web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 61
Total: 61

ผู้เขียน หัวข้อ: My little sweet devil Chapter 12 : เดอะสโตรกเกอร์-จัง  (อ่าน 3878 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
My little sweet devil Chapter 12 : เดอะสโตรกเกอร์-จัง
« เมื่อ: 09 มีนาคม 2014 เวลา 17:59:46 »


Chapter  12  :   เดอะสโตรกเกอร์-จัง


“หิมะแบบนี้เค้าเรียกว่า  พาวเดอร์สโนว์”  คนตัวโตกว่าที่เดินนำหน้าไปหนึ่งก้าวบอกเล่าให้คนตามฟัง  ได้ยินเสียงฮัมรับเบาๆก็หันมาเลิกคิ้วมองหน้า  สาวคนที่ว่ากระพริบตา  ยิ้มหวานมาให้หัวใจเต้นรัว  คริสตินรู้สึกเหมือนตัวเองความดันขึ้น  อย่าล้มทั้งยืนนะ!

“ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไง..  รู้แล้วมาหลอกให้ฉันเล่านิทานให้ฟังเหรอ”  คนอารมณ์เสียง่ายถามเสียงหงุดหงิด  หากกระพริบตางงกับมือที่ยื่นมาหา  เธอยังไม่กล้าจับมันจนกระทั่งเจ้าของมันพูด

“ปวดขาค่ะ  ช่วยหน่อยสิ” 

สมองเธอบอกให้ปฏิเสธอย่าหลงกลมารยาสาวหน้าใสหากใจเธอสั่งให้ส่งมือไปคว้ามือหล่อนมาและพาเดินลุยหิมะมาด้วย  แล้วรอยยิ้มดีใจเหมือนเด็กจากหล่อนก็ทำให้หัวใจอบอุ่นรู้สึกคุ้มค่าที่ยอมลดทิฐิลง  ถึงอย่างนั้นยังจะบ่น

“ไม่เคยเห็นนักเทควันโด้สายดำ  เยาะแยะแบบเธอมาก่อน  แค่ลุยหิมะแค่นี้ทำบ่นไปได้”

“มันเหมือนกันที่ไหนล่ะคะ  แบบนี้มันเดินยาก  รองเท้าก็หนักด้วย”  สาวตาสวยสีน้ำเงินแย้งเสียงงอแง  อันที่จริงเธอแค่อยากจะอ้อนคนขี้เก็กให้ใจอ่อนกับตัวเองบ้างเท่านั้น   

รองเท้าหนักเหรอ.. หิมะเหรอ.. ใครว่าฉันกลัว  บ้านฉันมาเที่ยวฮอกไกโดเกือบทุกปี..  ถามคานะจังสิ   ฉันก็แค่อยากอ้อนคน..

และก็ดูเหมือนคราวนี้มันจะได้ผลนะ!

“โอเคๆ เข้าใจแล้ว..  ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้”

“ทำหน้าแบบไหนล่ะ”

“ก็ทำเหมือน----”  คริสตินอยากจะตอบหากเธอพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น  หัวใจมันสั่นจนน่ากลัว   ตอนนี้เธอพอรู้แล้วว่าตัวเองกลัวอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้   

ความขี้อ้อนอันแสนน่ารักแบบนี้นี่แหละ..

อยากฆ่าฉันให้ตายมากนักใช่ไหม.?

“เหมือนอะไรคะ.?”  มิกิยื่นหน้าไปใกล้คนที่ไม่ยอมพูดให้จบ  คนตัวสูงรีบดึงใบหน้าหล่อนออกไปห่างจากเธอทันที   กลัวอะไรกันนักหนานะ

“คริส.?”

“เหมือนเด็กปัญญาอ่อน”  คริสตินบอกในที่สุดแล้วหัวเราะอย่างหลุดอาการกับท่าทางอ้าปากค้างของอีกคน  “อะไรกัน..  ก็อยากฟังไม่ใช่เหรอ.?”

“ก็ใช่!  แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ  ฉันออกจะน่ารักนะ”  สาวลูกครึ่งแย้งแก้มป่อง  เธอไม่รู้ตัวเลยว่าแสดงอาการเหมือนเด็กขี้งอนออกไปมากจนผิดวิสัยตัวเอง  กระทั่งได้เห็นรอยยิ้มเอ็นดูจากคนตรงหน้าที่กระชับมือเธอแน่นขึ้น  ถึงมันจะเป็นสัมผัสที่ส่งผ่านถุงมือหนาๆมา  เธอก็รู้ว่า  มันช่างดีเหลือเกิน...

ถ้าหล่อนจะยอมรับว่า  เธอน่ารักด้วยก็ยิ่งดี  แต่นั่นคงเป็นได้แค่ในฝัน  แค่หล่อนไม่คิดสะบัดมือเธอออกหลังจากนี้ก็น่าจะพอ..

“เปลี่ยนชุดก่อนนะ  ถ้าอยากจะลองเล่นสกี”

มิกิกระพริบตา  แปลกใจกับน้ำเสียงอ่อนโยนที่ได้ยิน  ความจริงเธอน่าจะรู้สึกดี  แค่เพียงไม่ได้เห็นความเหนื่อยอ่อนในดวงตาและสีหน้าของคนพูด

“คุณดูเหนื่อยนะ  ฉันว่าเอาไว้วันอื่นดีกว่า”

“แต่เธอขึ้นมาหาฉันเพราะอยากให้สอนไม่ใช่หรือไง.?”  คริสตินย้อน  มองหน้าอีกคนอย่างไม่เข้าใจ  ยิ่งเวลาที่หล่อนก้าวเข้ามาใกล้แล้วกอดแขนเธอด้วยสองแขนหล่อน  นำมันเข้าใกล้ตัว  เธอยิ่งงงกับความคิด  “มิกิ.?”

“นี่คุณทึ่มจริงหรือแกล้งคะ.?”  สาวลูกครึ่งว่าอย่างอดไม่ได้  และโดยไม่ทันคิด  เธอโดนมือที่ว่างของอีกคนเคาะศีรษะ  “คริส..  คุณทำอะไร!”

“เธอว่าฉันก่อน..เจ้าหญิง”  คนตัวสูงกว่าตอบเสียงขำ  เธอหัวเราะกับท่าทางแสนงอนของหญิงสาวที่หันไปเกาะแขนเธอต่อ  ถึงไม่บอกก็พอรู้ว่าไม่ได้โกรธจริงจัง   แต่ว่าตอนนี้พวกเราเหมือน....

เหมือนแฟนกันไปหน่อยไหม.?

“เธอทิ้งเขามาแบบนี้   เขาไม่น้อยใจหรือ.?”  พูดออกมาแล้วก็แทบอยากจะเตะก้นตัวเองที่เป็นตัวงี่เง่าชอบทำลายบรรยากาศดีๆ เห็นผู้หญิงที่เกาะแขนอยู่นิ่งไปสักพักก็เริ่มใจหาย  กลัวว่าหล่อนจะปล่อยมือออกแล้วเดินจากไป  เพราะถ้าเป็นแบบนั้น  เธอคงทำไม่ได้ที่จะวิ่งตามหล่อนไป

มันเสียฟอร์ม..

ยอมเสียฟอร์มมากกว่าเสียผู้หญิงคนนี้ไปงั้นเหรอ.?

ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกัน..

ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสมองผู้หญิงที่เงียบไปด้วยใจหวั่น  ความอึดอัดเกิดขึ้นในอก  หาทางออกไม่เจอ  จนกระทั่งหูได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ

“ถ้าฉันอยากอยู่กับเขา  ฉันก็อยู่กับเขาแล้วล่ะ” 

ถึงไม่เข้าใจมันเท่าไหร่กับคำพูดอ้อมไปอ้อมมาแบบนี้  หากเธอก็พบตัวเองคลายความอัดอั้นลง  และปล่อยให้อีกคนพาเดินเล่นกันต่อไป  ถึงไม่รู้ว่าหล่อนจะพาเดินไปไหนก็ตาม

..........................................

สาวตัวเล็กกดหัวคิ้วลงขณะหรี่ตามองสิ่งที่เจอในแท็บเล็ตที่เพิ่งดึงมาดู  เธอกำลังเช็คข่าวให้กับคนที่ตัวเองดูแลเหมือนที่เคย  เพียงแต่ช่วงนี้มีเรื่องแปลกๆมาให้เซอร์ไพร์สได้ทุกวัน  มันมากพอที่จะทำให้นึกเป็นห่วง  กลัวความลับแตก..

แต่ถ้าจะมีไอดอลเป็นเพศที่สาม  มันจะมีปัญหาอะไรล่ะ  เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชนหรือไง..  ปัญญาอ่อนชะมัด!

“คานาเดะซัง..  ทางคุณมีปัญหาอะไรไหม.?”  ที่สุดก็ถามออกมา  สาวที่นั่งจิบชาร้อนอยู่ใกล้ๆเงยหน้าขึ้นมายิ้ม  แต่อย่ายิ้มอย่างเดียวได้ไหม  ตอบคำถามมาด้วย  รีเบคก้าอยากตวาดสาวคนที่ว่า  หากที่ทำได้จริงแค่รอ..

ใจเย็นเหมือนเจ้านายหล่อนเลยนะย่ะ!

“ปัญหาเหรอคะ  ไม่มีอะไรนี่นา..  เท่าที่เห็นมีแต่ชอบ  แฟนคลับยิ่งกรี๊ดเวลาที่มิกิซังมีโมเม้นท์กับคริสตินซัง  มากกว่าตอนกับดาราชายอีกนะคะ  ฟิคก็เขียนถึงมากกว่าด้วย”  คานาเดะตอบเหมือนเรื่องที่พูดเป็นมันปกติมาก  ผิดจากที่คนฟังที่ทำหน้าตะลึงราวคิดไม่ถึงบางอย่าง

“คุณคิดว่า  มันเป็นเรื่องดีเหรอคะ.?”

“ทำไมล่ะคะ  แค่แฟนคลับชอบมันก็โอเคแล้ว พวกแอนตี้สู้ไม่ได้หรอกค่ะ  เท่าที่ดู”  ผู้จัดการสาวชาวญี่ปุ่นแท้พูดแบบไม่แคร์โลก  จับช้อนชามาคนเล่นอย่างไม่ใส่ใจ  หากปากยังพูดประโยคเด็ด  “ดูเหมือนรีเบคก้าซังจะยังไม่เข้าใจคนที่บ้านฉันเท่าไหร่นะคะ  คนญี่ปุ่นค่อนข้างมองเรื่องแนวยูริแบบนี้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น  ถ้าไม่ใช่พวกหัวเก่าจนเกินไป  หรือพวกโฮโมโฟเบีย”

รีเบคก้าอึ้งไปนิด  เธอมองคนพูดทึ่งๆก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองอีกคนที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ  และคนที่เงียบคนนั้นก็ดึงแว่นดำลงมาให้เธอมองเห็นดวงตาสีสวยที่ช่วยยืนยันความมั่นใจให้  อา..กำลังใจลึกลับของฉัน!

“ถ้าคุณพูดแบบนี้แล้ว  ฉันก็ค่อยสบายใจได้หน่อยค่ะ”  ผู้จัดการร่างบางตอบในที่สุด  ยิ้มให้กับคนที่สนทนากัน  หล่อนหันมาหาพอดี  หากหล่อนนั่นเองที่เป็นคนกระชากรอยยิ้มของเธอให้หายไปด้วยคำพูดง่ายๆประโยคเดียว

“แต่นั่นเฉพาะว่า  พวกเค้าทั้งคู่เป็นแค่คู่จิ้นของแฟนๆนะคะ”

สาวบลอนด์จ้องหน้าสาวผมดำอย่างต้องการคำอธิบาย   คานาเดะยิ้มใจเย็นราวไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่  เครียดน้อยไปหรือเปล่า  หรือเธอที่เครียดมากเกินไป   ก็มันน่าเครียดไหมล่ะ 

เฉพาะว่า..เป็นแค่คู่จิ้น..

แสดงว่า..ถ้าเป็นจริงๆ ก็จบน่ะสิ!

“คุณพ่อคุณหนูเป็นพวกหัวเก่าค่ะ  แนะนำว่า  ถ้าคริสตินซังคิดจะเป็นมากกว่าคู่จิ้น   ให้เข้าทางคุณแม่นะคะ เพราะที่คุณหนูได้เป็นบลูอายส์ปริ้นเซสทุกวันนี้  ก็เพราะคุณแม่ของเธอ” 

คนฟังนั่งอึ้งด้วยคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำแนะนำแบบนี้จากปากของคนที่เธอไม่คิดว่าจะใส่ใจอะไร  เธอคงคิดผิดไปนั่นแหละ

“ไม่มีอะไรแล้วนะคะ  ถ้างั้นฉันขอตัวไปเตรียมกระเป๋าก่อน  เราต้องกลับกันเย็นนี้ค่ะ  ตอนค่ำคุณหนูมีงานในเมือง”

รีเบคก้าพยักหน้า ลุกขึ้นยืนส่งคนที่ขอตัวลาไปก่อน  มองตามหลังหล่อนแล้วก็หันมาหาสาวลึกลับที่สวมแว่นดำเอาฮู้ดคลุมหัวอยู่ใกล้ๆ  ฝ่ายนั้นก็เอาแต่ยิ้มให้เธออย่างใจเย็นเหลือเกิน  คงมีแต่เธอสินะที่ใจร้อนเกินไป  แต่ว่า...

“เฮ้..  ช็อคโกแลตหน่อยไหม.?  แก้เครียด”

เสียงจากคนลึกลับนั่นทำให้เธอยิ้มออก  ร่างบางลงมานั่งใกล้ๆหล่อนและแบมือขอช็อคโกแลตที่ว่ามาใส่ปากตัวเอง  และรู้สึกว่า  เธอคงจะต้องหัดพกมันไว้ใส่กระเป๋าให้มากกว่านี้แล้วสิ

................................................

คนตัวสูงหัวเราะตัวโยนกับคนที่กำลังถลาลงมาจากเนินหิมะด้วยท่าทางขากางอย่างหมดวิสัยกุลสตรี  สองมือหล่อนถือไม้ค้ำ  กำมันแน่นแต่ไม่ยักใช้  ปล่อยให้ตัวเองไหลลงมากับสกีเสียนั่น  อะไรกันเนี่ย..

“นี่..  เดี๋ยวก็กลิ้งหรอก.!”  บอกปนหัวเราะ  แล้วก็ยืนมองดูอีกคนที่ไถลลงมาหาแบบท่าไม่สวย  มือยื่นออกไปช่วยจับหล่อนเอาไว้ไม่ให้เลื่อนไถลไปมากกว่านี้  มิกิดึงแว่นออกจากใบหน้า  พ่นหายใจเอาไอขาวๆมาจากปากด้วย

“นี่คุณช่วยฉันแล้วเหรอ  ฉันไม่เห็นจะรู้สึกว่าเล่นดีขึ้นเลย”  เธอโวยวายเหมือนเด็ก  ค้อนขวับๆให้กับคนที่ยังยิ้มไม่เลิก  แต่อันที่จริงก็ดีใจมากนะที่ได้มีโอกาสอยู่ด้วยเสียที  อยู่แบบไม่ทะเลาะกัน   จะได้สักกี่นาทีนะ.?

“ช่วยแล้วสิคะ!  ก่อนหน้านี้เธอยังหัวทิ่มอยู่เลย..”  คริสตินหัวเราะก่อนจะโดนผลักให้ล้มหงายไปนอนแผ่กับปุยหิมะ 

ความจริงอีกคนไม่ได้ผลักแรงอะไร  เธอแค่อยากจะนอนแผ่เล่นเป็นเด็กเท่านั้นเอง  แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนลงมานอนด้วยคน  ใกล้จนลมหายใจปะปนกัน  เกือบจะเคลิ้มกับความชิดใกล้นี้  แต่ขอใช้วิธีหนีมันก่อน  ยังไม่พร้อมจริงๆ 

ไม่พร้อมกับอะไรล่ะ  ความเสียใจในอนาคต.?

“สมใจหรือยัง  สุดท้ายเธอก็ได้เล่นหิมะ”  ตัดใจพูดแบบนี้ออกไป  คนใกล้ตัวหันมามองหน้า  แล้วรอยยิ้มใสๆก็คล้ายมาชโลมหัวใจอันแห้งแล้งให้มีชีวิตชีวากลับมาอีกครั้ง  ดวงตาเป็นประกายสดใสบอกได้ถึงพลังและความอบอุ่นจากเจ้าของมัน  มันทำให้เธอรู้สึก...

กลัวใจตัวเอง...

“คุณจำได้ด้วยเหรอ.?”  มิกิถามแปลกใจ  พออีกฝ่ายพยักหน้าให้ก็ยิ้มกว้างขึ้น “ค่ะ  ฉันสนุกมากเลยล่ะ”  พูดร่าเริง  หากเธอชะงักไปนิดกับคนที่ยังสบตากัน  และสายตาจากดวงตาที่เธอหลงรัก  ก็ชักพาให้ร่างกายขยับเข้าไปหาหล่อนเอง  เกือบจะได้สัมผัสริมฝีปากแดงๆที่โหยหาเพราะเจ้าของมันไม่ได้ทำท่าอยากจะขยับออกห่างไป  หากเสียงโทรศัพท์ของใครดังขึ้นมาขัดจังหวะได้พอดี 

ให้มันได้แบบนี้สิ!

“ของฉันเองค่ะ”  สาวลูกครึ่งบอก  หลังจากที่ขยับออกจากความใกล้ชิดที่เสียดาย  มองอีกฝ่ายอย่างขอโทษแล้วลุกขึ้นนั่งรับสายทั้งสีหน้าไม่ดี

“ไงจ๊ะคานะจัง.?”  ไม่มีประโยชน์ที่จะหงุดหงิดใส่คนที่โทรมา  เธอจึงพูดกับหล่อนตามปกติ  แต่ก็แทบจะไม่ได้ยินหล่อนพูดอะไรเลยเพราะมัวแต่สนใจแค่คนตัวสูงที่ลุกขึ้นยืน  พยายามส่งสายตาบอกหล่อน  ขอร้องว่าอย่าเพิ่งไป  และเธอก็เลิกใจหายไปเพราะอีกฝ่ายส่ายหน้าก็จริงแต่ยังยอมยืนเก้ๆกังๆอยู่ข้างๆ
แต่ถึงอย่างนั้น...

“จ้ะ  จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”  มิกิบอกคนในสายที่วางหูทันทีที่เธอพูดจบราวไม่อยากรบกวนกัน  เธอนั่งเม้มปากอยู่คนเดียวก่อนจะกระพริบตากับมือที่ยื่นมาให้  เงยหน้ามองหล่อนอย่างเป็นคำถาม

“ลุกขึ้นมาเถอะ  มีหลายคนรอเธออยู่นะ” 

เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า  การไปทำงานทั้งที่กำลังสนุกอยู่ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหรือฝืนใจมากเกินไป  รอยยิ้มใสๆจึงบังเกิดขึ้นมาขณะยอมรับมือที่ยื่นมาให้  หากเธอก็คิดผิดไปแล้วที่จะได้รับอารมณ์ซึ้งๆจริงโดยไม่มีการพลิกล็อคจากอีกคน 

คริสตินกระชากแขนเธออย่างแรงและปล่อยมือออกอย่างรวดเร็วจนเธอล้มคว้ำไปหน้าคะมำกับปุยหิมะ  ให้โวยวายตามหลังหล่อนที่วิ่งหนีไปก่อน  เผลอนิดเดียวก็ไปยืนรอเธออยู่ที่ทางขึ้นกระเช้าแล้ว  เร็วชะมัดเลย..

มิกิยันตัวเองขึ้นมาจากผืนหิมะนุ่มๆ เธอลุกขึ้นมายืนก่อนจะเดินตามคนขี้แกล้งนั้นไป  หญิงสาวถอนหายใจส่ายหน้าปลงๆ

จีบผู้หญิงด้วยกัน  มันไม่ง่ายเลยจริงๆ...

............................................

ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสมองเหม่อ  เธอหันหน้าเข้าหน้าต่างข้างรถตู้ที่กำลังนั่งไปยังสนามบิน  เธอกำลังจะเดินทางกลับโตเกียว  เตรียมทำงานในวันพรุ่งนี้ต่อ  ถึงยังไม่อยากกลับ  ยังสนุกอยู่แต่เธอไม่มีสิทธิ์นั้น  หน้าที่ของเธอมี..

อยากหนีงานอีกเหมือนที่เคยทำประจำ  แต่ฉันคง....

เธอยังขยันขนาดนั้นนี่นะ..ยัยเพี้ยน..

“คริส..  ฉันตัดสินใจแล้วนะ” 

คริสตินกระพริบตา  หันกลับมามองคนที่นั่งเอาหัวซบบ่าอยู่มาตั้งนาน  สบตาคนหน้าเหมือนกันที่อ้อนเธอยิ่งกว่าเด็กสิบขวบ  ก็เลิกคิ้วมองเขาแปลกใจ  “ตัดสินใจ.?  เรื่องอะไร.?”

“ออดิชั่น”

คำตอบสั้นๆ พาให้มองเขาตาโตตกใจ  หันสายตาไปมองใครบางคนที่มองมาพอดี  รีเบคก้ายิ้มยืนยันคำพูดนั้นอีกคน  คราวนี้ตัวเองเลยยิ้มกว้าง  คว้าใบหน้าน้องแฝดมาจูบปากไปหนึ่งจ๊วบ  ไม่ได้อายคนมองเลยสักนิด 

แต่นี่มันก็แค่การแสดงออกถึงความรักของเธอที่มีแต่ฝาแฝดเท่านั้น  แล้วหล่อนก็เห็นมาบ่อยแล้วล่ะ  แต่ไม่คิดเหรอว่า  คนขับรถจะมองยังไง.?

ก็คนที่บ้านฉันเอง  ลองคิดบ้าๆดูสิ!

“แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะ  ฉันต้องไปเป็นเพื่อนไหม.?”  ถามดีใจมากจนออกนอกหน้า  คนตรงหน้าเลยไม่วายจะประหม่าแม้ว่าจะตัดสินใจแล้ว  ร้อนถึงอีกคนที่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วย..อย่างเต็มใจ..

“เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ทางค่ายบอกแบบนั้น  แต่มันติดอยู่นิดนึง”  รีเบคก้าอ้ำอึ้ง   มองคนฟังอย่างชั่งใจ  และเป็นไปตามคาด  คนหัวไวกลอกตาใส่อย่างรู้ทัน

“เธอบอกมาเลยดีกว่าว่าวันไหน  เธอมีตารางงานของฉันอยู่ในมือแล้วนี่  รีรออะไรอยู่ล่ะ”  คริสตินวีนอย่างรู้ตัว  เธอไม่มีทางหนีพ้นหากผู้คนนี้อยากให้ทำอะไร  และก็ไม่ได้ทำเพื่อใครคนอื่น  น้องตัวเองแท้ๆ  ปัญหาก็มีเพียงแค่เธอต้องทำงานเพิ่ม  ลดเวลาส่วนตัวลงเท่านั้นเอง

ดีสิ  ยุ่งๆเข้าไว้จะได้ลืม..

เจอกันน้อยๆเข้าไว้เดี๋ยวก็หายไปเอง  ความรู้สึกแบบนั้น.. 

โอ้..ฉันกำลังนึกถึงเรื่องอะไรอยู่..

“ทุกวันหลังจากทำงานอื่นเสร็จแล้ว  เธอต้องไปซ้อมกับเค้า”  ผู้จัดการสาวเอ่ยฉะฉานเมื่อเข้าสู่โหมดทำงาน  เห็นคนฟังอ้าปากจะแย้งเธอรีบชี้แจงต่อ 

“อันที่จริง  มันก็ไม่ได้หนักขนาดนั้น  เพราะซีรีย์ที่เธอเล่น  มันไม่ได้ถ่ายทุกวัน   แค่มันจำเป็นต้องซ้อมบทบู๊ด้วย  เลยดูหนักไปนิด  แต่ไม่เป็นไร  มันเป็นแค่ช่วงแรกๆเท่านั้นแหละ  พวกเธอหัวไวกันอยู่แล้วนี่..”

“แต่ฉันไม่ได้ร้องเพลงเก่งเหมือนอิงกริดนะ  ถึงจะเสียงคล้ายกัน”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง  เพราะนักร้องนำไม่ใช่พวกเธอ”

คริสตินชะงัก  หันมองหน้าแฝดน้องอย่างไม่เข้าใจ  เธอแปลกใจที่อิงกริดประหลาดกลับมา  และก็รู้สึกว่า  ชักจะได้กลิ่นไม่ดี  เริ่มกลัวสองคนนี้แล้วสิ..

“เฮ้..  มีอะไรที่ฉันควรรู้ไหม.?”  ถามไปพร้อมใจสั่นหวั่นใจแปลก  และพอคนใกล้ตัวขยับเข้ามากระซิบที่ข้างหู   เธอก็แทบอยากจะเอาหัวโขกกระจกข้างรถตายไปเสียเลย

ใจคอเธอจะตามฉันไปทุกที่เลยใช่..ฮิเมะจัง..     





........................................


มาอีกแล้วๆ  ลุ้นกันไปถึงไหนแล้วคะ สำหรับเรื่องนี้  อิอิ

ยังมีให้ลุ้นในหน้าจอถึงตอนที่ 20 นะคะ  หลังจากนั้นก็ต้องต่อในหนังสือล่ะ

แล้วก็..  หนังสือเปิดให้จองพรุ่งนี้เป็นต้นไปนะคะ  แล้วจะแจ้งรายละเอียดอีกทีค่ะ  ขอบคุณมากค่ะ   :45:



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.