ตอนที่ 11
“ทิพย์” นิมาพูดชื่อของทองทิพย์ขึ้นเบาๆ หลังจากหันมาเห็นยืนอยู่ทางด้านหลังของเธอ
“คบอยู่กับคนอื่นทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะคะ” ทองทิพย์ถามขึ้นพร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลรินมาจากไหนเจ้าตัวเองก็ไม่รู้ แต่เธอก็รีบเช็ดในทันทีที่รู้สึก
“ก็” นิมาไม่รู้จะพูดอะไรเพราะไม่คิดว่าทองทิพย์จะมายืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าแบบนี้
“ก็คือ การทำให้คนอื่นรู้สึกดีๆ ด้วย แล้วก็ไม่ใยดีอย่างนั้นใช่หรือเปล่าคะ” ทองทิพย์ถามเสียงเรียบ นิมาเริ่มรู้สึกผิดที่ทำให้น้ำตาของทองทิพย์ไหลริน จึงขยับเข้าไปใกล้ๆ และช่วยเช็ดน้ำตาให้
“นิ่มขอโทษค่ะ” นิมาพูดขอโทษด้วยใจจริง
“ไม่ได้รู้สึกดีกับทิพย์ แล้วมาทำดีกับทิพย์ทำไมกันคะ” ทองทิพย์มองจ้องดวงตาคู่สวยของนิมาที่กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน
“ทำอย่างไรถึงจะหยุดร้องไห้ได้คะ” นิมาไม่รู้จะพูดหรืออธิบายอย่างไร
“จูบทิพย์แล้วช่วยบอกหน่อยว่านิ่มรู้สึกอย่างไร”
“นิ่มว่านิ่มปล่อยให้ทิพย์ร้องไห้จนน้ำตาท่วมร้านดีกว่าแบบนี้” นิมาอมยิ้มทะเล้นมองสบตากับทองทิพย์ที่กำลังเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง แต่สายตาที่มองมามองด้วยแววตาอ้อนวอนให้อีกฝ่ายทำตามกับสิ่งที่เธอขอ กำลังทำให้นิมาใจอ่อน
“นะคะ นะ แล้วบอกทิพย์ตามตรง ว่าในใจนิ่มรู้สึกอย่างไร”
“ก็ได้ ก็ได้ค่ะ แต่ต้องแลกเปลี่ยนกัน ทิพย์ต้องบอกนิ่มเรื่องเมื่อวานว่ามันเกิดอะไรขึ้น” นิมามองลึกเข้าไปในดวงตาสีดำขลับของทองทิพย์
“ร้ายเหมือนกันนะคะ สำหรับข้อแลกเปลี่ยน ก็ได้ค่ะ แต่ระวังหน่อยนะคะ เวลาจูบ เพราะอาจจะจูบเพลินจนลืมเรื่องอื่นๆ ไปก็ได้นะ” ทองทิพย์เช็ดน้ำตาของเธอซึ่งกำลังจะหยุดไหลพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ ที่ทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ายิ้มอายๆ กับคำพูดซึ่งเพิ่งได้ยินไปเมื่อสักครู่
“เดี๋ยวพี่นาตื่นลงมามีหวังต้องตอบคำถามกันยืดยาวแน่ๆ ว่าคุณทองทิพย์มาทำอะไรที่นี่” นิมาเริ่มเฉไฉเปลี่ยนเรื่องในทันที
“มานี่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ ไม่ต้องมาชวนเปลี่ยนเรื่อง” ทองทิพย์ดึงนิมาให้เดินตามเธอเข้ามาในห้องซึ่งเป็นห้องทำงานที่ทองทิพย์เคยเข้ามาเมื่อคราวก่อนและตอนนี้ประตูห้องถูกล็อคไว้เรียบร้อยแล้ว
นิมากำลังนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานระหว่างมื้ออาหาร ไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องที่อยู่ในใจของผู้หญิงคนนี้ เพียงแค่ได้รู้ว่าเธอกับนารินเป็นพี่น้องกัน ทำไมท่าทีของคนที่กำลังยืนยิ้มๆ อยู่ในตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนไป นิมาชอบทิพย์ที่เป็นแบบนี้ เธอกลัวผู้หญิงที่ท่าตาดุๆ และยิ้มสวยๆ แต่ดูแปลกๆ ที่ชื่อทองทิพย์
“นิ่มขอถามก่อนได้ไหมคะ ว่าตัวทิพย์เองรู้สึกอย่างไรกับนิ่ม” นิมาพยายามถ่วงเวลากับสิ่งที่ทองทิพย์ร้องขอกับเธอ ทองทิพย์ยิ้มแต่ไม่ตอบคำถาม กลับเบียดตัวเองเข้าหาตัวนิมาที่ขณะนี้แผ่นหลังติดอยู่กับผนังของห้องขยับตัวหนีไปไหนไม่ได้ ริมฝีปากอันแสนอบอุ่นที่กำลังสัมผัสกันและกัน กำลังตอบคำถามให้กับหัวของทั้งสองดวง สัมผัสอันอ้อยอิ่ง และอ่อนโยนของทองทิพย์กำลังทำให้นิมารู้สึกหวั่นไหว มืออันร้อนผ่าวของทองทิพย์กำลังเริ่มรุกเร้าเข้าไปภายใต้เสื้อผ้าของนิมาที่ดูเจ้าตัวก็เหมือนต้องการสัมผัสจากมืออันแสนอบอุ่นนั้นอยู่เหมือนกัน แล้วรอยยิ้มเล็กๆ ก็ผุดขึ้น นิมาเริ่มรุกเร้าแต่รวดเร็วกว่า เพราะเสื้อตัวในของทองทิพย์ได้ถูกปลดตะขอออกก่อน ทองทิพย์ยิ้มๆ นึกไม่ถึงว่าตัวเองกลับถูกรุกเร้าอย่างเงียบๆ แต่รวดเร็วเสียจนตั้งตัวไม่ทัน มืออันอบอุ่นของนิมากำลังค่อยๆ สำรวจและรึงเร้าไปที่บริเวณเนินออกของทองทิพย์ บริเวณที่เธอได้สัมผัสกำลังทำให้หัวใจของนิมาเต้นเร็วและแรง แต่เพียงชั่วครู่นิมาก็พยายามดึงตัวเองกลับมากจากความรู้สึกที่หวั่นไหวนั้น พร้อมกับขยับตัวให้ออกห่างจากทองทิพย์แค่เพียงเล็กน้อย โดยไม่ทำให้คนที่อยู่แนบชิดกับตัวเธอรู้สึกว่าถูกเธอทอดทิ้ง ณ ช่วงเวลานั้น นิมาจูบทองทิพย์อย่างอ่อนโยนและแผ่วเบา
“ร้ายจริง นิ่มเก่งมาที่หยุดความหวั่นไหวในเวลาแบบนี้ได้” ทองทิพย์กระซิบบอกนิมาคนที่เป็นคนรุกเร้าเธออย่างรวดเร็ว แล้วก็หยุดลงโดยสามารถทำให้เธอรู้สึกคล้อยตามกับการหยุดความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน
“ก็นิ่มได้คำตอบแล้ว” นิมาอมยิ้มกับสายตาทะเล้นๆ ของทองทิพย์
“ตกลงว่ารู้สึกอย่างไรคะ” ทองทิพย์ถามในทันที
“รู้สึกแบบเดียวกับทิพย์เลยค่ะ” นิมาตอบแบบกวนๆ
“ทิพย์รู้สึกอย่างไร นิ่มรู้หรือ” ทองทิพย์ถาม
“ก็บอกสิ ว่ารู้สึกอย่างไร จะได้ตอบว่าเหมือนกันหรือเปล่า”
“วกไปวนมา บอกไม่ได้ใช่ไหมว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่” ทองทิพย์พูด
“ทำไมจะบอกไม่ได้ล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็บอกมาสิคะ” ทองทิพย์จ้องเขม็งและตั้งตารอคำตอบ
“ก็ดีค่ะ” นิมาตอบและแกล้งทำคิ้วขมวดใส่เหมือนคนที่กำลังทำท่าคิดอะไรบางอย่าง
“ดีกว่าจูบของคนเมื่อเช้าหรือเปล่าคะ” ทองทิพย์อยากรู้
“บอกตามตรง แล้วจะร้องไห้อีกไหมล่ะ” นิมาถาม
“ก็บอกมาก่อนสิคะ เดี๋ยวก็คงรู้ว่าจะต้องร้องไห้กลับบ้านไปหรือเปล่า”
“จูบเมื่อเช้าดีกว่าค่ะ” นิมาบอกด้วยสีหน้าเรียบๆ เฝ้าสังเกตอากัปกริยาของทองทิพย์ที่กำลังจ้องมองมาทีเธอ
“ก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว เพราะนิ่มรักเขา ทิพย์รู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะเป็นแบบนี้ อันที่จริงถ้านิ่มมีเจ้าของอยู่แล้ว การแทรกเข้ามามันก็ไม่
ควร ทิพย์รู้ดีการถูกแย่งคนรักไปความรู้สึกมันเป็นอย่างไร” ทองทิพย์ถอนใจเบาๆ เมื่อได้พูดออกไป
“หมายความว่าอย่างไรคะ เล่าให้ฟังได้ไหม” นิมาถาม
“อย่าสนใจเลยค่ะ ก็แค่เคยอกหักมา ก็เท่านั้นเอง แต่ครั้งนี้อกหักตั้งแต่เริ่ม คงก็ไม่เจ็บเท่าครั้งที่แล้ว” ทองทิพย์พูดดูจริงจัง
“จริงจังอยู่ใช่ไหมที่พูดออกมา” นิมาเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอได้ยินมันเรื่องจริงหรือเป็นการทดสอบอะไรบางอย่างกับเธออยู่หรือเปล่า
“ไม่ต้องอธิบายต่อก็ได้ใช่ไหม เพราะไม่ได้อยู่ในข้อตกลง” ทองทิพย์บอก
“มันเป็นเรื่องส่วนตัวเอาเป็นว่าเมื่อไหร่อยากเล่าก็บอกก็แล้วกันนะคะ นิ่มพร้อมจะรับฟัง แต่ถ้ายังไม่อยากบอกเรื่องราวมากมายที่อยู่ในใจของคุณทองทิพย์ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะนิ่มอยากรู้แค่เรื่องของคนชื่อทิพย์ไม่ใช่ทองทิพย์” นิมาพูดเหมือนเป็นการสรุปกับสิ่งที่เธอคิด
“พูดเหมือนเกลียดกันเลยนะคะ” ทองทิพย์ถาม
“ตอนนี้ยัง แต่ต่อไปก็ไม่แน่ค่ะ” นิมายิ้มจางๆ ให้
“ปกติก็ไม่มีใครรักอยู่แล้ว ถ้านิ่มจะเกลียดเพิ่มมาอีกคนก็ไม่เห็นแปลก”
“เอาล่ะ หยุดเรื่องนี้ไว้ก่อน ข้อตกลงของเรากับคำตอบที่ทิพย์จะให้กับนิ่ม บอกได้เลยค่ะ เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น” นิมาตั้งใจและรอฟังคำอธิบายของทองทิพย์
“ที่ทิพย์ตกลงไว้คือจะบอก แต่ไม่ได้ตกลงกันไม่ใช่หรือคะ ว่าจะบอกเมื่อไหร่ตอนไหน ทิพย์ยังไม่อยากบอกตอนนี้” ทองทิพย์อมยิ้มกับคนที่ยืนหน้าบึ้ง
“ไม่บอกก็ดี ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปได้แล้ว เบื่อหน้า” นิมาพยายามดันหลังทองทิพย์ให้เดินออกไปทางด้านหน้าประตู แต่เสียงเคาะประตูห้องก็ทำให้ทั้งสองคนหยุดชะงัก เพราะได้ยินเสียงนารินดังตามมา
“นิ่ม อยู่ข้างในหรือเปล่า” เสียงของนารินพูด ทองทิพย์อมยิ้มหันมาทางนิมาซึ่งกำลังจ้องมองไปที่ประตู และหันมามองหน้าทองทิพย์ก่อนที่จะรีบปิดปากของคนที่กำลังอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างทันที นิมารอจนเสียงพี่สาวของเธอเงียบไป
“เงียบๆ” นิมาพูดขึ้นเบาๆ เป็นการเตือนทองทิพย์ที่กำลังพยายามเปล่งเสียงออกมา ถึงแม้ว่าจะถูกปิดปากไว้สนิท นิมารอจนพี่สาวของเธอเงียบไปคงคิดว่าห้องนี้ไม่มีใครอยู่ เพราะปกติแล้วห้องทำงานจะถูกปิดไว้อยู่แล้ว ถ้าร้านยังไม่เปิด นิมารอจนได้ยินเสียงของพี่สาว
ของเธอเดินขึ้นชั้นบนไปแล้ว
“ทำไมคะ กลัวคุณพี่สาวรู้หรืออย่างไรกันว่าแอบเอาทิพย์มาซ่อนไว้”
“เปล่าค่ะ นิ่มแค่ขี้เกียจตอบคำถาม” นิมาบอก
“ไม่ใช่ว่ากลัวจะตอบคำถามไม่ได้มากกว่าหรือเปล่าคะ” ทองทิพย์พูด
“ไม่มีอะไรที่นิ่มตอบไม่ได้”
“ก็จริงค่ะ เพราะไม่ตอบเป็นคำพูดชัดกว่าตั้งเยอะ” ทองทิพย์ยิ้มกวนๆ
“อะไร” นิมาจ้องมองคนที่ยิ้มกวนๆ ให้เธอ
“ก็จูบนิ่มให้คำตอบกับทิพย์ แน่ใจหรือคะว่าจูบเมื่อเช้าดีกว่า”
“มั่นใจค่ะ เพราะเป็นจูบของคนที่จริงใจ ไม่มีอะไรแอบแฝง” นิมามองสบตาทองทิพย์เหมือนจะหาคำอธิบายบางอย่างจากดวงตาคู่สวยที่กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน
“หมดกันอุตส่าห์เรียนแอคติ้งมา หนึ่งว่าเนียนแล้วเสียอีก คิดว่าจะได้รับคะแนนสงสาร ไม่เห็นจะได้ผล” ทองทิพย์พูดยิ้มๆ
“อย่าบอกนะว่า เมื่อเช้า” นิมารู้สึกอยากจะหยิกทองทิพย์ให้เนื้อเขียว
“ฉากร้องไห้ เหมือนไหมคะ คงพอได้เนอะ เพราะมีคนช่วยเช็ดน้ำตาให้ด้วย นิ่มว่าฝีมือทิพย์พอจะไปเป็นนางร้ายในละครได้ไหม” ทอง
ทิพย์หัวเราะและยิ้มทะเล้นให้คนที่ยืนอมยิ้มแต่มองเธอด้วยสายตาที่อยากจะฆ่าเสียให้ตายในตอนนี้เลยทีเดียว
“สักวัน จะทำให้คนร้ายๆ มาบอกรักหวานๆ นิ่มให้ได้เลยคอยดู” นิมาคิดอยู่ในใจ พร้อมกับจ้องมองคนที่ยังคงยิ้มกวนๆ อยู่ตรงหน้าเธอ
“ขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ เริ่มถูกมองด้วยความรำคาญแล้ว ว่าแต่ว่าถ้าหายไปเลยอยากรู้เหมือนกันนะคะ ว่าจะคิดถึงกันบ้างไหม” ทองทิพย์แกล้งยั่วนิมาอีก
“ไม่มีทาง ไม่มาก็ดี ทิพย์กำลังทำให้นิ่มปวดหัว กลับไปตอนนี้เลยก็ดีค่ะ นิ่มจะได้ไปเปิดร้านเสียที” นิมาพูดด้วยน้ำเสียงเจือความรำคาญ
“ขอกอดอีกครั้งได้ไหมคะ เผื่อว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก” ทองทิพย์บอก
“อย่ามาเล่นละครดีกว่า นิ่มไม่อยากเชื่อแล้วค่ะ” ทองทิพย์ไม่ได้รอว่านิมาจะอนุญาตหรือไม่ เธอตรงเข้าไปกอดกระชับนิมาไว้ ทำเอาคนที่ถูกกอดชักไม่แน่ใจว่ามันเป็นการกอดลาจริงๆ หรือเปล่า