ตอนที่ 4
ปานวาดมาจอดรถอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลเพื่อรอรับรสากลับบ้านพักซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก รสาอยู่ดูอาการของหญิงชราที่เธอได้เป็นคนพามาที่โรงพยาบาลนี้ด้วยตัวเอง ความเหนื่อยล้าจากการดูแลผู้ป่วยทำให้รสารู้สึกอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก เธอเดินเอื่อยๆ ออกมาที่หน้าโรงพยาบาลมองเห็นรถของปานวาดจอดอยู่ที่ด้านหน้า
“ไหวไหมคะ คุณหมอ” ปานวาดยิ้มเดินมายืนใกล้ๆ รสา
“เหนื่อยมากเลยค่ะ ปาน” รสาทำสายตาอ้อนๆ คนที่ยืนอมยิ้มอยู่
“ไม่เหนื่อยได้อย่างไรกัน มาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับก็มืดค่ำขนาดนี้” ปานวาดพูดเหมือนบ่น
“บ่นมากเดี๋ยวแก่กันพอดี คุณปลัด” รสายิ้ม รู้สึกสดชื่นขึ้นเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ กับปานวาด
“ไม่ได้บ่น เป็นห่วงต่างหากค่ะ ไม่น่าชวนมาลำบากด้วยเลยนะคะ ทำงานที่กรุงเทพก็คงจะสบายกว่านี้” ปานวาดพูดเสียงเรียบๆ
“บอกหลายครั้งแล้วนะ ไม่เห็นพูดแบบนี้ ยังไงสาก็ต้องออกต่างจังหวัดสักพักอยู่แล้ว อยากอยู่ใกล้ๆ ปาน ลำบากกว่านี้สาก็อยู่ได้นะ” รสายิ้มให้ปานวาด
“ขอบคุณมากนะสา” ปานวาดเปิดประตูรถให้แล้วทำท่าโค้งคำนับ รสาจึงหัวเราะเล็กๆ แล้วส่ายหน้ากับความทะเล้นแต่ก็น่ารักของปานวาด
“ขอบคุณค่ะ ปานน่ารักสม่ำเสมอจริงๆ เลยนะ”
“อันที่จริงอยากกอดสานะ ตอนเห็นเดินเนือยๆ ออกมา แต่ก็คงไม่เหมาะนัก” ปานวาดยิ้มให้รสา
“ถึงบ้านแล้วค่อยกอดก็ได้ แค่ได้เห็นยิ้มสวยๆ ของปาน สาก็หายเหนื่อยไปได้เยอะเลยค่ะ” รสารู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ขอกอดทั้งคืนเลยนะ คิดถึงสามากเลยค่ะ” ปานวาดยิ้มและสบตากับรักษาที่ยิ้มหวานให้เช่นกัน
“ดีเหมือนกันได้นอนแนบอกอุ่นๆ ของปาน สาคงหลับสบาย ขอบคุณล่วง หน้านะคะ คุณปลัดที่แสนน่ารักและใจดีที่สุด” รสาเอนตัวสบายๆ พักสายตาและงีบหลับไป ปานวาดหันมาเห็นแล้วรู้สึกสงสารจับใจ
ปานวาดขับรถเรื่อยๆ อากาศภายนอกเย็นสบาย หลังจากจอดรถที่หน้าบ้าน พักของรสา ปานวาดก็หันมามองคนที่หลับอยู่ รอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าของรสายิ่งเพิ่มความน่ารักให้คนที่นอนหลับสนิท จอดรถอยู่สักพักแล้ว แต่ท่าทางคุณหมอคงจะไม่ตื่นง่ายๆ
“คุณหมอคะ ถึงบ้านแล้วค่ะ ไม่ตื่นปานจะอุ้มขึ้นบ้านนะ” ปานวาดพูดแล้วนึกยิ้มกับสิ่งที่พูดไป
“อุ้มไปก็ดีเหมือนกันนะคะ สาไม่อยากลุกเลยค่ะ” รสาพูดเสียงอู้อี้
“ไปคะ ไปนอนที่เตียงดีกว่า ท่าทางคุณหมอเหมือนอยากเบี้ยวไม่อาบน้ำนะคะ” ปานวาดยักคิ้วล้อเลียนรสา
“ไม่ต้องอาบได้ไหมล่ะ” รสาถามเพราะตอนนี้เธออยากล้มตัวลงนอนบนเตียงนอนสะอาดๆ เสียเหลือเกินแล้ว
“อาบน้ำหน่อยเถอะค่ะ คุณหมอ จะได้นอนหลับสบายๆ นะคะ”
“ก็ได้ แต่ปานต้องกอดสาก่อนนะ จะได้ตาสว่างเดินเข้าบ้านไปอาบน้ำได้นะคะ นะ นะ นะ” รสามองปานวาดด้วยสายตาอ้อนวอน พร้อมกันเสียงอ้อนๆ
“อยากกอดจะแย่แล้วค่ะ คุณหมอ” ปานวาดสวมกอดรสาแนบแน่น เธออยากถ่ายเทความเหนื่อยล้าที่รสามีมาไว้ที่ตัวเธอบ้างถ้าสามารถทำได้
“ขอบคุณค่ะ คุณปลัดปานวาด” รสาหอมแก้มปานวาดเสียงดังฟอดใหญ่
“อยากให้ปานนอนที่นี่ด้วยหรือเปล่าคะ คุณหมอ” ปานวาดถามขึ้นเพราะ รสาดูท่าทางจะเหนื่อยมาก อาจจะอยากนอนสบายๆ ตามลำพัง
“อยากให้ปานกอดจนสาหลับได้ไหมคะ” รสาพูดขึ้นมองสบตาคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าซึ่งกำลังยิ้มและพยักหน้าตอบรับ
“อยากได้อุ่นขนาดไหนคะ”
“เลือกได้ด้วยเหรอคะ” รสาแกล้งทำตาโตแล้วถาม
“ได้ซิ อยากได้อุ่นธรรมดา หรืออุ่นอย่างมากมายล่ะคะ” ปานวาดอมยิ้ม
“คืนนี้สาเหนื่อยมากเหลือเกิน ขออุ่นมากมายหน่อยดีกว่า”
“ได้ซิคะ” ปานวาดยิ้มทะเล้น
“ยิ้มแบบนี้คิดอะไรอยู่คะ แบบอุ่นมากมายของปานเป็นแบบไหนกัน”
“ก็แบบไม่ต้องมีเสื้อผ้าไงคะ คุณหมอ” ปานวาดพูดจบก็รีบวิ่งนำหน้าเข้าบ้านไปก่อน
“ก็ดีเหมือนกันนะ อุ่นมากมายจริงๆ แต่จะได้นอนหรือเปล่านี่ซิ คุณปลัด” รสาพูดกับตัวเองแล้วเดินยิ้มตามปานวาดเข้าบ้าน
สองสาวเตรียมพร้อมสำหรับการเข้านอนปานวาดปิดไฟหัวเตียงจึงแทรกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม ขยับตัวไปจูบที่หน้าผากของรสาซึ่งเธอคิดว่ารสาคงหลับไปแล้ว
“ไหนละคะ อ้อมกอดอุ่นมากมาย” รสาจูบที่แก้มของปานวาด
“ยังไม่หลับเหรอคะ”
“อาบน้ำก็เลยรู้สึกสบายขึ้นค่ะ แต่รู้สึกหนาวค่ะ เห็นมีคนโม้ว่ามีอ้อมกอดอบอุ่นมากมายก็เลยรอ" รสายิ้มทะเล้นในความมืดและค่อยๆ
เคลื่อนมือตัวเองเข้าไปภายใต้เสื้อนอนของปานวาด
“คุณหมอ ซุกซนนะ” ปานวาดรู้สึกถึงสัมผัสจากมืออุ่นๆ ของรสา
“เปล่าสักหน่อยแค่จะถอดเสื้อให้ต่างหาก”
“แต่มือคุณหมออยู่ที่หน้าอกของปานแล้วนะคะ” ปานวาดหัวเราะเล็ก
“อ้าวเหรอคะ ถอดเสื้อนะคะ อยากกอดปานแบบอุ่นมากมาย นะ”
“ค่ะ” สองร่างกายเปลือยเปล่าเบียดตัวแนบชิดซึ่งกันและกัน รสาเบียดตัวเข้าไปแนบชิดปานวาดมากขึ้น ใบหน้าของเธอแนบชิดกับหน้า
อกของปานวาด รสาจูบเบาๆ ไปที่เนินอกนั้น
“สารักปานนะ ตัวอุ่นมากมายจริงๆ ด้วย”
“ฝันดีนะคะ คุณหมอ” ปานวาดกระชับอ้อมกอดขึ้นเล็กน้อย เสียงของรสาเงียบไปแล้ว ความเหนื่อยล้าคงทำให้คนที่เธอกอดอยู่หลับไปอย่างง่ายดาย
จีรธรนอนยิ้ม เมื่อนึกถึงเรื่องที่น้าสาวของเธอเล่าให้ฟังเมื่อตอนหัวค่ำกับ ความงดงามจากเรื่องราวที่เพิ่งจะเริ่มต้น สามารถสร้างรอยยิ้ม
ให้ผู้ฟังอย่างจีรธรยิ้มตั้งแต่ได้ยินเรื่องราวและจนกระทั่งตอนนี้ที่กำลังจะเข้านอน เธอเริ่มทบทวนเรื่องราวในวันนี้ตั้งแต่ตอนเช้าที่พาน้าสาวทั้งสองคนไปตรวจสุขภาพ และได้พบกันปานวาดและหมอรสา รวมถึงหญิงชราที่เธอได้ไปพบนอนป่วยอยู่เพียงลำพัง แต่ขณะนี้หญิงชราปลอดภัยอยู่ในความดูแลของรสาเรียบร้อยแล้ว
ปานวาดมองรสาที่นอนแนบอยู่กับอกของเธอ รสายังคงกระชับอ้อมกอดเธอไว้แนบแน่น ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งสองกำลังถ่ายเทความอบอุ่นให้กันและกัน ตัวอุ่นๆ ของรสาทำให้ปานวาดเกิดรอยยิ้มเล็กและจูบเบาๆ ที่หน้าผากของรสาและกระชับอ้อมกอดเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
รอยยิ้มเล็กๆ ของปานวาดเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อนึกถึงจีรธร นึกถึงตอนที่ได้พูดจากวนโมโหซึ่งกันและกัน ปานวาดก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชอบไปแหย่หรือพูดจากวนๆ กับจีรธร ฝ่ายนั้นก็ชอบต่อล้อต่อเถียงกับเธอเรียกว่าไม่มีใครยอมให้ใครก็ว่าได้ แต่วันนี้หลังจากที่ได้เห็นความมีน้ำใจของจีรธรที่มีต่อหญิงชรา ความคิดของปานวาดก็เปลี่ยนไป เพราะก่อนหน้านี้เธอคิดว่าจีรธรจะเป็นคุณหนูที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็นแต่กลับตรงกันข้าม ความมีน้ำใจ ความเอื้ออาทรที่มีไม่ได้ต่างจากคุณน้าทั้งสองคนของเธอเลย ปานวาดยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงตอนที่ได้ปะทะคารมกันจีรธร
“นอนไม่หลับหรือคะ คุณปลัด” เสียงอู้อี้ของรสาดังขึ้น
“สายังไม่หลับเหรอคะ”
“หลับไปแล้ว แต่เสียงหัวใจของปานปลุกให้สาตื่น” รสาหัวเราะเล็กๆ
“หัวใจปานดังรบกวน คุณหมอ ขนาดนั้นเลยหรือคะ” ปานวาดยิ้มมองสบตากับคนที่แหงนหน้ามามองสบตาเธอเช่นกัน
“ใช่แล้ว ต้องโดนทำโทษเนอะ” รสายิ้มทะเล้น จูบที่เนินอกของปานวาด
“ก็ได้ยอมทุกอย่างค่ะ ว่าแต่จะทำโทษปานอย่างไรคะ คุณหมอ” ปานวาดยิ้มหวานสบตากับรสา
“ให้สาจูบปาน จนกว่าสาจะพอใจ” รสายิ้มทะเล้น
“โอ้โห เป็นการทำโทษที่น่ากลัวมากค่ะ คุณหมอ” ปานวาดอมยิ้ม
“ไม่ต้องมาอมยิ้ม เดี๋ยวจะจูบให้ไม่ต้องหลับต้องนอนเลยนะ คุณปลัด” รสาหัวเราะเสียงหึหึอยู่ในลำคอ
“ก่อนจะทำโทษ ขอสารภาพอะไรก่อนได้หรือเปล่าคะ” ปานวาดพูดขึ้น
“ไปทำอะไรผิดมา” รสาทำท่าสงสัย
“จะสารภาพว่า ปานรักสา รักมาก ยกโทษให้ไหมคะ”
“เล่นสารภาพแบบนี้ ใครใจแข็งไม่ยกโทษให้ก็บ้าแล้วละคะ คุณปลัด ถ้าอย่างนั้นสาขอเปลี่ยนเป็นจูบเพราะว่าสารักปานดีกว่านะคะ สารักปานมากที่สุดในโลกเลยค่ะ” รสาจูบปานวาดอีกครั้งจนคนที่ถูกจูบหัวใจเต้นแรงจากสัมผัสอันร้อนแรงและอ่อนโยนสลับกัน สัมผัสจากมืออันแสนอบอุ่นที่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างและกำลังจะก้าวล่วงล้ำไปส่วนที่คุณหมอสามารถจะมอบความรู้สึกดีดีอันล้ำลึกจนทำให้ปานวาดรู้สึกเหมือนว่าหัวใจแทบจะหยุดเต้น ปานวาดก็กำลังจะมอบความรู้สึกอันลึกล้ำนั้นให้กับรสาเช่นกัน สองสาวกอดกระชับกันและกันประหนึ่งอยากบอกผ่านความรู้สึกดีดีที่มีอยู่เต็มในหัวใจทั้งสองดวงแทนคำพูด รสาสบตากับปานวาดสายตาอันอบอุ่นและอ่อนโยนทั้งสองคู่กำลังบอกรักกันและกัน รสาจูบปานวาดอีกครั้งและแนบใบหน้าอยู่แนบอกของปานวาดที่กระชับอ้อมกอดไว้อย่างแนบแน่น