Chapter 6 : ความอบอุ่นของทะเล
บรรยากาศยามค่ำคืนของเกาะก็คล้ายๆเดิมเหมือนทุกวันที่มันเป็น แต่กระนั้นมันก็ยังมีมนต์เสน่ห์ทำให้ใครบางคนต้องออกมาเดินรับลมที่มีกลิ่นน้ำเค็มอยู่แบบนี้ ดิออนรู้สึกรักทะเลขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเมื่อเธอต้องมาใกล้ชิดมันอย่างช่วยไม่ได้ มันเป็นสถานที่ที่ห่างไกลอันตรายของเธอที่คนดูแลเธอต้องการให้เธออยู่กับมัน
แต่ว่า..เกาะที่สวยงามขนาดนี้เป็นฐานทัพลับของกองทัพได้อย่างไรกันนะ จะมีรถถังซ่อนอยู่ในซอกหลืบหนึ่งของเกาะนี้บ้างหรือเปล่า หรือว่ามันอยู่ในถ้ำ อยากรู้จัง..
ร่างบางเดินเรื่อยๆไปตามหาดทรายขาวที่มีแสงจันทร์เต็มดวงช่วยให้พอมองเห็นทาง รองเท้าของเธอถอดทิ้งไว้เพราะต้องการสัมผัสธรรมชาติจริงๆ แคลลี่เคยสอนเธอว่า เวลาที่รู้สึกหมดพลังให้เธอพยายามหามันจากการสัมผัสและซึมซับเอาจากผืนโลก จากธรรมชาติ มันเป็นแค่กลอุบายให้รู้สึกชื่นชอบการอยู่ที่นี่ หรือเป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้กันแน่
แต่มันจะเป็นอะไร ใครจะสนใจกันล่ะ ในเมื่อมันทำให้เธอรู้สึกดีจริงๆ สมองปลอดโปร่ง เหมือนไม่มีชิพส์บ้าๆนั่นอยู่เลย..
สาวน้อยถอนหายใจแผ่วเมื่อหวนคิดไปว่าในร่างกายเธอมีอะไรอยู่ ตอนนี้พวกเขากำลังวุ่นวายกันน่าดูขณะที่เธอกำลังเดินอยู่อย่างสบายใจ แคลกับตำรวจสากลขี้หลีคนนั้นกำลังวางแผนงานกันอยู่อย่างคร่ำเคร่ง ส่วนผู้พันแองเจล่าก็ไม่เห็นตัวว่าไปอยู่ในส่วนไหนของเกาะ บางทีเขาอาจจะอยู่แถวๆนี้แอบซุ่มดูเธออยู่ก็ได้ คิดแบบนี้แล้ว มันทำให้ทั้งรู้สึกดีและอึดอัดไปพร้อมๆกัน เธอไม่ชอบเป็นภาระให้ใคร แต่มันก็จำเป็น เพราะถ้าเธอหนี พวกเขาก็จะยิ่งเป็นห่วง ใช่ไหม..?
“อากาศดีแบบนี้ทำให้ฉันอยากดื่มนะ”
ดิออนสะดุ้งสุดตัวกับเสียงที่แทรกความเงียบเข้ามากะทันหัน หากแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอกลัวมากนักเพราะรู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร เป็นเขาจริงๆนั่นแหละ คนตัวสูงเหมือนเสาไฟมาอยู่ใกล้ๆเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเธอไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า หรือคนเป็นทหารจะสามารถเดินให้เงียบกริบแบบนี้ได้โดยไม่ใช่เรื่องแปลก
“แล้วทำไมไม่ดื่มล่ะคะ ฉันเห็นคุณมีมันอยู่เต็มบาร์นี่นา” โต้ตอบเขาไปพร้อมรอยยิ้มที่เขาก็ยิ้มให้และสะบัดเส้นผมยาวสีเงินนั่นเล่น มันคงจะเกะกะน่าดูเมื่อลมพัดแรงขนาดนี้ ผมเธอก็เหมือนกันชอบมาบังหน้าบังตาเสียจริง แต่อีกหน่อยมันก็จะไม่มีแล้วนี่นา พอถึงเวลาผ่าตัดที่จะมีขึ้นอีกไม่นาน เธอก็ต้องโกนหัวเป็นยัยโล้น โอ้..น่ากลัวจริงๆ คิดแล้วก็ขนลุก
“ฉันขี้เกียจทะเลาะกับแคล เบื่อเวลาที่เค้าชอบแย่งไปกินเองแล้วก็อ้วกออกมาด้วย เดี๋ยวมันจะเสียของหมด ยอมอดดีกว่า ของมันแพง” คนตัวสูงพูดยิ้มๆไม่ได้มีท่าทีรำคาญคนที่พูดถึงจริงๆอย่างปากว่า พาให้คนฟังยิ้มและส่ายหน้าให้
“อย่างคุณกลัวคนอื่นเป็นด้วยเหรอคะ แคลตัวเล็กกว่าคุณนะ ทำไมต้องกลัว ความจริงฉันยังกลัวคุณเลยนะ..ผู้พัน”
“ก็ใช่.. แต่อะไรบางอย่าง ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจขนาดตัวหรอกนะคะ มันอยู่ที่ตรงนี้มากกว่า..” แองเจล่าชี้มือมาตรงอกตัวเองข้างที่มีหัวใจและมองตาอีกคนอย่างต้องการสื่ออะไรสักอย่าง หวังให้สาวน้อยจอมฉลาดได้รู้
“เธอเป็นคนตัวเล็กที่มีหัวใจแกร่งเกินตัว..ดิออนจัง ฉันชอบนะ” พูดจบก็ยื่นมือมาขอมืออีกคนที่ส่งให้แต่โดยดี สัมผัสที่ได้ทำให้รู้สึกใจหายแปลกๆจนต้องมองหน้าด้วยสายตาเป็นห่วง “เธอไม่ควรมาเดินที่นี่เวลาแบบนี้นะ กลับเข้าข้างในกันเถอะ มือเธอเย็นมาก”
“แต่ฉันอยากเดินเล่น อยากทำแบบนี้ก่อนที่จะไม่ได้ทำอีกนาน อย่าห้ามฉันได้ไหมคะ”
คนตัวใหญ่กว่ากระพริบตาก่อนจะยอมพยักหน้าให้เพราะสายตาอ้อนวอนของเด็กสาว เธอถอนหายใจยาวและดึงมือตัวเองกลับไปนำเสื้อตัวนอกที่ใส่อยู่มาส่งให้หล่อน
“ฉันอนุญาตก็ได้ ถ้าเธอไม่รังเกียจที่จะใส่เสื้อฉัน โอเคไหม..”
“ไม่รังเกียจหรอกค่ะ เสื้อคุณหอมออกนะ แต่ตัวมันใหญ่เกินไปหรือเปล่าเวลามันอยู่กับฉัน” บ่นไปอย่างนั้นแต่ก็ยอมให้เจ้าของเสื้อใส่มันให้เหมือนเด็กๆ เห็นเขายิ้มและมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูก็รู้สึกดี
นับเป็นโชคดีของเธอที่ในเวลาที่เลวร้ายที่สุดและในนาทีที่รู้สึกว่าใครๆก็ทิ้งเธอแม้กระทั่งผู้ให้กำเนิดเธอมา เธอยังมีเขาอยู่ด้วย เธอไม่ได้อยู่คนเดียว และเธอก็ยังมีแคลที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่เคยจะไม่เป็นห่วงเธอ เธอรู้สึกถึงมันได้เสมอเวลามองตากัน
“ไม่หรอก มันจะทำให้เธออุ่นมากขึ้นต่างหาก ใส่เอาไว้เถอะนะ”
“ทำไมคุณใจดีกับฉันจัง..”
คนถูกถามกระพริบตาประหลาดใจเล็กน้อยกับคำถาม แต่ไม่นานก็ยิ้มให้คนถามขอมือหล่อนมาจับอีกครั้งและพาเดินไปด้วยกันเรื่อยๆ สองคนเท้าเปล่าบนหาดทราย แองเจล่าทำเหมือนไม่สนใจคำถามนั้นมากนักจนอีกคนแอบเงยหน้าขึ้นมามองเสี้ยวหน้าเฉยเมยของตัวเอง
“บางครั้ง.. เธอทำให้ฉันนึกถึงแคลตอนเด็กๆ”
ดิออนสะดุ้งกับคำตอบที่ออกมาพร้อมสายลมเย็นๆ แต่น่าแปลกที่รอยยิ้มของคนที่เธอมองหน้ากลับทำให้รู้สึกอบอุ่น ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า แคลเห็นอะไรในตัวคนเย็นชาคนนี้ที่ทำให้หล่อนรักเขาจนหมดใจ
“แต่เธอก็เข้มแข็งเกินไป จนฉันกลัวใจเธอ..”
คนเผลอเหม่อไปสองนาทีกระพริบตาและดึงสติกลับมามองหน้าคนพูดอีกครั้ง สายตาของดวงตาสีเขียวราวก้อนน้ำแข็งแสดงถึงความจริงจัง แต่เธอเองกลับยิ้มและหัวเราะออกมา
“เธอขำอะไร..”
และคนชอบดุก็ดุเธออีกจนได้ เธอจึงต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่ความใจดีของเขาจะหายไป
“ไม่เอาน่า.. ฉันชอบคุณเวลาใจดีมากกว่านะคะผู้พัน คุณน่ารักจะตายไป แคลไม่เคยบอกคุณเหรอ..”
ได้ผล คนหน้าบึ้งกลับมีรอยแดงเป็นริ้วขึ้นบนใบหน้าและหันหน้าหนีเธอ อาการแบบนี้แปลได้ว่า เขาเขินเธออย่างแน่นอน เขาน่ารักดีจริงๆ ไม่อยากเชื่อเลย
“สงสัยเธอจะอยู่กับแคลมากไปแล้วมั้ง ติดนิสัยเค้ามาเยอะไปแล้วนะ” แองเจล่าบ่นอุบอิบแต่ก็ไม่วายจะยิ้มออกมาเวลาที่เด็กตรงหน้ายิ้มมาให้ เธอชอบที่ได้เห็นดิออนอารมณ์ดีและไม่ดื้อแบบนี้แหละ
“ก็ถ้าฉันอยากเห็นคุณยิ้ม ฉันก็ต้องทำเหมือนเค้าไงคะ และคุณก็สบายใจได้เลยนะ ฉันไม่หนีไปไหนหรอก ฉันชอบอยู่กับคุณ” คำสุดท้ายของเธอพาให้เขาหันมามองหน้าเธอนานกว่าปกติเหมือนสงสัยว่าเธอคิดอะไร
“ก้มลงมาหน่อยสิ ใบไม้ติดผมคุณแน่ะ” บอกเขาไปแบบนี้แองเจล่าก็ยิ่งทำหน้างงแต่เขาก็ยอมก้มลงมาแต่โดยดี แต่มันไม่มีหรอกใบไม้ที่ว่า มีแต่เพียง...
เด็กสาวจูบแก้มขาวของคนตัวสูงเบาๆและก่อนที่เขาจะได้ถามอะไรเธอก็ยกสองแขนขึ้นโอบรอบคอเขาเอาไว้บังคับให้อยู่ด้วยกันแบบนี้เพื่อที่เธอจะได้มีเวลาพูดเรื่องที่อยากจะพูดมานาน
“ฉันชอบคุณนะ ฉันดีใจที่ได้เจอคุณ ขอบคุณนะที่คุณมา..” ดิออนบอกลาคนที่เธอกอดไว้ด้วยจูบเบาๆที่แก้มเขาอีกครั้งและเดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม เธอรู้ดีว่าเขามองตามมาอยู่ จึงหันกลับมาหา ยกมือขึ้นและโบกให้
“พรุ่งนี้เช้าฉันจะคืนเสื้อให้คุณนะ ฝันดีนะคะ..ผู้พัน” พูดแล้วก็เดินขึ้นไปจากหาดกลับสู่บ้านพัก ทิ้งเขาให้ยืนอยู่คนเดียว แต่คงไม่นานมั้ง เดี๋ยวแคลก็มา..
มือบางดึงเสื้อที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองให้มากระชับที่ตัวมากขึ้น รู้สึกหนาวอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเดินเข้ามาในตัวตึกที่ทำด้วยปูน หรือเพราะไม่มีไออุ่นจากมนุษย์อยู่ข้างๆเธอกันแน่ ใช่สินะ เนื้อผ้าหรือจะสู้เนื้อกาย อยากมีคนกอดจัง..
“หนาวขนาดนั้น ฉันอาสาเป็นผ้าห่มให้เอาไหมคะ”
ร่างบางสะดุ้งสุดตัวกับเสียงที่ดังมาจากความมืดที่มุมหนึ่งของทางเดินในบ้าน แต่พอเห็นร่างที่เดินออกมาจากพบกับแสงสว่าง เธอกลับขมวดคิ้วมองหล่อน สาวผมบลอนด์ตาน้ำขาวนั่นเอง
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมีเสื้อคลุมแล้ว ขอตัวก่อนนะคะหมวด ฉันง่วง..” ตอบกลับไปอย่างไม่ไยดีคนฟังและเตรียมจะเดินหนี ไม่อยากเจอใครตอนนี้เพราะรู้สึกยังไม่พร้อม แต่เหมือนหล่อนจะไม่อนุญาตเมื่อเสียงยังดังตามมา
“ฉันรู้ว่า มนต์สะกดของแองเจล่าเข้มแข็งมาก แต่ไม่คิดว่าเจ้าหญิงอย่างคุณหนูจะหลงไปกับมันด้วยนะคะ ระวังหน่อยนะ เล่นกับไฟ ไฟจะไหม้มือ..”
ประโยคนี้ดึงคนที่จะหนีให้หันขวับกลับมา ดิออนจ้องหน้าคนตัวสูงกว่าอย่างไม่นึกกลัว สูงกว่านี้ยังไม่กลัวเลย นับประสาอะไร..
“คุณพูดอะไรระวังปากหน่อยนะผู้หมวด ถ้าไม่รู้จริงก็กรุณาเงียบไว้จะดีที่สุด เพราะถ้ารู้ถึงหูแคลหรือเขา คุณอาจจะไม่มีโอกาสพูดอีกก็ได้นะ ฉันขอเตือน”
พูดจบก็จะเดินหนีไปอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ก็ต้องชะงักอีกเพราะคนที่ยืนขวางตรงหน้า ดิออนเปิดปากจะต่อว่าไป แต่ก็ไม่ทันหล่อน
“ทำไมคุณหนูไม่รู้จักมองคนไม่มีเจ้าของบ้างคะ รู้ไหมคะว่า การแย่งของของคนอื่นมันไม่ดี” แซนดร้าพูดจบไปได้ไม่ถึงนาทีก็ได้ยินเสียงดังสนั่นและรู้สึกว่าหน้าซีกหนึ่งของตัวเองชาไปหมด นี่เธอโดนตบใช่ไหม.. เป็นไปได้ยังไงเนี่ย.. เป็นไปแล้วล่ะ กลิ่นเลือดเต็มปากขนาดนี้ ปากแตกแล้วล่ะสิ..
“คุณหนู---” เสียงของตัวเองที่คิดว่าจะถามความหายไปเมื่อรู้สึกว่าถูกดันตัวไปกระแทกผนังตึกจนจุกและพูดไม่ออก สาวผมบลอนด์อ้าปากค้างระหว่างมองตาสีมรกตที่แข็งกร้าวตรงหน้า เสียววูบในอกทันที ยิ่งเวลาที่เจ้าของมันพูดขณะดันอกเธอเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไหวได้ก็ยิ่งดูน่ากลัว
“คุณรู้จักฉันดีแค่ไหนกัน ถึงกล้ามาพูดแบบนี้ ฉันว่าเราอย่ามาเกี่ยวข้องกันดีกว่า ถ้าคุณอยากอยู่และทำงานอย่างสงบสุข.. นะ..ผู้หมวด”
ตำรวจสาวกระพริบตาปริบๆมองคนตัวบางที่เดินจากไปหลังจากที่ข่มขู่เธอเสร็จเรียบร้อย แซนดร้าเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า สาวน้อยที่เธอสนใจเป็นเหมือนที่คิดเอาไว้หรือไม่เมื่อได้เห็นอีกด้านหนึ่งของหล่อนด้วยตัวเอง ดิออนดูต่างออกไปเมื่อไม่มีแคลลี่หรือแองเจล่าอยู่ใกล้ๆ หล่อนไม่ใช่เจ้าหญิงที่ต้องการอัศวินคุ้มครองเหมือนรูปร่างหน้าตา แต่น่าสนใจจริงๆ...
เรียวปากสวยเผยยิ้มพึงใจกับความคิดตัวเองแต่ก็สะดุ้งตกใจเมื่อรู้สึกว่ามันเจ็บ นิ้วเรียวไล้ไปตามความรู้สึกเจ็บที่ได้และนำมันกลับมาดู ดวงตาสีครามกระพริบมองมันอย่างสนใจ
“มือหนักเป็นบ้า.. แต่ก็น่ารัก แบบนี้สิสเป็คเลย” แซนดร้าพึมพำกับตัวเองและเตรียมจะหันกลับห้องนอน แต่มันก็เป็นอีกครั้งที่เธอตกใจเมื่อพบใครอีกคนยืนอยู่ ดวงตาหล่อนทำให้ขนลุกทันที..สาวลูกครึ่งรัสเซีย..
แคลลี่ยืนกอดอกหน้านิ่งอยู่ห่างจากเธอครึ่งเมตร สีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ หล่อนดูแตกต่างออกไปกับเวลาที่คุยงานกันในห้องเมื่อครู่ ดวงตาสีแดงเหมือนมีมนต์สะกดราวเมดูซ่าที่คนมองจะต้องถูกสาปให้กลายเป็นหิน ทำให้เธอได้แต่ยืนนิ่งมองดูหล่อนเดินเข้ามาใกล้ๆ ขยับขาไม่ออก
หัวใจของนายตำรวจสาวเต้นกระหน่ำอยู่ในอกเมื่อเธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับนาทีนี้ดี แคลลี่จะทำอะไรเธอหรือไม่ ตอนนี้เธอไม่มีอาวุธอะไรจะไปต่อกรหล่อนได้เมื่อถูกริบหมดแล้วตั้งแต่ลงมายังเกาะนี้ และแน่นอนว่าหล่อนมีปืน แล้วคงไม่ได้สนใจอะไรนักหากจะฆ่าเธอที่นี่เวลาที่ไม่พอใจอะไรสักอย่าง อย่างเช่นสิ่งที่เธอทำลงไปเมื่อครู่ ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นคู่หูของสามีหล่อนมา หรือหล่อนจะต้องการคนทำงานให้ เพราะงานเพียงเท่านั้นหล่อนย่อมทำมันได้เองหรือหาคนใหม่มาทำแทนเธอ มันไม่ใช่เรื่องยากอะไร ไม่น่าหาเรื่องเลยจริงๆ แต่จะมาตายที่นี่ทั้งที่เพิ่งจะมาเหยียบมันงั้นหรือ ไม่ยุติธรรมเลย..
“คุณแคล.. คือฉัน---”
“ถ้าคุณอยากคบดิออนจริงจัง ฉันแนะนำว่าให้คุณพยายามเป็นเพื่อนเค้าให้ได้ก่อน ทำให้เค้าไว้ใจคุณให้ได้.. ฝันดีค่ะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะออกมาส่งคุณนะคะ..ผู้หมวด”
แซนดร้ากระพริบตาอย่างไม่เข้าใจ แคลลี่เดินมาพูดแค่นี้และเดินจากไปหลังจากตบไหล่เธอแรงๆสองสามที และก็ไม่มองเธออีกเลยระหว่างที่เดินกลับห้องพัก นี่มันอะไรกัน..
มือเรียวยกขึ้นเกาศีรษะตัวเองอย่างงงๆ ขณะยืนอยู่คนเดียวที่นี่ แต่สุดท้ายแซนดร้าก็ทำได้แค่ยืนส่ายหน้าและเดินกลับห้องพักตัวเองไปศึกษางานต่อ ตอนนี้เธอควรจะสนใจงานมากกว่าคน ถ้ายังไม่อยากโดนฝังในเกาะนี้..
--The bodyguard--
“ดิออน.. หลับหรือยัง” แคลลี่ถามขึ้นหลังเปิดประตูห้องนอนของคนที่เธอถามเข้ามาอย่างถือวิสาสะ เธอแค่ต้องการมาบอกราตรีสวัสดิ์หล่อนและตรวจดูความเรียบร้อยเหมือนทุกวันที่ทำ ยิ่งเห็นเหตุการณ์ข้างนอกเมื่อครู่ก็ยิ่งนึกห่วงขึ้นมา แต่เธอก็ไม่ได้ยินอะไรกลับมา หรือว่าเด็กสาวจะหลับไปแล้ว
ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในห้องเพราะเห็นโคมไฟบนหัวเตียงยังเปิดอยู่จึงจะมาปิดให้ แต่แคลลี่ก็อยากจะเห็นคนหลับเสียก่อนจึงตัดสินใจเดินเข้ามาดูคนที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้ใกล้ๆ และแล้วก็ตกใจที่เห็นแก้มขาวเปื้อนคราบรอยน้ำตา ดิออนร้องไห้เหรอ..
ดวงตาสีแดงกระพริบและถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนดึงโทรศัพท์ขึ้นมากดหาบางคนที่รับสายเธอรวดเร็ว “แอน..มาอยู่กับฉันที่ห้องนี้ได้ไหม..ฉันกลับไปไม่ได้” พูดจบก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้งและแทรกตัวลงนอนข้างๆคนที่หลับใหลไม่รู้เรื่องราวดึงร่างหล่อนมากอดไว้และไม่รู้สึกแปลกใจที่เด็กสาวซุกตัวเข้ามาสู่ความอบอุ่นของตัวเธอ อากาศมันเย็นจริงๆ และเธอก็ยินดีที่จะถูกกอด ยินดีที่จะมอบไออุ่นให้ เพราะเธอทำได้เท่านี้ มันดีที่สุดแล้ว
แคลลี่หลับตาลงเล็กน้อยให้เวลาสายตาได้ผ่อนคลายและลืมขึ้นใหม่เมื่ออีกคนเปิดประตูเข้ามา สบตาเขาที่มองมาอย่างเข้าใจ แองเจล่าเข้ามาประทับจูบเบาๆที่หน้าผากเธอและเดินไปทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาหันหน้ามามองหน้ากัน เขายิ้มให้อย่างอบอุ่นเหมือนที่เธอก็ยิ้มตอบไป เธอสองคนไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันก็เข้าใจกันได้อย่างดี ไม่กี่นาทีเขาก็หลับตาลงเป็นตัวอย่างให้เธอหลับตาม
มือเรียวขยับลูบศีรษะสาวน้อยเบาๆก่อนประทับจูบลงไป แล้วถอนหายใจออกมาแผ่วเบา
ฉันจะอยู่กับเธอตลอดไปเท่าที่เธอต้องการ.. ไม่ต้องกลัวนะ..ดิออน..
TBC.