web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 118
Total: 118

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 16  (อ่าน 1488 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 16
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:16:12 »
ตอนที่ 16

เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น จีรธรคิดว่าเป็นน้าสาวของเธอ เพราะบุษบารู้สึกไม่ค่อยสบายบางทีปทุมมาศอาจจะต้องการอะไรหรืออยากให้ช่วยอะไร จึงรีบเปิดประตูห้อง แต่ก็พบเข้ากับปานวาดที่ยืนยิ้มจางๆ ให้

“เดี๋ยวค่ะ” ปานวาดรู้ว่าจีรธรคงจะปิดประตูเมื่อได้เห็นเธอจึงเอามือไปกันเอาไว้เจ้าของห้องไม่ทันเห็นจึงปิดประตูกระแทกเข้ากับมือของปานวาด

“ตายแล้ว เอามือเข้ามาทำไมกันคะ” จีรธรพูดและรีบเปิดประตูให้กว้างขึ้น

“ก็ถ้าไม่เอามือกันไว้ จี๊ดก็ปิดประตูใส่หน้าปาน เราก็ไม่ได้คุยกันพอดี”

เสียงของทั้งสองสาวทำให้ปทุมมาศออกมาดูด้วยความเป็นห่วง เพราะเสียงร้องของปานวาดดังเสียจนทำให้ทั้งบุษบาและปทุมมาศต้องรีบออกมาดู หากแต่ว่าปทุมมาศอาสาออกมาดูเองให้บุษบารออยู่ให้ห้อง

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ หนูปาน” ปทุมมาศออกมาเห็นปานวาดยืนกุมมือตัวเองอยู่หน้าห้องของจีรธรที่ยืนยิ้มจ๋อยๆ อยู่

“ไม่มีอะไรค่ะ แหย่จี๊ดเล่นนิดหน่อย ประตูห้องเลยหนีบมือค่ะ” ปานวาดยิ้มแหยๆ ให้ปทุมมาศ จีรธรก็เช่นกัน

“ไหนขอน้าดูหน่อยค่ะ” ปทุมมาศเดินเข้ามาดูใกล้ๆ ด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรค่ะ นิดหน่อยเองค่ะ น้าบัว” ปานวาดรู้สึกเกรงใจ

“เขียวช้ำขนาดนี้ยังบอกว่านิดเดียว คุณจี๊ดก็เล่นจนได้เรื่องนะคะ รับผิดชอบไปหายามาทาให้หนูปานเดี๋ยวนี้เลย น่าตีนักนะคะ นิ้วหักไปจะทำอย่างไรกันล่ะ ไปค่ะหายาทาให้หนูปานเดี๋ยวนี้เลยนะคะ น้าไปนอนก่อนป่านนี้น้าบุษคงเป็นห่วงแล้วได้ยินเสียงปลัดร้องดังเข้าไปถึงในห้อง” ปทุมมาศยิ้มๆ กับทั้งสองสาวก่อนจะกลับเข้าห้องไป

“ไปค่ะ เดี๋ยวจี๊ดหายาทาให้” จีรธรบอกกับปานวาดที่เดินตามไปแต่โดยดี

จีรธรไม่ได้พูดอะไรทำเพียงแค่หยิบยามาทาให้บริเวณที่เกิดอาการเขียวช้ำ หากแต่ว่าการสัมผัสไปที่มือของปานวาดนั้นทำให้หัวใจของเธอรู้สึกแปลกๆ แต่เธอก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำให้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเกิดอาการบาดเจ็บ

“เรียบร้อยค่ะ” จีรธรทำท่าจะลุกขึ้น

“เดี๋ยวค่ะ จะไม่ถามสักหน่อยหรือคะว่าไปเคาะประตูห้องนอนทำไม” สิ่งที่ปานวาดพูดดูจะช่วยหยุดจีรธรให้กลับมานั่งลงที่เดิม

“มีอะไรก็ว่ามาค่ะ” จีรธรถาม

“ปานอยากขอโทษ” ปานวาดบอก

“เรื่อง”

“ก็เรื่องที่ปานจูบจี๊ด”

“ช่างมันเถอะค่ะ อันที่จริงคนเริ่มก่อนคือจี๊ด ถ้าหาคนผิดหรือคนที่ควรจะขอโทษก็ควรจะเป็นจี๊ดมากกว่า” จีรธรอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แฝงไว้ด้วยความ รู้สึกแปลกที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดที่จะพูดคุยกันปานวาด

“ปานไม่ได้มาหาคนผิด แต่อยากขอบคุณที่เป็นห่วง” ปานวาดบอกสิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจหลังจากได้รับสัมผัสจากจูบที่เหมือนเป็นการปลอบโยนให้กับเธอ

“เคยบอกปลัดหรือว่าเป็นห่วง” จีรธรเริ่มพูดจากวนโมโหจนทำให้ปานวาดยิ้มออก เพราะไอ้ท่าทางและการพูดจากวนๆ แบบนี้ดูน่ารักเสมอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบและรู้จักกัน

“นั่นสิ ปานคงคิดเข้าข้างตัวเองไปนะคะ ใช่หรือไม่ใช่ก็ขอบคุณก็แล้วกันค่ะ” ปานวาดพูดและอยากเห็นรอยยิ้มของจีรธรด้วยเช่นกัน เสียงเตือนว่ามีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ของปานวาดดังขึ้น สองสาวรู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างกันนั้น จีรธรได้เฝ้าสังเกตอาการของคนที่กำลังดูหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง จีรธรรู้ว่าปานวาดคงเฝ้าหวังว่าคนที่ส่งข้อความมาจะเป็นรสา

“คิดถึงมากค่ะ” เป็นข้อความที่ส่งเข้ามาหากแต่ไม่ใช่จากรสา แต่เป็นเบอร์แปลกๆ ที่ไม่ได้มีการเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องโทรศัพท์ของปานวาด ซึ่งกำลังนึกสงสัยว่าเป็นใครกัน จีรธรเห็นท่าทางแปลกๆ จึงถามขึ้น

“คุณสาว่าอย่างไรบ้างคะ”

“ไม่ใช่จากสาค่ะ” ปานวาดยิ้มจางๆ ให้กับจีรธรพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ดู

“คิดถึงมากค่ะ” จีรธรอ่านข้อความนั้น

“อาจจะส่งผิดก็ได้ค่ะ” รอยยิ้มของปานวาดหายไปในทันที

“จะบ้าหรือ ก็โทรกลับไปสิ บางทีอาจจะเป็นคุณสาที่ใช้เบอร์อื่นก็ได้ เร็วๆ จะมานั่งยิ้มหุบอยู่ทำไมกันล่ะ ปลัด” จีรธรพูดเหมือนดุแต่ก็ช่วยปลุกปานวาดให้กลับ มาและทำตามที่จีรธรบอก ปานวาดโทรกลับไปตามเบอร์ที่ได้ส่งข้อความเข้ามา

“ปิดเครื่องค่ะ” ปานวาดหน้าเศร้าลงทันทีที่ได้บอกกับจีรธร

“ปิดเครื่อง” จีรธรพูด

“อาจจะส่งผิดหรือคนส่งก็อาจจะไม่อยากคุยกับปานก็ได้ค่ะ”

“ไปกรุงเทพกันไหม จี๊ดไปเป็นเพื่อน” จีรธรเสนอความคิดเห็น

“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ ถ้าสาอยากคุยหรืออยากติดต่อก็คงติดต่อมาเอง”

“บางทีคนเราก็มีเหตุผลของตัวเอง แล้วจะรออยู่แบบนี้หรือคะ” จีรธรถามด้วยความห่วงใยที่ดูจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเตือนตัวเอง

“ค่ะ” คำตอบสั้นๆ พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นของปานวาดทำให้จีรธรต้องเข้าไปปลอบโยนโดยไม่ได้รั้งรอ ทั้งๆ ที่พยายามเตือนตัวเองอยู่
ตลอดเวลา

“มาค่ะ” จีรธรอ้าแขนทั้งสองข้างรอจนกระทั่งปานวาดเข้ามาสู่อ้อมกอดของเธอ จีรธรกอดปานวาดเอาไว้พอให้รู้สึกสบาย อ้อมกอดแบบนี้เธอเคยได้รับอยู่บ่อยๆ เวลาท้อแท้หรือมีปัญหา อ้อมกอดหลวมๆ จากน้าสาวทั้งสองทำให้เธอรู้สึกเสมอว่าเธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกอย่างไรเสียก็ยังมีน้าสาวของเธอทั้งสองอยู่เคียงข้าง จีรธรเลือกที่จะทำเช่นเดียวกับที่เธอได้รับและอยากที่จะบอกผ่านความรู้สึกนั้นให้กับปานวาดได้สัมผัสด้วยเช่นกัน ปานวาดเบียดตัวเข้าหาอ้อมกอดนั้นอีกเล็กน้อย น้ำตาของความอ่อนแอเริ่มไหลรินมากยิ่งขึ้น ปทุมมาศยืนดูหลานสาวของเธอปลอบโยนปานวาดด้วยรอยยิ้ม จีรธรมีความน่ารักไม่แตกต่างกับบุษบา ความแข็งที่มีให้เห็นอยู่ภายนอกแต่ก็มีความอ่อนโยนแฝงและหลบซ่อนอยู่ภายใน ใครได้สัมผัสก็คงจะต้องรู้สึกแปลกใจเป็นแน่ เหมือนดังเช่นเธอที่ได้เห็นความอ่อนโยนในตัวของบุษบาและหลงรักมาจนถึงปัจจุบันนี้ หากแต่ว่าภาพที่เห็นกลับทำให้ปทุมมาศรู้สึกเป็นห่วงจีรธรขึ้นมาและกำลังคิดว่าควรจะไปบอกเล่าให้บุษบาได้รับรู้หรือไม่

ปทุมมาศกลับเข้ามาในห้องนอนเห็นบุษบายังไม่หลับ จึงคิดว่าน่าจะบอกเล่าเรื่องราวของจีรธรและปานวาดให้ได้รับรู้เอาไว้ ยิ้มจางๆ ของปทุมมาศทำให้บุษบาลุกขึ้นนั่งโอบกอดคนที่กำลังนั่งลงบนเตียงข้างๆ เธอ ความอบอุ่นจากตัวของปทุมมาศทำให้บุษบายิ้มออก

“กอดบัวทีไรรู้สึกดีทุกทีสิ” บุษบากระซิบบอกคนที่หันมายิ้มให้

“ไม่เบื่อหรือคะ กอดมาเป็นสิบๆ ปีแล้วนะ” ปทุมมาศใช้มือทาบทับไปที่แก้มอันนุ่มนวลของคนที่เธอแสนรัก

“ไม่มีวันค่ะ บุษจะกอดบัวไว้จนลมหายใจสุดท้ายเลย” บุษบาพูดยิ้มๆ กอดกระชับปทุมมาศไว้

“ขอบคุณนะคะ บัวก็อยากให้บุษกอดบัวแบบนี้ตลอดไป ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่าคะ” ปทุมมาศใช้มือแตะไปที่หน้าผากของบุษบา

“มีอะไร ทำไมไม่เล่าล่ะคะ” บุษบาถามมองสบตากับปทุมมาศที่อมยิ้ม

“รู้ได้อย่างไรคะ ว่ามีเรื่องอะไรในใจ” บุษบารู้ทุกเรื่องราวที่เกี่ยวกับตัวเธอไม่ว่าจะมีอะไรอยู่ในใจไม่เคยเลยสักครั้งที่ผู้หญิงที่เธอแสนรักคนนี้จะไม่ใส่ใจ

“รู้ตั้งแต่ยิ้มจางๆ ตอนที่เดินเข้ามาแล้ว มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะบัว” บุษบากอดกระชับปทุมมาศให้แน่นขึ้นอีกเล็กน้อย ปทุมมาศจึงเล่าเรื่องที่เธอออกไปเห็นและได้ยินการพูดคุยกันระหว่างปานวาดกับจีรธร เธออยากรู้ว่าน้าสาวแท้ๆ ของจีรธรมีความคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้ สำหรับตัวเธอเองความรู้สึกเป็นห่วงในตัวหลาน สาวมีเพิ่มมากขึ้น รู้สึกเป็นกังวลอย่างไรก็บอกไม่ถูก ดูเหมือนว่าความรู้สึกดีดีที่จีรธรมีให้กับปานวาดจะมีเพิ่มมากขึ้น

“ยายจี๊ดน่าจะเกิดเป็นลูกสาวบุษนะ อันที่จริง” บุษบาพูดยิ้มๆ แล้วหอมแก้มปทุมมาศที่ยิ้มเพราะเห็นด้วยกับสิ่งที่บุษบาพูด

“ถอดแบบกันมาเลย เหมือนคนๆ เดียวกันแต่ต่างวัย” ปทุมมาศบอก

“บัวไม่คิดหรือว่า ถ้ายายจี๊ดไม่ได้สนใจหรือรู้สึกดีดีด้วย จะไปเป็นห่วงเป็นใยมากมายขนาดนั้น ถึงแม้จะทำเป็นพูดจากวนโมโหอยู่ตลอดเวลาแต่ความห่วงใยที่มีให้กับปลัดปานวาดก็มีให้เราเห็นอยู่ตลอดเวลา บุษรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ายายจี๊ดรู้สึกดีดีกับหนูปาน” บุษบาบอกกับปทุมมาศที่กำลังคิดว่าทำไมถึงไม่มีการเตือนหรือห้ามปรามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งหลานจะถล้ำลึกมากอย่างที่เห็น

“แล้วทำไมไม่เตือนหรือห้ามปรามล่ะคะ ไม่กลัวหลานจะเสียใจหรืออย่างไรกันคะ” ปทุมมาศรู้สึกเป็นห่วงจีรธรมากขึ้นกว่าเดิม

“เรื่องแบบนี้ บุษอยากให้หลานเรียนรู้และแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ยายจี๊ดจัดการได้ เอาเป็นว่าเราสองคนจะคอยดูแลหลานอยู่ห่างๆ ตักเตือนในสิ่งที่เห็นว่าไม่เหมาะไม่ควร แต่คนที่น่าเป็นห่วงน่าจะเป็นปลัดมากกว่านะ” บุษบาถอนใจเล็กๆ ปทุมมาศจึงโอบกอดปลอบโยนบุษบาที่ยิ้มจางๆ และมองมาที่เธอ

“รู้อยู่ว่าหลานชอบ แต่ก็ไม่ได้คิดจะห้ามปราม ปล่อยให้เดินเข้าไปหาต้องรอให้อกหักก่อนหรืออย่างไรคะ” ปทุมมาศพูดด้วยความเป็นห่วงจีรธร

“แสบเสียขนาดนั้น ปล่อยให้อกหักบ้างจะเป็นไรไปล่ะ” บุษบาพูดยิ้มๆ กับสายตาดุดุที่มองมาที่เธอ ปทุมมาศแสดงความไม่พอใจให้เห็นชัดที่พูดถึงหลานสาวแสนรักแบบนั้น

“ใจร้าย” ปทุมมาศพูดดุบุษบาที่อมยิ้มกับสายตาดุดุของปทุมมาศ

“บัวจะมาดุบุษทำไมกันคะ ก็แค่อยากให้หลานเผชิญปัญหาและรู้จักแก้ไขด้วยตัวเอง ยายจี๊ดก็ไม่เคยบอกเราสักหน่อยว่าชอบปลัด ใช่ไหม” บุษบาพูด

“ก็ตามใจ บัวจะคอยเตือนเองก็ได้ ถ้าคุณจี๊ดอกหักแล้วร้องไห้ให้เห็นล่ะก็ บัวจะโกรธบุษจริงๆ ด้วย” ปทุมมาศทำท่างอนๆ

“ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยนะคะ ยายจี๊ดอกหักแล้วมาเกี่ยวอะไรกับบุษล่ะคะ” บุษบาพูดจบก็มีเสียงไอตามมา

“พรุ่งนี้ไปให้หมอดูหน่อยดีกว่านะคะ เริ่มไอแล้ว ตัวก็รุมๆ เข้านอนดีกว่านะคะ” ปทุมมาศแสดงอาการเป็นห่วงจนทำให้คนป่วยยิ้มกว้างขึ้น

“กอดไว้ก็หายแล้วค่ะ” บุษบาพูดยิ้มๆ แล้วล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย

“ยังจะมายิ้มอีกนะ จำได้ไหมว่าสัญญาว่าจะอยู่ด้วยนานๆ ห้ามป่วยมากๆ ให้เห็นเด็ดขาดนะคะ บัวอยู่ไม่ได้นะถ้าไม่มีบุษ” ปทุมมาศจูบเบาๆ ไปที่ริมฝีปากซีดๆ ของคนป่วยที่ตอบรับสัมผัสนั้นอย่างแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้ม

“พรุ่งนี้ไปหาหมอก็ได้ บัวจะได้สบายใจ บุษรักบัวมากนะ” ปทุมมาศยิ้มและรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ยินคำบอกรักจากคนที่เธอรัก

“หลับตาได้แล้วค่ะ ถ้าอยากให้กอดไว้ทั้งคืนก็ต้องเชื่อฟังตกลงไหม”

“ดุจังเลยค่ะ ก็ได้หลับตาก็หลับตา ฝันดีนะคะ แต่ขอจูบอีกทีก่อนค่อยหลับได้ไหม” ปทุมมาศยิ้ม จูบเบาๆ ไปที่ริมฝีปากซีดๆ ของบุษบาอีกครั้ง

“ฝันดีคนขี้อ้อน บัวรักบุษนะ” ปทุมมาศจูบไปที่หน้าผากของคนที่หลับตานอนอมยิ้ม ภาพที่เห็นทำให้ปทุมมาศยิ้มอย่างมีความสุข




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.