web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 123
Total: 123

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 7 : เมื่อความรักบริสุทธิ์กว่าน้ำใสๆในทะเล  (อ่าน 2721 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 7 : เมื่อความรักบริสุทธิ์กว่าน้ำใสๆในทะเล
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 20:17:58 »
Chapter  7  :  เมื่อความรักบริสุทธิ์กว่าน้ำใสๆในทะเล

   แคลลี่ฝังเล็บลงกับแผ่นหลังของคนบนตัวเธอขณะที่เขาปรนเปรอรสรักให้เธอไม่ยั้งแรง  ดวงตาสีแดงปิดสนิทแน่น  เธอไม่มีแรงจะเปิดมันแม้อยากจะมองหน้าเขาสักแค่ไหน  ดีที่ร่างกายเธอยังรู้สึกได้ว่า  มีความสุขมากเพียงใดกับสิ่งนี้
   “แคล..  ใจเย็นๆนะ  แป๊บเดียวเท่านั้น..” 
   เสียงนุ่มๆนี้ทำให้ร่างกายที่ร้อนรุ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นข้างในใจ  แองเจล่าขอเวลาใกล้ชิดเธอก่อนจะออกไปทำงานต่อ  รู้อยู่ว่ามีคนรออยู่ภายนอกถึงสองคน  แต่เขาก็ให้เหตุผลว่า  ต้องการจะให้สองคนนั่นได้ทำความรู้จักกันก่อนจะจากกันไป  สุดท้ายเขากับเธอก็มาอยู่ในสภาพนี้ด้วยกัน
   พวกเธอเป็นแบบนี้เสมอ  เซ็กส์สำหรับพวกเธอมันคือการบอกรัก มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนรักกัน  โดยเฉพาะกับเขาที่เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญกับการมีชีวิตอยู่  ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายกับทุกอย่าง  และถ้าเธอรักเขา  ไม่ต้องการให้เขาไปหาใครที่ไหนมาแทน  มาช่วยผ่อนคลายให้  ก็ต้องยอม  แต่มันก็เกิดจากความเต็มใจทั้งนั้น
   เพราะเธอรัก..
   สะโพกของเธอขยับหนักๆตอบรับสิ่งที่เข้ามาหา  แองเจล่ารู้เสมอว่าอะไรที่เธอต้องการ  ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน  เซ็กส์กับเซเลนหรือผู้หญิงคนอื่นๆ  อาจจะเร้าใจตรงที่ร่างกายพวกหล่อนมีอะไรให้เล่นได้มากกว่า มีสรีระที่เป็นผู้หญิง แต่หากจะพูดถึงว่า ใครที่สามารถทำให้เธอรู้สึกเติมเต็มได้มากที่สุด  ก็คงจะไม่พ้นคนคนนี้  และกับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแต่งงานแล้วอย่างเธอ  เรื่องบนเตียงถือเป็นเรื่องสำคัญ  มันเป็นสิ่งช่วยทำให้ความรักยืนยาว 
หากไม่เชื่อล่ะก็  ไปดูสิว่า  สาเหตุของการหย่าร้างส่วนใหญ่  มีปัญหามาจากอะไร  ถ้าไม่คิดว่า  เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ  ของสามีภรรยา..
เรือนกายขาวอมชมพูดกลัดเกร็งเมื่อบทรักบรรเลงมาถึงสุดทาง  ริมฝีปากอิ่มผ่อนลมหายใจหอบสะท้าน  หากแต่สองแขนยังกอดคนบนตัวแน่นไม่ยอมจะปล่อยไปไหน  เขาเองก็เช่นเดียวกัน  ส่งเสียงหอบหนักๆอยู่ข้างหูเธอ  แต่ร่างกายนี้อบอุ่นเหลือเกิน  เกินกว่าที่เธอจะรำคาญและผลักเขาออกไป
“แอน..  ฉันยังเหมือนเดิมหรือเปล่า..”  หญิงสาวถามขึ้นอย่างสงสัยขณะที่อีกคนพลิกตัวลงไปนอนหงายข้างๆให้เธอต้องตามมามองหน้ากัน  นิ้วเรียวไล้ไปตามใบหน้าขาวที่ชื้นเหงื่อที่เจ้าของมันยังคงเปิดปากหอบเหนื่อยอยู่ 
รู้บ้างไหมนี่ว่า  ปากตัวเองน่าจูบขนาดไหน  แต่ไม่ได้นะ  เดี๋ยวก็ไม่ได้ออกไปไหนกันพอดี
“แอน..  ถามทำไมไม่ตอบ..”  แคลลี่ถามย้ำขณะบีบมุมปากทั้งสองข้างของคนนอนที่ไม่ยอมพูดกับตัวเอง  คราวนี้จึงได้เห็นดวงตาสีเขียวน้ำทะเลเปิดขึ้นมามองหน้าด้วยสายตาขบขัน  พาให้ต้องขมวดคิ้วมอง 
แต่ก่อนจะได้พูดอะไรอีก  เขาก็ยกตัวขึ้นมาพาเธอเข้าสู่จูบอันดูดดื่มอีกครั้ง  และมันก็เหมือนเดิม  ที่เธอยอมยกตัวเองให้เขาเล่นสนุกด้วย  จนเป็นเธอที่นอนหอบเหนื่อยจนพูดอะไรไม่ออกอยู่กับอกของเขาแทน  แองเจล่าคิดจะปิดปากเธอด้วยวิธีนี้หรือไร  ไม่ได้ผลหรอก  เธอยังพูดได้อยู่นะ
“แอน..ใจร้าย..”
“โอ๋...  ก็ได้ค่ะ  ก็ได้..  เธอน่ารักที่สุดเลยที่รัก  พี่รักเธอมากๆเลยนะแคล  ไม่รู้เหรอคะ  ทำไมต้องถามด้วย”
ดวงตาคู่สวยสองสีมองสบกัน  เห็นคนหนึ่งยิ้มหวานให้  คนชอบงอนก็ยิ้มออกมาได้บ้าง  และประทับจูบลงไปที่ริมฝีปากแดงระเรื่อของคนหน้าขาว  มือสวยลูบเส้นผมยาวสีเงินเล่นอย่างเพลิดเพลิน
“ฉันคิดถึงเวลาแบบนี้ของเรามาก  พี่รู้ไหม..” 
“พี่ก็คิดถึง  อยากกอดเธอทุกวัน  สามปีที่ไม่ได้เห็นหน้าเธอ  พี่แทบจะคลั่งตาย  อยากหนีออกมาจากค่ายทุกวัน  แต่ก็ทำไม่ได้  ทรมานมากๆ” 
แคลลี่ยิ้มให้กับเจ้าของคำพูดและเข้าไปจูบเขาที่ปากอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้รีบถอยออกมาก่อนที่มันจะเกินเลยไปไกลกว่านี้   เพราะเธอมีเรื่องอยากจะถามเขา
“แล้ว..  พี่พอจะบอกฉันได้ไหมว่า  พี่ไปทำภารกิจอะไร  สามปีนั่น” 
แองเจล่าดูตกใจกับคำถามกะทันหันและดูอึกอักที่จะตอบ  คนถามจึงถอนหายใจหนักและตัดใจลุกขึ้นจากความอบอุ่นจากร่างกายนี้ที่คิดถึง
“ไม่เป็นไร.. ถ้ามันเป็นความลับขนาดนั้น ก็ไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ  ฉันเข้าใจ”     
   “ดีแล้ว..แคล  เพราะเรื่องบางเรื่องสำหรับสายลับ  คนที่เป็นภรรยาก็ไม่ควรรู้  มันไม่ดีกับเธอ”
   คนเผลอเหม่อหันกลับมามองหน้าคนพูดทันที  ตอนนี้เธอเห็นเขาลุกขึ้นและยื่นเสื้อผ้ามาให้เธอใส่ในขณะที่เขาอยู่ในกางเกงเรียบร้อยแล้ว  แคลลี่รับเสื้อผ้าตัวเองมาอย่างมึนๆ และมองดูคนที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง  เก็บของที่จำเป็น  และนี่ก็ทำให้เธอเห็นชัดเจนเลยว่า  คนตัวขาวเหมือนเม็ดสีผิวไม่ทำงานตรงหน้า  ผ่านอะไรมาบ้างระหว่างที่พวกเธอไม่ได้อยู่ด้วยกัน  ร่างกายท่อนบนของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น  ทำไมเธอถึงไม่เคยสังเกตมัน  หรือสนใจแต่อย่างอื่นอยู่
   และโดยไม่รู้ตัว  เธอยกมือขึ้นลูบที่หลังของเขาตรงจุดที่เป็นรอยแผลเป็นใหญ่ที่สุด  แองเจล่าสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยให้เธอได้ทำ  เขาพึมพำเบาๆให้เธอฟัง
   “มันยังรู้สึกเจ็บจี๊ดๆอยู่น่ะ แต่มันก็หายแล้ว  ไม่เป็นไร..”
   “ไม่เป็นไรเหรอ..  แล้วพี่คิดบ้างหรือเปล่าว่า  ถ้ามันเป็นอะไร  ฉันจะเป็นยังไงบ้าง  ไหนเคยสัญญาว่าจะไม่ทิ้งฉันไป  แต่พี่ก็ไปทำงานเสี่ยงๆ และเกือบจะตายเพราะมัน  ไม่สงสารฉันบ้างเหรอ..  ทำไมใจร้ายแบบนี้...”
คนฟังกระพริบตาปริบๆอย่างตกใจ แต่ในที่สุดก็หันกลับมารวบตัวคนร้องไห้สะอื้นเข้าไปกอดปลอบ  ลูบแผ่นหลังให้หล่อนอย่างเบามือที่สุด
“พี่ขอโทษแคล..  พี่ขอโทษ..  คราวหลังจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว  อย่าร้องเลยนะ  เธอร้องไห้แบบนี้  พี่ใจจะขาด..”
“งั้นพี่ก็ลาออกจากทหารสิแอน..  ลาออกเพื่อฉัน.!”  พูดโพล่งออกมาอย่างไม่ทันคิดเพราะอารมณ์เสียใจ  และมันก็พาความตกใจให้เกิดขึ้นมาในดวงตาของคนที่มองหน้าเธอตรงนี้ 
แคลลี่เริ่มรู้สึกว่าหัวใจเธอเต้นกระหน่ำในอกเหมือนใครเอากลองมาตีแรงๆอยู่ข้างใน  เพราะใบหน้าของเขาที่บ่งบอกว่า  เธอเป็นคนไร้สาระสิ้นดีแม้เขาจะไม่พูดอะไรออกมาเลยเกี่ยวกับมัน
เธอไม่น่าจะพูดแบบนี้ออกไปในเมื่อก็รู้อยู่แล้วว่าเขารักอาชีพที่ทำอยู่มากแค่ไหน  ให้เลิกกับเธอยังง่ายกว่าเลยล่ะมั้ง  ถ้าจะให้เขาลาออก..
“เธออยู่นี่ก่อนนะ  สงบใจให้ได้ก่อน  แล้วค่อยตามออกมา  พี่จะไปส่งแซนดร้าเอง”  พูดแค่นั้นและเขาก็เดินออกไปจากห้องทั้งๆที่ยังใส่เสื้อไม่เสร็จ  คงไม่อยากจะเห็นหน้าเธอแล้ว 
ผู้หญิงเอาแต่ใจและไม่มีเหตุผล  ชอบใช้แต่อารมณ์อย่างเธอ..  ไร้สาระ!   
ร่างสูงโปร่งทรุดลงนั่งกับขอบเตียงและยกสองมือขึ้นกุมศีรษะตัวเอง  หลับตาและปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มอย่างไม่ต้องยั้ง  ในเมื่อไม่มีใครเห็นมัน  เขาไม่ได้อยู่ดูเธอในสภาพแบบนี้  แต่ถึงอย่างนั้น.. 
พี่ก็ควรจะรู้นะว่า ฉันเป็นแบบนี้เพราะอะไร..  เพราะฉันรักพี่มากไง..แอน
--The bodyguard-- 
     “แซนดร้า..  คุณได้ยินฉันหรือเปล่าคะ”  แคลลี่กรอกเสียงลงไปกับไมค์ลอยข้างริมฝีปาก  เธอกำลังติดต่อสื่อสารผ่านทางดาวเทียมกับคนที่อยู่ไกลถึงอีกซีกหนึ่งของประเทศนี้  โชคดีที่เทคโนโลยีของกองทัพกว้างไกลขนาดนี้  เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องลำบาก  แซนดร้าย่อมได้ยินเสียงเธอแน่นอน  หากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด
‘ได้ยินค่ะแคล  ชัดเจน’
“โอเค..  งั้นฟังฉันนะคะ  ตามแผนคือฉันจะสั่งลูกน้องของฉันเปิดทางให้คุณได้เข้าไปในคฤหาสน์สวอนส์  รวมถึงพวกเขาจะทำเป็นไม่สนใจคุณว่าคุณจะเดินไปทางไหนในคฤหาสน์  นั่นจึงทำให้คุณสามารถเดินวอลซ์เข้าไปในที่ต่างๆของที่นั่นได้อย่างไม่มีปัญหา  ปัญหามีแค่เพียงคุณต้องหาทางเข้าไปในห้องใต้ดินนั้นให้เจอเอง  เพราะมันไม่มีกุญแจ  มีแต่กลไกอะไรสักอย่างที่จะทำให้คุณเปิดประตูได้และเข้าไปเอาของที่เราต้องการ  เข้าใจแล้วนะคะ” 
เสียงในโทนหวานหนักแน่นขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับงานที่เคร่งเครียด  ได้ยินเสียงฮัมตอบรับมาจากเครื่องมือที่ข้างหูเป็นการรับรู้จากอีกคน  คนพูดก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจได้เล็กน้อย  หากแต่เมื่อได้ยินเสียงหล่อนอีกครั้ง  ก็จำเป็นต้องนิ่งฟัง
‘เอ่อ.. คุณแคลคะ  เดินวอลซ์เข้าไปเนี่ย  มันเป็นคำเปรียบเทียบที่จะบอกว่า  ฉันสามารถเข้าไปในคฤหาสน์ได้อย่างราชินีเลยเหรอคะ’
สมองเครียดๆของแคลลี่เริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาได้บ้าง  เพราะประโยคติดตลกของคนอีกด้านของประเทศนี้  ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มและส่ายหน้าน้อยๆให้กับหล่อนแม้รู้ว่าหล่อนไม่มีทางจะมองเห็น 
“ก็ประมาณนั้นแหละค่ะหมวด  ยกเว้นเพียงแต่ว่า  คุณจะโชคร้ายไปเจอกับคุณเฟอร์ริสกับคนของเขาเท่านั้น  เพราะยังไงเขาก็ยังเป็นราชาเจ้าของเมืองนั้นอยู่นะคะ  อย่าลืมล่ะ”  หยอกหล่อนตอบกลับไปก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังกลับมาที่หูให้ต้องยิ้มกว้าง
‘รับทราบค่ะ..เจ้านาย’
“โอเคค่ะ งั้นฉันจะอยู่กับคุณไปตลอดทางนะคะ ถ้ามีปัญหาอะไร  ก็บอกได้  แล้วฉันจะให้คนไปช่วย  โอเคนะคะหมวด”
‘โอเคค่ะ..บอส’ 
เสียงจากอีกคนหายเงียบไปแล้ว  คาดว่าคงจะตั้งใจทำสมาธิอยู่กับงานที่กำลังทำ  เหมือนกับที่เธอเองก็กำลังมีสมาธิอยู่กับการฟังเสียงต่างๆที่ลอดผ่านจากด้านของหล่อนมา  สายตาก็จ้องอยู่กับที่จอเรดาห์ที่บ่งบอกถึงจุดที่คู่หูเธอกำลังเดินดุ่มไป  แคลลี่สนใจเพียงแต่งานกับคนที่ทำงานด้วยในตอนนี้เพียงเท่านั้น  ไม่ได้เผื่อใจไปคิดถึงใครที่นั่งคู่อยู่ด้วยสักนิด  ไม่เห็นเลยว่าเขากำลังนั่งขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับสิ่งที่เธอทำ   ทำงานเครียดอยู่  ทำไมเมื่อครู่หัวเราะล่ะ  เป็นไปได้ยังไง
หากแต่การแสดงตัวว่าตนกำลังหึงหวงคนของตัวเองอยู่สำหรับแองเจล่า  ทหารผู้เห็นงานเป็นสำคัญกว่าสิ่งไหน  ก็ไม่มีทางจะเกิดขึ้น  ใบหน้าคมคายทำเพียงส่ายไปมาและคว้ากาแฟร้อนๆมาจิบระงับอารมณ์เท่านั้น  แต่อาการอึดอัดกับการอยู่ที่นี่  มีหรืออีกคนจะไม่รู้สึกถึง  ก็หล่อนเป็นใครล่ะ
“พี่ออกไปสูดอากาศข้างนอกก็ได้นะแอน  ฉันอยู่คนเดียวได้  หรือจะไปอยู่เป็นเพื่อนดิออนก็ได้  เค้าคงอยากจะมีเพื่อนคุยมากกว่าเล่นกับเจ้าตูบที่พูดไม่ได้ของลุงมอแกน”  แคลยิ้มบางๆให้กับคนที่มองหน้ากัน  เขาดูตกใจกับคำพูดของเธอ  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร  ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นและเตรียมจะไปตามที่เธอบอกให้ทำ  แต่อะไรบางอย่างก็ทำให้เธอต้องเรียกเขากลับมา
“แอน..  เดี๋ยวก่อน..”  เจ้าของเสียงมองคนที่ยอมหันกลับมาหากัน  จากนั้นก็ถอดหูฟังที่ติดกับไมค์ลอยออกจากศีรษะวางลงพักกับโต๊ะตรงหน้า  แล้วขยับเข้ามาหาคนตัวสูงกว่าที่มองมาอย่างสงสัย  รออยู่ว่าเธอจะพูดอะไรด้วย  และคนหน้าสวยนี่ก็เข้าใจเสียทีว่าเธอต้องการอะไร  เมื่อเขาถูกดึงลงมาประทับจูบหวานๆให้และได้ยินคำแบบนี้   

“ฉันรักพี่นะ  ไม่ว่าพี่จะคิดยังไง  จำไว้นะคะ”  พูดจบก็หันกลับมาทำงานต่อไป  เลิกสนใจเขาไปทันที  หากแต่แคลลี่ยังมั่นใจว่า  คู่ชีวิตเข้าใจเธอ  เมื่อเขาพูดบางอย่างออกมาก่อนจะไป

“พี่ก็รักเธอนะแคล..  หวังว่าเธอคงไม่ได้ลืม..”

ร่างสูงเดินออกตามหาคนที่ต้องการเจอตัว  แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กนั่นจะไปไกลกว่าที่เธอคิดเอาไว้  หรือเธอชะล่าใจเองที่ไม่ได้มองหาหล่อนในกล้องวงจรปิดเสียก่อน  ก่อนจะออกมาหา  ดวงตาคมกวาดมองหาไปรอบๆจุดที่ยืนอยู่  ตรงน้ำตกที่เคยมาด้วยกันกับหล่อนครั้งนั้น
และเธอก็เจอหล่อนจนได้  ร่างบางกำลังหย่อนเท้าเปล่าลงเล่นกับน้ำใสๆๆตรงหน้าหล่อน  เพลินจริงนะ  ไม่สนใจเลยว่า คนอื่นเขาเป็นห่วงตัวเอง
“ขอฉันนั่งเล่นด้วยคนได้ไหม..  สัญญาว่าจะไม่ทำให้น้ำขุ่น”
แล้วเสียงนุ่มๆเป็นเอกลักษณ์ของเธอก็พาให้คนที่กำลังนั่งเหม่ออย่างสบายอารมณ์หันกลับมามองหน้ากัน  หล่อนดูไม่ตกใจอะไร  กลับพยักหน้ารับเป็นอย่างดีและขยับที่ที่โขดหินให้เธอได้นั่งด้วย  ทั้งที่ไม่รู้ว่าพื้นที่มันจะพอหรือเปล่าที่จะให้เธอนั่ง  หรือต้องนั่งตักกันล่ะ
“ฉันนั่งตรงนี้ดีกว่า  ที่ไม่พอ..”  พูดขณะนั่งยองๆลงข้างๆตัวอีกคนตรงโขดหิน  สาวน้อยหันมายิ้มให้พร้อมพยักหน้า  ดิออนไม่ได้พูดอะไร  แค่นั่งเล่นน้ำเย็นๆเหมือนกำลังมีความสุขกับมัน  ช่างน่าเอ็นดู..
โดยไม่ทันคิด  มือขาวก็เอื้อมออกไปนำเส้นผมยาวสีเข้มไปทัดหูให้เด็กสาวตรงหน้าที่มองมาหากันทันที  และเจ้าของมือก็ต้องกระพริบตาเมื่อได้ยินเสียงหล่อนพูดออกมาจนได้
“ฉันเสียดายผมจังนะคะ  เดี๋ยวมันก็ต้องโดนตัดหมดแล้ว  ต้องโกนด้วย”
แองเจล่ากระพริบตาและรู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออก  เพราะแววตาของอีกคนช่างน่าสงสารแม้หล่อนจะไม่ทำท่าว่ามันเป็นแบบนั้น  แต่เธอรู้..
ใครนะใครกัน  ช่างใจร้ายเหลือเกินทำร้ายสิ่งสวยงามที่แสนบริสุทธิ์นี้ได้ลงคอ  อยากจะจับมันมาคุกเข่าต่อหน้าหล่อนและให้พร่ำพูดคำว่าขอโทษเป็นล้านๆครั้ง  ทำแบบนี้ได้ยังไง  ใจร้ายที่สุด..
คิดขึ้นมาอย่างโกรธเคืองคนที่ร้ายกาจขนาดนี้  หากแต่ความคิดของเธอก็ต้องสะดุดลงเพราะเสียงใสๆที่ได้ฟังอีกครั้ง
“ฉันหัวโล้น  คงตลกน่าดูเลยแน่ๆ  คุณจะหัวเราะฉันไหมคะ..ผู้พัน”
คนฟังยิ้มออกมาและส่ายหน้าให้คนพูด  ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีขึ้นกว่าที่เป็น  “ถึงเทรนสกินเฮดจะหมดไปแล้ว  แต่มันก็ยังใช้ได้อยู่นะ  เพราะเธอหน้าตาดี  ไม่มีปัญหา..”
“โห..  ไม่ต้องมาแกล้งชมกันเลยนะคะ  อยากจะหัวเราะก็บอกมาเถอะ  ฉันรับได้  แคลก็อีกคน  ต้องหัวเราะแน่ๆ  ไม่อยากให้อยู่ด้วยเลยล่ะเวลาแบบนั้น”
“เป็นไปไม่ได้แน่  แคลต้องอยู่อยู่แล้ว เค้ารักเธอจะตายไป  นี่ถ้าไม่จำเป็นคงไม่ทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวหรอก  เชื่อฉันสิ”  พูดตามความจริงออกไป  โดยไม่รู้ว่าได้ไปทำให้คนฟังสะเทือนใจเล็กๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงพึมพำเบาๆ
“เมื่อก่อน..  ฉันเคยคิดว่า  จะได้อยู่กับเค้า  แบบคนรักกัน..”
แองเจล่ากระพริบตา  เธอพูดอะไรไม่ออกเพราะรู้สึกจุกอยู่ในอก  หัวใจมันอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกผิด  ถ้าเธอไม่กลับมา  เรื่องที่ดิออนคิด  มันก็คงจะยังเป็นแบบที่หล่อนคิด  ใช่ไหม..?
“นี่..  คุณเลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว..ผู้พัน  คุณไม่ได้ผิดอะไร  ที่ฉันพูดก็แค่บอกให้คุณรู้เท่านั้น  ว่าความคิดแบบเด็กๆอย่างฉัน  มันเป็นยังไง..”  ดิออนพูดเสียงใสขึ้นมาพร้อมกับที่ลุกขึ้นมาก้มตัวลงกอดคนที่ยังนั่งอึ้งอยู่
มือบางลูบเบาๆศีรษะที่ดึงมาซบอกตัวเองเมื่อขอใช้การที่คนตัวใหญ่นั่งลงแบบนี้ให้เป็นประโยชน์  ที่เธอจะสามารถใกล้ชิดเขาได้ขนาดนี้  ใบหน้าคมวางคางไว้บนศีรษะของเขาที่ในที่สุดก็ยอมกอดตอบกลับมา
“ฉันบอกแล้วว่าฉันชอบคุณ  ฉันอบอุ่นเวลาที่คุณอยู่ด้วย  ฉันไว้ใจคุณเหมือนที่ไว้ใจแคล  ฉันรักพวกคุณทั้งสองคน  อยากให้พวกคุณมีความสุขอยู่ด้วยกัน  เข้าใจไหมคะ”
“ฉันเข้าใจ  แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะ--”  เสียงของแองเจล่าหายไปเพราะฝ่ามือเล็กๆที่ปิดปากของเธอ
ใบหน้าคมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมืออย่างไม่เข้าใจ  สาวน้อยตรงหน้าส่ายหน้าให้เหมือนจะบอกให้หยุดพูด  จนต้องพยักหน้ารับเพราะสายตาน่าสงสารแบบนี้  ตอนนี้จึงยอมให้หล่อนกอดเอาไว้นิ่งๆอยู่กันเงียบๆ จนกระทั่งเสียงหล่อนดังขึ้นมาเอง

“คุณสัญญาอะไรกับฉันสักอย่างได้ไหมคะ..ผู้พัน”

ดวงตาสองสีได้พบกันอีกครั้ง  ที่คนหนึ่งลังเลใจที่จะตอบคำถามแต่ก็ต้องยอมพยักหน้ารับอย่างทุกครั้งไป  ไม่เคยใจร้ายกับเด็กสาวได้ลงสักที  ยอมรับว่าแพ้สายตาแบบนี้ของผู้หญิงเสมอ
หากแต่เธอก็แทบช็อคกับสิ่งที่หล่อนพูดออกมา  และพบว่าน้ำตาตัวเองร่วงพราวอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“ถ้าฉันตายเพราะการผ่าตัดครั้งนี้..  หรือตายเพราะอะไรก็ช่าง..  สัญญาได้ไหมคะว่า  จะจารึกชื่อฉันบนแผ่นหินและปักเอาไว้ที่นี่  ให้ฉันได้อยู่กับที่ที่ฉันรู้สึกมีความสุขที่สุดกับพวกคุณ”

TBC.





เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.