ดวงตากลมโตของคนที่กำลังหลับสนิทเปิดออกช้าๆพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเนื่องจากผ่านการดื่มหนักมาเมื่อคืนแต่แล้วคนที่เพิ่งตื่นก็ถึงกับหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อมือข้างหนึ่งของตัวเองสัมผัสเข้ากับบางสิ่งที่เด็กอมมือที่ไหนก็รู้ว่าคือมนุษย์เฉกเช่นเดียวกันกับเธอ
ก่อนที่สติจะหลุดลอยซ้ำสองสิ่งมีชีวิตที่นอนหลับตาโดยไม่ใส่อะไรเลยก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาสบตากับคนที่มองอยู่
“ตื่นแล้วเหรอคุณว่าแต่แอร์เย็นไปหน่อยเนอะ”
ประโยคทักทายพร้อมกับตาที่ทำราวกับจะปิดลงอีกครั้งยิ่งทำให้คนที่นอนอยู่รู้สึกของขึ้นเพิ่มมากขึ้นและไม่ต้องคิดอะไรมากมายอีกแล้วเมื่อศิศิราจัดการถีบตัวคนกำลังจะเคลิ้มหลับให้ลงไปนอนต่อที่พื้นและเพียงไม่นานเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของคนที่ถูกกระทำก็ดังขึ้น
“เจ็บนะคุณ!”
“ก็แน่ล่ะสิ ไม่เจ็บใครจะไปทำว่าแต่ช่วยไปโชว์ของที่อื่นได้มั้ย ทุเรศลูกตา”
ไอฟ้าก้มดูตัวเองก่อนจะรีบดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้แล้วหันไปมองตาขวางใส่คนที่ว่าให้ตัวเอง
“แหม๋ทำหยั่งกับตัวเองเรียบร้อยอย่างนั้นแหละแล้วอีกอย่างที่เป็นแบบนี้ก็เพราะใครหล่ะ”
“นี่เธอหยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!”
“เรื่องจริงยอมรับไม่ได้หรือไงที่ทุกอย่างออกมาเป็นแบบนี้ก็เพราะ…”
ยังไม่ทันที่ไอฟ้าจะพูดจบใบหน้าของเธอก็ถูกคนที่นั่งอยู่บนเตียงฟาดด้วยหมอนอย่างแรงก่อนจะคนลงมือจะกระโจนตัวลงมาโดยใช้หมอนในมือปิดหน้าเธอเอาไว้จนแทบหายใจไม่ออก
“ถ้ากล้าพูดเรื่องนี้อีกฉันเอาเธอตายแน่เข้าใจมั้ย”
ศิศิราค่อยๆยกหมอนออกห่างจากใบหน้าของคนที่นอนอยู่พร้อมกับยิ้มเย็นๆออกมาอย่างพอใจเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ารับในสิ่งที่เธอสั่ง
“งั้นก็ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว”
ไอฟ้ามองผู้หญิงโหดที่เดินไปนั่งที่เตียงด้วยหัวใจที่เต้นแรงเพราะยังไม่หายตกใจแต่เธอจะทำตามที่อีกฝ่ายขู่ในเรื่องสุดท้ายได้อย่างไรในเมื่อ,..
“ฉันคงออกไปตามที่คุณสั่งไม่ได้”
“นี่เธอจะลองดีกับฉันงั้นเหรอ”
คนถูกตวาดรีบถอยหลังติดกำแพงทันทีก่อนจะชี้ไปที่ประตูห้องด้วยมือที่สั่นเทา
“นะ นะนี่มันห้องฉันอะ”
คนพูดหายใจหายคอแทบไม่ทั่วท้องก่อนจะรีบเบือนสายตาหลบไปทางอื่นเมื่อถูกคนบนเตียงจ้องแบบจะกินเลือดกินเนื้อ
“แล้วไง! ฉันผิดเหรอ”
“ห๊า”
“ห๊าอะไร หันหน้าไปสิฉันจะแต่งตัว”
ไอฟ้าหันหน้าออกไปยังระเบียงหน้าต่างอยู่นานก่อนจะได้ยินเสียงประตูที่ถูกปิดเสียงดังจากนั้นเธอจึงหันไปมองที่ต้นเสียงก็พบห้องที่ว่างเปล่าปราศจากร่างของใครอีกคน
หญิงสาวเจ้าของห้องวิ่งไปที่ประตูทันทีก่อนจะจัดการล็อคลูกบิดอย่างรวดเร็วเพราะเกรงว่าคนที่จากไปอาจจะกลับมาได้ทุกเมื่อ
“ให้มันได้อย่างนี้สิ”
คนพูดทรุดตัวนั่งกับพื้นช้าๆไม่คิดเลยว่าการทำดีจะทำให้เธอต้องพบกับชะตากรรมที่แสนโหดร้ายขนาดนี้
ไอฟ้าก้มดูสภาพเปล่าเปลืองของตัวเองก่อนจะนึกย้อนกลับไปเมื่อคืนที่ได้เจอกับคนเมาที่มายืนไขกุญแจหน้าประตูห้องของเธอ
“นี่คุณทำอะไร”
หญิงสาวแปลกหน้าหันมามองทางต้นเสียงครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปให้ความสนใจกับประตูต่อโดยไม่พูดอะไร
“ฉันถามว่าทำอะไร”
คนถามไม่พูดเปล่าแต่เดินเข้าไปคว้ามือคนตรงหน้าเอาไว้
“ปล่อย”
“ไม่ ท่าทางคุณจะเมามากนะจนอาจคิดว่านี้เป็นห้องของตัวเองแต่ดูนี่”
คนพูดชี้ไปที่เลขห้องก่อนจะต้องรีบคว้าตัวหญิงสาวแปลกหน้าเอาไว้เพราะตอนนี้เจ้าหล่อนได้หมดสติคอพับเป็นที่เรียบร้อย
ไอฟ้ามองคนที่ตัวเองประคองเอาไว้ในอ้อมกอดอย่างหนักใจจากนั้นไม่นานเธอก็ต้องจำใจพาคนแปลกหน้าเข้าห้องอย่างไม่มีทางเลือกเพราะหากจะทิ้งไว้หน้าห้องก็คงจะอันตรายและใจร้ายเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มแต่ดันมาตกม้าตายขี้เมาซะได้
“นี่คุณ!”
เป็นคำพูดสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากของเจ้าของห้องเมื่อทั่วทั้งห้องรวมไปถึงเสื้อผ้าของเธอและคนแปลกหน้าได้เต็มไปด้วยอ้วก
และนี่คือค่ำคืนที่เธอได้เจอกับผู้หญิงแปลกหน้าที่เข้ามาปั่นป่วนคืนที่แสนสุขของเธอจนกระเจิงไม่เหลือชิ้นดีแต่ดีนะที่เธอตัดสิ้นใจเอาผ้าทั้งหมดไปปั่นแห้งไม่อย่างนั้นคิดสภาพเช้านี้ไม่ออกจริงๆหากยัยอ้วกนั่นไม่มีเสื้อผ้าใส่ห้องของเธอคงต้องโดนเผาเป็นแน่
ศิศิราเดินกลับเข้าห้องด้วยความโมโหก่อนจะทิ้งตัวลงนอนที่เตียงอย่างหมดแรงไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะทำเรื่องบ้าบอคอแตกกับผู้หญิงด้วยกันได้ หญิงสาวหลับตาลงช้าๆก่อนจะนึกได้ถึงสาเหตุของเรื่องทั้งหมดนั่นก็คือคำบอกเล่าจากมารดาว่าตัวเธอกำลังจะได้พ่อใหม่แถมด้วยน้องสาวที่โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงในเร็ววันนี้
หญิงสาวตัวเล็กกำมือแน่นพร้อมกับน้ำใสๆที่ค่อยๆไหลออกมาทีละน้อย แม่ของเธอกำลังจะมีความสุขแต่ทำไมหัวใจของเธอกลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้นะอยากจะรู้นักว่าใครหน้าไหนจะดีและอบอุ่นได้เท่าพ่อของเธอ
บนโลกใบนี้ยังจะมีอยู่งั้นเหรอเธอไม่อยากจะเชื่อ!
ไอฟ้าเดินเข้าบ้านเงียบๆก่อนจะต้องตกใจเมื่อพบเข้ากับผู้หญิงวัยกลางคนที่ดูไม่คุ้นหน้าเลยสักนิดแต่เธอก็พอจะเดาออกว่าเป็นใคร
“มาแล้วเหรอยัยอัยย์”
น้ำเสียงคุ้นเคยทำให้ไอฟ้าต้องละสายตาจากคนตรงหน้าแล้วหันไปยังต้นเสียงแทน
“พ่อสั่งอัยย์ก็ต้องมาสิคะ”
“งั้นถ้าพ่อไม่สั่งแกก็คงจะไม่คิดเข้าบ้านเลยสินะ”
คนถูกตำหนิหน้าเสียเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปกอดชายวัยกลางคนด้วยท่าทีอ้อนๆ
“ไม่ต้องเลยลูกคนนี้”
“พ่อก็รู้ว่าอัยย์งานยุ่งจะไปมาก็ลำบาก”
“ข้ออ้างว่าแต่ที่พ่อขอเราจะว่ายังไง”
จู่คนเป็นพ่อก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังจนคนถูกถามถึงกับทำอะไรไม่ถูกแต่เพียงไม่นานไอฟ้าก็สามารถปรับสีหน้าให้เป็นปกติพร้อมกับรอยการยิ้มออกมาน้อยๆ
“ถ้าอัยย์ไม่ตกลงก็คงไม่มาที่นี่หรอกค่ะ”
“จริงนะ!“
“อัยย์จะหลอกพ่อให้ได้อะไรล่ะคะ ตอนนี้ออกจากงานแล้วด้วยรับผิดชอบเลย”
คำพูดบวกกับสีหน้าอ้อนๆทำให้อนนต์ต้องดึงตัวบุตรสาวเข้ามากอดก่อนจะค่อยๆคลายอ้อมกอดอย่างอายๆเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีใครอีกคนยืนมองอยู่
“เอ่อ…พ่อมีคนอยากแนะนำให้รู้จัก”
อนนต์เอ่ยขึ้นพร้อมกับการเดินเข้ามาจับมือบุคคลที่สามเอาไว้แล้วจูงมือให้เดินตามมา
“นี่คุณเรณูเค้าจะเข้ามาดูแลเราสองคนในบ้าน”
คนที่ถูกแนะนำตัวเผยรอยยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวเองอีกครั้ง
“ฉันชื่อเรณูหนูจะสะดวกเรียกฉันว่าเอ่อ…เอ่อป้าก็ได้”
ไอฟ้ามองหน้าหญิงสาววัยกลางคนที่ดูสวยและอบอุ่นทั้งทางสีหน้าและแววตาเห็นแบบนี้ก็ทำให้เธอหายสงสัยได้แล้วว่าทำไมพ่อของเธอถึงได้รักและตัดสินใจเลือกคนๆนี้
“อัยย์ไม่อยากเรียกป้าค่ะ”
“ยัยอัยย์”
อนนต์ตกใจอยู่ไม่น้อยที่ได้ยินบุตรสาวเอ่ยถ้อยคำแบบนี้ออกมาก่อนจะบีบมือคนข้างๆเพื่อส่งกำลังใจไปให้
“ทำไมล่ะคะต้องเรียกแค่ป้าเท่านั้นเหรอ”
“ไม่หรอกค่ะเอาที่หนูอัยย์สะดวกก็ได้”
ใบหน้าจ๋อยๆของคนพูดทำให้ไอฟ้ารู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ดันเผลอแกล้งคนตรงหน้าจนทำให้ได้เจ็บช้ำ หญิงสาวเอื้อมมือไปจับมือสมาชิกใหม่เอาไว้ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
“งั้นอัยย์จะขอเรียกว่าคุณแม่ได้มั้ยคะ”
อนนต์และเรณูหันมามองหน้ากันอย่างงงๆก่อนจะเป็นอนนต์ที่ยกมือขึ้นไปเขกที่หัวของลูกสาวขี้เล่นเบาๆแต่เจ้าตัวดันร้องออกมาเสียงดังจากนั้นก็หันไปฟ้องแม่ใหม่อย่างเอาเรื่อง
“ทำไมทำแบบนี้ล่ะคะ ดูสิเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
เรณูเอ่ยดุคนข้างๆก่อนจะหันไปดูลูกสาวคนใหม่อย่างเป็นห่วง
“พ่อใจร้าย”
“ยัยอัยย์”
“ก็จริงๆนี่นาดูสิคะใครบอกให้เขกหัวกันเดี๋ยวฉี่รดที่นอนจะทำยังไง”
“โตจนป่านี้แล้วจะกลัวอะไรกับเรื่องแบบนั้น”
“คุณก็จะดุลูกทำไมคะ ยังไงแกก็ยังเด็กอยู่แล้วอีกอย่างต่อไปนี้ห้ามเขกหัวหนูอัยย์อีกนะคะถ้าทำอีกเจอดีแน่”
พูดจบสองแม่ลูกก็เดินขึ้นบ้านทันทีแต่ก่อนที่จะหายลับขึ้นไปข้างบนไอฟ้าก็ยังไม่ลืมที่จะหันมายิ้มเยาะคนเป็นพ่อให้ต้องเจ็บใจเล่นเป็นการส่งท้ายจากนั้นก็หันไปอ้อนแม่ใหม่ต่อจนทำให้อนนต์ต้องวิ่งตามไปด้วยความหมั่นไส้บ่นอิจฉา
หญิงสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่ไม่ไกลกำมือไว้แน่นก่อนจะหันหลังเดินออกมาเงียบๆ นี่น่ะหรือครอบครัวใหม่ที่เธอต้องเข้ามาใช้ชีวิตร่วมด้วยเพราะคนเป็นแม่ยื่นคำขาดให้ย้ายเข้ามาโดยไม่มีข้อแม้แล้วภาพที่เห็นคืออะไรกันดูยังไงเธอก็ไม่เห็นจำเป็นสักนิด…ไม่มีเธอก็ไม่เห็นจะขาดอะไรเลย
“คุณคะ คุณคะ”
เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ศิศิราต้องหันไปมองก่อนจะพบว่าเป็นคนที่เปิดประตูให้เธอเข้ามา
“มีอะไร”
“ไม่เข้าไปรอข้างในเหรอคะ”
“เรื่องของฉัน”
แม่บ้านผู้โชคร้ายถึงกับอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะกลืนน้ำเหนียวๆลงคออย่างอยากลำบากเมื่อหญิงสาวหน้ากลัวหันมาจ้องหน้าเธอนิ่ง
“ไปตามคุณเรณูออกมาพบฉัน”
“แล้วจะให้บอกว่าใครมาพบดีค่ะ”
คนถามถึงกับเข่าอ่อนไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดหูแม่คุณถึงได้เปิดตากว้างเหมือนจะแผดเผาสิ่งมีชีวิตที่กีดขวางให้สิ้นซากแต่ครั้นจะวิ่งหนีขาเจ้ากรรมก็ดันก้าวไม่ออก
“บอกว่าศิศิรา”
“แล้ว…”
“จะถามอะไรเยอะแยะเร็วๆ”
สิ้นเสียงตะคอกแม่บ้านผู้โชคร้ายก็รีบลากสังขารเข้าไปตามนายใหม่ด้วยหัวใจที่เต้นระทึก ไม่รู้ว่าผู้หญิงน่ากลัวคนนี้เป็นใครแต่ที่แน่ๆขออย่าให้เจ้าหล่อนเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้เป็นพอ
เสียงเคาะประตูทำให้คนที่กำลังจะพักผ่อนต้องลุกมาเปิดอย่างสงสัยก่อนจะได้รับการรายงานเหตุการณ์ทุกอย่างอย่างละเอียดจนเรณูถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ
จากคำบอกเล่าและหน้าตาซีดเซียวของแม่บ้านก็พอจะรู้แล้วว่าลูกสาวตัวดีของเธอคงได้ก่อเรื่องเอาไวอีกยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นกังวลหากคนในครอบครัวของเธอและอนนต์ต้องเผชิญหน้ากันจริงๆ…