คนขับรถจำเป็นเดินไปเดินมาอยู่นานก่อนจะหันไปมองโรงแรมหรูที่พาหทัยภัทรมาส่งและได้รับคำสั่งอย่างเคร่งครัดว่าให้รอจนกว่าเจ้าตัวจะออกมา มัทนามองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเซ็งๆจะไม่ให้รู้สึกแบบนี้ได้ยังไงเมื่อเธอรอคนที่เข้าไปนานเกือบจะสามชั่วโมงแต่แล้วมัทนาก็ถึงกับยืนตัวแข็งเมื่อสายตาไปสะดุดกับสาวสวยนางหนึ่งที่กำลังเดินตรงมาทางตัวเอง
“สวย” นี่คือประโยคแรกที่ผุดขึ้นมาในใจพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนในอกที่เพิ่มมากขึ้นแต่มีบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกคุ้นหน้าอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อยและคำเฉลยก็ปรากฏเมื่อหญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาใกล้มากพอที่จะมองเห็นได้ชัด มัทนาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าหญิงสาวที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงคือคนๆเดียวกับคนที่มากับตัวเอง
“มองอยู่ได้เดี๋ยวก็ควักลูกตาเลย”
คนพูดตะคอกออกมาเสียงดังก่อนจะรีบเดินขึ้นรถแต่ก็ไม่ทันเมื่อมีเสียงตะโกนเรียกดังขึ้นมาเสียก่อน หทัยภัทรมองไปยังต้นเสียงด้วยความเบื่อหน่ายเธออุตส่าห์เดินหนีออกมาเงียบๆแต่อีกฝ่ายก็ยังตามมาทันความคิดทุกอย่างหยุดลงก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปคาดโทษให้กับคนที่ทำให้เสียเวลา
“ทำไมรีบกลับล่ะครับ”
ชายหนุ่มหน้าตาดีเอ่ยถามออกมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้คนที่กำลังจะขึ้นรถ
“ฉันไม่อยากกลับไร่ดึกกว่านี้ค่ะมันอันตราย”
“โถ่ คุณหทัยครับที่จริงคุณน่าจะนอนในเมืองซักคืนเผื่อเราจะได้ไปต่อกัน”
“ไม่ดีกว่าค่ะเชิญคุณปลัดตามสบาย”
“ว๊า…น่าเสียดายจังได้คุยกันนิดเดียวเอง”
ปลัดวัลลภทำหน้าเสียดายอย่างที่พูดจริงๆเขารู้ดีว่าหญิงสาวไม่ชอบออกงานแบบนี้แต่ที่ต้องมาเพราะความจำเป็นจริงๆ
“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะดึกแล้วขับรถลำบาก”
เป็นประโยคตัดบทที่ทำให้คนฟังต้องห่อเหี่ยวเพิ่มขึ้นใช่ว่าจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับตัวเองแต่ก็อย่างว่าเสน่ห์ของนายหญิงของไร่หทัยภัทรมีมากเหลือเกินจนใครๆก็ต้องหลงใหลไม่เว้นแม้แต่คนที่เป็นปลัดอย่างเขาปากบอกจะตัดใจแต่พอเห็นตัวเป็นๆทีไรหัวใจมันก็อดที่จะพุ่งเข้าไปหาไม่ได้
“ครับไว้เจอกัน”
ชายหนุ่มยิ้มเศร้าๆก่อนจะเดินคอตกกลับเข้างานไป ทั้งๆรู้ว่าไม่มีหวังแต่พอเจอหน้าก็ดันมีความหวัง…แบบนี้ใช่มั้ยที่เขาเรียกว่าอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม
มัทนาขับรถออกมาจากโรงแรมพร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาเธอจึงขับรถไปช้าๆเพราะไม่ชำนาญเส้นทางสักเท่าไหร่แล้วไหนจะเม็ดฝนที่เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นและลมที่แรงมากซะจนกลัวว่าจะมีกิ่งไม้ตามข้างทางหักลงมาทับรถและในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจมองหาโรงแรมแถวๆข้างทางเพื่อจะได้ใช้นอนในคืนนี้เพราะหากฝืนขับไปต่ออาจเกิดอันตรายได้
“นี่ไม่ใช่ทางกลับไร่นิ”
คนเพิ่งตื่นเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าไม่ใช่เส้นทางกลับไร่
“มัทจะพาคุณหทัยภัทรเข้าโรงแรมก่อนน่ะคะ”
“อะไรนะ!”
น้ำเสียงตกใจทำให้คนฟังสะดุ้งไปด้วยก่อนจะทำหน้าตื่นเมื่อรู้ว่าคนพูดกำลังคิดอะไอยู่
“เปล่านะคะ มัทแค่จะพาคุณไปหลบฝน”
“ใครบอกให้เธอหลบฝนกลับไร่เดี๋ยวนี้”
หทัยภัทรเอ่ยออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มแดงขึ้นเพราะความคิดบางอย่างของตัวเอง
“แต่ฝนตกแรงมากเลยนะคะมัทว่ามันอันตรายเกินไปที่เราจะไปต่อ”
“ฉันจะกลับไร่! นี่คือคำสั่ง”
มัทนามองหน้าคนสั่งผ่านกระจกมองหลังก่อนจะทำเป็นไม่สนใจแล้วขับไปหาโรงแรมต่อตามที่ตัวเองตั้งใจ
“มัทนา!”
หทัยภัทรเอ่ยเรียกชื่อคนที่ขัดคำสั่งตัวเองด้วยความโมโหแต่ดูอีกฝ่ายจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อยนั่นยิ่งทำให้เธอหงุดหงิดเพิ่มขึ้นไปอีก
“ถึงแล้วค่ะ ที่นี่น่าจะโอเค”
คนขับรถมองตัวโรงแรมที่ดูเก่าๆไปหน่อยแต่ก็ไม่น่าจะอันตรายอะไรด้วยความรู้สึกแปลกๆแต่เมื่อไม่มีทางเลือกก็คงต้องทนๆเอาหน่อย
“มาสิคะ”
“ไม่!”
มัทนามองคนดื้ออย่างเหนื่อยใจก่อนจะเดินลงจากรถตรงเข้าไปลากอีกฝ่ายลงมา
“จะทำอะไร!”
หทัยภัทรมองคนที่จู่ๆก็เปิดประตูรถฝั่งที่เธอนั่งด้วยความไม่พอใจก่อนทำท่าจะปิดประตูรถตามเดิมแต่ก็ทำไม่สำเร็จเมื่อคนพามายืนขวางเอาไว้
“ก็พาคุณเข้าโรงแรมไงคะ”
คำพูดที่ชวนให้คิดยิ่งทำให้คนในรถไม่ยอมลงจนมัทนาต้องเอื้อมมือไปดึงอีกฝ่ายออกมาจากรถ
“ฉันไม่ไป”
“มัทก็ไม่เสี่ยงขับรถในสภาพแวดล้อมแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
มัทนาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดพร้อมกับลากตัวคนดื้อให้ตามตัวเองมา
“งั้นเอากุญแจรถมาเธอไม่กลับฉันจะกลับเอง”
“ไม่ค่ะ คุณจะกลัวอะไรกันนักกันหนาแค่นอนที่นี่คืนเดียวเอง”
คนตัวสูงเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัยก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อคิดอะไรออก
“เอ…หรือคุณกลัวมัท”
“พูดอะไรของเธอ”
“พูดความจริงไงคะแต่มัทว่ามัทน่าจะต้องเป็นฝ่ายกลัวคุณหทัยภัทรมากกว่านะคะ”
มัทนาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอามือรวบที่คอเสื้อของตัวเองด้วยท่าทางเขินอาย
“ยัยบ้า!”
หทัยภัทรตะโกนใส่หน้าคนพูดทันทีเมื่อเข้าใจความหมายในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการสื่อก่อนจะฟาดมือลงไปที่แขนของคนกวนประสาทแรงๆจนคนโดนฟาดต้องรีบถอนหลังออกมาอย่างเร็ว
“ถ้ายังพูดเรื่องบ้าๆแบบนี้อีกละก็ฉันจะเปลี่ยนจากใช้มือเป็นไม้หน้าสาม!”
คนพูดสะบัดหน้าเดินเข้าโรงแรมทันทีเมื่อไม่มีทางเลือกเธอก็ต้องจำใจพักที่นี่เพราะหากฝืนขับไปต่อก็คงอันตรายอย่างที่คนเดินตามบอกจริงๆ
ทั้งสองสาวเดินเข้าห้องอย่างเงียบๆที่จริงเธอทั้งคู่น่าจะนอนคนละห้องแต่เพราะจำนวนห้องที่เหลือเพื่อห้องเดียวจึงทำให้ต้องทนใช้ห้องรวมกันแต่สิ่งที่มัทนาเพิ่งรู้ก็คือที่นี่คือ “ม่านรูด!”
มัทนารู้สึกร้อนๆหนาวๆเมื่อรู้ว่าสถานที่นี้ไม่ใช่โรงแรมแบบที่เธอเข้าใจแต่มันก็ไม่ต่างอะไรเพียงแต่มีคำว่า “ม่านรูด” เพิ่มเข้ามา มิน่าคนที่มาด้วยถึงมีท่าทางแปลกๆ…ให้ตายเถอะถ้ายัยปาลิตารู้ว่าเธอพาพี่สาวสุดที่รักเข้าสถานที่แบบนี้เธอต้องถูกยัยนั่นฆ่าตายแน่ๆ
“ทำหน้าแบบนี้จะเปลี่ยนใจหรือไง”
หทัยภัทรหันไปถามคนที่ไม่ยอมพูดยอมจาตั้งแต่ได้ยินคำว่าม่านรูดทั้งๆที่ก่อนเข้ามายังทำท่าทางกวนประสาทอยู่เลยแล้วไหงตอนนี้มาทำหน้าซีดแบบนี้
“คือ…เอ่อมัทไม่เคยเข้าที่แบบนี้น่ะค่ะเลยเกร็งๆ”
คนพูดเอ่ยออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนสีแต่คนฟังนี่สิถึงขั้นควันออกหู
“ฉันก็ไม่เคยเข้ายะแล้วก็ไม่ต้องมาทำหน้าตาไร้เดียงสาแบบนั้นไปนอนไกลๆฉันเลยนะ”
มัทนามองคนพูดที่เดินไปที่เตียงด้วยท่าทางเหมือนจะรำคาญเธออย่างไม่ค่อยถือสานักจากนั้นก็หันไปมองรอบๆห้องที่เน้นการตกแต่งด้วยสีแดง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องติดกระจกรอบทิศขนาดนี้ไม่ตกใจตัวเองกันบ้างหรือไง หญิงสาวเดินไปเดินมาก็ไม่พบที่นอนเหมาะๆเลยสักที่การสำรวจจึงหยุดลงเมื่อพบว่าที่ที่เหมาะในการนอนมากที่สุดคือเตียงนุ่มๆที่ถูกครอบครองโดยคนอีกคนหนึ่งแต่เธอก็ว่ามันน่าจะกว้างพอหากเธอจะขอแทรกตัวนอนด้วย
แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาในห้องน้อยๆแต่ก็สามารถทำให้คนที่นอนอยู่ตื่นได้ไม่ยากอาจเพราะหทัยภัทรคุ้นชินกับการต้องนอนตื่นเช้าทุกวันดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอจะตื่นขึ้นมาในเวลานี้แต่สิ่งที่แปลกไปกว่าทุกวันก็คือห้องนอนและ…
“ไอ้โรคจิต!”
พูดได้แค่ประโยคเดียวหทัยภัทรก็จัดการถีบคนที่นอนอยู่ข้างๆกลิ้นลงเตียงทันทีก่อนจะลงมาซ้ำด้วยอาวุธที่อยู่ใกล้มือที่สุดนั่นก็คือ “หมอน”
“โอ๊ย! เจ็บๆพอแล้ว…”
มัทนาที่อยู่ในอาการมึนๆงงๆร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับยกมือขึ้นป้องกันตัวเอง
“ไม่พอ!”
คนพูดยังคงฟาดไม่หยุดก่อนจะนั่งคร่อมตัวอีกฝ่ายเอาไว้
“นี่คือผลที่เธอกล้ามานอนเตียงเดียวกับฉัน!”
หทัยภัทรหยุดการกระทำทั้งหมดก่อนจะยิ้มชวนขนลุกออกมาและเมื่อมัทนาหยุดการป้องกันตัวเองนั่นจึงเป็นจังหวะเหมาะที่บทลงโทษจะเกิดขึ้นอีกครั้ง คนถือหมอนจัดการเอาหมอนปิดจมูกคนทำผิดทันทีถึงแม้อีกฝ่ายจะดิ้นแต่คนได้เปรียบคือคนที่อยู่ข้างบนอย่างเธอ
การดิ้นรนของอีกฝ่ายทำให้หทัยภัทรยิ้มออกมาอย่างพอใจแต่เพียงไม่นานการต่อต้านก็หยุดลงจนคนที่ยิ้มอยู่ถึงกับใจหายจนต้องยกหมอนออกมาอย่างเร็ว
“นี่เธอ เธอ”
หทัยภัทรเขย่าร่างที่นอนนิ่งเบาๆแต่เมื่อไร้การตอบรับจากอีกฝ่าย หญิงสาวจึงต้องเริ่มออกแรงมากขึ้น มากขึ้นแต่คนที่นอนอยู่ก็ไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อนตัว
“เธอ มัทนา มัทนาตื่นสิอย่ามาเล่นบ้าๆนะ”
คนพูดรู้สึกขวัญเสียมากขึ้นเมื่อคนที่เธอเรียกยังคงนอนนิ่งอยู่ หญิงสาวค่อยๆยื่นมือไปที่จมูกของคนที่นอนนิ่งก่อนจะพบว่าอีกคนไม่หายใจแล้ว!
หทัยภัทรนิ่งค้างพักใหญ่ก่อนจะแนบหูลงไปที่อกของคนที่ไม่หายใจด้วยหัวใจที่เต้นแรงแต่เพียงแค่เธอก้มลงคนที่นอนนิ่งก็รวบแขนเข้าที่เอวของเธอก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาทับตัวเธอเอาไว้
“ยัยบ้าปล่อยนะ”
“ไม่ปล่อย”
“กล้าดียังไงมาหลอกฉัน”
“ถ้าไม่หลอกก็ได้ตายจริงสิคะ คุณโหดเกินไปแล้วนะ”
“ปล่อยฉัน”
คนถูกหลอกพยายามดึงข้อมือที่ถูกจับไว้ออกแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะตอนนี้เธอกำลังเสียเปรียบแบบสุดๆเมื่อถูกอีกฝ่ายใช้ร่างกายทับไว้
“ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ เป็นนายจ้างเป็นคนช่วยครอบครัวเธอแล้วก็เป็น…”
มัทนาหยุดคำพูดมากมายของอีกฝ่ายด้วยการทาบทับริมฝีปากของตัวเองลงไปเธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเลือกวิธีนี้แต่ที่รู้ก็คืออยากให้คนพูดเงียบสักที
คนถูกจูบถึงกับเบิกตากว้างไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำขนาดนี้ หทัยภัทรพยายามเบี่ยงหน้าหลบแต่ก็ถูกอีกฝ่ายตามมารุกล้ำอยู่ดี หญิงสาวตัวเล็กจึงหยุดการดิ้นรนก่อนจะกัดปากของคนที่บังอาจมาจูบตัวเองแรงๆจนเลือดไหล
“โอ๊ย!”
คนถูกกัดร้องออกมาก่อนจะพบว่าปากของตัวเองกำลังมีเลือดไหล มัทนามองหน้าคนทำที่ยิ้มออกมาเหมือนสะใจด้วยความรู้สึกโกรธเพิ่มมากขึ้นตอนแรกเธอแค่จะทำเพียงเพื่อให้อีกฝ่ายหยุดพูดแต่เธอว่ามันคงไม่พอแล้วล่ะ…
“สมน้ำหน้าปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
คนพูดออกแรงดิ้นอีกครั้งแต่เธอก็ยังไม่สามารถหลุดออกมาได้อยู่ดีแต่แล้วหทัยภัทรต้องตกใจเป็นรอบที่สองเมื่อมัทนากดจูบเธออีกครั้งและเหมือนครั้งนี้จะรุนแรงมากกว่าเดิมเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้หยุดแค่การจูบ มัทนาเริ่มซุกไซร้ลงไปที่ซอกคอขาวพร้อมกับซึมซับกลิ่นหอมนั้นอยู่นานพอสมควรแม้อีกฝ่ายจะยังดิ้นอยู่บ้างแต่เธอก็ต้องยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อแรงที่ต่อต้านเริ่มน้อยลง
คนเปิดเกมส์ถอนจมูกออกช้าๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเจ้าของซอกคอขาวที่ตอนนี้กำลังจ้องหน้าของเธอเช่นกัน มัทนาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่แต่สายตาที่ส่งมามันทำให้เธอรู้สึกผิดจนต้องหยุดความคิดและอารมณ์ทุกอย่าง
เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือกระทบเข้ากับแก้มของคนทำผิดดังสนั่นห้องแต่มัทนากลับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อยยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่พูดอะไรนอกจากเดินออกห้องไปอย่างเงียบๆยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดเกาะกุมในหัวใจเธอมากขึ้น ชีวิตของเธอเป็นของหทัยภัทรตั้งแต่วันที่หญิงสาวยื่นมือเข้ามาช่วยแต่เธอกลับเนรคุณทำร้ายคนที่ช่วยตัวเองด้วยพฤติกรรมเลวๆแบบนี้ มัทนากำมือไว้แน่นก่อนจะเดินออกจากห้องช้าๆครั้งนี้เธอผิดอย่างไม่น่าให้อภัยและหทัยภัทรคงจะไม่ยกโทษให้เธอง่ายๆ
เชื่อว่าจากที่เกลียดอยู่แล้วตอนนี้คงทวีคูณอีกหลายร้อยเท่า
เปิดจองแล้วน๊าตั้งแต่วันนี้ - 10 กุมภา 14
ราคาเล่มละ 350 บาท
ค่าส่งลงทะเบียน 30 บาท
รวมที่ต้องโอน 380 บาท
สำหรับการสั่งซื้อแบบ pdf ราคา 250 บาท
โอนเงินมาได้ที่
ธนาคารกสิกรไทย
สาขาเซ็นทรัลแอร์พอร์ตเชียงใหม่
457-211-232-8
ชื่อบัญชี สมทรัพย์
โอนเสร็จแจ้งวันเวลาการโอนมาได้ที่
Mail
mydestiny_k@hotmail.com Tel 087-0591110
Line samakae
facebookhttps://www.facebook.com/mea.you.927
ถ้าสั่งแบบpdf ให้แจ้งเมล์ที่จะให้จัดส่งไฟล์ด้วยนะคะ
นิยายเรื่องอื่นๆ
คุณหนูที่รัก yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576 ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259 เกมรัก สะดุดใจ yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672 ปีกรัก yuri
http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521 สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762 สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ