ตอนที่ 2
ยามเย็นพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า จีรธรนอนหนุนตักปทุมมาศทั้งสองสาวกำลังมองดูพระอาทิตย์ที่กำลังจะถูกภูเขาลูกใหญ่บดบัง บุษบานั่งลงข้างๆ ปทุมมาศพร้อมกับวางจานส้มเขียนหวานลงตรงหน้าของจีรธร เธออยากจะแหย่หลาน สาวที่นอนอมยิ้มดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างมีความสุข
“หมอนดีกว่าไหม น้าบัวเมื่อยแย่” บุษบาพูดขึ้น
“อิจฉาหรือหวงกันแน่คะ น้าบุษ” จีรธรทำหน้าทะเล้น
“เดี๋ยวจะโดนเขกหัวนะเรา คราวหน้าไม่ให้มานอนบ้านนี้แล้ว ไล่ไปนอนที่ รีสอร์ทของแม่เราท่าจะดีกว่า” บุษบาทำเสียงดุใส่หลานสาวของเธอ
“จี๊ดขอไปอยู่ซีกของน้าบัวก็ได้ ใช่ไหมคะ น้าบัว” จีรธรแหงนหน้ามองคนที่เธอนอนหนุนตักอยู่พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้”
“ซีกที่เป็นส่วนของน้ามันอยู่ข้างนอกใต้ต้นไม้ใหญ่ จี๊ดอยู่ได้หรือเปล่าคะ” เสียงหัวเราะของบุษบากับปทุมมาศดังขึ้นพร้อมๆ กัน
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเปลี่ยนไปอ้อนอีกคนเสียแล้วซิคะ เอาของฝากมาอ้อนน่าจะดีกว่า เมื่อตอนกลางวันของฝากจากแม่ อันนี้ของฝากจากจี๊ด” จีรธรยื่นกล่องใส่เครื่องประดับส่งให้น้าสาวทั้งสองของเธอ
“ขยันซื้อจริงๆ ของฝาก บอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องซื้อ” บุษบาดุหลานของเธออีกครั้ง
“ดูก่อนไหมคะ ค่อยบ่น น้าบุษ” จีรธรทำหน้าจ๋อย ปทุมมาศลูบศีรษะจีรธรเบาๆ เป็นการปลอบโยน
บุษบาเปิดกล่องที่จีรธรนำมาให้เธอ ด้านในมีนาฬิกาสำหรับห้อยที่คอสองเรือน น่าจะทำมาจากเงินลวดลายการแกะสลักสวยงามมาก ปทุมมาศหยิบเรือนหนึ่งขึ้นมาดูลวดลายของการแกะสลัก
“สั่งทำเหรอคะ” ปทุมมาศถามขึ้น
“ค่ะพิเศษสำหรับคนพิเศษ ด้านหลังมีอักษรย่อชื่อของน้าบัวกับน้าบุษ ตัว อักษรภาษาอังกฤษพีเป็นตัวแทนของน้าบัว ปทุมมาศ ตัวบีก็เป็นตัวแทนของน้าบุษ บุษบา แต่คนให้อยากให้ใส่สลับกันค่ะ ตัวพีอยากให้น้าบุษใส่ แล้วตัวบีก็ให้น้าบัวใส่ อธิบายยาวไปไหมคะ เห็นจ้องจี๊ดกันตาแป๋วเลยค่ะ” จีรธรทำคิ้วขมวด
“ขอบใจมาก ช่างคิดเหลือเกินนะเรา ขอบใจนาฬิกาสวยมาก น้าชอบนะ” บุษบาบอกหลานของเธอที่ยิ้มแก้มปริอยู่ในตอนนี้
“น้าบัวล่ะคะ ชอบหรือเปล่า” จีรธรหันไปถามปทุมมาศซึ่งกำลังปาดน้ำตาที่ไหล่อาบแก้ม
“ชอบมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณที่ให้น้าได้เป็นครอบครัวของจี๊ด” ปทุมมาศยิ้มทั้งน้ำตา บุษบาขยับเข้าไปโอบกอดเพื่อปลอบโยนคนที่กำลังร้องไห้อยู่
“น้าบัวเป็นน้าสาวของจี๊ด ถึงแม้ว่าจะได้รู้จักน้าบัวช้าไปหน่อย แต่จี๊ดก็รัก น้าบัวเท่าๆ กับที่รักน้าบุษเลยนะคะ” จีรธรยิ้มหวานให้ปทุมมาศและบุษบา
“ขอบใจจ๊ะ น้าก็รักจี๊ดไม่แพ้น้าบุษหรอกนะคะ” ปทุมมาศยิ้มทั้งน้ำตา
“น้าบุษคะ อย่าโอบนานค่ะ ปล่อยบ้างก็ได้เดี๋ยวหลานอิจฉา คล้องสร้อยคอนาฬิกาได้น้าบัวดีกว่าค่ะ จี๊ดขอถ่ายรูปไว้นะคะ” จีรธรยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นน้าสาวทั้งสองคนของเธอสวมสร้อยให้กันพร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข
“ขอบใจมากนะ จี๊ด” บุษบาพูดขึ้นและสวมกอดหลานของเธอเอง
“จี๊ดรักน้าบุษกับน้าบัวมากนะคะ” จีรธรกอดกระชับบุษบาและปทุมมาศ รอยยิ้มชื่นบานมีขึ้นในหัวใจทั้งสามดวงที่มีความผูกผันซึ่งกันและกัน
“ทานส้มกันหน่อยนะคะ สองน้าหลาน” ปทุมมาศยิ้มและหยิบส้มที่ปอกแล้วป้อนให้ทั้งจีรธรและบุษบา
“น้าบัวน่ารักที่สุดเลยค่ะ” บุษบาอหันไปยิ้มแบบน่ารักๆ ให้ปทุมมาศ
“ขอบคุณจ๊ะ”
“เออพรุ่งนี้เช้าน้ากับน้าบัวจะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล จี๊ดอยู่บ้านคนเดียวได้หรือเปล่าล่ะ หรือจะไปที่รีสอร์ท” บุษบาถามจีรธร
“รีสอร์ทก็มีคนดูแลอยู่แล้วนี่คะ เอาไว้ค่อยไปดูวันหลังก็ได้ เป็นสารถีขับรถพาน้าสองคนไปตรวจสุขภาพดีกว่าค่ะ เป็นเด็กดีจริงๆ เลยนะคะ” จีรธรหัวเราะที่ชมตัวเอง
“ชมตัวเองก็ได้นะหลานเรา” เสียงหัวเราะของทั้งสามสาวดังขึ้น ค่ำคืนแห่งความสุขอบอวลอยู่ในบ้านท่ามกลางทิวเขาและแมกไม้
โรงพยาบาลในตอนเช้านี้ผู้คนดูพลุกพล่าน แต่ก็ดูเป็นเรื่องปกติธรรมดา บุษบากับปทุมมาศได้แจ้งนัดกับทางโรงพยาบาลไว้เรียบร้อยแล้ว พอมาถึงจึงได้เข้ารับการตรวจสุขภาพทันที หลังจากเสร็จขั้นตอนก็ถึงเวลาพบแพทย์
“สวัสดีค่ะ” รสาคือแพทย์ที่จะเป็นผู้ดูแลให้ข้อมูลและรายละเอียดเรื่องผลของการตรวจสุขภาพของบุษบากับปทุมมาศ
“สวัสดีค่ะ คุณหมอ” บุษบาและปทุมมาศทักทาย
“หมอบอกรายละเอียดให้รับทราบได้เลยทั้งสองท่านนะคะ” หมอรสาถามผู้เข้ารับการตรวจสุขภาพทั้งสองท่าน
“ได้ค่ะหมอ” บุษบาพูดขึ้น
หมอรสาได้แจ้งผลการตรวจสุขภาพของทั้งสองท่านให้ได้รับทราบ ผลตรวจอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม พร้อมกันนี้หมอรสายังให้ข้อมูลเรื่องของการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารเพื่อที่จะได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
“ต้องขอบคุณมากๆ นะคะ คุณหมอที่ช่วยให้คำแนะนำ” บุษบาบอกกับหมอรสา
“ยินดีมาค่ะ” หมอรสาเดินออกมาจากห้องพร้อมกันบุษบาและปทุมมาศซึ่งออกมาสักครู่จีรธรก็รีบตรงเข้ามาหาทันที
“ผลเป็นอย่างไรบ้างคะ น้าบัว น้าบุษ” จีรธรถามขึ้นไม่ทันสังเกตหมอรสาที่ยืนอยู่กับน้าสาวทั้งสองของเธอ
“คุณน้าสุขสภาพดีเยี่ยมค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” หมอรสาเป็นผู้ตอบคำถามแทนและยิ้มให้กับจีรธรซึ่งกำลังยิ้มให้เช่นกันหลังจากได้ยินคำ
ตอบจากผู้หญิงที่ใส่เสื้อกราวน์สีขาว
“ขอบคุณค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ หมอรสา” จีรธรพูดชื่อของหมอรสาหลัง จากมองจากตัวหนังสือจากป้ายชื่อที่ติดอยู่บนเสื้อกราวน์
“ยินดีเช่นกันค่ะ คุณ” หมอรสาพูดค้างอยู่สักครู่
“คุณจี๊ด หลานสาวคุณน้าบุษกับคุณน้าบัวค่ะ” มีเสียงคนอื่นดังแทรกขึ้นมา หมอรสายิ้มเมื่อเห็นคนที่พูดเดินมายืนอยู่ทางด้านหลังของจี
รธร
“เพิ่งมาอยู่แท้ๆ ทำไมรู้จักได้ล่ะคะ” หมอรสาพูดกับปานวาด ซึ่งตอนนี้จีรธรยืนคิ้วขมวดอันที่จริงคิ้วก็ขมวดทันทีเมื่อได้ยินเสียงของปลัดสาวปานวาด
ปานวาดพนมมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน แล้วก็ทักทายจีรธรที่ทำหน้าบึ้งตึงใส่
“สวัสดีค่ะ คุณจี๊ด” ปานวาดอมยิ้มเมื่อเห็นหน้าบึ้งๆ ของจีรธร
“สวัสดี คุณปลัด” จีรธรทักทายแบบไม่มองหน้า ปานวาดเดินมายืนใกล้ๆ กับหมอรสา
“คุณปลัดกับคุณหมอเป็นเพื่อนกันหรือคะ” บุษบาถามขึ้น สองสาวรสากับปานวาดมองสบตากับแล้วอมยิ้ม
“มากกว่าเพื่อนนิดหน่อยค่ะ คุณน้า” รสาอมยิ้ม
“อ้อ เข้าใจล่ะ เอาไว้วันไหนคุณหมอว่างเชิญไปทานข้าวที่บ้านนะคะ คุณปลัดด้วยนะคะ” บุษบายิ้มให้กับทั้งสองสาว
“ขอบคุณค่ะ ถ้าจะกรุณาละก็รับเราสองคนเป็นลูกเป็นหลาน คุณน้าบุษกับคุณน้าบัว เรียกชื่อเฉยๆ ก็ได้นะคะ ไม่ต้องเรียกหมอก็ได้
เรียกสากับปานดีกว่านะคะ แล้วสาจะให้ปานพาไปกราบคุณน้าทั้งสองที่บ้านอีกครั้งค่ะ”
“ยินดีค่ะ”
ระหว่างที่หมอรสาพูดคุยอยู่กับผู้ใหญ่ทั้งสองทั้ง ปานวาดก็เดินมายืนใกล้ๆ จีรธรที่ทำเมินหน้าเหมือนไม่เห็นว่าปานวาดมายืนอยู่ใกล้ๆ เธอ
“คุณจี๊ด เป็นเด็กดีเหมือนกันนะคะ พาคุณน้ามาตรวจสุขภาพ”
“ก่อนหน้านี้มีคนบอกกับปลัดหรืออย่างไรคะ ว่าจี๊ดเป็นคนไม่ดี”
“คุณจี๊ด ดูไม่ค่อยจะชอบหน้าปานสักเท่าไหร่นะคะ”
“กวนไงคะ ชัดไหมคะคุณปลัด”
“ปานไม่ได้กวนคุณจี๊ดเลยนะ คุณจี๊ดต่างหากที่กวนก่อน”
“นี่ละคะ กำลังกวนอยู่เลย คุณปลัดไปยืนไกลๆ ดีกว่า”
“ปานก็แค่อยากเป็นเพื่อนด้วยเท่านั้นเองค่ะ คุณจี๊ดรับปานเป็นเพื่อนสักคนนะคะ นะ”
“อย่าเลยค่ะ คนที่นี่มีตั้งเยอะไปขอคนอื่นเป็นเพื่อนดีกว่านะคะ”
บุษบาได้ยินการสนทนาระหว่างปลัดปานวาดกับหลานสาวของเธอแล้วก็ส่ายหัว ไม่รู้เหมือนกันว่าไปโกรธหรือไม่ชอบหน้ากันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอมองที่หลาน สาวแล้วมองไปที่ปลัดปานวาดซึ่งกำลังยิ้มแหยๆ ให้
“อย่าไปตอแยมากเลยค่ะ กับแม่คนนี้ ปวดหัวเปล่าๆ คุณปาน” บุษบาพูดขึ้นแล้วยิ้มๆ มองไปที่หลานสาวของเธอที่ยืนหน้างออยู่
“ต้องตอแยค่ะ ต้องตอแยจนกว่าหลานสาวคุณน้าบุษจะยอมเป็นเพื่อนกับปานให้ได้ค่ะ” ปานวาดยิ้มทะเล้นให้จีรธร หมอรสาจึงหยิกเข้า
ที่แขนของปานวาด
“ปานก็ไปแหย่คุณจี๊ด ถ้าปานไปกวนโมโหคุณจี๊ดละก็บอกสานะคะ สาจะจัดการให้ค่ะ” หมอรสาบอกกับจีรธรที่ตอนนี้เริ่มยิ้มแบบมีเลศนัย
“จริงนะคะ หมอ”
“ค่ะ หยิกให้แล้วสองสามทีเป็นการลงโทษที่ไปกวนโมโหคุณจี๊ด” หมอรสายิ้มให้จีรธร
“กลับได้แล้วจี๊ด” บุษบาบอกหลานสาวของเธอ
“กลับก่อนนะคะหมอ ฝากดึงหูปลัดสักหน่อยก็ดีค่ะ” จีรธรอมยิ้มก่อนที่จะเดินนำหน้าน้าสาวของเธอออกไปก่อน
หลังจากที่บุษบาและปทุมมาศพร้อมกับจีรธรกลับไปแล้ว รสาจึงตีเบาๆ เข้าที่แขนของปานวาด ซึ่งยืนยิ้มให้ตีหน้าตาเฉย
“ปานไปแหย่คุณจี๊ดทำไมกันคะ” รสาถามขึ้น
“ไม่ได้แหย่ แต่ทำไมไม่รู้เหมือนกันค่ะ ท่าทางคุณจี๊ดดูไม่ค่อยชอบหน้าปานสักเท่าไหร่” ปานวาดอธิบายกับรสา
“ชอบไปแหย่หรือเปล่าคะ ได้ยินเสียงปานเท่านั้น คุณจี๊ดหน้าบึ้งเลย”
“แหย่ไปนิดหน่อย ตอนที่เจอกันเมื่อวานที่บ้านคุณน้าทั้งสอง”
“ว่าแล้วเชียว น่าตีนักนะคะ”
“ไม่สงสารเหรอคะ”
“ไม่ต้องมาทำอ้อนค่ะ คุณปลัด แวะมามีอะไรหรือเปล่าคะ” รสาอมยิ้มกับเสียงอ้อนๆ ของปานวาด
“จะรบกวนสาไปดูคนป่วยให้หน่อยค่ะ คนแก่ค่ะ ไม่สบายดูเหมือนจะเป็นไข้อยู่คนเดียวเสียด้วยซิ สาไปได้หรือเปล่าคะ”
“ได้ซิ เดี๋ยวสาของไปแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก่อนนะคะ”
“ปานไปรอที่รถนะ”
“ค่ะ”
ปานวาดเดินมาตามทางเดินที่จะออกมาทางด้านหน้าของโรงพยาบาล ก็พบเข้ากับจีรธรอีกครั้ง แต่เมื่อจีรธรเห็นปานวาดเข้าหน้าก็เริ่มบึ้งตึงขึ้นมาทันที
“สวัสดีอีกครั้งค่ะ คุณจี๊ด” ปานวาดทักทาย
“ค่ะ คุณปลัด”
“คุณจี๊ดคะ หน้าปานมันแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เจอกันทีไรคุณจี๊ดหน้าบึ้งทุกที”
“กวน”
“สั้นแต่ได้ใจความดีค่ะ แต่คุณจี๊ดหันมามองหน้าปานหน่อยนะคะ มีเรื่องจะรบกวนถามค่ะ” ปานวาดน้ำเสียงดูจริงจังขึ้น
“ว่ามาค่ะ คุณปลัด”
“คืออย่างนี้ค่ะ มีคนแก่อาศัยอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทของคุณจี๊ดสักเท่าไหร่ ตอนนี้แกป่วยอยู่ค่ะ แล้วก็อยู่ตัวคนเดียว” ไม่ทันที่ปานวาดจะ
พูดอะไรต่อ จีรธรก็ชิงถามขึ้นก่อน
“คุณปลัดจะให้จี๊ดช่วยอย่างไรคะ” น้ำเสียงเรียบๆ ดูจริงจังของจีรธรทำให้ปานวาดรู้สึกได้ว่า หลานสาวของคุณน้าทั้งสองคงมีความใจดี
และมีเมตตาไม่ต่างจากญาติผู้ใหญ่นัก
“ขอบคุณค่ะ กำลังคิดว่าจะรบกวนช่วงที่แกป่วยอยู่อยากให้คุณจี๊ดช่วยให้คนที่รีสอร์ทแวะไปดูบ้างได้หรือเปล่าคะ ไม่รู้ว่าปานจะรบกวน
คุณจี๊ดมากเกินไปหรือเปล่า” ปานวาดพูดด้วยความเกรงใจ
“ไม่รบกวนเลยค่ะ แล้วพามาหาหมอหรือยังคะ” จีรธรท่าทางดูจริงจัง
“แกไม่ยอมมาค่ะ บอกว่าเงินทองไม่ค่อยมี ปานบอกว่าจะพามาก็ไม่ยอม ก็เลยจะพาสาไปตรวจที่บ้าน ถ้าเป็นมากก็ค่อยพามาโรง
พยาบาล”
“คุณปลัดกำลังรอหมอรสาอยู่ใช่หรือเปล่าคะ”
“ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยว จี๊ดไปกับคุณปลัดกับคุณหมอเลยดีกว่าค่ะ เผื่อว่ามีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ สำหรับเรื่องคนที่จะให้แวะเวียนไปดูจี๊ด
จะจัดการให้ค่ะ แล้วก็เรื่องอาหารสำหรับคนป่วยด้วย เดี๋ยวจี๊ดจะให้คนงานที่รีสอร์ทจัดการให้ด้วยค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะ คุณจี๊ด”
“คุณปลัดรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวจี๊ดไปบอกน้าบุษกับน้าบัวก่อนค่ะ”
“ได้ค่ะ” ปานวาดยิ้มและรู้สึกได้ถึงความใจดีและมีเมตตาที่มีอยู่ในหัวใจของจีรธร เธอรู้สึกชื่นชมเหมือนอย่างที่ชื่นชมคุณน้าทั้งสองของจีรธร