web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 160
Total: 160

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ ๒๘ : ครอบครัวของพ่อ  (อ่าน 1510 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทอถักอักษรา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 73
บทที่ ๒๘ : ครอบครัวของพ่อ
« เมื่อ: 11 เมษายน 2014 เวลา 17:37:19 »
Dream ฝันค้างบนทางรัก Yuri
                  บทที่  ๒๘  : ครอบครัวของพ่อ

นงนภัสสวมชุดเดรสแขนกุดผ้าชีฟอง ปักลายหัวใจที่ตัวเสื้อและชายกระโปรง เพิ่มรายละเอียดด้วยการตีเกล็ดเย็บเป็นชั้นๆ กระโปงจับจีบทวิต มีซิปยาวด้านหลังสีชมพูหวาน ผัดแป้งเด็กบนใบหน้างามแล้วหวีผมดำขลับเงางามที่ยาวสยายถึงกลางหลังอย่างเบามือ ก่อนจะเดินลงมาหาฐิติณัชชาและเกศราซึ่งรออยู่ในห้องรับแขก
“คุยอะไรกันอยู่เหรอจ๊ะสองสาว สีหน้าเคร่งเครียดกันจังเลย” นงนภัสพูดพร้อมกับนั่งลงข้างๆคนรักสาวรุ่นน้อง
“เปล่าจ๊ะไม่มีอะไร ใช่ไหมจ๊ะน้องฟาง” เกศราตอบคำถามเพื่อนแล้วหันมาถามฐิติณัชชาเพื่อหาแนวร่วม
“ชะใช่ค่ะ ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ” สาวรุ่นน้องตอบต่างตะกุกตะกัก จะตอบตามความจริงก็ไม่สามารถทำได้เมื่อหันไปเห็นสายตาขอความเห็นใจของเกศรา
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้วจ๊ะ ไปทานข้าวกันดีกว่าเนอะ ป่านนี้คุณนายนภาวรรณทำกับข้าวให้พวกเราทานจนเต็มโต๊ะไปหมดแล้วมั้ง” พูดจบนงนภัสก็เดินนำหน้าเพื่อนสนิทและคนรักสาวไปยังห้องรับประทานอาหารซึ่งอยู่ติดกับห้องครัว
สามสาวเดินไปยังห้องรับประทานอาหารซึ่งบัดนี้โต๊ะรับประทานอาหารตัวใหญ่กลางห้อง พรั่งพร้อมไปด้วยอาหารไทยนานาชนิด บางชนิดแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามน่ารับประทานทั้งสิ้นถูกจัดวางไว้บนถ้วยชามลายเบญจรงค์สวยงาม ส่งกลิ่นหอมฟุ้งชี้ชวนให้รับประทานยิ่งนัก นงนภัสกับเกศรานั่งลงตรงข้ามกันที่เก้าอี้มีพนักบุนวมนุ่มสบาย  ฐิติณัชชาจึงเดินนำไปนั่งยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้างๆนงนภัส
“ตักข้าวได้แล้วยายเดือน เด็กๆคงจะหิวกันแล้ว” มารดาของนงนภัสบอกกับหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง ซึ่งยืนอยู่ทางด้านหลังของโต๊ะ
นาฏอนงค์ค่อยๆคดข้าวหอมมะลิในโถเบญจรงค์ที่ควันกำลังกรุ่นส่งกลิ่นหอมฉุยใส่จานให้หญิงวัยกลางคน ตามมาด้วยนงภัส เกศราจนถึงฐิติณัชชา ในขณะนาฏอนงค์กำลังคดข้าวใส่จานให้ หญิงสาวสบตาของนาฏอนงค์แล้วรู้สึกหวาดหวั่นยิ่งนัก แววตาเช่นนี้คลับคล้ายว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ดวงตาคมกริบยามสบตาทำให้ฐิติณัชชาได้แต่นั่งนิ่งด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
“ทานข้าวกันก่อนสิลูก” หญิงวัยกลางคนพูดกับนาฏอนงค์ด้วยสีหน้าและแววตาแสดงถึงความรักใคร่เอ็นดูเกินนายกับบ่าว ทำให้ฐิติณัชชามองตามด้วยความประหลาดใจ
“เดือนไปทานที่เรือนเล็กก็ได้ค่ะคุณป้า”
“ทานด้วยกันนี่แหละ จะไปทานที่นู่นให้ลำบากทำไม อาหารที่นี่ออกถมไป”
“แต่...”
“คุณแม่อย่าบังคับพี่เดือนสิคะ พี่เดือนอยากกลับไปทานที่เรือนเล็กก็ตามใจพี่เขาสิคะคุณแม่ ไปทานที่เรือนเล็กก็ได้ค่ะพี่เดือน  เราทานข้าวกันดีกว่าค่ะ ฟ้าหิวจะแย่แล้วนะคะ” นงนภัสพูดด้วยน้ำเสียงหวาน ในขณะที่นาฏอนงค์ออกไปห้องอาหารทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
   “จ๊ะๆ วันนี้มีแต่ของโปรดของลูกทั้งนั้นเลยนะ ทานเยอะๆนะจ๊ะพักนี้หนูดูซูบๆไปนะลูก ทานข้าวกันเถอะจ๊ะ หนูเกด หนูฟาง” มารดาพูดกับบุตรสาวเบาๆพร้อมกับตักแกงหมูเทโพใส่จานให้ พร้อมชี้ชวนให้สองสาวที่เหลือรับประทานอาหารด้วยรอยยิ้มแสดงไมตรี
   “ขอบคุณค่ะ แล้วนี่คุณพ่อไม่อยู่เหรอคะ” น้ำเสียงของนงนภัสอ่อนโยนลงเมื่อเอ่ยถึงบิดา
   “ยังจ๊ะ พอดีมีเคสหนักหลายเคส กว่าจะกลับก็คงค่ำๆจ๊ะลูก”
“อ๋อค่ะ ลองทานมัสมั่นไก่ดูนะคะฟาง อร่อยและไม่เผ็ดด้วยค่ะ” นงนภัสพูดพร้อมตักมัสมั่นไก่สีเหลืองสดน่ารับประทานใส่จานให้คนรัก
“ขอบคุณนะคะ” กล่าวขอบคุณแล้วตักอาหารคำนั้นที่นงภัสตักให้มารับประทาน “อร่อยจริงๆด้วยค่ะ”
“หนูฟาง เป็นเพื่อนกับยายฟ้ามานานหรือยังลูก แม่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย” มารดาของนงนภัสหันมาฐิติณัชชาซึ่งสวมชุดเดรสปักลูกไม้ ปกเชิ้ตมีกระดุมหน้า ขอบกระโปรงปักเป็นหยักๆ ปกเสื้อประดับคริสตัลแวววาว เอวยางยืดพร้อมซับในทั้งตัวสีเดียวกับท้องนภาอย่างนึกเอ็นดู แต่กลับทำให้หญิงสาวแทบสำลักอาหารออกมาเมื่อได้ยินคำถามนั้น
“ฟางเป็นน้องรหัสของฟ้าค่ะคุณแม่” บุตรสาวตอบคำถามของมารดาแทนคนรักซึ่งทำหน้าตาเหรอหรา ไม่รู้จะตอบคำถามว่าอย่างไร
“เหรอจ๊ะ แหม...น่ารักจริงเชียว” คำชมจากมารดาของคนรักทำให้ฐิติณัชชาได้แต่ยิ้มขวยเขิน
“คุณแม่ชมแต่น้องฟาง เกดชักจะน้อยใจเสียแล้วสิคะ” เกศราพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดอย่างไม่จริงจังนัก
“น้องเขาเพิ่งมาครั้งแรก แม่ก็อยากจะเอาใจน้องเขาเอาไว้ ส่วนเราจะเหรอมาบ่อยจนแม่รับเป็นลูกสาวอีกคนแล้ว จะน้อยใจอะไรอีกล่ะลูก ลองทานแกงเผ็ดฟักทองดูนะแม่เพิ่งลองทำดูไม่รู้จะใช้ได้ไหม...”
“อร่อยจังเลยค่ะ สงสัยเกดจะต้องมาฝากท้องกับคุณแม่บ่อยๆเสียแล้วสิคะ”
“ยินดีจ๊ะ มาทุกวันก็ยังได้เลย พาหนูฟางมาด้วยนะ บ้านนี้คนน้อยหนูกับหนูฟางมาบ่อยๆ ยายฟ้าจะได้ไม่เหงา”
“ขอบคุณค่ะ อย่างนี้เกดต้องพาน้องฟางมาที่นี่บ่อยๆเสียแล้วสิ จริงไหมน้องฟาง”
“จริงค่ะ”
อาหารมื้อเช้าช่างอวลไปด้วยความสุข ใบหน้าทุกคนต่างฉาบไปด้วยรอยยิ้ม นงนภัสรู้สึกดีใจยิ่งนักที่ได้รับประทานอาหารกับหญิงสาวอันเป็นที่รัก ในขณะที่ฐิติณัชชาก็รับประทานด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุขกับอาหารเลิศรสแต่นั่นไม่เท่ากับการที่เธอได้มารับประทานพร้อมกับคนรักในบ้านของหญิงสาวเช่นนี้
หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว  นงนภัสก็พาฐิติณัชชาและเกศราเดินชมรอบๆบ้านของเธอ ซึ่งตัวบ้านรายรอบด้วยสวนดอกไม้หลากหลายสีสัน สาวรุ่นน้องเดินชมอย่างเพลิดเพลินใจแต่แล้วสายตาของเธอก็สะดุดอยู่ที่บ้านหลังเล็กๆทาสีเขียวไข่กาหลังหนึ่งซึ่งปลูกอยู่ริมแม่น้ำกว้างใหญ่ ซึ่งเวลานี้แสงแดดได้ส่องกระทบจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับราวกับใครนำกากเพชรไปโปรยปรายเอาไว้
“บ้านใครเหรอคะพี่ฟ้า สวยจังเลยค่ะ” ฐิติณัชชาถามด้วยความประหลาดใจ
“บ้านพี่เดือนจ๊ะ เราไปนั่งที่ศาลาริมน้ำกันไหม” นงนภัสตอบด้วยน้ำเสียงใสก่อนชี้ให้ดูศาลาริมน้ำ สองสาวที่เหลือพยักหน้ารับ นงนภัสจึงเดินนำเพื่อนสนิทและคนรักเพื่อไปนั่งเล่นยังศาลาริมน้ำ
ในขณะที่หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของท้องน้ำสีเงินยวง ได้ปรากฏร่างของบุรุษผู้องอาจที่เปลือยท่อนบนอวดมัดกล้าม สังวาลสายที่คล้องสะพายอยู่นั้นประดับด้วยทับทิมที่ทองแสงระยับ พาหุรัดรัดต้นแขน และทองพระกรวับวาวเปล่งประกายด้วยทองวิจิตรประดับพลอยสีเดียวกัน มงกุฎไม่สูงนักแต่ประดับประดาที่เพชรพลอยอร่ามตา ผ้านุ่งใส่เหมือนหยักรั้ง บั้นเอวมัดทบเป็นปมปล่อยชาย รองเท้าสายด้วยหวายอย่างดีและประณีตกำลังลอบมองหญิงสาวหนึ่งในนั้นด้วยความรักละอาลัยยิ่งภายในบ้านหลังน้อยสีเขียวไก่กาหลังนั้น ประจวบเหมาะกับที่ฐิติณัชชาละสายตาจากสายน้ำมองไปยังบ้านหลังนั้นพอดิบพอดี
ชายที่แต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายแบบโบราณแลดูสูงศักดิ์กำลังยืนอยู่ในบ้านของนาฏอนงค์ คือ สิ่งที่ทำให้หญิงสาวตัดสินใจวิ่งไปยังบ้านหลังนั้นทันทีด้วยเกรงว่าชายผู้นั้นจะทำอันตรายแก่ผู้เป็นเจ้าของบ้าน
“ฟางจะไปไหน!!!” สองสาวที่เหลือตะโกนถามพร้อมกับวิ่งตามไปทันที
เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ฐิติณัชชาพยายามมองหาชายคนนั้นแต่ไม่พบแม้แต่เงา
“หาใครเหรอคะ” เสียงของนาฏอนงค์ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังทำให้หญิงสาวรีบหันหลังกลับไปมองด้วยความตกใจ
“พี่เดือน!!”
“ตกลงมองหาใครอยู่เหรอคะ”
“นั่นสิคะ จู่ๆน้องฟางมาที่นี่ทำไมคะ มีอะไรหรือเปล่า”
“เมื่อกี้ฟางเห็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในบ้านพี่เดือนค่ะ เลยกลัวว่าจะเป็นโจรผู้ร้ายแต่พอมาถึงก็ไม่พบใครแล้วค่ะ”
“ไม่มีนี่คะ พี่อยู่คนเดียวตลอดเวลาเลยนะคะ ถ้ามีใครบุกรุกเข้ามาจริงพี่ต้องเห็นเป็นคนแรกสิคะ” นาฏอนงค์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบแววตาเจือไปด้วยความสงสัย
“ฟางตาฝาดหรือเปล่าคะ จะมีโจรที่ไหนเข้ามาได้กลางวันแสกๆอย่างนี้คนออกจะพลุกพล่าน” นงนภัสบอกกับคนรักเบาๆ
“สงสัยฟางจะตาฝาดจริงๆ ขอโทษที่รบกวนนะคะพี่เดือน”
“ฟ้าขอโทษแทนน้องฟางด้วยนะคะพี่”
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ เรื่องเล็กน้อย” นาฏอนงค์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ดวงตาคมกล้าทอดมองไปยังฐิติณัชชาด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกเราขอตัวก่อนนะคะ”
“ไปเถอะจ๊ะ”
ออกจากบ้านของนาฏอนงค์แล้ว หญิงสาวทั้งสาวก็กลับมานั่งเล่นกันที่ห้องรับแขกภายในบ้านของนงนภัส ในสมองของฐิติณัชชาครุ่นคิดถึงแต่ชายในชุดโบราณคนนั้น เขาเป็นใครถึงได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยอย่างนั้นหรือว่าเธอจะตาฝาดไปเอง
นงนภัสเองก็ครุ่นคิดมิต่างกันนัก ใช่ว่าเธอจะไม่เชื่อคำพูดของคนรัก  ตรงกันข้ามเธอเชื่อว่าคนรักของเธอเห็นชายคนนั้นจริง เพราะตัวของเธอเองก็พบเจอเหตุการณ์ประหลาดมิต่างกันนัก ไม่ว่าจะเป็นภาพหญิงสาวใบหน้าคล้ายคนรักของเธอที่อาบแสงจันทร์และธารใสกับหญิงสาวหลายนางที่เธอไม่รู้จัก ภายในน้ำตกของรีสอร์ทที่เธอและนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ไปพักเพื่อทำกิจกรรมรับน้องใหม่ หรือจะเป็นภาพหญิงสาวสองคนในชุดไทยโบราณกำลังพรอดรักกันในปราสาทหินโดยที่ใบหน้าของหญิงสาวทั้งสองนางละม้ายเหมือนเธอกับคนรักมิมีผิด สิ่งที่พวกเธอเห็นแต่คนอื่นมองไม่เห็น
“ยายฟ้า , น้องฟาง เป็นอะไรกันไปหมดนั่งเงียบเสียจริง” เสียงของเกศราดังขึ้นทำลายความเงียบ
“เปล่าค่ะ/เปล่าจ๊ะ” คู่รักสาวตอบพร้อมกันทำให้เกสราหัวเราะออกมาเบาๆ
“เอ่อ...พี่ฟ้าคะ ฟางขอตัวกลับก่อนนะคะ ออกจากบ้านมานานแล้วเดี๋ยวคนที่บ้านจะเป็นห่วง กลับกันเถอะค่ะพี่เกด”
“จ๊ะ กลับก็ดีเหมือนกัน รบกวนคุณแม่กับยายฟ้ามานานแล้ว”
สายๆของวันนั้นหลังลามารดาของนงนภัสแล้ว ฐิติณัชชาก็ขับรถออกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมกับเกศราเพื่อนสนิทของคนรัก
“พี่เกดคะ พี่เดือนเป็นใครเหรอคะ ท่าทางไม่ใช่แค่คนรับใช้ธรรมดา”
“พี่เดือนเป็นลูกสาวน้านวลละออซึ่งเป็นน้องสาวของคุณแม่นภาวรรณจ๊ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่เดือนก็มีศักดิ์เป็นพี่สาวของพี่ฟ้าน่ะสิคะ”
“ใช่จ๊ะ ฟางจ๊ะช่วยไปส่งพี่ที่หอพักได้ไหมคะ”
“ได้สิคะ” ฐิติณัชชาพูดพร้อมจอดรถที่หน้าหอพักของเกศรา
“ขอบคุณนะคะ”
เกศราลงจากรถไปแล้ว ฐิติณัชชาก็ขับรถออกมาย่านนั้น ในใจของหญิงสาวครุ่นถึงแต่แววตาของนาฏอนงค์ แววตาที่แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่หญิงสาวจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเพียงแต่นึกไม่ออกเท่นั้นว่าเคยเห็นที่ใด  หญิงสาวขับรถมาจอดที่โรงรถภายในบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ก็มิอาจทราบได้ จนกระทั่งเสียงของ ‘ยาเอะ’ ดังขึ้นข้างๆประตูประตูรถทำให้หญิงสาวได้สติลงมาจากรถ
“คุณหนูเจ้าคะ คุณท่านมารอคุณหนูตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ” ‘ยาเอะ’ พี่เลี้ยงวัยกลางคนเดินมาบอกด้วยสีหน้าร้อนใจ
“อย่างนั้นเหรอคะ” หญิงสาวรับคำก่อนทำท่าจะเดินเข้าในตัวบ้าน
“คุณหนูคะ คุณท่านรออยู่ที่เรือนน้ำชาค่ะ”
“ค่ะ” ฐิติณัชชารับคำก่อนเดินไปที่สวนดอกไม้สไตล์ญี่ปุ่นของบ้านเพื่อไปยังเรือนน้ำชา
“อ้าวยายหนู มาแล้วเหรอลูก” นายอรรณพเอ่ยถามเมื่อเห็นบุตรสาวเดินตรงมา
“ค่ะ เห็น ‘ยาเอะ’ บอกว่าคุณพ่อไปสัมมนามาเหรอคะ”
“ใช่จ๊ะ”
“แล้วคุณพ่อมีอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ”
“ไว้ก่อนก็ได้ลูก แล้วนี่หนูทานอะไรมาหรือยัง ทานขนมทานดื่มน้ำชารองท้องก่อนนะลูก” ฝ่ายบิดากล่าวก่อนจะรินน้ำชาใสถ้วยให้บุตรสาว
“หนูทานข้าวมาแล้วค่ะ แต่ดื่มน้ำชาได้ค่ะ” บุตรสาวพูดพร้อมยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ
“ลูกฟาง...”
“คะ มีอะไรเหรอคะคุณพ่อ”
“เปล่าจ๊ะ ไม่มีอะไร ดื่มน้ำชาต่อเถอะลูก ลองทานขนมนี้ดูสิลูก คุณอาส่งมาให้จากญี่ปุ่น” นายอรรณพพูดพร้อมเลื่อนจานใส่ขนมหน้าตาน่ารับประทานมาตรงหน้าบุตรสาว
“คุณพ่อมีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ หนูยินดีรับฟัง”  ฐิติณัชชาพูดพร้อมวางถ้วยน้ำลง สีหน้าของหญิงสาวนั่งเรียบเตรียมตัวรับฟ้ง
“พ่อไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้ลูกรับฟัง คือ หนูรู้ใช่ไหมว่าพ่อกับแม่ของลูกต้องแต่งงานทั้งที่ไม่ได้รักกัน” นายอรรณพพูดด้วยสีหน้าปั้นยาก เขากลัวยิ่งนักว่าบุตรสาวจะไม่เข้าใจ
“ค่ะหนูทราบ คุณแม่กับคุณอาเล่าเรื่องนี้ให้หนูฟังแล้ว”
“อีกอย่างหนึ่งที่พ่อจะบอกลูกก็คือ ก่อนที่พ่อกับนานาโกะจะแต่งงานกัน เราต่างก็มีคนรักอยู่แล้วด้วยกันทั้งคู่ พ่อเองก็มีคนรักเช่นกัน”
“มันคือเหตุผลที่คุณพ่อมาหนูมาที่นี่ใช่ไหมคะ”
“ใช่จ๊ะ พ่อพาหนูมาอยู่ที่นี่เพราะครอบครัวของพ่ออยู่ที่นี่”
“ครอบครัวของคุณพ่อ ครอบครัวที่ไม่มีหนูอยู่ในนั้นใช่ไหมคะ” ถามบิดาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำใสๆคลั่งคลอในกระบอกตา น้ำตาที่เธอใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะสะกดกลั้นมันไว้ไม่ให้ไหลออกมา
“ครอบครัวของเราต่างหากล่ะลูก ครอบครัวที่มีพ่อ มีภรรยาของพ่อที่พ่ออยากให้หนูเรียกว่าแม่ มีพี่สาว มีหนู ครอบครัวของเรา”
“นายอรรณพกล่าวกับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ฝ่ามือหนาลูบศีรษะเล็กของบุตรสาวอย่างแสนรัก
“ไม่จริงค่ะ ครอบครัวของหนูมีคุณพ่อ คุณแม่ หนูและก็ยายแฟร์ ส่วนคนอื่นไม่ใช่!” บุตรสาวตอบเสียงแข็ง แววตาตัดพ้อ
“พ่อรู้มันทำใจลำบากที่หนูจะยอมรับพวกเขา แต่อย่างไรก็ตามพวกเขา คือ คนที่พ่อรัก เช่นเดียวกับที่พ่อรักหนูและก็หนูแฟร์ พรุ่งนี้พวกเขาทั้งสองจะเข้ามาอยู่ที่บ้านของเรา พ่อหวังว่าลูกจะไม่แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมออกมา หนูทำได้ใช่ไหมลูก”
“แต่พรุ่งนี้เป็นวันเดินของหนูนะคะ ทุกปีเราเคยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสี่คนพ่อแม่ลูก แต่ปีนี้เรามาอยู่ที่นี่แค่สองคน วันเกิดหนูมีเราแค่สองคนได้ไหมคะคุณพ่อ”
“วันเกิดของหนูพ่ออยากให้เราอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว”
“หนูบอกแล้วอย่างไรคะ ว่าสำหรับหนูแล้ว คำว่า ครอบครัวมีแค่สี่คน คือ คุณพ่อ คุณแม่ หนูและก็ยายแฟร์ หนูขอร้องได้ไหมคะต่างคนต่างอยู่ บ้านหลังนี้เราอยู่ด้วยกันแค่หนูกับคุณพ่อ ส่วนพวกเขาก้อยู่บ้านหลังอื่น จะใหญ่โตกว่านี้สักกี่เท่าก็ได้ ขอแค่นี้ได้ไหมคะ”
“พ่อทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกลูก พวกเขาอยู่อย่างไม่ได้รับการยกย่องในฐานะภรรยาและบุตรสาวของพ่อมานานเต็มทีแล้ว ถึงเวลาที่พ่อจะยกย่องเขาอย่างออกหน้าออกตาสักที พ่อหวังว่าลูกจะเข้าใจ”
พูดจบนายอรรณพก็เดินออกไปจากเรือนน้ำชาเหลือเพียงบุตรสาวที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ทำนบน้ำตาที่หญิงสาวพยายามกลั้นเอาไว้พังทลายลงมาอย่างมิอาจกลั้นมันไว้อีกต่อไป
“คุณหนูเจ้าขาอย่าร้องไห้ไปเลยนะคะ คุณท่านก็มีเหตุผลของท่าน” ยาเอะ เดินมานั่งลงข้างๆเจ้านายสาวซึ่งนางรักยิ่งกว่าลูกของนางเอง
“หนูรู้ค่ะ เพียงแต่หนูยังทำใจไม่ได้ที่ครอบครัวของหนู มันไม่เหมือนเดิมและไม่มีวันที่มันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว...”
   “โถ่! คุณหนูของยาเอะ”
   พี่เลี้ยงวัยกลางคนโอบกอดร่างบางของหญิงสาวที่นางเลี้ยงดูมาตั้งแต่อ้อนแต่ออดจนหอบหิ้วกันมาข้ามน้ำข้ามทะเลด้วยความรู้สึกเห็นใจยิ่งนัก
   ฐิติณัชชาซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนอุ่นของพี่เลี้ยงด้วยความรู้สึกเสียใจยิ่งนัก น้ำตาไหลอาบแก้มนวล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นค้นไปครอบครัวของเธอจะมีสมาชิกใหม่มาแทนที่มารดาและน้องสาวฝาแฝดของเธอ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกินกว่าหัวใจของเธอจะรับไหวในเวลานี้...
            ..................................................................












 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.