Dream ฝันค้างบนทางรัก Yuri
บทที่ ๒๖ : หวานนัก....มักหน่ายในภายหลัง
“มณีจันทร์เจ้าบังอาจแย่งรักข้า ข้าจะติดตามเจ้าไปทั่วหล้าทุกชาติทุกภพ...แม้ชีวาข้าจะหาไม่!!!”
เสียงกร้าวอันทรงพลังอำนาจของบุรุษเพศผู้เกรียงไกรทำให้นงนภัสสะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมา หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบๆห้องแต่ไม่พบสิ่งผิดปรกติ ในใจของหญิงสาวนึกประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก....
ขณะที่หญิงสาวกำลังหวาดหวั่นอยู่นั้น เสียงเพลงจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำลายความเงียบ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหวานทันที เมื่อชื่อของฐิติณัชชาโชว์หราอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
“สวัสดีจ๊ะ ตื่นแต่เช้าจังนะคะวันนี้” นงนภัสเอ่ยคำทักทายเมื่อดูที่หน้าจอแล้วรู้ว่าปลายสาย คือ คนรักของเธอ
“ก็ฟางคิดถึงพี่ฟ้านี่คะ” ปลายสายตอบด้วยน้ำเสียงเว้าวอน
“พี่ก็คิดถึงฟางเหมือนกันค่ะ” นงนภัสพูดพร้อมส่งยิ้มเอียงอายให้โทรศัพท์มือถือ ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อด้วยความขัดเขิน
“เมื่อไหร่พี่ฟ้าจะกลับมาสักทีคะ” คนตัวสูงตัดพ้อมาตามสาย
“สักพักค่ะ คุณพ่อของพี่เพิ่งกลับมาอยู่บ้านพี่อยากอยู่กับคุณพ่อก่อน ฟางไม่โกรธพี่นะคะ” นงนภัสเกิดความรู้สึกอึดอัด ใช่ว่าเธอจะไม่อยากอยู่กับคนรัก แต่ในเวลานี้การได้อยู่กับบิดา คือ สิ่งที่เธอโหยหามาตลอดชีวิต
“ฟางไม่โกรธพี่ฟ้าหรอกค่ะ พี่ฟ้าอยากอยู่แต่กับครอบครัวแล้วไม่อยากออยู่กับฟางบ้างเหรอคะ”
“อยากสิคะ แหม...แฟนทั้งคน แต่หวานนักมักหน่ายในภายหลังนะสิคะ”
“อะไร หน่ายๆนะคะ ฟางไม่เข้าใจ”
“พี่หมายถึงถ้าเราเจอกันบ่อยๆ ไม่ช้าฟางก็จะเบื่อพี่เสียก่อนอย่างไรล่ะคะ”
“ฟางไม่มีวันเบื่อพี่ฟ้าหรอกค่ะ จริงๆนะคะ”
“พี่เชื่อค่า และพี่ก็จะไม่มีวันเบื่อฟางเหมือนกันค่ะ ว่าแต่ฟางอยู่ไหนคะเนี่ย ทำไมเสียงรถรามันดังจังเลยคะ”
“ถ้าฟางบอกว่าตอนนี้ฟางอยู่หน้าบ้านพี่ฟ้า พี่จะเชื่อหรือเปล่าคะ”
“เชื่อสิคะ หืม...เมื่อกี้ฟางว่าฟางอยู่ที่ไหนนะคะ” นงนภัสถามด้วยความไม่แน่ใจว่าตอนนี้คนรักอยู่ที่ไหนกันแน่
“อยู่หน้าบ้านพี่ฟ้าค่ะ”
“อะไรนะ!!”
นงนภัสรีบลุกจากเตียงนอน แล้ววิ่งไปที่หน้าต่างเพื่อดูว่าฐิติณัชชามาอยู่ที่หน้าบ้านเธอจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่พบกลับมีเพียงความว่างเปล่า ไม่มีรถยนต์คันไหนจอดอยู่หน้าบ้านเธอสักคัน
“ฟางแกล้งหลอกพี่ทำไมคะเนี่ย...” สาวรุ่นพี่ตัดพ้อด้วยน้ำเสียงสั่น ความผิดหวังประเดประดังเข้ามาจนน้ำตารินไหล
“เท่านี้ก่อนนะคะพี่ฟ้า ฟางต้องไปทำธุระค่ะ” พูดจบฐิติณัชชาก็ชิงวางสายยุติการสนทนาไปทันที
เมื่อฐิติณัชชาวางสายไปแล้ว นงนภัสรีบกลับมานั่งหน้าตาบูดบึ้งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งด้วยความผิดหวัง ไม่คิดว่าสาวน้อยหน้าตาใสซื่ออย่างคนรักของเธอไม่น่าจะมาแกล้งหลอกเธอได้อย่างนี้
“ก๊อก ก็อก ก๊อก ยายฟ้าตื่นหรือยังลูก” เสียงของมารดาดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง ทำให้หญิงสาวรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลรินอาบใบหน้า
“ตื่นแล้วค่ะคุณแม่ รอเดี๋ยวเดียวนะคะ”
หญิงสาวรีบสำรวจความเรียบร้อยของการแต่งกายของตนเอง หลังจากนั้นจึงเดินไปเปิดประตูให้มารดา แต่คนที่รอเธออยู่หน้าประตูห้องหาใช่มารดาไม่ !
“ฟางมาได้อย่างไรคะ พี่คิดว่าฟางแกล้งหลอกพี่ซะอีก” ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นระคนดีใจ ทั้งที่ภายในใจนอยากจะคว้าร่างสูงของคนรักมากอดไว้แต่ทำได้เพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้นเพราะเกรงบิดามารดาจะเห็นเข้า
“ฟางเคยโกหกพี่ฟ้าด้วยเหรอคะ” ฐิติณัชชาพูดพร้อมส่งยิ้มหวานละลายใจให้แฟนสาวรุ่นพี่
“แล้วนี่ฟางมาบ้านพี่ถูกได้อย่างไรคะ หรือว่าเคยมาหาใครแถวนี้” ประโยคหลังน้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้น เพราะจำได้ว่าไม่เคยบอกที่ตั้งของบ้านให้คนรักได้รู้มาก่อนเลยสักครั้ง
“ฟางไม่เคยมาแถวนี้หรอกค่ะ แต่ที่มาถูกเพราะมีคนพามา”
“ใครเหรอคะ พี่รู้จักหรือเปล่า” ถามด้วยน้ำเสียงเข้ม เพราะระแวงว่าคนรักจะแอบมีใครนอกจากเธอ
“ฉันเป็นคนพาน้องเขามาเองยายฟ้า ทำไมต้องทำเสียงดุขนาดนั้นเนี่ย” เกศราโผล่ร่างมาจากด้านหลังของฐิติณัชชา หญิงสาวพยายามกลั้นยิ้มอย่างเต็มที่เพื่อได้ยินเสียงดุๆของเพื่อนสนิท
“ยัยเกด!”
“ก็ฉันน่ะสิ แกนึกว่าใคร”
“เปล่า เพียงแต่วันหยุดทุกทีแกมักจะไปขลุกอยู่กับพี่อัยย์ ไม่นึกว่าแกจะว่างมาหาฉันถึงที่นี่ได้”
“พี่อัยย์เขาไปเที่ยวน้ำตกกับกลุ่มเพื่อนของเขา ฉันก็เลยพาแฟนแกมาหาแกนี่แหล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นแกพาฟางไปรอที่ห้องรับแขกก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอตัวอาบน้ำก่อน” นงนภัสพูดพร้อมจะปิดประตูแต่มือของฐิติณัชชามาดึงเอาไว้เสียก่อน
“ให้ฟางอาบให้ไหมคะ” น้ำเสียงราบเรียบแต่รอยยิ้มที่ส่งมาให้ชั่งหวานยิ่งนัก ส่งผลให้นงนภัสได้แต่ก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย
“ต๊าย แรงนะเนี่ยคุณน้อง ไปรอที่ห้องรับแขกกับพี่ดีกว่าค่ะ ไม่ต้องช่วยยายฟ้าเขาอาบหรอกค่ะ เดี๋ยวจะมัวแต่ทำอย่างอื่น น้ำเนิ้มไม่ได้อาบกันพอดี” เกศราพูดพร้อมดึงมือฐิติณัชชาไปยังห้องรับแขก
“อาบไวๆนะคะ” ยังไม่วายร้องบอกและส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ นงนภัสรีบปิดประตูห้องทันที เพราะถ้าช้ากว่านั้น ไม่แน่ว่าเธออาจจะเป็นฝ่ายดึงร่างสูงแต่ทว่าบอบบางของสาวรุ่นน้องเข้ามาในห้องเสียเองหรือไม่
“ทานน้ำทานขนมก่อนนะลูก รายนั้นอาบน้ำแต่ละทีช้ามากๆ” มารดาของนงนภัส นำน้ำส้มคั้น และขนมหลากหลายชนิดมาเลี้ยงเพื่อนของลูกสาวอย่างเต็มที่
“ขอบคุณค่ะคุณแม่ เยอะขนาดนี้หนูกับพี่เกดคงขนาดไม่หมดหรอกค่ะ” ฐิติณัชชากระพุ่มมือไหว้มารดาของคนรัก กิริมารยาทน่ารัก คำพูดจาไพเราะอ่อนหวาน ทำให้นางมองเธอด้วยความเอ็นดูยิ่งนัก
“ของต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้ทั้งที น้อยกว่านี้ได้อย่างไรจริงไหมคะคุณแม่” เกศราพูดขึ้นมาหน้าตาเฉยยังผลให้ใบหน้าของสาวรุ่นน้องแดงก่ำด้วยความเขินอายและกึ่งๆไม่พอใจอยู่ในที
“หนูเกดพูดว่าอะไรนะ แม่ได้ยินไม่ค่อยถนัด”
“อ๋อ หนูบอกว่าของต้อนรับเพื่อนของลูกทั้งที น้อยกว่านี้ได้อย่างไร จริงไหมคะคุณแม่”
“จริงจ๊ะลูก ทานเยอะๆนะหนูฟาง,หนูเกดไม่ต้องเกรงใจ ประเดี๋ยวแม่ขอตัวไปเตรียมอาหารเช้าก่อน อย่าเพิ่งรีบกลับล่ะ อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะลูก” พูดจบนางก็เดินไปยังห้องครัว ทิ้งให้เกศราและฐิติณัชชานั่งรอบุตรสาวอยู่ในห้องรับแขกนั้น
ฐิติณัชชาลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่เพื่อนสนิทของคนรักสามารถแก้คำพูดได้อย่างหวุดหวิด...
..............................................................................