ตอนที่ ๓
“เธออยู่คนเดียวเหรอ” พิมพ์รตาเอ่ยถาม เมื่อรถแล่นมาจอดใต้ถุนคอนโดแห่งหนึ่งแถวชานเมือง
“ค่ะ เอ่อ...คุณ...รออยู่ที่นี่ก่อนก็ได้นะคะ ฉันจะรีบไปเก็บของ แล้วจะรีบลงมา” กรกฎบอกอย่างเกรงใจ
“เธอจะบ้าเหรอ ให้ฉันมานั่งรอในรถ ฉันจะขึ้นไปด้วย หรือว่าเธอมีความลับอะไรที่ไม่อยากให้ฉันรู้ ฉันจะได้นั่งรอ” พิมพ์รตาแหวใส่อีกครั้ง อย่างเอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งกรกฎทำได้แค่ถอนหายใจ แล้วเดินนำไปที่ลิฟต์อย่างไม่อาจขัดใจพิมพ์รตาได้
“ห้องเธอนี่ก็น่าอยู่เหมือนกันนะ อยู่นอกเมืองไม่วุ่นวาย อากาศดีจัง” พิมพ์รตาออกไปยืนมองวิวอยู่ตรงระเบียงห้องอย่างถูกใจ
“ห้องเล็กๆ แคบๆ แบบนี้นะ น่าอยู่” กรกฎพูดเบาๆ แต่กลับทำให้อีกคนหันมามองตาเขียวใส่ แล้วเสียงที่ทำให้กรกฎต้องถอนหายใจหนักๆ ก็ตามมาทันที
“ทำไม...ฉันไปอยู่เมืองนอก ห้องที่ฉันอยู่แคบกว่านี้ เล็กกว่านี้อีก ถึงแม้ฉันจะเกิดมารวย แต่ฉันก็ไม่ได้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะยะ แล้วนี่เก็บของเสร็จหรือยังล่ะ”
“เสร็จแล้วค่ะ” กรกฎบอกเบาๆ โดยไม่สบสายตา
“เสร็จแล้วก็ไปซิ มัวรออะไรอยู่ ฉันล่ะให้สงสัยจริงๆ ว่าใครจะดูแลใครกันแน่ คุณพ่อดูคนผิดชัดๆ” พิมพ์รตาเดินออกจากห้องไปก่อน แต่เสียงบ่นของเธอยังแว่วมาให้ได้ยิน
‘เฮ้อ...จะรอดถึงสามเดือนมั้ยนะเรา’ กรกฎรำพึงกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะรีบเดินตามออกไป ก่อนที่เสียงแว๊ดๆ จะดังมาให้ได้ยินอีกรอบ
คืนแรกของการนอนในบ้านหลังใหญ่ของกรกฎ ทำเอาเธอนอนไม่หลับ จนต้องออกมายืนตรงระเบียงหลังห้อง แหงนมองไปบนท้องฟ้าไกล คืนนี้ท้องฟ้าสว่างสดใสอาจด้วยเพราะค่ำคืนนี้มีพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์ดวงโตสีเหลืองนวล ชวนให้หลงใหลคราใดที่พระจันทร์ส่องแสงสุกสกาวบนท้องฟ้า กลับมองไม่เห็นดวงดาวเลยสักดวง อาจเป็นเพราะพระจันทร์ส่องแสงสว่างมากซะจนดวงดาวไม่อาจสู้แสงพระจันทร์ได้ จนต้องแอบซ่อนตัวเองอยู่เงียบๆ กระมัง กรกฎมองพระจันทร์บนฟ้าอย่างหลงใหล จนเผลอท่องกลอนที่เคยท่องเมื่อตอนเด็กๆ
‘จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าว ขอแกง
ขอแหวนทองแดง ผูกมือน้องข้า
ขอช้าง ขอม้า ให้น้องข้าขี่ ขอเก้าอี้ ให้น้องข้านั่ง
ขอเตียงตั้ง ให้น้องข้านอน ขอละคร ให้น้องข้าดู
ขอยายชู เลี้ยงน้องข้าเถิด ขอยายเกิด เลี้ยงตัวข้าเอง’
“ฮ่าๆๆ เธอขอพรจากพระจันทร์เหรอ” เสียงหัวเราะของ พิมพ์รตาดังมาจากระเบียงห้องข้างๆ ซึ่งกรกฎลืมเสียสนิทเลยว่าเธออยู่ห้องติดกับห้องของพิมพ์รตา
“คุณแอบฟังเหรอ” กรกฎตั้งคำถามเสียงแผ่วเบา อย่างรู้สึกอายที่พิมพ์รตาได้ยินสิ่งที่เธอพร่ำเพ้อ
“ฉันก็อยู่ห้องของฉัน เธอเองต่างหากที่ส่งเสียงดังรบกวนความสุขสงบของฉัน ยังจะมาว่าฉันแอบฟังเธออีกเหรอ” เสียงที่ตอบกลับมายังเจือด้วยเสียงหัวเราะ
“ขอโทษนะคะ ที่เสียงของฉันรบกวนคุณ”เสียงกรกฎดังมาเบาๆ ดูแฝงไว้ด้วยความเศร้าแปลกๆ จนทำให้พิมพ์รตาหยุดเสียงหัวเราะนั้นทันที ก่อนเอ่ยปากถาม ด้วยเสียงที่เจือด้วยความห่วงใยโดยไม่รู้ตัว
“นอนไม่หลับเหรอ”
“ค่ะ...สงสัยจะแปลกที่ คุณล่ะ” ตอบคำถามด้วยเสียงที่ดูดีขึ้น ก่อนย้อนถามกลับไป
“ฉันยังปรับเวลาไม่ค่อยได้” เสียงที่ตอบกลับมาดูเป็นมิตรมากขึ้น
“อ้อ...จริงด้วย คุณเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกนี่นะ”
“ใช่...แต่ตอนนี้ฉันก็เริ่มที่จะง่วงแล้วล่ะ ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้เธอจะต้องไปข้างนอกพร้อมกับฉันแต่เช้านะ อย่าลืมล่ะ ฝันดีนะ” แม้คำที่บอกไม่ได้หวานจับใจ แต่ก็ทำให้กรกฎรู้สึกดีกับคืนแรกของที่นี่
เช้าวันใหม่กรกฎตื่นแต่เช้าเหมือนเคย แม้ว่าเมื่อคืนเธอจะนอนดึกก็ตาม เธอออกไปวิ่งออกกำลังกายรอบๆ สนามหน้าบ้านซึ่งกว้างกว่าสนามบาสมาตรฐานซะอีก
พิมพ์รตาเพิ่งตื่นนอน แต่รู้สึกหิวอาจเป็นเพราะเมื่อวานตอนเย็นไม่ได้กินอะไร เธอเดินออกมาสั่งให้ป้าทิพย์แม่ครัวทำข้าวต้มปลาให้ ซึ่งปกติเธอจะทานแค่กาแฟ กับขนมปังราดน้ำผึ้งแผ่นเดียวเท่านั้นเอง
พิมพ์รตาออกจากห้องนอนด้วยชุดนอนบางเบา เสื้อคลุมที่สวมไม่ได้ผูกสายคาดเอว คงปล่อยทิ้งชายเสื้อไหวพลิ้วยามเจ้าตัวก้าวเดิน โดยเฉพาะเมื่อเจ้าหล่อนชอบเดินเร็วๆ ด้วยนิสัยอันเคยตัว ชุดนอนเป็นความชอบอย่างหนึ่งที่เธอชอบซื้อ ชอบสวม และจะต้องเป็นผ้าบางเบาสบาย สีอ่อนหวานมีลูกไม้ระบายนิดๆ ชุดนี้ก็เหมือนกันสีเหลืองนวล ทำให้ผิวขาวผ่องของหญิงสาวงามผุดผาด
เธอชะงักเมื่อเดินมาเจอกับกรกฎที่กำลังจะกลับเข้าห้องเช่นกัน กรกฎมองร่างระหงเล็กบางแต่ดูอิ่มเอิบ และเย้ายวนในชุดนอนบางไม่วางตา เธอเผลอมองจนอีกฝ่ายรู้ตัว และทั้งใบหน้าก็แต้มสีระเรื่อตลอดลำคอ
‘บ้า...มองอยู่ได้’ ความเก่งของพิมพ์รตาหายไปอยู่ไหนเสียหมดก็ไม่รู้ เหลือแต่ความขัดเขินเมื่อสบสายตาลึกซึ้งคู่นั้น มันเหมือนจะบอกอะไรหลายๆ อย่างให้พิมพ์รตาได้รู้ อย่างที่เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคืออะไร แล้วทำไมเธอต้องรู้สึกร้อนวูบวาบไปกับสายตาที่จ้องมองนั้นด้วย เมื่อกี้ป้าทิพย์ก็มองแล้วยังเอ่ยปากชมว่าเธอเซ็กซี่ เธอยังไม่เห็นรู้สึกอะไรเหมือนอย่างที่อยู่ต่อหน้าคนคนนี้
‘มองอย่างกับเธอเปลื้องผ้าให้ดูซะอย่างนั้น...คนบ้า’ พิมพ์รตารีบเข้าห้องโดยไม่พูดอะไร
กรกฎเดินเข้าห้องปิดประตูตามหลัง มือไม้สั่น ใจเต้นแรงอย่างไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมเมื่อเห็นเรือนร่างที่อยู่ภายใต้ผ้าบางเบานั้น เธอรู้สึกเหมือนหายใจติดขัด ใบหน้าร้อนผ่าว
‘คนบ้าอยู่ๆ ใส่ชุดบางขนาดนั้น มาเดินให้คนอื่นมองอยู่ได้’ เธอรู้สึกไม่พอใจพิมพ์รตา อย่างที่เธอก็ไม่อาจเข้าใจว่าทำไมเหมือนกัน