูโทรศัพท์แล้ว  แองเจล่าสัมผัสที่แก้มของอีกคนที่ไม่สะดุ้งสะเทือนกับสัมผัสของเธอ  กลับกันแคลลี่เอามือเธอไปจูบเบาๆระหว่างที่มองตา  พาให้เธอต้องการเข้าไปชิดใกล้หล่อน  เรียวปากสวยสัมผัสลงกับริมฝีปากอิ่มที่ยินดีต้อนรับกันอย่างทุกครั้งที่เป็น  ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรงเหมือนใครเอากลองมาตีในอก  ยอมรับเลยว่าเธอหลงรักผู้หญิงคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  อย่างไม่รู้สาเหตุที่เป็น  ความรักต้องมีเหตุผลด้วยหรือไง..

   “พี่รักเธอ..แคล”

   “รู้แล้ว..  พี่บอกมาหลายครั้งแล้วนี่คะ..” เสียงหวานกระซิบขี้เล่นกลับมาระหว่างมองตากันยิ้มๆ และปล่อยให้หน้าผากสัมผัสกันอยู่  ไม่ยอมห่าง  รู้นะว่ามีงานต้องทำ  แต่ขอสักพักได้ไหม  ขอเติมพลังงานก่อน..

   “ใช่..  แต่พี่อยากบอกอีกครั้ง  อยากบอกทุกวัน.. ตลอดเวลา..” 

   คนฟังเริ่มรู้สึกหน้าร้อนและเนื้อตัวร้อนไปหมด  อาจเพราะคำพูดบวกสายตาคนพูดที่แสดงออกมา  แองเจล่าจะรู้ตัวไหมว่า ทำให้เธอคลั่งได้ทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้  คนอะไรไม่รู้สิ  ไม่เคยจะรู้ตัว..

   “ปากหวานจังนะคะ  พักนี้..  อยากบอกก็บอกได้ค่ะ  ฉันก็ชอบฟัง  แต่ตอนนี้ขอทำงานก่อนได้ไหมคะ”  พูดจบก็จูบแก้มขาวของอีกคนแล้วรีบหันกลับมาหางานก่อนที่เผลอตัวมากเกินไป 

   เพราะตัวเธอเองอาจจะห้ามใจไม่ไหวที่จะไม่ปล่อยตัวไปกับอารมณ์ส่วนตัวที่เกิดขึ้นนี้  และอีกอย่าง  เธอควรจะรีบ  ดิออนรออยู่  และฉันห่วงเธอ     

   หากแต่เธอจะทำงานตอนนี้ได้ยังไง  ในเมื่ออีกคนยังไม่อนุญาต  แองเจล่าดึงมือเธอให้กลับมาสนใจกัน 

   “อะไรคะ  ก็บอกแล้วไงว่า---”

   “จบงานนี้แล้ว  แต่งงานกับพี่นะแคล”

   ดวงตาสีแดงกระพริบปริบๆเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง  จากนั้นก็ถามออกมาอย่างงงๆ “แต่งงาน..?  เราก็แต่งกันแล้วไง  พี่กับฉันยังไม่ได้หย่ากันนี่คะ”

   “พี่อยากแต่ง..  ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ของเรา  ตามใจพี่สักอย่างได้ไหมแคล”  พยายามอ้อนวอนอีกคนทางสายตา  กลัวว่าจะถูกปฏิเสธ 

   แองเจล่ารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังงี่เง่าทำตัวเหมือนเด็กวัยรุ่นคลั่งรัก  แต่จะให้ทำอย่างไรได้  ความรักมันจุกอกจริงๆ  เวลาสามปีที่ห่างกันไป  มันทำให้เธอต้องการได้รับความมั่นใจในครั้งนี้ที่ตัวเองกลับมาว่าอีกคนยังเหมือนเดิมเหมือนที่ตัวเองเป็น

   “แคล....”

   “โอเคค่ะ  ตามใจ  แต่ห้ามหนีไปก่อนเวลานั้นจะมาถึงนะคะ  ไม่งั้นฉันจะแต่งกับคนอื่นด้วย” 

   รอยยิ้มสวยปรากฏบนใบหน้าคนฟัง  ก่อนที่จะเข้ามารวบตัวคำพูดเข้าไปกอดไว้แน่น  ดีใจเหลือเกิน 

   “ฉันรักพี่นะแอน  ฉันอยากให้พี่เชื่อ” 

   “พี่เชื่อเธอ..”  พูดจบก็คลายวงกอดออกจากตัวอีกคนที่ขออนุญาตไปงานต่อจริงๆแล้ว 

   แองเจล่านั่งมองหน้าสาวหน้าหวานที่กำลังเคร่งเครียดกับงานเนิ่นนานกว่าจะหันไปมองอย่างอื่นได้  เหมือนต้องการจะบันทึกภาพของหล่อนเอาไว้ในหัวใจ  หากแต่ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในสมองให้ต้องหันไปสนใจมันด้วย 

   ป่านนี้สาวน้อยคนสวยที่หลับอยู่จะตื่นแล้วหรือยัง.... 

   เธอเป็นยังไงบ้างนะดิออน  อย่าเป็นอะไรไปนะ  ฉันกับแคลกำลังหาทางช่วยเธออยู่  อดทนหน่อยนะ..



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 20:10:33 anhann »



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.