web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 144
Total: 144

ผู้เขียน หัวข้อ: ดอกคาร์เนชั่นต้องห้าม (ฉบับปรับปรุง) บทที่ 2  (อ่าน 1496 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อาพัทธ์ อันธการ

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 74
บทที่ 2

"เดี๋ยวพี่พาไปซื้อเสื้อผ้านะ" หล่อนบอกโดยไม่ได้หันไปมอง

"ไม่ต้องหรอกค่ะพี่อีฟ เปลืองเงินเปล่าๆ" นันทวรรณปฎิเสธ

"เอาน่า หนึ่งมีเสื้อผ้านิดเดียวเอง ซื้อของให้น้องแค่นี้ไม่เปลืองหรอก" หญิงสาวพูดความจริง แม่ของเธอเองก็ทิ้งเงินประกันไว้มากเหมือนกัน สาวมั่นรู้ดีว่าควรใช้แค่ไหน

"แต่ว่า" อีกฝ่ายยังคงดื้อไม่ยอมง่ายๆ คิ้วเรียวบางขมวดอย่างไม่รู้จะพูดกับเธอยังไง อรสายิ้มเล็กน้อย

"ตามใจพี่เถอะค่ะ" อีฟบอกนิ่งๆ ไม่ยอมเช่นเดียวกัน

"ค่ะ" เด็กน้อยจำต้องรับปากอย่างช่วยไม่ได้



สาวสวยจูงมือบางเล็กเข้าออกหลายร้าน ส่วนมากจะลองจนพอใจถึงจะเลือกซื้อชุดเท่าที่เห็นจำเป็น น้องสาวเธอน่ารักมาก และรูปร่างก็ค่อนข้างผอมบางจึงไม่มีปัญหาในการเลือกไซต์สักเท่าไหร่ แต่หล่อนก็พยายามเลือกที่ไม่โป๊หรือเชยเกินไป

"พี่อีฟ หนึ่งไม่ไหวแล้วค่ะ" สาวน้อยโอดครวญขณะเดินออกมาจากร้านที่สี่ ตาวาวเหมือนลูกกวางน้อยนั้นช่างน่าเห็นใจ

"งั้น...อีกร้านหนึ่งละกันค่ะ ร้านนู้นเสื้อผ้าน่ารักดี น่าจะเหมาะกับหนึ่งนะ" คนตัวสูงยิ้มปลอบใจ เธอเพิ่งซื้อไป 6-7 ชุดเท่านั้นเอง อยากจะซื้ออีกสักหน่อย



"พี่อีฟ ช่วยหนึ่งติดกระดุมหน่อยได้ไหมคะ" ลูกแมวแง้มประตูห้องลองเสื้อแล้วยื่นหน้าออกมาบอกหล่อน

"ได้สิ" คนหน้าคมเปิดประตูเพียงแค่พอแทรกตัวเข้าไปเท่านั้น กลัวคนอื่นจะเห็นตอนที่น้องสาวยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย เพราะห้องลองเสื้อมีคนมาใช้บริการมากพอสมควร เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดช่วงต้นเดือนที่คนยังมีเงินมาจับจ่ายใช้สอย

"กระดุมตรงไหนคะ" หล่อนถามเพราะไม่เห็นกระดุมสักเม็ดบนเสื้อของอีกฝ่าย

"เอ่อ...กระดุมกางเกงค่ะ" คนตัวเล็กพูดอย่างขัดเขิน

เธอก้มลงไปพร้อมกับเลิกชายเสื้อขึ้น ทำให้เห็นกางเกงยีนสีน้ำเงินรูดซิบขึ้นมาจนสุด แต่กระดุมสีสนิมไม่สามารถติดกันได้ ขณะเอื้อมมือไปที่ขอบกางเกงนั้น หัวใจของเธอก็เต้นรัวแรง เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาที่ขมับทั้งสองข้าง

หญิงสาวพยายามดึงขอบกางเกงให้แน่นขึ้นเนื่องจากไม่สามารถติดได้ เธอคิดบางอย่างขึ้นมาได้วูบหนึ่ง จึงเดินอ้อมไปข้างหลังน้องสาว แล้วอ้อมแขนผ่านลำตัวบางไปที่กางเกง

"พี่อีฟ" เสียงใสเอ่ยลอยๆ เบาๆ

"คะ" เธอขานตอบ พยายามตั้งสมาธิให้อยู่แค่กระดุมเม็ดนั้น แต่กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากตัวของอีกฝ่ายก็เบี่ยงเบนความตั้งใจ หล่อนชอบกลิ่นนี้ มันไม่เข้มข้นจนฉุนเหมือนที่สาวบางคนชอบทำ ตัวเธอเองก็มีกลิ่นน้ำหอมที่ชอบ โดยส่วนมากเป็นกลิ่นดอกไม้

"ได้แล้วค่ะ" อรสาพูดออกมาในที่สุดหลังจากพยายามเกือบสามนาที

สาวผมยาวมองดูคนตรงหน้า กางเกงยีนเข้ารูปอวดสัดส่วนอยู่สักหน่อย แต่ดูสวยมากกว่าโป๊ เพียงแต่มันคับมากเกินไป แต่โดยรวมแล้วทำให้นันทวรรณดูมีส่วนโค้งส่วนเว้ามากขึ้น หล่อนคิดว่าจะซื้อชุดนี้ และเพิ่มขนาดไซต์กางเกงสักหน่อย



คนตัวสูงต้องขนของถึงสองรอบกว่าจะนำของใช้และเสื้อผ้าที่ซื้อเข้ามาเก็บในห้องนอนคนตัวเล็กหมด แต่ยังไงเธอก็ว่าน้อยมากอยู่ดี หล่อนจำตอนที่ไปช่วยเพื่อนขนของย้ายออกจากที่พักเก่าไปที่พักใหม่ได้ดี ข้าวของเครื่องใช้เยอะแยะมากมายจนเต็มท้ายรถกระบะรับจ้างเลยทีเดียว เพื่อนข้างห้องเองก็พอๆ กัน

"หนึ่งอยู่ห้องนี้นะ ห้องนอนเก่าของแม่น่ะ ตรงข้างก็ห้องพี่ มีอะไรก็เรียกพี่ได้นะ" เธอแจกแจงเมื่อยกของชิ้นสุดท้ายเข้าไปในห้อง

อีฟช่วยจัดข้าวของอยู่สักพักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเหลืออีกเพียงนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว จึงวางมือปล่อยให้น้องสาวจัดที่เหลือ และถือโอกาสไปทำอาหารเย็นอย่างง่ายๆ รอ เดาว่าคนน่ารักต้องหิวมากอย่างแน่นอน



"หอมจังเลยค่ะ" สาวน้อยยิ้มจนตาหยี เมื่อเดินเข้ามาที่บริเวณห้องครัวซึ่งตกแต่งเรียบๆ ด้วยกระเบื้องสีขาวมันวาวไม่มีลวดลายอะไร

"นั่งสิ เดี๋ยวพี่ตักข้าวให้" หล่อนอาสาบริการ รู้สึกอยากดูแลกวางน้อย นี่คงเป็นความรู้สึกของคนที่เป็นพี่ล่ะมั้ง

สาวน้อยยิ้มขอบคุณทั้งสีหน้าและดวงตา มีความซาบซึ้งและดีใจอยู่ภายในดวงตาสีนิลสวยคู่นั้น เธอเดาว่าคงได้มาจากพ่อ เพราะแม่และหล่อนมีตาสีน้ำตาลอ่อน

"อร่อยไหม" อรสาถามอย่างอยากรู้ เพราะตอนที่แม่อยู่หล่อนเคยแค่เป็นลูกมือ ไม่ได้มีโอกาสทำเองแม้แต่ครั้งเดียว พอเหลือตัวคนเดียวก็เลยไม่แน่ใจนักว่าจะทำได้ดี

"อร่อยค่ะ ไว้วันหลังหนึ่งทำให้พี่อีฟทานบ้างนะคะ" เด็กน้อยพูดเสียงใส

"ชอบทำอาหารเหรอคะ" เธอถามเพราะอยากรู้จักคนตรงหน้าให้มากยิ่งขึ้น

"ก็เฉยๆ นะคะ แต่ทำให้พ่อทานบ่อยค่ะ" มือบางชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพูดถึงคนที่รักซึ่งจากไปแล้ว

"หนึ่งมีพี่นะคะ" หล่อนบอกพร้อมกับกุมมือบาง เด็กน้อยยิ้มก่อนจะทานอาหารต่อจนเกลี้ยง



หญิงสาวอารมณ์ดีเมื่อออกจากห้องหลังอาบน้ำเสร็จ คืนนี้เธอกะจะดูซีรี่ส์ที่ค้างเอาไว้ หล่อนยืมเพื่อนมาหลายเดือนแล้วแต่ยังดูไม่จบเสียที

เริ่มดูได้ไม่นานนัก คนตัวเล็กก็เดินมานั่งข้างๆ โดยใส่เสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกางเกงขาสั้นเนื้อบาง เผยให้เห็นขาอ่อนสวยอย่างไม่ตั้งใจ ผมดำประบ่ายังคงไม่แห้งนัก คนตัวเล็กพยายามเอาผ้าขนหนูเช็ด

"พี่เช็ดให้" หล่อนหยิบผ้าจากมืออีกฝ่าย นันทวรรณปล่อยให้เธอทำโดยดี

ผมเด็กสาวบางกว่าของเธอมากพอสมควร สาวน้อยใช้แชมพูยี่ห้อเดียวกับหล่อน แต่ทำไมเมื่ออยู่กับน้องสาวมันถึงได้หอมกว่าเวลาที่เธอใช้นะ

"กางเกงสั้นไปรึเปล่าคะ" อีฟเอ่ยออกมา

"ไม่นะคะพี่อีฟ" หนึ่งตอบเสียงใสซื่อ ตาไม่ละจากจอภาพเบื้องหน้า

"อย่าไปใส่ให้ใครเห็นนะคะ มันอันตราย" หล่อนเตือนด้วยความรู้สึกเป็นห่วง

"พี่อีฟนี่หนังเรื่องอะไรเหรอคะ ทำไมมีแต่ผู้หญิง" สาวน้อยถาม หน้าตาสงสัยเต็มที่หลังจากดูไปได้สักพักหนึ่ง

"The L word เป็นหนังเลสเบี้ยนน่ะค่ะ เพื่อนพี่ให้ยืมมาดู เห็นบอกว่าสนุก" เธออธิบายแบบพยายามป้องกันตัวเอง กลัวน้องสาวจะเข้าใจผิดว่าหล่อนมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน

"เลสเบี้ยนคืออะไรคะ" สาวตาใสดูเหมือนยังไม่ค่อยเข้าใจกับคำอธิบายมากนัก

"เลสเบี้ยนคือผู้หญิงที่รักผู้หญิงค่ะ ผู้หญิงเหล่านี้จะดูแล้วไม่ต่างจากผู้หญิงทั่วไป ไม่เหมือนทอมที่จะแสดงออกคล้ายผู้ชาย" อรสาบอกเท่าที่ตัวเองเข้าใจ แรกๆ ที่รู้จักเพื่อนสาวหล่อนเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน

"อืมค่ะ หนึ่งเพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย" เด็กน้อยพยักหน้ารับรู้ หญิงสาวยิ้มด้วยความเอ็นดู น้องสาวของหล่อนยังเด็กเหลือเกิน ใสซื่อมากด้วย เธออดคิดไม่ได้ว่าอาจจะโดนคนไม่ดีหลอกเอา

ภาพในจอโทรทัศน์LCDเป็นฉากที่เพื่อนของตัวเอกเพิ่งกลับมาถึงบ้าน และพบว่าแฟนคอยอยู่แล้ว จากนั้นทั้งสองคนจึงเริ่มประกบริมฝีปากกันอย่างเร่าร้อน อีฟใจเต้น ลืมไปเสียสนิทว่าหนังยาวเรื่องนี้เป็นหนังผู้ใหญ่มีฉากเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์เยอะ น้องสาวของเธอยังเด็กเกินกว่าจะดูเรื่องพวกนี้ได้ คิดดังนั้นหล่อนจึงคว้ารีโมทมาปิดจอเสีย

"อ้าว พี่อีฟปิดทำไมคะ" น้ำเสียงใสพูดอย่างเว้าวอน หน้าตาน่ารักทำหน้าเหมือนเด็กโดนขัดใจ แวบหนึ่งหล่อนเกือบเป็นฝ่ายรู้สึกผิด

"หนึ่งยังเด็ก ห้ามดูค่ะ" เธอบอกตรงๆ

"ไม่เด็กแล้วค่ะ 18 ปีแล้ว" อีกฝ่ายบอกอย่างดื้อรั้น

"เคยดูมาก่อนเหรอคะแบบนี้น่ะ" สาวสวยถามกึ่งซัก

"ไม่เคยดูแต่เคยอ่านแล้วก็ฟังค่ะ" หน้ามนหลบสายตาเหมือนอายเมื่อพูดถึง

"ดีแล้วค่ะที่ไม่ดู แต่...อ่านก็ไม่ดีนะคะ" คนตัวสูงพูดตักเตือน กลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียเด็กถ้าเรียนรู้เรื่องพวกนี้เร็วเกินไป หล่อนชักรู้สึกว่าตัวเองเป็นห่วงและกังวลแทนน้องสาวมากเกินไป แต่จะทำยังไงได้ตอนนี้เธอเป็นผู้ปกครองคนเดียวที่เหลืออยู่ ไม่ว่ายังไงก็ต้องดูแลให้ดีที่สุด

"ยังไม่ 20 พี่จะไม่ให้ดูนะคะ"

"ให้หนึ่งดูเถอะนะคะ กำลังสนุกเลย นะๆ พี่อีฟคนสวย" สาวน้อยทำตาระยิบระยับเหมือนลูกแมวอ้อนเจ้าของ

"เอ่อ..." เธอมองตาคู่นั้นแล้วรู้สึกเหมือนอยากจะตามใจไปเสียหมด คนตัวเล็กกอดแขนทันที่เห็นท่าทางลังเลใจ อกนุ่มๆ เบียดแขนโดยไม่ตั้งใจ

"นะคะ" เสียงใสยังคงพยายามอย่างไม่ลดละ

"ก็ได้ค่ะ" อรสาพ่ายให้กับเจ้าตัวเล็กในที่สุด

"แต่ถ้ามีฉากแบบนั้นต้องเปิดข้ามนะ ห้ามดู โอเคไหม" เธอบอกอย่างไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องนี้เป็นอันขาด

'จุ๊บ' เด็กน้อยจูบแก้มหล่อนเบาๆ อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหยิบรีโมทจากมือของเธอไปแล้วเปิดดูหนังต่อ

"พี่...เอ่อ...ไปนอนก่อนนะคะ หนึ่งดูไปแล้วกัน" อีฟขอตัว ก่อนเดินไปที่ห้อง

หล่อนรู้สึกแปลกๆ ไม่เคยมีใครอ้อนเธอแบบนี้มาก่อนเลยยกเว้นเพื่อนสาว แต่รายนั้นเจ้าเล่ห์มากกว่า ไม่ได้อ้อนด้วยความใสซื่อน่ารักแบบนี้ ถ้าน้องสาวยังคงทำแบบนี้ หล่อนต้องตามใจจนเสียคนเป็นแน่ ทำไมเธอต้องแพ้คนที่ทำตาแบบนั้น แล้วก็เสียงอ้อนๆ ด้วยนะให้ตายสิ และจูบนั่นอีกหวังว่าเด็กน้อยจะไม่ไปทำกับใครแบบนั้น ยังดีที่หญิงสาวเป็นพี่ ถ้าไปทำกับคนอื่นคงทำให้เข้าใจผิดอย่างไม่ต้องสงสัย หล่อนนึกถึงเพื่อนสาวของน้อง ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กได้ทำกับสาวอวบคนนั้นแบบนี้บ้างไหม



อีฟกำลังตักข้าวต้มกุ้งใส่จาน เสียงปิดประตูห้องนอนและเสียงฝีเท้าดังขึ้น แทบไม่ต้องหันกลับไปมองเธอก็รู้ว่าเป็นน้องสาว เพราะบ้านหลังนี้อยู่กันแค่สองคนพี่น้องเท่านั้น

เธอมองอีกฝ่ายในชุดนักศึกษาด้วยความพึงพอใจ เพราะนันทวรรณแต่งถูกระเบียบทุกอย่าง และเสื้อผ้าไม่ได้รัดจนคับแน่นเหมือนที่หลายๆ คนชอบทำ

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ" หล่อนชิงเอ่ยออกมาก่อน เป็นอีกเรื่องที่หญิงสาวต้องปรับตัว เธอไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว

"สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่อีฟ" สาวน้อยยิ้มน่ารักก่อนเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นจึงมองลงไปในหม้อ

"น่าทานมากเลยค่ะ หนึ่งชอบกุ้ง" เสียงใสร่าเริงขึ้นมาทันที เด็กน้อยช่างแสดงออกได้ตรงไปตรงมาเสียจริง ไม่มีอ้อมค้อม ปิดบัง หรือเล่นตัวอะไรเลย

"ไปหยิบชามมาสิคะ เดี๋ยวพี่ตักให้" อรสายิ้มอย่างเอ็นดู

หลังจากนั้นคนอายุน้อยกว่าก็พิสูจน์คำพูดอย่างเต็มที่ด้วยการทานถึงสองชาม ไม่น่าเชื่อว่าผอมๆ อย่างนี้จะกินจุ หล่อนเองทานแค่ครึ่งชามเท่านั้น แต่แค่นี้ก็ถือว่าอิ่มแล้ว ถ้าขืนทานอย่างคนตรงหน้ามีหวังอ้วนอย่างแน่นอน



รถเก๋งสีเงินจอดในลานจอดรถแถวรั้วที่ประตูหน้ามหาวิทยาลัย เธอจอดที่นี่ประจำเพราะขี้เกียจวนรถหาที่จอดตามอาคารต่างๆ ยิ่งมีน้องสาวมาด้วยตรงนี้จึงเหมาะที่สุด เพราะจะได้เป็นจุดนัดพบตอนกลับบ้าน

"วันนี้เลิกกี่โมงคะ" คนตัวสูงถามขณะล็อกรถคันโปรด

"5-6 โมงเย็นค่ะ" เด็กน้อยทำท่านึก

"อ้าวทำไมเวลาไม่แน่นอนล่ะคะ" เธอสงสัย เพราะปกติตารางเรียนที่แต่ละคนลงไปจะมีเวลาเรียนกำหนดตายตัวอยู่แล้วไม่เปลี่ยนแปลง

"รุ่นพี่นัดไปทำกิจกรรมน่ะค่ะพี่อีฟ" สาวจมูกรั้นบอก

"อ้อ โอเคค่ะ ตั้งใจเรียนนะคะ อย่ามัวแต่สนกิจกรรมอย่างเดียว เดี๋ยวเย็นๆ พี่รายงานรออยู่แถวๆ นี้แหละ" หล่อนรับรู้ เด็กปีหนึ่งก็แบบนี้มีกิจกรรมมากมาย บางคนถึงขนาดโดนไล่ออกเพราะทำกิจกรรมมากกว่าจะสนใจเรื่องเรียน อย่างสาขาที่หญิงสาวเรียน ปีนี้เหลือแค่ครึ่งเดียวถ้าเทียบกับตอนเข้ามาแรกๆ บางคนอาจจะคิดว่าการได้เข้ามหา'ลัยคือความสำเร็จแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าพอเข้าได้หลังจากนั้นก็ยังต้องดิ้นรนและพยายามไม่ได้ต่างจากก่อนที่จะเข้าได้เลย แถมยากลำบากกว่าด้วยซ้ำเพราะตอนเรียนมัธยมเกรดต่ำมากๆ ก็จบได้ แต่ระดับมหาวิทยาลัยแล้วถ้าเกรดต่ำเกินไปก็จะไม่จบ บางทีมีบังคับด้วยซ้ำว่าต้องให้ได้เกรดโดยรวมเท่าไหร่ แล้วเกรดเฉพาะสาขาที่เรียนอีกเท่าไหร่ถึงจะยอมให้จบ

สาวสวยไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เธอเป็นคนที่ไปร่วมกิจกรรมเฉพาะที่สำคัญหรือไม่ก็โดนบังคับ นอกนั้นถ้าไม่ได้สนใจเป็นพิเศษก็จะไม่ยุ่งด้วย จริงๆ แล้วยิ่งเรียนชั้นปีสูงขึ้น การบ้านและรายงานที่ทำก็เยอะขึ้น ยากขึ้น หลายครั้งต้องอดนอนเพื่อทำรายงานให้เสร็จ ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นอยู่แล้ว

"อิง" เด็กสาวโบกมือไปมาเรียกเพื่อนสนิทที่เพิ่งเดินเข้าประตูรั้ว เธอมองขวัญฟ้าอย่างพิจารณาอีกครั้ง ดูๆ ไปแล้วเด็กคนนี้ก็หน้าตาดีแต่คงเพราะมีเชื้อจีนเลยออกหมวยไปบ้าง รูปร่างอวบแต่ไม่ถึงกับอ้วน ผิวขาวมากจนเห็นเส้นเลือดรางๆ

เพื่อนสาวของน้องเห็นหนึ่งจึงโบกมือตอบแล้วยิ้มกว้าง เป็นยิ้มที่บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวดีใจแค่ไหนที่ได้เจอคนตัวเล็ก หล่อนมองเฉยๆ อย่างระวัง

"หนึ่งไม่เห็นโทรมาบอกเลยว่าเป็นยังไงบ้าง อิงเป็นห่วงนะ" เด็กสาวกอดนันทวรรณพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อเล็กน้อย

"ก็ยุ่งๆ น่ะ ต้องจัดของแล้วก็ต้องทำอีกตั้งหลายอย่าง" น้องสาวเธออธิบายเหตุผล

"อืม" ขวัญฟ้าพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะมองนาฬิกาเรือนเงินที่ข้อมือข้างซ้ายแล้วพูดว่า

"ใกล้เวลาเรียนแล้วไปกันเถอะ" ว่าแล้วมืออวบนั้นก็จับมือบางให้เดินไปด้วยกัน

เท่าที่หล่อนมองเห็นเพื่อนของหนึ่งก็ดูจะไม่มีพิษภัยอะไร ก็ดูใส่ใจน้องสาวของเธอดี แต่มีบางอย่างแปลกๆ ที่หล่อนไม่รู้ว่าคืออะไรในตัวเพื่อนน้องคนนี้ คงจะต้องค่อยๆ ดูกันไปเรื่อยๆ ถ้าดีจริงเธอก็จะไม่ยุ่งอะไร แต่ถ้าทำอะไรแย่ๆ ล่ะก็ หญิงสาวจะปกป้องหนึ่งให้ได้



ห้องเรียนในคาบแรกเป็นห้องโปร่ง หล่อนไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่เพราะห้องเรียนของอาคารนี้ไม่สามารถกั้นเสียงจากข้างนอกได้ และทำให้ไม่ค่อยได้ยินเสียงอาจารย์อีกด้วย

ในห้องมีนักศึกษาเกือบครึ่งแล้ว ส่วนมากก็เป็นเพื่อนร่วมสาขาของเธอทั้งนั้น แต่มีคนเดียวที่หญิงสาวสนิทเป็นพิเศษคือปนัดดา ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวกำลังไข่วห้าง ปากขมุบขมิบ อรสาเดาได้เลยว่าคงร้องเพลงโปรดอย่างแน่นอน และต้องอารมณ์ดีมากๆ ด้วย

"อ้าว มาแล้วเหรอ ฉันนึกว่าแกจะมาสายกว่านี้ซะอีก เห็นปกติมาพอดีเวลาเรียนนี่" แป้งพูดเมื่อเหลือบมาเห็นเธอเดินเข้าประตูไม้มา

"แหม พูดยังกะอยากมากี่โมงก็มาได้ รถในกรุงเทพฯ ติดจะตายแกก็รู้นี่ หอแกอยู่ใกล้กับมหา'ลัยแค่นี้ก็มาเช้าได้สิ" หล่อนย้อนอย่างไม่ยอม เพราะจริงๆ แล้วเพื่อนสาวตื่นสายกว่าเธอมาก แต่อาศัยว่าอยู่ใกล้จึงมาถึงห้องก่อนเสมอ

"ช่วยไม่ได้" สาวมั่นร่างบางยักไหล่อย่างเหนือกว่า

"แป้ง แกเคยอยากมีน้องไหม" หล่อนเลียบถาม

"ไม่อ่ะ อยู่คนเดียวก็สบายดีออก ไม่ต้องไปดูแลใคร" สาวสวยหน้าเรียวตอบอย่างมั่นใจ เธอชอบเพื่อนตรงที่อีกฝ่ายถึงจะดูเปรี้ยวแต่ก็ไม่เสแสร้ง แล้วก็นิสัยดีกว่าบางคนที่แสดงออกว่าเรียบร้อยเสียอีกต่างหาก

"แล้วถ้าแกเกิดมีน้องล่ะ แกจะรู้สึกยังไง" หญิงสาวถามต่อ อยากรู้ว่าคนอื่นๆ จะเป็นยังไงบ้างถ้ามาเจอแบบที่เธอเพิ่งเป็นมา

"อืม...ก็คงดีใจมั้ง ไม่รู้สิ แต่มามีเอาอายุป่านนี้มันไม่สายไปเหรอ มันจะมีช่องว่างระหว่างอายุเยอะเกินไป คงเข้ากันยากล่ะมั้ง แทนที่จะเป็นพี่กับน้อง จะกลายเป็นพี่กับแม่เอาน่ะสิ ไหนจะต้องเป็นกังวลอีกว่าเราทำตัวดีรึเปล่า ถ้าไม่ดีพอน้องเอาไปเลียนแบบก็แย่ตาย" คิ้วสวยๆ ขมวดอย่างใช้ความคิด

นั่นสินะถึงเรากับหนึ่งจะไม่ได้มีช่องว่างระหว่างอายุ แต่ก็มีช่องว่างของความรู้สึกเยอะ เพราะไม่เคยเจอหน้ากันเลยตลอด 18 ปีที่ผ่านมา แถมต้องกลายมาเป็นผู้ปกครองอีก เธอไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ว่าตัวเองเป็นตัวอย่างที่ดี แต่หล่อนก็ไม่เคยทำอะไรเสียหายหรือผิดกฎหมาย อย่างน้อยก็คงพอใช้ได้ล่ะมั้ง

"ว่าแต่แกถามทำไม" ปนัดดาหันมาถามอย่างจับผิดเมื่อนึกได้

"เฮ้อ...เมื่อวานซืนฉันเพิ่งรู้ตัวว่ามีน้องสาว" คนขาสวยถึงกับอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน เธอเข้าใจเป็นใครก็ต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้ทั้งนั้น

"เล่าให้ฟังหน่อย" คนสวยพูดเหมือนสั่งแต่หญิงสาวรู้ว่าเพื่อนไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

"เรื่องอะไร" เธอกวนกลับ แกล้งให้อีกฝ่ายทรมานเล่น รู้ว่าแป้งเป็นคนที่ไม่ชอบให้มีเรื่องอะไรคาใจ ถ้ามีเรื่องอะไรล่ะก็ต้องรู้ให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม

"แกจะใจร้ายกับฉันเหรอ ทำกับคนสวยๆ ได้ลงคอเหรอ" พูดไปก็ทำตาน่าสงสารประกอบ

"เพื่อนรัก" เสียงอ้อนแบบนี้ทำให้นึกถึงคนร่างบางเสียจริง หล่อนอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึง

"ก็ได้" เธอเลิกแกล้ง

"ก็แค่เนี้ย" อีกฝ่ายเปลี่ยนไปฉับพลันทันที เธอถึงกับส่ายหัวอ่อนอกอ่อนใจ

"วันเสาร์ฉันก็อยู่บ้านปกติ แล้วก็มีเด็กสาวคนหนึ่งมายืนมองฉันอยู่หน้าบ้าน ฉันเลยถามว่ามีอะไรรึเปล่า เด็กคนนั้นก็ถามถึงแม่ฉัน ไปๆ มาๆ ก็บอกว่าแม่ฉันเป็นแม่ของเธอ ฉันตรวจดูเอกสารแล้วนะ มันถูกต้องทุกอย่างเลย ฉันก็เลยตกลงใจว่าจะรับมาอยู่ด้วย จะได้ทำความรู้จักนิสัยใจคอกันแล้วก็ดูแลด้วย อย่างน้อยก็เป็นญาติคนเดียวที่ฉันมี" อีฟพูดยืดยาว และถอนหายใจ เพราะยังไม่รู้ว่าต่อไปจะทำยังไงดี เพียงแค่อนาคตของตัวเองก็ยังไม่มั่นคงเลยด้วยซ้ำ

"อืมมม แปลกนะ แม่แกเคยบอกไหมว่ามีน้องสาว" เพื่อนพยายามถามหาข้อมูล

"ไม่เคยเลย ฉันเคยถามเรื่องพ่อกับแม่นะ แต่แม่ไม่ตอบ ไม่เคยพูดเรื่องน้องให้รู้สักนิดเดียว เอ...จะว่าไปฉันก็ไม่มีรูปตอนเด็กเลยสักใบ เพิ่งตอน 10 กว่าขวบนี่แหละที่มีรูปถ่าย มันเกี่ยวกันไหมอ่ะ" หญิงสาวเพิ่งนึกเรื่องนี้ได้

"อาจจะนะ แกลองไปค้นข้าวของแม่แกอีกทีสิ เผื่อจะเจอ" สาวสวยแนะนำ

"อือ เดี๋ยวจะลองดู แต่ตอนเก็บทุกอย่างไปไว้ในกล่องยกเว้นของที่จะเอาไปบริจาคนะ ฉันก็ว่าฉันดูละเอียดแล้วนะ แต่ไม่เห็นมีอะไรที่บอกเลยว่ามีน้อง" เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ถึงไม่เคยบอกเรื่องนี้ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญมากแท้ๆ ส่วนเรื่องพ่อสาวหน้าคมพอเข้าใจได้ว่าอาจจะมีความขัดแย้งกันจนไม่อยากพูดถึง เธอเห็นอะไรหลายอย่างในเวลาที่ผ่านมา และทำใจยอมรับได้ แม้ว่าลึกๆ จะอยากเห็นหน้าพ่อของตัวเองเสมอก็ตาม

"อาจารย์มาแล้ว ไว้เดี๋ยวค่อยช่วยกันคิดเพิ่มตอนกลางวันแล้วกัน" อรสาตัดบทอย่างรวดเร็ว และรอคอยการสอนที่กำลังจะเกิดขึ้น



"น้องอีฟ" เสียงห้าวของชายหนุ่มรุ่นพี่รูปร่างสูงร้องเรียกอย่างดีใจ

"คะพี่ฝุ่น" หล่อนตอบรับอย่างเสียไม่ได้

"ไปนั่งโต๊ะเดียวกับพี่นะ พี่นั่งคนเดียว" เขากระตือรือร้นที่จะชักชวน เธอรู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่สามปีที่ผ่านมาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรมากไปกว่ารุ่นพี่คนหนึ่ง

"แหม แป้งยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคนไม่มีชวนกันเลยนะคะ" เพื่อนสาวอดจะพูดไม่ได้ คนหน้าคมรู้ว่าเพื่อนกำลังช่วยในแบบของตัวเองอยู่

"พี่ก็หมายถึงน้องแป้งด้วยแหละ ไปนั่งกันหลายๆ คนดีออก ถือว่าช่วยไม่ให้พี่เหงาละกันนะ" ชายหนุ่มยิ้มจนเห็นฟันที่เรียงกันสวย หล่อนถอนหายใจ

"ค่ะพี่"

"แกใจอ่อนเกินไปแล้ว ไม่ชอบเขาในแบบนั้น แกต้องใจแข็งกว่านี้นะ ฉันว่าแกพูดให้ชัดไปเลยดีกว่า" ปนัดดากระซิบที่ข้างหูระหว่างเดินไปยังโต๊ะที่จัดไว้ให้นักศึกษานั่งทานอาหาร

"ช่วยไม่ได้นี่ ก็พี่เขาพูดแบบนั้นให้ฉันปฎิเสธยังไง" เธอกระซิบตอบอย่างจนปัญญา

เพื่อนสาวส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วยในความใจอ่อน หญิงสาวรู้ว่าสาวมั่นขาสวยพูดถูกทุกอย่าง หล่อนก็อยากจะทำแบบนั้น แต่เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกแย่แค่ไหนก็ทำไม่ลง



"หนึ่งวันนี้ไปกินข้าวที่คณะบริหารกันไหม" ขวัญฟ้าชวนเมื่อเลิกเรียนคาบสุดท้ายของช่วงเช้าเรียบร้อยแล้ว

"เอาสิ" เธอรีบตกลงเพราะคิดว่าอาจจะได้เจอพี่อีฟก็ได้

"เห็นรุ่นพี่ที่สาขาบอกว่าก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นอร่อยมากๆ เลยแหละ" สาวน้อยพยักหน้ารับรู้แต่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป รู้ว่าถ้าเป็นเรื่องอาหารแล้วล่ะก็ เพื่อนของเธอคนนี้ต้องลองให้ได้ ไม่แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายมีรูปร่างอวบ แต่หล่อนก็ไม่คิดว่าเสียหายอะไร อิงมีความสุขกับการกินแค่นั้นก็พอแล้ว

เมื่อเข้าไปในโรงอาหารเด็กสาวก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ทันที แล้วที่มุมหนึ่งของอาคารเธอก็เห็นคนที่อยากเจอ แต่พี่สาวของหล่อนไม่ได้อยู่คนเดียวมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งข้างๆ แล้วก็ผู้ชายอีกคนนั่งตรงข้าม ซึ่งกำลังตักกับข้าวจากจานของตัวเองไปให้พี่อีฟ

เธออยากรู้ว่าสองคนนั้นเป็นใคร ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นเพื่อน แต่ผู้ชายดูแล้วน่าจะเป็นคนรักเสียมากกว่า เพราะว่าเอาอกเอาใจเหลือเกิน

"หนึ่ง" เสียงคุ้นเคยเรียก

"หา" หล่อนหลุดจากความคิด ความสงสัย

"เป็นอะไร ยืนนิ่งเลย" สาวอวบมีท่าทางเป็นห่วง

"เปล่าหรอก ไก่ตุ๋นใช่ไหม อยู่ตรงนั้นไง" นันทวรรณชี้ไปที่ร้านที่สาม

ขวัญฟ้าเดินนำหน้าไปก่อน หนึ่งเดินตามแต่ไม่มีความอยากอาหาร หล่อนรู้สึกหวงพี่สาวขึ้นมาดื้อๆ คงเพราะว่าเพิ่งมีเลยรู้สึกว่าพี่สาวควรเป็นของเธอคนเดียว ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ พี่เธอย่อมมีสังคมของตัวเอง มีเพื่อน มีคนรัก เด็กสาวไม่รู้ว่าจะมีโอกาสไหมที่จะได้เข้าไปอยู่เป็นสังคมเดียวกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ธันวาคม 2013 เวลา 23:16:55 อาพัทธ์ อันธการ »



email+facebook : N.Rattanawadikant@gmail.com
fanpage : www.facebook.com/อาพัทธ์-อันธการ/107884562739822

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.