web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 147
Total: 147

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 8  (อ่าน 1618 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 8
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:07:49 »
ตอนที่ 8

ปานวาดเดินยิ้มๆ เข้ามากับจีรธรสร้างความแปลกใจให้กับปทุมมาศและบุษบาเป็นอย่างมาก แต่รสาก็ยิ้มๆ ให้กับทั้งสองสาวที่กำลังเดินเข้ามา ปานวาดเดินมานั่งลงข้างๆ รสา ที่กำลังจ้องมองตาแดงๆ ของเธอ

“หนูปานคะ หลานสาวน้ายอมญาติดีด้วยแล้วหรือคะ” บุษบาแกล้งถามปานวาดเพื่อจะแหย่หลานสาวของเธอ ปานวาดและรสาอมยิ้ม ปทุมมาศตีเบาๆ ที่แขนของบุษบา เมื่อเห็นหน้ามุ่ยๆ ของจีรธร

“อายุก็ปาเข้าไปจะสามสิบแล้ว น้าบุษยังไม่เคยเห็นความดีสักครั้ง แย่จริงๆ เลยเรา” คำพูดของจีรธรสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกๆ คน ปานวาดยิ้มให้จีรธรด้วยความขอบคุณ ไม่มีเรื่องไหนรอดสายตาน้าสาวทั้งสองของจีรธรไปได้

“หนูปานกับจี๊ดมาพอดีเลย ถ้าอย่างนั้นเราทานข้าวกันเลยดีกว่านะคะ ทานไปคุยไปก็ได้นะคะ หนูปาน หนูสา เชิญค่ะ”

อาหารมื้อเที่ยงวันนี้มีแขกเพิ่มมาอีกสองคน สร้างความครื้นเครงได้มากพอ สมควร โดยเฉพาะการปะทะคารมของหลานสาวเจ้าของบ้านและปลัดปานวาดที่ชอบพูดจาแหย่กันไปมา จนเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ

“คุณสาคะ คุณปลัดของคุณสาน่ารักตรงไหน จี๊ดพยายามหาแต่ไม่เห็นเจอเลยค่ะ” จีรธรยิ้มให้รสาที่ดูเงียบๆ ไป

“ปานน่ารักมานะคะ คุณจี๊ด แต่คงเอามุมทะเล้นออกมาแหย่คุณจี๊ดมาก กว่า เอาไว้ได้เห็นมุมอ่อนโยน คุณจี๊ดอาจจะคิดถึงคำถามที่ถามสาวันนี้ก็ได้นะคะ” รสาหันไปยิ้มกับปานวาดที่อมยิ้มอยู่ข้างๆ เธอ มือของปานวาดกำลังมาวางทาบทับอยู่บนมือเธอพร้อมรอยยิ้มสวยๆ ปานวาดแกล้งยักคิ้วล้อเลียนจีรธรที่กำลังนึกขำกับท่าทางของปลัดที่ทำเหมือนเป็นเด็กๆ รสาเฝ้ามองคุณน้าทั้งสองของจีรธรท่านทั้งสองดูมีความสุขกับบ้านหลังเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาเขียวชอุ่ม มันช่างเป็นความสุขที่น่าอิจฉาเสียจริงๆ ในความรู้สึกของเธอ ปานวาดกระชับมือที่กำลังเกาะกุมมือของรสาไว้และหันมายิ้มสวยๆ ให้

“ขอบคุณค่ะ” รสาพูดเบาๆ แต่คนที่กำลังยิ้มอยู่ก็เหมือนจะได้ยินชัดเจนเห็นได้จากรอยยิ้มสวยๆ ที่ยิ้มกว้างขึ้น

“มื้อเย็นเราย้ายไปทานกันที่รีสอร์ทดีกว่าไหมคะ เชิญหนูปานกับหนูสาด้วยนะคะ น้าต้องเข้าไปเซ็นเอกสาร ถ้าสองคนไม่มีธุระที่ไหนก็นั่งเล่นเดินเล่นแถวๆ นี้ก็ได้ อยากได้เพื่อนคุยก็แม่คนโน้นเลยค่ะ คุยมันได้ทุกเรื่อง” บุษบาบอกปานวาดกับ รสาที่อมยิ้มเมื่อบุษบามองไปทางจีรธรที่ทำหน้ามุ่ยอยู่

“ขอบพระคุณมากค่ะ แต่สาเกรงใจค่ะ” รสาบอกกับบุษบาและปทุมมาศ

“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ หนูสา เชิญเลย คิดเสียว่าเราไปถล่มเจ้าของรีสอร์ทเขาสักมื้อคงไม่เป็นไรนักหรอกค่ะ” บุษบายิ้มให้กับปานวาดและรสา

“เชิญเลยค่ะคุณสา ยินดีมากค่ะ อันที่จริงไปพักที่รีสอร์ทเลยก็ได้ค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเผื่อคุณสาเบื่อหน้าคนข้างๆ เปิดหน้าต่างห้องที่รีสอร์ทได้เห็นวิวสวยๆ จะได้สบายใจกว่าเห็นหน้าปลัดนะจี๊ดว่า” จีรธรหัวเราะหึหึยักคิ้วเอาคืนปานวาดที่ยิ้มๆ กับท่าทางกวนๆ นั้น

“แสดงว่าก็ชวนปานด้วยซิคะ แบบนี้ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ คุณจี๊ด คืนนี้เราไปนอนรีสอร์ทคุณจี๊ดเปลี่ยนบรรยากาศก็ดีนะสา ได้ยินมาเหมือนกันว่าเวลาพระอา ทิตย์ขึ้นสวยมาก” ปานวาดบอกกับรสา

“แต่จ่ายเงินดีกว่านะคะ เกรงใจคุณจี๊ด” รสาบอกกับปานวาด

“ค่ะ ส่วนลดพิเศษหน่อยนะคะ คุณจี๊ด ปานกับสาเป็นข้าราชการเงินเดือนน้อยค่ะ” ปานวาดยังคงแหย่จีรธรต่อ

“กวนไม่เลิกนะคะ คุณปลัด” จีรธรทำหน้าดุดุใส่ปานวาดก่อนจะเดินไปหยิบจานผลไม้จากตู้เย็นมาวางที่โต๊ะ

“คุณน้าสองคนอยู่ด้วยกันมากี่ปีแล้วค่ะ สาขออนุญาตถามได้หรือเปล่าคะ” รสายิ้มให้กับผู้ใหญ่ทั้งสองที่กำลังหันมายิ้มให้กัน

“นานแล้วค่ะ แต่เราสองคนไม่ค่อยได้นับวันเดือนปีกันสักเท่าไหร่ เพราะไม่ ได้เห็นความสำคัญนักกับการที่เราอยู่ด้วยกันมานานเท่าไหร่แล้ว แต่อย่างหนึ่งที่เราคิดตรงกันก็คือ เราอยากให้ทุกๆ วันของเราสองคนมีความสุขเท่านั้นก็พอแล้วค่ะ” ปทุมมาศบอกกับรสาที่เป็นผู้ถามคำถาม

“น่ารักจังเลยค่ะ” รสาบอกกับผู้ใหญ่ทั้งสองท่านที่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

“คุณปลัดของหนูสาก็น่ารักไม่เบานะคะ” ปทุมมาศพูดแซวปลัดที่ยิ้มอายๆ

“คุณปลัด น้าบัวก็ชมไปอย่างนั้นแหละตามมารยาท จะยิ้มทำไมกัน” จีรธรหัวเราะเล็กๆ สิ่งที่เธอรู้สึกในตอนนี้คือ อยากเห็นรอยยิ้มของทั้งสองคน ทั้งรสาและปานวาดให้มากที่สุด ทำไมนะคนน่ารักๆ จิตใจก็ดีงาม โชคถึงไม่ค่อยเข้าข้างก็ไม่รู้ จีรธรคิด

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณจี๊ด ปานยิ้มไว้ก่อนอย่างน้อยก็เป็นคำชม ขอบคุณนะคะ น้าบัว” ปานวาดพนมมือไหว้ขอบคุณปทุมมาศที่อมยิ้มกับคำ
พูดของจีรธร รสารู้สึกชอบกับบรรยากาศที่นี่ความน่ารักของผู้ใหญ่ทั้งสองท่านทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น

“สาย้ายข้างไปอยู่ข้างคุณจี๊ดดีกว่า จะได้เห็นมุมไม่น่ารักของปานบ้าง” รสาพูดยิ้มๆ กับจีรธร

“ย้ายมาเลยค่ะ เพียบเลยรับรองได้ค่ะว่า คุณสาได้เห็นแน่ๆ” จีรธรยักคิ้วล้อเลียนปานวาดที่นั่งหัวเราะนึกขำท่าทางของจีรธร

บ้านหลังนี้ทำให้รสาและปานวาดลืมเรื่องเศร้าๆ ไปได้ โดยเฉพาะความทะเล้นของจีรธรที่ดูเหมือนจะกวนๆ แต่ก็สร้างรอยยิ้มให้ทั้งรสา
และปานวาดได้ตลอด เวลา มิตรภาพดีดีที่ได้หยิบยื่นให้รสาด้วยความน่ารักและมีไมตรีที่แสนดี แต่กับปานวาดถึงจะเป็นมิตรภาพที่กวนๆ ไปสักหน่อย หากว่าจีรธรก็มีความห่วงใยมอบให้ด้วยความจริงใจ

“คุณสาอยู่ข้างจี๊ดแล้ว ไปเดินเล่นกันดีกว่าค่ะ” จีรธรยิ้มๆ กันรสาที่หันมายิ้มให้ปานวาด

“ไปด้วยกันไหมคะ ปาน” รสาหันมาถาม แต่ปานวาดมองสบตากับจีรธรแล้วเธอก็ตัดสินใจไม่ไปด้วย เพราะคนทะเล้นแอบขยิบตาไม่อยากให้ตามไป

“ปานอยู่คุยกับคุณน้าดีกว่าค่ะ ไปด้วยเดี๋ยวคุณจี๊ดรำคาญ” ปานวาดยิ้มให้รสาที่อมยิ้มเดินตามจีรธรออกมา

ปทุมมาศกับบุษบาส่ายหัวกับหลานสาวตัวแสบ ก่อนที่จะหันมายิ้มให้กับปานวาดที่นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ที่พื้น

“ไหวไหมหนูปาน” บุษบาถามขึ้น ปานวาดเข้าใจสิ่งที่กำลังถูกถามคำถาม

“เกือบไม่ไหวค่ะ พอดีเจอคุณจี๊ดช่วยปลอบก่อนขึ้นมาบนบ้านเลยค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ” ปานวาดเล่าอ้อมๆ บอกคุณน้าทั้งสอง

“อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยนะ หนูปาน บางทีมันก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้” ปทุมมาศยิ้มให้

“ขอบคุณค่ะ ปานก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น แล้วสาเป็นอย่างไรบ้างค่ะ”

“ก็ไม่มีอะไร ก็เป็นห่วงหนูปานซึ่งก็ไม่ต่างกับที่หนูปานห่วงหนูสา” บุษบาบอกกับปานวาด

“ค่ะ ความสุขมักอยู่กับเราไม่ค่อยนานเลยนะคะ คุณน้าสองคนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างหรือเปล่าคะ” ปานวาดถาม

“เคยซิ น้าสองคนเจอปัญหามาเยอะแยะมากมาย แต่ก็ผ่านมันมาได้ด้วยความมั่นคงที่มีให้กัน มันก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนนะหนูปาน คนอื่นๆ มาทำอะไรเราไม่ได้หรอก แต่ถ้ามันไม่มั่นคง ก็คงต้องปล่อยให้ชีวิตดำเนินต่อไป” ปทุมมาศพูดเหมือนปลอบใจและเตือนในคราวเดียวกัน ปานวาดยิ้มๆ กับสิ่งที่ปทุมมาศพูดไปเมื่อสักครู่

จีรธรออกมาเดินเล่นและสูดอากาศบริสุทธิ์กับรสา ซึ่งหน้าตาดูไม่ค่อยสดชื่นสักเท่าไหร่นัก

“ทำไมย้ายกลับกรุงเทพเร็วนักคะ” จีรธรเริ่มคำถามของเธอ

“ทางบ้านคงอยากให้กลับเร็วๆ น่ะคะ”

“ก็แค่กลับไปกรุงเทพเองค่ะ ระยะทางแพ้ระยะใจนะคะ จี๊ดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น”

“ขอบคุณที่ช่วยปลอบใจนะคะ คุณจี๊ด” รสายิ้มให้จีรธร

“จี๊ดไม่ได้จะปลอบคุณสา แต่จี๊ดคิดอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ ปลัดก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ซึมๆ แบบนี้ทะเลาะด้วยแล้วไม่สนุกเลยค่ะ” จีรธรพูดยิ้มๆ ด้วยความเป็นห่วงคนทั้งสอง

“สาอยากฝากคุณจี๊ดดูแลปานให้ทีนะคะ” รสาพูดดูจริงจัง

“คุณสาพูดเหมือนจะไม่กลับมาที่นี่อีกเลย” จีรธรสังเกตสายตาที่ดูเป็นกังวลของรสา

“กลับไปจะเจออะไรบ้างยังไม่รู้เลยค่ะ หวั่นๆ อยู่เหมือนกัน” รสาหน้าเศร้าลงทันทีที่ได้บอกจีรธรไป

“อย่าเพิ่งคิดเลยดีกว่าค่ะ เอาเป็นว่า เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันที่นี่ คุณสาก็ทำให้มีความสุขที่สุด ปลัดก็คงคิดเหมือนกัน” จีรธรยิ้มจางๆ ให้คน
ที่ทำตาแดงๆ เธอจึงเดินไปโอบกอดไว้อยากให้กำลังใจ กลับมาหวนคิดถึงน้าสาวทั้งสองของเธอว่าเมื่อ ก่อนคงเจอเหตุการณ์แบบนี้มาบ้างแน่ๆ เพราะมารดาของเธอก็พยายามทุกวิถีทางที่จะแยกปทุมมาศออกจากบุษบาซึ่งเป็นน้องสาวของท่านเช่นกัน

“เรื่องฝากดูแลปาน สาก็ยังอยากรบกวนคุณจี๊ดอยู่นะคะ คุณน้าทั้งสองท่านกับคุณจี๊ดน่าจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้ปานได้ในทุกๆ เรื่อง” รสา
ยิ้มให้มองสบตาของจีรธรที่ดูยังคงลังเลกับคำขอ

“ก็ได้ค่ะ แต่คุณปลัดจะยอมญาติดีกับจี๊ดหรือเปล่านี่ซิคะ” สองสาวหัวเราะขึ้นพร้อมๆ กัน

“ขอบคุณนะคะ คุณจี๊ด” รสาบอกขอบคุณด้วยความจริงใจ เพราะถ้ามีสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ ตรงนี้กับผู้ใหญ่ทั้งสองท่านช่วยดูแล เธอก็
รู้สึกหมดห่วงกับคนที่เธอรักไปได้มากพอสมควร

“ยินดีค่ะ รับรองจะเฝ้าให้อย่างดีเลยค่ะ ถ้าเกเรเมื่อไหร่ จี๊ดจะรีบบอกเลยนะคะ” จีรธรยิ้มให้กำลังใจรสา

“สาเชื่อว่าคุณจี๊ดจะช่วยปลอบใจปานได้ หากว่ามีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน"

“อย่าคาดการณ์ไปอย่างนั้นซิคะ เอาเป็นว่าระหว่างที่อยู่ที่นี่ คุณสาพาปลัดไปพักที่รีสอร์ทได้เลยนะคะ จนกว่าจะกลับกรุงเทพ ใช้เวลาด้วยกันให้มากที่สุด ให้ดีให้คุณปลัดคนขยันลาพักเลยก็ดี เอหรือว่าพักที่บ้านคุณน้าดีกว่าคะ คุณน้าทั้งสองมีเรื่องดีดีเล่าให้ฟังตลอดเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเล่าของความรักของท่านทั้งสอง อย่างไรคุณสาลองปรึกษาคุณปลัดดูก่อนก็ได้ค่ะ” จีรธรยิ้มกว้างให้รสา

“ขอบคุณค่ะ แต่จะเป็นการรบกวนคุณน้าทั้งสองมากเกินไปซิคะ ว่าแต่เรื่องเล่าของความรักที่คุณจี๊ดว่าก็น่าสนใจนะคะ” รสาพูดยิ้มๆ

“เรื่องเล่าของความรักของน้าสาวของจี๊ด สร้างรอยยิ้มให้จี๊ดอยู่บ่อยๆ ค่ะ”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวจะลองถามปานดู” ดวงตาฉายประกายของความสุขขึ้นมาทันทีเมื่อจีรธรได้บอกเล่าเรื่องราวที่น้าสาวทั้งสองของเธอเคยเล่าให้ฟัง รสาอมยิ้มเพราะคาดเดาเอาว่า เรื่องราวของคุณน้าทั้งสองน่ามีเรื่องดีดีอย่างน้อยท่านก็ได้มาอยู่ด้วย กัน ณ ที่นี่เวลานี้และคงจะอยู่ด้วยกันตลอดไป




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.