web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 168
Total: 168

ผู้เขียน หัวข้อ: ผืนน้ำแห่งความรัก บทที่ 02  (อ่าน 1520 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อาพัทธ์ อันธการ

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 74
ผืนน้ำแห่งความรัก บทที่ 02
« เมื่อ: 26 ธันวาคม 2013 เวลา 22:43:48 »
บทที่ 2

หลังเสียง ‘ปึก’ ภาพเบื้องหน้าของชิดชนกก็เลือนพร่า เธอถอยหลังไปชนผนังห้องอย่างแรง ข้าวของใกล้ตัวหล่นลงบนพื้นกระจัดกระจาย หล่อนหลับตานิ่งรับรู้ถึงความปวดแปลบที่แก้มข้างซ้ายได้อย่างชัดเจน ไม่อยากเดาเลยว่าเล็กจะทำหน้ายังไง และความจริงก็ปรากฏเมื่อเธอลืมตา

รวีวรรณมองเธอด้วยแววตาโกรธแค้นชิงชัง ตาแดงก่ำ น้ำตานองหน้า แววตาคู่นั้นทำให้ชิดชนกรู้สึกหวาดหวั่นใจ เรื่องทุกอย่างคงไม่จบง่ายดายอย่างที่เธอคาดไว้ แต่ก่อนที่จะมีโอกาสคิดอะไรไปมากกว่านั้น เธอก็มองเห็นบางอย่างวูบไหวที่ปลายหางตา

‘ปึก เพี๊ยะ!’ คราวนี้เธอได้ยินเสียงมือกระทบผิวแก้มอย่างชัดเจน ชิดชนกรู้สึกถึงน้ำเหนียว รสขมปร่าในปาก เธอกลืนมันอย่างยากเย็นพลางสบถในใจ ให้ตายเถอะ ทำไมต้องใช้กำลังด้วยเนี่ย เธอเผลอเอามือลูบแก้มข้างซ้ายด้วยความเจ็บปวด

“เล็ก...ทำไมพูดกันดีๆ ไม่ได้ เราไม่ชอบคนใช้กำลัง” ไร้เสียงตอบกลับจากรวีวรรณ แต่น้ำจากดวงตาคู่นั้นกลับไหลมากยิ่งขึ้น

เธอไม่อยากเห็นอะไรอีกแล้ว ชิดชนกหันหลังกลับพร้อมกับปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว ‘เพล้ง! โครม!’ เสียงดังตามหลังเธอ เหมือนกับจะขับไล่ไปให้ไกล เธอยักไหล่ จบสักที ไม่ใช่เล็กหรอกที่นกต้องแคร์ ฟ้าของนกต่างหาก



เพียงฟ้าเปิดร้านด้วยความกระฉับกระเฉง เธอเริ่มรู้สึกคุ้นชินกับการตื่นมาทำงาน ในเวลาที่ฟ้าสีแดงฉาน เมฆหมอกลอยอ้อยอิ่ง และอากาศเย็นสบายเหมาะกับการนอนแบบนี้

เมื่อเปิดร้านเสร็จเธอหันไปเห็นเจ้าของร้านเดินส่งยิ้มมาให้แต่ไกล สายตาของเขาจาบจ้วงร่างกายของเธออย่างชัดเจน แต่เพียงฟ้าพยายามไม่สนใจ หันไปจัดหนังสือต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ไปทานข้าวด้วยกันไหมน้องฟ้า” เขายิ้มแย้มเมื่อเอ่ยปากถามเธอ

“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เอก” เพียงฟ้ายิ้มตอบแต่ความหมายแตกต่างจากยิ้มของเขา

“โธ่! ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอกมาๆ” เขารีบเดินไปเปิดประตูรถรอเธอ

เพียงฟ้าลอบถอนหายใจ เขาเพียรพยายามเหลือเกินที่จะเชิญเธอแม้จะรู้ว่าเธอจะต้องปฏิเสธเขาอยู่ทุกครั้งไป แต่วันนี้เธอรู้สึกจนปัญญาที่จะบอกปัดแล้ว วันนี้เธอจะยอมเห็นใจเขาไปทานข้าวด้วยสักครั้ง



ฟ้าอยู่ไหน คำถามนี้วนเวียนอยู่ในสมองของชิดชนกตั้งแต่เธอรู้ว่าเพียงฟ้าหายตัวไป เธอตามหาฟ้าไปทุกที่ ทั้งที่บ้านฟ้า บ้านเพื่อน โรงพยาบาล หรือแม้แต่โรงแรม แต่ก็ไร้วี่แววแม้แต่เงาของเพียงฟ้า

ชิดชนกพิงประตูรถ ยืนมองลานกว้างร้างมีเพียงฝุ่นแล้วครุ่นคิด นึกไม่ออกจริงๆ ว่านอกจากสถานที่เหล่านี้เพียงฟ้าจะหนีเธอไปอยู่ที่ไหนได้อีก เธอหยิบบุหรี่จากกระเป๋ามาจุดสูบอย่างเชื่องช้า รู้สึกหัวเสียกับการหาคนรักไม่เจอ ควันสีขาวขุ่น ลอยละล่องหน้าชิดชนกอยู่นาน ก่อนจะค่อยๆ จางมลายหายไปกับอากาศ ฟ้า...นกไม่มีวันยอมปล่อยฟ้าไปหรอก ฟ้าคอยดูเถอะ นกจะตามหาฟ้าให้เจอจนได้ ริมฝีปากสีชมพูเผยยิ้ม แววตามองไปยังภาพเบื้องหน้าด้วยความมุ่งมั่น



‘กรุ๊งกริ๊ง’ เสียงระฆังใบเล็กหน้าประตูร้านดังขึ้น เพียงฟ้าละสายตาจากหนังสือเล่มโปรดขึ้นมองหน้าลูกค้า สายตาของเธอเหมือนถูกตรึงอยู่ที่ใบหน้ารูปไข่นั้น สวย คำนี้ผุดขึ้นมาในใจของเธอ แต่เพียงฟ้ารู้ว่าไม่ใช่แค่ความงามที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนละสายตาจากผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ บุคลิกที่ดูลึกลับและเศร้าหมองของหญิงสาวต่างหากที่สะกดเธอไว้อย่างแท้จริง การเดินอย่างช้าๆ จนกระโปรงสีขาวแทบไม่ขยับ ไหนจะดวงหน้างดงามแต่เฉยชา แล้วที่สำคัญดวงตาสีดำที่ลึกลับและส่งประกายความเศร้าอย่างชัดเจนนั่นอีกเล่า เพียงฟ้ารู้สึกอยากวิ่งหนีและเดินเข้าไปหาเธอคนนั้นในเวลาเดียวกัน เธออยากรู้ว่าเหตุใดผู้หญิงคนนั้นจึงมีแววตาที่เศร้าถึงเพียงนี้

หนังสือเล่มบางถูกยื่นมาตรงหน้าของเธอ สาวสวยลึกลับยิ้มให้เพียงฟ้าเล็กน้อย เธอรับแล้วแอบลอบสังเกตอีกครั้ง ตาสีดำสวย สวยมาก จมูกเล็กโด่ง ริมฝีปากก็สวย นิ้วก็เรียวสะอาดสะอ้านดี เพียงฟ้ารู้สึกแปลกประหลาดขึ้นในใจ เธอไม่แน่ใจนักว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่าอะไร คนตรงหน้าเธอ คนแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จัก ทำไมทำให้เธอรู้สึกมากมายถึงเพียงนี้

หญิงสาวแปลกหน้ารับถุงกระดาษบรรจุหนังสือ เธอคนนั้นมองหน้าเพียงฟ้าอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาคู่นั้นทำให้เพียงฟ้ารู้สึกเหมือนถูกเปลื้องทุกอย่าง พื้นผิวทุกตารางนิ้วบนร่างกายและความรู้สึกทั้งหมดภายในหัวใจ สาวลึกลับยิ้มอีกครั้งก่อนเดินออกไปจากร้านอย่างเงียบเชียบ

หล่อนเดินจากไปแล้ว เพียงฟ้าถามตัวเองว่า เธอควรรู้สึกอย่างไรกับแววตาคู่นั้น แปลกประหลาดเหลือเกิน ไม่เคยพบใครที่น่าสนใจ น่าปลอบโยน และเดาอะไรไม่ถูกอย่างนี้มาก่อนเลย เพียงฟ้ามีลางสังหรณ์ในใจเมื่อหญิงสาวคนนั้นเดินจากไปว่า เธอและสาวสวยคนนั้นจะต้องได้เจอกันในไม่ช้า และอาจไม่ได้เพียงแค่พบกันและเดินจากไป



“ไปเดินเล่นกันเถอะ” เงาลึกลับพูดกับเธอ ก่อนจะจูงมือเพียงฟ้าให้เดินตามไปยังพื้นดินว่างเปล่าที่มีเพียงกุหลายขาวดอกใหญ่ดอกเดียวขึ้นอยู่

“ที่นี่ที่ไหน” เธอถาม

เงานั้นยิ้ม มองไปที่กุหลาบดอกนั้น เพียงฟ้ามองตาม ดอกกุหลาบไหวเอนเล็กน้อยเมื่อลมหนาวพัดผ่าน กลิ่นหอมจางๆ ปะปนอยู่ในอากาศ เธอหันหน้ากลับไปหาเงาประหลาด แต่ก็ต้องพบเพียงความว่างเปล่า เงานั้นหายไปแล้ว มีเพียงเธอที่ยืนอยู่ ณ ที่นั้นตามลำพัง

เพียงฟ้ารู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งร่างกาย เธอยิ้มเยาะฝันประหลาดที่ทิ่มแทงใจเสียเหลือเกิน มันหมายความว่าอย่างที่ฉันคิดรึเปล่านะ


ไดอารี่ 3 มิถุนายน
คืนนี้ฝันแปลกเหลือเกิน ฉันกำลังมองหาอะไรกันแน่นะ บางทีคำถามทุกอย่างอาจมีคำตอบอยู่ในตัวของมันเอง เพียงแต่รอให้ใครสักคนหาพบ แต่ฉันยังไม่เจออะไรสักอย่างเดียว เพราะฉันยังไม่รู้ว่าตัวเองมองหาอะไรใช่ไหม ช่างเถอะแม้ฉันจะไม่รู้ว่าฉันมองหาอะไร แต่ฉันรู้ว่าฉันกำลังหนีอะไร
ฉันอยากรู้ว่ามีใครสักคนบ้างไหมบนโลกที่หนีความเจ็บปวดในใจของตัวเองพ้น ฉันเองทั้งที่หนีมาไกลแสนไกล แต่ก็เหมือนยังไม่สามารถสลัดความรู้สึกนั้นออกไปได้เลย เพราะว่ารักใครแล้วไม่สามารถเอาคืนได้ใช่ไหม ถ้าจะรักใครต้องรักจนวันตาย
เมื่อวานเจอผู้หญิงประหลาดคนหนึ่ง สวย ลึกลับ เศร้า ไม่รู้จะบรรยายมากว่านี้ได้ยังไง แต่เธอน่าสนใจมาก ชักอยากรู้จัก อยากพูดคุย อยากรู้ว่าเธอเจ็บปวดอะไรนักหนา
ทำไมฉันถึงรู้สึกกับคนแปลกหน้าอย่างนี้นะ เธอน่าสนใจเกินไปหรือฉันสนใจไปเสียทุกสิ่ง



ประตูร้านหนังสือถูกเพียงฟ้าปิดอย่างรวดเร็ว เธอกดล็อกกุญแจดัง ‘กริ๊ก’ ก่อนจะเดินออกมา เจ้าของร้านยืนข้างรถเก๋งสีดำคันเดิม เพียงฟ้ามองเขาและบอกปัดเหมือนเช่นทุกวัน เธอไม่รู้จะบอกเขาอย่างไร ไม่ใช่เพราะเขาไม่ดี แต่เพราะเธอไม่ชอบเขา ไม่เคยคิดกับเขามากกว่าเพื่อนและเจ้านายคนหนึ่ง

หญิงสาวเดินเข้าร้านอินเตอร์เน็ตสีฟ้า รอเพียงไม่นานก็สามารถเข้าสู่โลกไซเบอร์ได้ เสียงเพลงจากหูฟังทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม มีอีเมลล์หนึ่งฉบับส่งถึงเธอ แค่เพียงเห็นชื่อเธอก็รู้สึกปวดแปลบตรงหัวใจ เธอรู้สึกอยากและไม่อยากอ่านในเวลาเดียวกัน แต่ในที่สุดความอยากรู้ว่าคนๆ นั้นเขียนอะไรหาเธอก็เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ

Subject : นกคิดถึงฟ้า
ฟ้าอยู่ไหน นกตามหาฟ้าแทบบ้า นกแทบไม่ได้กินไม่ได้นอนเลยฟ้ารู้ไหม ฟ้ากลับมาเถอะ นกรักฟ้านะ
นกขอโทษ ฟ้าคงรู้แล้วใช่ไหมว่านกมีแฟนอยู่แล้ว แต่ฟ้า ครั้งแรกที่นกเจอฟ้า นกก็รู้สึกรักฟ้ามากจนไม่สามารถปล่อยฟ้าให้เดินจากไปได้ นกผิดที่ไม่บอกเลิกเขาให้เร็วกว่านี้ กว่านกจะตัดสินใจได้ก็เมื่อฟ้าไม่อยู่กับนกแล้ว แต่ตอนนี้นกเลิกกับเขาแล้วนะฟ้า ต่อจากนี้นกจะมีแต่ฟ้าเท่านั้น ฟ้ายังจำเบอร์นกได้ใช่ไหม ถ้าฟ้าโทรมาไม่ว่านกจะอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่ นกก็จะมาไปหาฟ้าทันที
รักฟ้าเสมอ
นก

เพียงฟ้ารู้สึกเหมือนอยากฆ่าใครสักคน เธออยากจับนกมาเขย่าแล้วถามว่า ‘มีหัวใจบ้างไหม เคยรักใครจริงหรือเปล่า’ เดี๋ยวรักคนนั้น เดี๋ยวรักเธอ เห็นเธอเป็นอะไร วันนั้นทำเธอหัวเราะ วันนี้ทำเธอเสียใจ จะเอาอย่างไรกับเธอกันแน่
ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในสมองของเธอ เพียงฟ้าอยากเอาคืน ทำให้สาสมเหมือนที่นกทำกับเธอ นกมีใครต่อใครได้ แล้วนกจะได้รู้ว่าฟ้าก็ทำได้เช่นกัน



“ไปทานข้าวเย็นกันไหมฟ้า พี่เลี้ยงเอง” เจ้าของร้านถามประโยคเดิมพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้

เพียงฟ้ารู้ว่าเขาคงคิดว่าเธอจะปฏิเสธเขาเหมือนวันที่ผ่านมา แต่วันนี้เธอมีบางอย่างที่อยากจะทำ และเขาเท่านั้นที่จะช่วยเธอได้

“ไปสิคะพี่เอก ฟ้ายังไม่อยากกลับหออยู่พอดี” เขาเลิกคิ้ว แววตาบ่งบอกถึงความประหลาดใจ แต่ก็รีบไปเปิดประตูรถให้เธอนั่ง

พี่เอกพาเธอไปยังร้านอาหารริมแม่น้ำ เขาคงคิดว่าเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศโรแมนติก แต่สำหรับเธอแล้วมันชวนให้รู้สึกเศร้าสร้อยมากกว่า วันนี้เพียงฟ้าถามตัวเองหลายต่อหลายครั้งว่าคิดดีแล้วหรือที่ทำแบบนี้ แล้วเธอก็เหยียดยิ้ม เธอมั่นใจว่าในตอนนี้จะไม่มีอะไรที่มาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว ต่อให้เธอจะเสียอะไรมากไปกว่านี้เธอก็จะไม่มีน้ำตา...ไม่มี

“ยิ้มอะไรครับ” เขามองหน้าเธอ

“ทานข้าวเสร็จแล้วพี่เอกจะไปไหนต่อคะ” เธอถาม เพราะอีกไม่นานเขาก็จะรู้ถึงความหมายของมัน

“คงกลับบ้านแหละครับ” เขาตอบด้วยท่าทีสบายๆ

“ถ้าอย่างนั้นฟ้ากลับบ้านพี่เอกด้วยได้ไหมคะ” เธอกลั้นใจพูดออกไป เขามองหน้าเธอด้วยความตกใจ ก่อนแววตาจะเปลี่ยนเป็นสำรวจเธอแทน ไม่นานนักเขาก็พยักหน้าช้าๆ ตอบรับคำขอของเธอ



เขาเดินนำหน้าพาเพียงฟ้าเดินลัดเลาะผ่านห้องต่างๆ ภายในบ้านของเขา ความเงียบปกคลุมทั้งเขาและเธอ เพียงฟ้ารู้สึกอัดอั้นแต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากพูดอะไรในสถานการณ์แบบนี้

ในที่สุดพี่เอกก็พาเธอมาถึงห้องนอนของเขา เธอมองเห็นสิ่งต่างๆ ในห้องไม่ชัดนักเพราะเขาไม่ได้เปิดไฟแม้แต่ดวงเดียว อาจดีแล้ว ฉันไม่อยากให้เขาเห็นอะไรมากกว่าที่สมควรเห็น แล้วเขาก็หันหลังกลับมามองหน้าเธอ เอามือทั้งสองข้างจับแก้มแล้วมองเข้ามาในดวงตาของเพียงฟ้า ความร้อนจากนิ้วมือของเขาวนเวียนอยู่ที่แก้ม เธอไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่นิดเดียวเมื่อยามที่เขาสบตาของเธอ และเขาก็ค่อยๆ ก้มหน้าลงมาที่ริมฝีปากของเธอ

อาภรณ์ของเธอและเขากองอยู่บนพื้นไม้ที่ปลายเตียง ตอนนี้เขาและเธอต่างเปิดเผยเรือนกายอันเปล่าเปลือย จูบของเขาไม่ทำให้เธอรู้สึกวูบไหว แต่เธอก็จูบตอบเพื่อรักษาน้ำใจเขาที่อุตส่าห์มาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ

ริมฝีปากกลีบดอกไม้ของเขาแตะต้องไปที่ทุ่งดอกไม้ของเธอ แต่ไร้ซึ่งน้ำหวานละมุน เพียงฟ้าไม่แน่ใจว่าที่ไม่มีน้ำค้างกลางดงดอกทานตะวันนั้น เป็นเพราะเธอชอบผู้หญิง รักผู้หญิง และรู้สึกเฉยชาไร้อารมณ์ใดๆ กับเขาซึ่งเป็นผู้ชาย หรือเพราะจริงๆ แล้วเธอไม่ได้รู้สึกชอบเขาในแบบนั้นกันแน่

เมื่อต้นไม้แปลกที่เข้าไปอยู่ในทุ่งกว้าง เธอรู้สึกเจ็บปวดเกินทานทน น้ำหยดเล็กๆ ไหลออกจากปลายหางตาทั้งสองข้าง ดอกไม้ถูกฉีกทึ้ง กลีบขาดสะบั้นออกจากกัน น้ำยางสีแดงสดไหลเป็นสายลงสู่พื้นดิน

เจ้าของร้านเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะยิ้มละไมแล้วก้มลงจูบอย่างอ่อนโยนที่หน้าผากของเธอ เขาเคลื่อนไหวนุ่มนวลขึ้น ถึงอย่างนั้นความปวดร้าวที่เพียงฟ้าได้รับก็ดูจะไม่ลดน้อยลงไปแต่อย่างใด เธอได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างจบลงโดยเร็ว แต่ความคิดนั้นไม่เป็นผล...ทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปยาวนานในความรู้สึกของหล่อน

เพียงฟ้าหวนคิดถึงครั้งแรกที่ชิดชนกพาชมทุ่งดอกทิวลิปเหลือเกิน มันช่างอ่อนไหว อ่อนหวาน เธอยินดีรับทุกการเยี่ยมชม ยามที่นิ้วเรียวยาวแตะดอกไม้ต้นไหน มันก็ไหวเอนลู่รับการสัมผัส เมื่อตาของนกมองส่วนไหนของดอก มันก็ขึ้นสีระเรื่อ เขินอาย น้ำค้างไร้ที่มาเกาะอยู่ทุกหนทุกแห่งของใบไม้ ตาของเพียงฟ้าพร่ามัว เพราะความหวั่นไหว และวาบหวามที่เกิดขึ้น เมื่อเมฆครึ้มฟ้าคะนองพาฝนให้ไหลชโลมหมู่มวลดอกไม้ให้ชุ่มช่ำนั้น เธอคิดว่าได้เห็นดาวกลางวัน มันส่องแสงสว่างเป็นประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงอาทิตย์

ในที่สุดเจ้าของร้านก็หยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่าง จูบริมฝีปากของเธอ แล้วพลิกตัวลงนอน แขนแข็งแรงพาดผ่านเอวของเพียงฟ้า ไม่นานนักเสียงลมหายใจของเขาก็แผ่วเบาสม่ำเสมอ

เธอยกแขนของเขาออกด้วยความระมัดระวัง เหลือบมองหยาดเลือดสีแดงสดบนผ้าปูที่นอนสีขาว ในความมืดสลัวเพียงฟ้าไม่รู้สึกอะไรเลยกับสิ่งนั้น ราวกับรอยเปื้อนนั้นเป็นของคนอื่นไม่ใช่เธอ แต่ที่เธอรู้สึกคงเป็นความเกลียดความเจ็บปวดระหว่างความเคลื่อนไหวนั้น ถ้าเป็นผู้หญิงธรรมดาคนอื่นจะรู้สึกอย่างไรกับครั้งแรกนะ พวกเธอเหล่านั้นจะรู้สึกเหมือนกับฉันรึเปล่า เพียงฟ้าได้แต่มองเพดานห้อง รอคอยคำตอบที่ยังมาไม่ถึงก่อนเผลอหลับไปในที่สุด



แสงของดวงตะวันลอดผ่านผ้าม่านสีฟ้าอ่อน มันค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าไปตามที่ต่างๆ แต่ไม่นานนักก็มาหยุดอยู่ส่องแสงละมุนบนใบหน้าของเพียงฟ้า

เธอหยีตาหนีแสงอาทิตย์ พลางเอามือปัดป้องก่อนจะลุกออกจากเตียงด้วยความเคยชิน แต่แล้วความแปลบปลาบที่เกิดจากภายในกึ่งกลางของลำตัวก็ทำให้เพียงฟ้ากุมท้องลงไปนั่งบนเตียงในทันที

ไม่คิดว่าจะเจ็บขนาดนี้ ให้ตายสิ เธอนึก แสงสว่างของตอนเช้าทำให้เธอได้มีโอกาสสำรวจห้องก่อนที่เขาจะตื่น

ภายในดูเรียบง่ายกว่าที่คาดไว้มากนัก นอกจากเตียง ตู้เสื้อผ้า เครื่องเสียงและชั้นหนังสือเล็กๆ แล้วก็ไม่มีอะไรอีก

ความปวดเริ่มทุเลาลงบ้างแล้ว เพียงฟ้าลุกขึ้นไปดูห้องต่างๆ บ้านของเขาดูแปลกในสายตาของเธอ ห้องแต่ละห้องจะสามารถเชื่อมกับห้องอื่นๆ ได้อย่างน้อยก็สามห้อง เป็นบ้านที่เธอคิดว่าคงมีประตูเยอะที่สุดตั้งแต่เธอเคยเห็นมาก็เป็นได้ ดูน่าสับสนแล้วก็น่าสนใจไปในคราวเดียวกัน

พี่เอกดูออกง่ายมากกว่าบ้านหลังนี้ซะอีก...โดยเฉพาะเมื่อคืน เธอนึกพร้อมกับเหยียดยิ้มเยาะเย้ย ความรักที่ง่ายดายเหมือนเดินเข้าออกประตูมันไม่มีหรอก เดี๋ยวฟ้าจะทำให้พี่ได้รู้จัก...โลกที่แท้จริง! โลกที่มีแต่ความเจ็บปวด

เพียงฟ้าเปิดฝักบัว ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านอย่างช้าๆ เธอชอบเวลาที่ไม่ต้องคิดถึงเรื่องต่างๆ ให้เหนื่อยใจ ชอบเวลาที่เธอได้อยู่กับตัวเองแบบนี้

“ฟ้า...พี่เข้าไปอาบด้วยได้รึเปล่า” เสียงของเขาทำให้เพียงฟ้าชะงัก ความหงุดหงิดที่หาเหตุผลไม่ได้ก่อตัวขึ้น

“อย่าดีกว่าค่ะ ฟ้าอยากอาบคนเดียว” เธอพูดตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ครับ ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ” ฟ้าคงอายสินะที่ต้องอาบน้ำกับคนอื่น...ผู้ชายคนแรกที่ได้ครอบครองฟ้า เขาคิดด้วยอารมณ์เบิกบาน แต่เมื่อคืนเห็นขอมาที่ห้อง ไม่คิดว่ายังไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อนนะเนี่ย คงรู้ตัวว่ารักพี่แล้วสินะ ถึงได้ยอมพี่แบบนี้ ขานั่งยิ้มคนเดียวจนกระทั่งเพียงฟ้าเดินออกมาโดยสวมชุดเดียวกับเมื่อวาน

“อ้าว...ออกมาใส่ชุดด้านนอกก็ได้นะ พี่อยากเห็น” เขายิ้ม ตาส่งประกายแพรวพราว

“เอ่อ ไม่ดีกว่าค่ะ ฟ้าชินใส่ในห้องน้ำมากกว่า” เธอพูดไปอีกอย่าง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เธอยังไม่อยากให้ลูกไก่น้อยไร้เดียงสารู้

“งั้นเดี๋ยวรอแปบ พี่อาบน้ำเสร็จแล้วไปหาอะไรทานกัน” เขาทำท่าจะลุก

“ไม่เป็นไรค่ะ ฟ้ามีธุระต้องรีบไปทำ ขอกลับเองดีกว่า” เธอปรามเขา ไม่อยากให้ทำเกินเลย เกินกว่าที่เธอจะไม่สามารถระงับความรู้สึกที่จะแสดงอาการรังเกียจออกมาได้

ไดอารี่ 4 มิถุนายน
มีใครสักคนเคยบอกว่า ‘ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้’ คงจะจริง อย่างน้อยฉันก็ได้พิสูจน์มาแล้วเรื่องหนึ่ง ถ้าทุกอย่างเป็นตามที่คาดไว้ ฉันจะไม่มีวันเสียใจอย่างเด็ดขาด
ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวฉันเองเริ่มทำใจกับเรื่องนั้นได้แล้ว ถึงจะยังตัดไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่ฟูมฟายให้คนที่หักหลังกัน
ฝนตกปรอยปรายเหมือนเดิม คิดถึงผู้หญิงลึกลับตาเศร้าๆ คนนั้น เธอเหมือนกับฝนเลย โศกเศร้าแต่สวยงาม ฉันกำลังชอบเธอใช่ไหม หรือฉันแค่สนใจ สักวันฉันคงเข้าใจอะไรได้มากกว่านี้



เพียงฟ้านั่งทานอาหารในร้านเวียดนามแถวกาดหลวง* บรรยากาศสบายๆ มีพนักงานยืนอยู่ไกลๆ รอให้เธอเรียก แต่เมื่อประตูสีแดงหน้าร้านเปิดออก เพียงฟ้าก็ต้องเบิกตากว้าง เธอคนนั้น...ผู้หญิงลึกลับ สาวสวยมองซ้ายมองขวาอย่างชั่งใจ แต่เมื่อหันมาเจอเพียงฟ้า เธอก็ยิ้มให้เล็กน้อย สายตาสีดำประหลาดคู่นั้น ทำให้เพียงฟ้ารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาจุกที่ลำคอ ผู้หญิงคนนั้นต้องการสื่ออะไรกันแน่นะ แววตาเธอฉันมองไม่ออกเลยจริงๆ

สายตาของเธอลอบมองหญิงสาวคนนั้นตลอดเวลา เพียงฟ้ารู้สึกเหมือนสาวสวยคนนั้นน่าสนใจกว่าทุกสิ่งที่อยู่ที่นี่ เธอรู้ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่มอง แต่ทุกคนในห้องก็มีจุดสนใจเป็นคนๆ เดียวกัน หญิงสาวลึกลับคนนั้น

เธอจ่ายเงินก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะทานข้าวเสร็จ เพียงฟ้าหมดข้ออ้างที่จะยื้อเวลาไปมากกว่านั้น เมื่ออาหารบนโต๊ะเธอหมดไปตั้งแต่สาวสวยคนนั้นได้อาหารแล้ว แต่เธอก็ยังนั่งมอง ยังคงถ่วงเวลาให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้

ฉันหวังว่าฉันจะได้เจอเธออีกนะ ผู้หญิงประหลาด เพียงฟ้าอมยิ้มพร้อมกับภาวนาในใจ ก่อนจะเดินไปยังรถสีดำที่จอดไว้หน้าร้าน



เจ้าของร้านเดินฮัมเพลงด้วยอารมณ์แจ่มใสเข้ามาในร้าน เพียงฟ้าหันมองแค่เสี้ยวนาทีก่อนหันกลับไปสนใจหนังสือที่อ่านค้างอยู่ในมือ

เขาชะงักเล็กน้อยกับการกระทำนั้น คงไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานปนกันสินะ เขาคิด

วันนี้เธอรู้สึกอึดอัดเป็นที่สุด พี่เอกแอบส่งสายตาเป็นประกายให้เพียงฟ้าตลอดทั้งวัน ทั้งๆ ที่เธอปรามเขาด้วยการกระทำนั้นเมื่อเช้าแล้วแท้ๆ แค่วันแรกที่เจอกันเธอก็เริ่มรู้สึกเบื่อเขาเสียเหลือเกิน



‘เอี๊ยดดด โครม!’ เพียงฟ้าล้มกลิ้งไปกับพื้นถนนที่เปียกชื้นจากหยาดน้ำบนฟากฟ้า รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจเอนข้างนิ่ง เศษวัสดุหลายอย่างแตกละเอียดรอบๆ ตัวเธอ ปวดหัวจัง เลือดที่หน้าผากและข้อศอกเริ่มไหลซึมออกมาจากผิวหนังที่บอบบางนั้น

ผู้ชายผิวขาวสูงคนหนึ่งลงมาจากรถ เขาจัดการดึงกุญแจรถของเธอออกแล้วยัดใส่กระเป๋า ต่อจากนั้นก็มาอุ้มเพียงฟ้าจนตัวลอย เปิดประตูรถของเขาแล้ววางเพียงฟ้าที่ยังมึนงงไว้เบาะหลังก่อนขับไปที่โรงพยาบาล

เธอรู้สึกว่าตัวเองคล้ายมัมมี่ในหนังบู๊เรื่องหนึ่งที่เคยดู เพราะทั้งศีรษะ แขน ขา ถูกพันด้วยผ้าพันแผลเต็มไปหมด แต่เพียงฟ้าคิดว่าอย่างน้อยเธอก็ยังโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมากกว่านั้น

เขาคนนั้นเดินมาหาเธอ ดูเคร่งขรึมไร้รอยยิ้ม ก่อนจะจูงมือเธอลงจากเตียงแล้วพาไปยังรถ

“บ้านคุณอยู่ไหนครับ” เขาเอ่ยปากออกมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รถชน

“ไม่ไกลจากจุดที่คุณชน” เธอตอบน้ำเสียงเรียบ เขามองเธอผ่านกระจกหลัง แล้วรอยยิ้มก็ผุดพราย

“คุณรออยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวผมจะไปเอารถคุณมาให้” เขาพูดจบเดินอย่างรวดเร็วไปยังจุดหมาย ไม่รอคำตอบ ทิ้งเธอให้ยืนพิงประตูรั้วหน้าหอพักลำพัง

เธอฉงน เขาแปลก พูดน้อย มีน้ำใจ รับผิดชอบ แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างผิดแผกไป ตรงไหนกันนะ เธอนึกไม่ออกถึงความแตกต่างของเขากับผู้ชายคนอื่น

รถมอเตอร์ไซค์จอดนิ่งโดยมีเขานั่งที่เบาะแล้วมองหน้าเธอ เพียงฟ้ารู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่นานมากเหลือเกิน เขาจะมองเธอให้ได้อะไรขึ้นมานะ ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจยอมแพ้

“คุณมองหน้าฉันทำไม มันสกปรกมากขนาดนั้นเลยเหรอ” เพียงฟ้าพยายามคิดในแง่ดีที่สุด

“คุณชื่ออะไรครับ” เขาไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับถามเธอ

เพียงฟ้าประหลาดใจกับท่าทีของเขา เขาคงมั่นใจในตัวเองมากถึงไม่ตอบคำถามของเธอ แต่กลับย้อนถามเธอแทน แถมยังมองหน้าเธอโดยไม่มีท่าทีเกรงใจสักนิด เธอควรจะบอกชื่อจริงๆ ของเธอให้กับเขารึเปล่านะ

“ฟ้า เพียงฟ้า” เธอตัดสินใจยอมบอกเขา เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังมีความรับผิดชอบพาเธอไปโรงพยาบาล แม้ว่าเขาจะดูแปลกและไม่น่าไว้ใจไปบ้างในสายตาของเธอ

เขายิ้มอีกแล้ว แต่คราวนี้เป็นยิ้มที่พึงพอใจ เหมือนเธอได้บอกอะไรที่น่าสนใจกับเขา แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วเพียงฟ้าบอกแค่ชื่อของเธอเท่านั้นเอง

“ผมชื่อเอ็ม แล้วเบอร์โทรของคุณล่ะ” เขาถามต่อ

“คุณจะเอาเบอร์ไปทำอะไร แทงหวยหรือเปล่า” เธอถามเขาตอบแอบประชดเล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้ในความมั่นใจของเขา

“ผมอยากได้เบอร์ของคุณเพื่อที่ผมจะได้มารับไปส่งที่โรงพยาบาลเวลาไปเปลี่ยนผ้าพันแผล แล้วก็ไปส่งคุณที่ทำงาน คุณเจ็บขนาดนี้อย่าเพิ่งฝืนขับรถไปเองดีกว่า” เขายิ้มพร้อมกับพูดเหตุผลยืดยาว

จะจีบเหรอ เพียงฟ้าชักสงสัย จะว่าเป็นข้ออ้างของเขาที่ขอเบอร์เธอมันก็คงได้ผล เพราะเหตุผลของเขาไม่มีตรงไหนเลยที่เธอจะโต้ตอบได้ว่าไม่ใช่ความจริง เธอกำลังจนปัญญาในการปฏิเสธ ก็ได้ฉันยอมแพ้คุณ แพ้ความมั่นใจและความฉลาดของคุณเนี่ยแหละ

เธอบอกเบอร์ให้เขาบันทึกลงไปในโทรศัพท์ เขากดหมายเลขไปยิ้มไป เพียงฟ้าตั้งมั่นในใจว่าสักวันเธอจะต้องชนะเขาไม่ว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ได้ แต่ตอนนี้เจ็บอย่างนี้คงต้องยอมไปก่อน

“ฉันทำงานเจ็ดโมงเช้ามารับก่อนครึ่งชั่วโมงก็ดี” เธอรีบบอกก่อนที่เขาจะติดเครื่องยนต์แล้วขับรถออกไป

ไดอารี่ วันที่ฉันเจ็บ
ซวย เปียกฝนไม่พอยังมาโดนรถชนอีก ก็ยังดีที่ชนกับคนที่มีความรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นได้นอนเจ็บอยู่ตรงนั้นอีกนานแน่
คนที่ชนก็หน้าตาดีอยู่หรอกนะ แต่มั่นใจเกินไป แถมชอบยิ้มมีเล่ห์นัยด้วย จะไว้ใจได้แค่ไหนนะ



พี่เอกชักวุ่นวายน่ารำคาญเกินไปแล้ว ขนาดแค่วันนี้วันเดียวยังไม่อยากทนเลย จะรอเกมจบไหวรึเปล่า ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง

“ฮัลโหล” เสียงทุ้มๆ กรอกมาตามสาย

“พี่เอกนี่ฟ้าเอง” เธอบอก

“อ้าวฟ้า แหมนึกว่าใคร คิดถึงพี่เหรอครับถึงโทรมา” เขาทำน้ำเสียงสนุก

“เปล่าค่ะ ฟ้าแค่อยากคุยเรื่องบางอย่างกับพี่ให้เรียบร้อย” เธอไม่รับมุขของเขา

“อะไรครับ” เขาขมวดคิ้ว พอนึกได้รางๆ ว่าเธอจะพูดว่าอย่างไร

“ฟ้าอยากให้พี่ไม่เอาเรื่องส่วนตัวไปปนกับเรื่องงาน ฟ้าไม่อยากมีปัญหากับใคร แล้วก็ยังไม่อยากโดนใครนินทาด้วย” เพียงฟ้าบอกจุดประสงค์ของเธอชัดเจน หวังว่าเขาจะเข้าใจ และไม่ระแวงถึงเหตุผลอื่นที่ซ่อนเร้นอยู่ในคำพูดเหล่านั้น

“อืม...พี่รู้ แต่พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายนี่ เวลาพี่มองฟ้าพี่ก็พยายามทำตอนที่ไม่มีใครอยู่ ฟ้าไม่เห็นใจพี่บ้างเหรอ” เขาพูดตามที่คิดและตัดพ้อที่เธอโหดร้าย

“ถือว่าฟ้าขอเถอะค่ะ พี่อยากได้อะไรฟ้าก็ให้ไปแล้ว แค่ยกเว้นไม่ทำในที่ทำงาน คงไม่มากไปหรอกค่ะ” เพียงฟ้ายกเรื่องในคืนนั้นมาหวังทำให้เขาใจอ่อนเพราะความยินดีของเขา เธอเดาว่ายังไม่เลือนหายไปอย่างแน่นอน

“ก็ได้ครับ แต่ต้องไปทานข้าวแล้วก็ไปบ้านพี่บ่อยๆ นะ” เขาอมยิ้ม คืนในวันนั้นยังติดตรึงในใจ เขาอยากครอบครองเธอไว้คนเดียว ไม่แบ่งเธอให้ใคร ไม่สมควรมีใครได้รู้จักฟ้าไปมากกว่าพี่อีกแล้ว เขาคิดอย่างอารมณ์ดี

“ค่ะ” เธอรับปากเขาไปอย่างนั้น แต่ในใจยังไม่ลืมสิ่งที่ตัวเองตั้งมั่นไว้ หลบได้เป็นหลบ

เธอไม่ยอมให้เขาบีบคั้นเธอเหมือนมือที่กำผลไม้หรอก เธอต่างหากที่จะมัดเขา หนาแน่น ต่อให้ลากไปทางไหน เขาก็จะยอมไปโดยไม่มีข้อแม้ เพียงฟ้ามองขึ้นไปบนผืนฟ้าสีครามก่อนจะเหยียดยิ้มที่ไร้ความหมาย

Subject : มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
อย่างแรกฟ้าอยากจะบอกนกว่า นกไม่จำเป็นต้องเลิกกับใคร เพราะฟ้าไม่มีวันกลับไปคบกับนกอีกเด็ดขาด ขนาดแฟนของนกๆ ยังเลิกได้อย่างไม่ไยดีเลย แล้วถ้าฟ้ากลับไปคบกับนกแล้วนกไปเจอผู้หญิงคนใหม่ ฟ้าก็จะเหมือนผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม ฟ้าไม่โง่พอจะทำให้ตัวเองไปเจ็บอีกครั้งหรอก
อย่างที่สองฟ้าจะบอกว่าฟ้าโกรธนกมาก แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เพราะฟ้าทำอะไรบางอย่างอยู่ นกอยากรู้ไหมล่ะว่าฟ้าทำอะไร ฟ้าจะบอกให้ก็ได้ ฟ้าไปนอนกับผู้ชายมา เขาหลงฟ้าน่าดูเลยแหละ ไม่ว่าฟ้าจะพูดอะไรเขาก็ยอมฟ้าจนหมด แล้วรู้ไหมตอนที่มีอะไรกัน เขาทำกันยังไง เอ...หรือไม่ต้องบอกนกก็เดาได้ เพราะนกคงผ่านเรื่องนี้มากมากสินะ ฟ้าเข้าใจ จริงๆ แล้วไม่มีอะไรที่ฟ้ากับนกต้องคุยกันไปมากกว่านี้หรอก แต่เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มีมา ฟ้าจะเขียนอีเมลล์มาเล่าเรื่องของเขาคนนั้นให้นกได้อ่านอยู่เสมอ ไม่ต้องห่วง
ณ ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้
ฟ้า

เพียงฟ้าเขียนจดหมายจบด้วยความพึงพอใจ เธอนึกภาพยามที่ชิดชนกมาอ่านจดหมายนี้ได้อย่างชัดเจน คงโกรธน่าดู แต่นั่นแหละสาสมกับสิ่งที่นกทำแล้ว นกควรจะได้รู้ว่าฟ้าเจ็บยังไง ฟ้าปวดแค่ไหน
-------------------------------------------------------------------------------------
* กาดหลวงหรืออีกชื่อหนึ่งคือตลาดวโรรสอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่




email+facebook : N.Rattanawadikant@gmail.com
fanpage : www.facebook.com/อาพัทธ์-อันธการ/107884562739822

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.