web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 122
Total: 122

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 12  (อ่าน 1543 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 12
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:11:41 »
ตอนที่ 12



“ใครอยากเล่าให้หลานสาวที่แสนน่ารักฟัง ก็เล่ามาค่ะ” จีรธรยิ้มทะเล้น ปทุมมาศนึกขำกับความกวนของสองน้าหลาน ซึ่งเป็นคนที่เธอรักทั้งคู่ ปทุมมาศยังไม่ทันได้เริ่มต้นเรื่องราวของเธอ ก็พอดีกับที่ปานวาดกับรสาเดินเข้าสบทบมาร่วมวงสนทนาด้วย

“น้าบุษกับน้าบัว ก็คิดเสียว่า เรื่องราวชีวิตที่กำลังจะเล่าให้พวกเราฟังเป็นเหมือนบทเรียนชีวิตสำหรับหลานๆ ก็ได้ค่ะ เผื่อว่าจะนำไปใช้ได้ในวันข้างหน้า” จีรธรยิ้มๆ เมื่อปานวาดกับรสามานั่งลงร่วมวงสนทนา

“เรื่องเล่าของความรักหรือคะ” รสาถามเมื่อทันเข้ามาได้ยินสิ่งที่จีรธรพูด

“คุณสาตั้งชื่อเรื่องให้เสียเพราะเลยนะคะ” จีรธรยิ้มให้รสา

“จี๊ด ถามน้ากับน้าบัวว่า เคยเจออุปสรรคเวลาคนอื่นไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการคบหากันของผู้หญิงสองคนหรือไม่น่ะคะ” บุษบาบอกกับรสาและปานวาด

“แล้วเคยเจอบ้างไหมคะ น้าบุษ” ปานวาดถาม

“เคยค่ะ หนูปาน บอกได้เลยว่าคนที่เข้าใจจริงๆ แทบจะไม่มี คนที่เข้าใจน้ากับน้าบัวมากที่สุด และเป็นคนในครอบครัว ก็เห็นจะมีแค่แม่
หลานสาวคนนี้เท่านั้น” บุษบายิ้มให้จีรธร ซึ่งกำลังยิ้มกว้างให้กับสายตาอันอ่อนโยนของน้าสาวทั้งสองเธอที่กำลังมองมาที่เธอพร้อมๆ กัน

“แต่คุณน้าทั้งสองก็ผ่านมันมาได้ และได้อยู่ด้วยกันมาจนทุกวันนี้” รสาพูด

“ค่ะ หนูสา แต่กว่าจะได้มาอยู่ด้วยกัน ก็แทบเป็นแทบตายเหมือนกันค่ะ คุยกัน ทะเลาะกัน ร้องไห้ด้วยกันมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ กว่าจะมาลงเอยที่บ้านริมเขาแห่งนี้” ปทุมมาศบอกกับรสาและปานวาดเพื่อเป็นกำลังใจให้กับสองสาวที่กำลังตั้งใจฟังกับทุกสิ่งที่เธอและบุษบากำลังจะเล่า

“สาเหตุเกิดขึ้นจากคนรอบข้างหรือเปล่าคะ” ปานวาดถาม

“ใช่ค่ะ โดยส่วนใหญ่ แต่ก็จากเราสองคนด้วย การที่ต้องอยู่ด้วยกันมันก็ต้องปรับตัวเข้าหากันค่อนข้างเยอะค่ะ” ปทุมมาศบอกกับทั้งสามสาว บุษบากุมมือปทุมมาศไว้ สามสาวที่อายุน้อยกว่าได้เห็นภาพของคุณน้าทั้งสองในตอนนี้ก็ยิ้มออก เพียงแค่การกุมมือและสายตาอ่อนโยนที่มองกันและกัน มันบอกได้ถึงความรักและความห่วงใยที่ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านมีให้กัน ปานวาดกับบุษบาหันมายิ้มให้กัน ความน่า รักของปทุมมาศกับบุษบากำลังสร้างกำลังใจให้กับรสาและปานวาด โดยที่ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านไม่รู้ตัว

“แต่คนที่ทำให้เกือบต้องแยกจากกัน คือ แม่จี๊ดเองค่ะ” จีรธรยิ้มแหยๆ ให้ รสากับปานวาด

“อย่าไปว่าท่านเลยค่ะ เพราะความหวังดีที่มีให้กับน้องสาวคนเดียว ก็เป็นธรรมดาค่ะ ที่จะต้องหวง” ปทุมมาศแก้ตัวแทนมารดาของจีรธร

“แม่ของจี๊ดอยากให้น้า มีชีวิตสมบูรณ์แบบเหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป ดูแลส่งเสียเรื่องเรียนจนจบ แต่น้าก็ทำให้พี่สาวไม่ได้ เป็นหน้าเป็นตาในสังคมให้ท่านไม่ได้ คงต้องหวังพึ่งแม่ลูกสาวแทนแล้วล่ะตอนนี้” บุษบามองไปที่จีรธร

“งานเข้าจี๊ดล่ะที่นี้ เกิดไปรักใครชอบใครที่แม่ไม่ปลื้มก็แย่สิคะ” จีรธรพูดเสียงอ่อยๆ ปานวาดกับรสาอมยิ้ม

“ก็หนุ่มที่จะมานั่น เราก็ปลื้มแม่ก็ปลื้มไม่ใช่หรือคะ” ปทุมมาศแซวจีรธร

“มีแอบแซวนะคะ น้าบัว” จีรธรยิ้มอายๆ

“น่าเสียดายค่ะ สาเลยไม่มีโอกาสได้พบหนุ่มผู้โชคดี” รสายิ้มให้จีรธร

“คุณสาก็อย่างไปฟังน้าบัวกับน้าบุษมากนักค่ะ ยังไม่มีอะไรคืบหน้าขนาดนั้น” จีรธรชำเลืองมองไปที่ปานวาด

“ถ้ามีข่าวดีก็อย่าลืมส่งข่าวบอกสาด้วยนะคะ” รสายิ้มให้จีรธร

“น้าว่าคงโชคร้ายแน่ๆ ถ้าได้ยายจี๊ดไปเป็นแฟน” บุษบายิ้มๆ กับหน้างอของหลานสาว

“แหมหลานของน้าบัวกับน้าบุษก็ต้องมีเสน่ห์กันบ้างล่ะนะ ไม่อย่างนั้นหนุ่มจะตามมาถึงที่นี่หรือคะ” จีรธรนึกขำกับสิ่งที่เธอได้พูดออกไป

“ขี้อวดนะหลานฉัน ไม่คุยเรื่องเธอดีกว่า หนูสาจะเดินทางพรุ่งนี้เลยหรือคะ” บุษบาหันไปถามรสา

“ค่ะ คุณจี๊ดจะไปส่งที่สนามบินค่ะ” รสาบอกกับปทุมมาศและบุษบาที่กำลังมองไปที่ปานวาด

“อ้อ ยายจี๊ดไปส่ง” บุษบาพูด หันไปมองจีรธรที่ยิ้มแหยๆ ให้

“เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าค่ะ ขอฟังเรื่องเล่าของความรักต่อดีกว่านะคะ” จีรธรเห็นหน้าจ๋อยๆ ของปานวาดแล้วอดสงสารไม่ได้ เลยรีบหาเรื่องเปลี่ยนเรื่องคุยในทันที

“เล่าให้หลานฟังสิคะ ที่จะโดนคลุมถุงชนน่ะ” ปทุมมาศรับไม้ต่อจากจีรธรเพื่อช่วยในการเปลี่ยนเรื่องพูดคุยด้วยความสงสารปานวาดที่นั่งเงียบๆ อยู่นานแล้ว

“คลุมถุงชน ใช่ แม่ของจี๊ด เคยจะจับน้าแต่งงาน ตอนที่เพิ่งกลับจากต่าง ประเทศ” บุษบากำลังนั่งนึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบกว่าปี
ก่อน

“น้าบุษไปอยู่ต่างประเทศนานเท่าไหร่คะ” รสาถาม เพราะรู้ว่านั่นเป็นการถูกจับแยกออกจากกัน

“หกปีค่ะ หนูสา” บุษบาบอกกับรสา

“หกปี นานมากนะคะ น้าบัวไม่มีใครเข้ามาทำให้อ่อนไหวบ้างเลยหรือคะ” จีรธรถามปทุมมาศที่นั่งยิ้มๆ

“ไม่มีค่ะ ที่บ้านน้าก็หว่านล้อมให้แต่งงานอยู่เหมือนกัน แต่ก็พยายามผลัด ผ่อนและบ่ายเบี่ยงมาเรื่อยๆ เพื่อรอน้าบุษของจี๊ดกลับมาก”
ปทุมมาศยิ้มให้บุษบาที่กำลังยิ้มให้เธออยู่เช่นกัน

“โอ้โห หวานเหมือนกันนะคะ น้าบัว แล้วแม่ทำอย่างไรต่อคะ น้าบุษ”

“ก็นัดดูตัวเป็นว่าเล่นเลย บางอาทิตย์สองสามครั้งก็มี น้าก็ไปด้วยทุกครั้งตามใจแม่เรา แต่ก็ไม่ได้เรื่อง เล่าให้น้าบัวของจี๊ดฟัง น้าบัวยังโกรธน้าเลยบอกว่าให้ปฏิเสธไปบ้างก็ได้ไม่ต้องไปทุกครั้ง” บุษบาเห็นปทุมมาศทำสายตาดุดุมองมาที่เธอ

“ก็กลัวเปลี่ยนใจ คนรอก็จะรอเก้อค่ะ” ปทุมมาศพูดขึ้น เรียกรอยยิ้มให้กับทุกคน

“น้าบัว กลัวน้าบุษจะอ่อนไหวไปกับหนุ่มๆ ที่แม่คุณจี๊ดพาไปดูตัวหรือคะ” รสาถามด้วยความสงสัย

“เปล่าค่ะ หนูสา เรื่องหนุ่มๆ ไม่ค่อยเท่าไหร่ เป็นห่วงสาวๆ ซึ่งเป็นพนักงานโรงแรมมากกว่า” ปทุมมาศอมยิ้มกระชับมือที่กุมมือบุษบาไว้เล็กน้อย

“แสดงว่า น้าบัวก็ไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไหร่สิคะ” จีรธรแกล้งแหย่น้าสาวของเธอ

“ด้วยช่วงวัยด้วยค่ะ เราได้เจอกันน้อยมาก น้าก็แย่ที่แอบระแวง” ปทุมมาศยิ้มอายๆ

“แต่น้าตรงกันข้ามกับน้าบัวนะ ไม่เคยนึกระแวงเลย” บุษบาบอกกับสามสาวที่กำลังจ้องตาแป๋ว

“ทำไมล่ะคะ น้าบัวก็สวยอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ น้าบุษ” ทุกคนหันไปมองที่ปานวาด เพราะเป็นคำถามแรกหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน

“อาจจะด้วยสิ่งที่อยู่แวดล้อมตัวเราก็ได้นะคะ น้าบัวทำงานอยู่ต่างจังหวัด แล้วก็ไม่ได้พบเจอกับใครมากมายนัก ทำงานเสร็จก็ตรงกลับบ้าน น้าโทรหาเมื่อไหร่ก็รับสายทุกครั้ง หรือถ้าไม่ได้รับไม่นานนักก็โทรกลับมา แต่กับน้าเองอยู่ในสังคมที่ออกจะกว้างกว่า ต้องพบเจอผู้คนมากมาย น้าบัวโทรมาส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยได้รับ กว่าจะโทรกลับบางทีก็ดึกดื่น เลยทำให้น้าบัวแอบคิดระแวงบ้างเป็นธรรมดา” บุษบากำลังบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอให้หลานๆ ได้รับรู้ โดยเฉพาะเหตุการณ์เหล่านี้ก็คงจะใกล้เคียงกับชีวิตของปานวาดและรสา คนหนึ่งอยู่ที่นี่สังคมก็คงไม่ต่างนักกับที่ปทุมมาศเคยใช้ชีวิต ส่วนอีกคนรสาก็คงเหมือนกับตัวเธอที่ต้องอยู่ในสังคมเมืองซึ่งต้องพบเจอผู้คนมากมาย บุษบาหวังว่า เรื่องที่เล่าไปจะไปสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นในความรู้สึกของรสากับปานวาดได้บ้าง

“ขอบคุณค่ะ น้าบุษ” บุษบายิ้มให้ปานวาด ท่าทางปลัดสาวสวยคงจะเข้าใจในสิ่งที่เธอได้พูดไป เพราะรอยยิ้มเล็กๆ ที่เกิดขึ้นให้เห็นเมื่อสักครู่

“วันนี้ ยายจี๊ดกับหนูปานไม่ได้ปะทะคารมกันให้ได้ยินสักนิดเลยนะคะ หรือแอบสงบศึกกันชั่วคราว” บุษบาพยักเพยิดไปทางหลานสาว

“เริ่มเลยดีกว่าไหมคะ พร้อมยังคะ คุณปลัด” จีรธรสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้ทุกคนในทันทีที่พูดจบ ไม่เว้นแม้กระทั่งปานวาดที่นั่ง
อมยิ้มอยู่ด้วย




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.