ตอนที่ 22
นิมากำลังเปิดประตูเข้าไปที่ตึกซึ่งเป็นส่วนที่เป็นที่พักของเธอ ทองทิพย์เดินตามมาติดๆ และเข้าสวมกอดนิมาจากทางด้านหลังแล้วรั้งตัวเอาไว้ นิมาหยุดยืนอยู่กับที่ไม่ได้ก้าวเดินต่อไป เพราะคงไม่มีประโยชน์อะไรถ้าเธอจะต้องเดินหนี บางทีอาจ จะต้องทำอย่างที่พุทธชาดได้บอกกับเธอ ลองตามหาเจ้าตัวปัญหาที่มีอยู่ในใจของทองทิพย์และหาทางแก้ไข บางทีเธออาจจะได้ทองทิพย์คนที่เหมือนสองวันแรกที่เธอได้รู้จักกลับคืนมาก็เป็นได้ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของทองทิพย์ดังขึ้นนั่นช่วยดึงนิมาออกจากความคิดของตัวเอง แต่ท่าทางเจ้าของโทรศัพท์ไม่ค่อยอยากรับเท่าไหร่นัก เพราะยังคงกอดกระชับเธอไว้แนบแน่น
“รับโทรศัพท์ก่อนเถอะค่ะ นิ่มไม่หนีไปไหนแน่ๆ” นิมาบอกกับทองทิพย์ที่ค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกแต่ก็ยังโอบเอวเอาไว้ด้วยแขนข้างเดียว และยังคนเหนี่ยวรั้งนิมาไว้ หากแต่ว่าเมื่อมองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้เพียงครู่เดียว ทองทิพย์ก็รีบเดินออกมาด้านนอกตัวตึกในทันทีโดยไม่หันมามองที่นิมาอีกเลย นิมามองตามออก ไปด้านนอกเห็นทองทิพย์กำลังเดินไปเดินมาพูดคุยโทรศัพท์ท่าทางเหมือนคนที่เป็นกังวลกับการสนทนา เพราะการเดินไปเดินมานั่นแสดงออกถึงความไม่สบายใจซึ่งก็สังเกตได้ไม่ยากนัก
“ใครกันนะ” นิมารำพึงกับตัวเอง แต่ดูท่าทางทองทิพย์คงไม่หยุดคุยง่ายๆ เธอจึงตัดสินใจขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยไม่ได้สนใจคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอกในมุมมืดใต้ต้นไม้ซึ่งยังคงเดินไปเดินมาระหว่างพูดคุย
นิมารู้สึกสบายตัวหลังจากได้อาบน้ำชำระร่างกายจนรู้สึกสดชื่น จึงกลับลงมาที่ชั้นล่าง เพราะประตูหน้าตึกยังไม่ได้ปิด ไม่มีเสียงใดๆ และไม่มีใคร นิมาจึงคิดว่าทองทิพย์คงจะกลับไปพักผ่อนที่ตึกที่พักของตัวเองเช่นกัน แต่เงาตะคุมๆ ที่เห็นอยู่ที่หน้าตึกของทองทิพย์ทำให้เธอชะเง้อมองด้วยความเป็นห่วง นิมาตัดสินใจเดินไปที่ตึกข้างๆ ซึ่งทองทิพย์นั่งอยู่ที่ม้าหินใต้ต้นไม้ คนที่นั่งอยู่ดูจะไม่ได้สนใจกับคนที่เดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆ นัก จนกระทั่งนิมานั่งลงข้างๆ ทองทิพย์จึงได้รีบเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
“สาวที่ไหนโทรมาคะ ถึงได้อารมณ์ดีมานั่งชมจันทร์อยู่แบบนี้” นิมาแกล้งพูดแหย่เพราะเธอไม่เห็นว่าทองทิพย์ร้องไห้อยู่
“ทิพย์ไปอาบน้ำนอนก่อนนะคะ” ทองทิพย์ทำท่าจะลุกขึ้น แต่นิมาดึงมือไว้ และเริ่มสังเกตเห็นคราบน้ำตาของคนที่พยายามเบี่ยงตัวไปไม่ยอมให้เธอเห็นว่ากำลังร้องไห้
“เดี๋ยวค่ะ นั่งลงคุยกันก่อนได้หรือเปล่าคะ” น้ำเสียงที่อ้อนวอนของนิมาทำให้ทองทิพย์นั่งลงที่เดิมข้างๆ นิมา ซึ่งกำลังโน้มตัวไปดูหน้าของทองทิพย์ซึ่งใบหน้านิ่งๆ นั้นทำเป็นไม่สนใจคนที่กำลังหยอกล้อด้วยรอยยิ้มทะเล้นๆ อยู่ตรงหน้า
“สนุกพอหรือยังคะ” ทองทิพย์มองจ้องดวงตาคู่สวยของนิมา
“แค่อยากเห็นรอยยิ้มแค่นั้นเอง ทำไมต้องดุด้วยล่ะ” นิมาอมยิ้มมองสบตากับทองทิพย์
“ทิพย์ง่วงแล้วค่ะ” ทองทิพย์หาเรื่องที่จะปลีกตัวออกมาจากนิมา
“ร้องไห้น้ำตาเปียก ตาแป๋วขนาดนี้ บอกว่าง่วง โกหกบาปนะคะ” นิมาพูด ทองทิพย์หันมาทำตาดุๆ ใส่ แต่ก็เพียงชั่วครู่เดียว เพราะสายตาอันอ่อนโยนของนิมาทำให้ทองทิพย์รู้สึกได้ถึงความห่วงใยที่มีอยู่ในสายตาคู่นั้น
“เคยมองคนอื่น แบบที่มองทิพย์อยู่ตอนนี้บ้างหรือเปล่าคะ” ทองทิพย์ถาม
“เคยค่ะ รู้ใช่ไหมว่านิ่มเป็นห่วง” นิมาถามทองทิพย์ซึ่งสายตาที่ดูแข็งกร้าวเมื่อสักครู่ดูอ่อนโยนขึ้นบ้างแล้ว
“ขอบคุณนะคะ” ทองทิพย์พยักหน้าแสดงอาการรับรู้
“อยากคุยให้ฟังบ้างไหมคะ เผื่อนิ่มจะช่วยอะไรได้บ้าง อันดับแรก เลยก็น่า จะรับฟังได้นะคะ” นิมาเริ่มคืบเข้าหาสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นปัญหาที่อยู่ในใจของทองทิพย์
“มันเป็นเรื่องของคนอื่นค่ะ” ทองทิพย์บอกกับนิมาแค่ประโยคสั้น
“คนอื่นคนนั้นคงสำคัญกับทิพย์มากนะคะ ถึงได้มานั่งร้องไห้อยู่มืดๆ แบบนี้ อยากรู้จริงๆ ถ้าเป็นเรื่องของนิ่มบ้างจะมีใครมานั่งร้องไห้แบบนี้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ” นิมาพูด ทองทิพย์ยิ้มจางๆ ให้นิมาแล้วจูบไปที่แก้มอันนุ่มนวลของนิมา
“ทิพย์จะพยายามนะ” ทองทิพย์พูดเพียงสั้นๆ
“พยายามเรื่องอะไรคะ” นิมาถามและจ้องมองหาคำตอบจากดวงตาดำขลับของทองทิพย์ที่ขณะนี้ไม่ยอมเปิดเผยสิ่งใดให้เห็นเลยสักนิด
“ไม่มีอะไรคะ ไปนอนได้แล้ว น้ำค้างลงเดี๋ยวไม่สบาย” ทองทิพย์พูดเปลี่ยนเรื่องในทันที
“ก็ไปอาบน้ำสิคะ” นิมาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างๆ ตรงที่ทองทิพย์นั่งอยู่ บางทีสายล่าสุดที่พูดคุยกับทองทิพย์อาจจะมีคำตอบให้กับเธอก็ได้
“พูดเหมือนจะนอนที่ตึกนี้ด้วยกันหรือเปล่าคะ” ทองทิพย์ถามพร้อมสบตานิมาที่แกล้งทำท่าคิด
“เดี๋ยวคุณพี่ชาย กับคุณพี่สาวของเราสองคนมาเห็นเข้าจะไม่งามนะคะ” นิมาพูดยิ้มๆ สายตายังคงแอบมองไปทางโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่
“นึกว่าจะได้อ้อมกอดอุ่นๆ กอดให้หลับเสียอีก” ทองทิพย์ทำหน้าจ๋อย
“ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวห่มผ้าส่งเข้านอนก็แล้วกันนะคะ” นิมาพยายามที่จะยื้อเวลาเพื่อจะได้เบอร์โทรศัพท์เบอร์ล่าสุดที่โทรเข้ามาหาทองทิพย์
“กอดให้หลับก่อนค่อยกลับได้ไหมคะ” ทองทิพย์พูดอ้อนนิมาจนทำให้คนฟังอมยิ้มกับท่าทางอ้อนๆ ของทองทิพย์
“ได้สิ ถ้าทิพย์ทำตัวน่ารักรีบไปอาบน้ำเสียแต่เดี๋ยวนี้ เผื่อว่าจะเปลี่ยนใจนอนกอดไว้ทั้งคืนก็ได้นะ” นิมายิ้มทะเล้นให้คนที่ดูหน้าตาสดชื่นขึ้นมา เหมือนเด็กที่กำลังจะได้ไปเที่ยวหรือได้ของเล่นเลยทีเดียว
“ห้ามเบี้ยว แล้วห้ามหนีกลับไปก่อนนะคะ” ทองทิพย์พูดกำชับ
“ค่ะ สัญญา” นิมาพูดเสียงเข้มให้ดูจริงจังแต่ก็ขำออกมาจนได้
“พูดจริงหรือพูดเล่น” ทองทิพย์ถามย้ำอีกครั้ง
“จริงๆ ค่ะ เข้าไปรอข้างในก็ได้” นิมายังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับไอ้เจ้าเครื่อง โทรศัพท์เครื่องนั้น คงต้องรอโอกาสเหมาะๆ
“ขอบคุณนะ นิ่ม” ทองทิพย์ยิ้มจางๆ ให้แล้วจูบไปที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ ของนิมาที่ยิ้มตามคนที่วิ่งเข้าบ้านไปก่อนแล้ว แต่โทรศัพท์มือถือยังคงวางอยู่ที่เดิม นิมาจึงหยิบมาถือไว้ตั้งใจจะเดินตามเข้าไปในบ้าน แต่เจ้าของโทรศัพท์ก็เดินกลับออก มาเสียก่อน สิ่งที่นิมาคิดไว้จึงสลายไปในเวลาไม่กี่วินาที
“ไม่ไปอาบน้ำล่ะ กลับออกมาทำไมคะ” นิมาแกล้งพูดเหมือนดุ
“ลืมโทรศัพท์ไว้ค่ะ” ทองทิพย์มองหาโทรศัพท์ที่วางอยู่ใกล้ๆ ตรงที่เธอนั่งอยู่เมื่อสักครู่
“อยู่นี่ค่ะ เห็นวางทิ้งไว้ นิ่มก็เลยจะถือไปวางไว้ให้ข้างใน” นิมายื่นโทรศัพท์คืนให้เจ้าของแต่โดยดี
“สัญญาแล้วนะ ว่าจะไม่หนีกลับ” ทองทิพย์พูดน้ำเสียงอ้อนวอนอีกครั้ง
“อย่าอ้อนเยอะนัก เดี๋ยวรำคาญนะคะ” นิมาพูดยิ้มๆ
“ไปรอข้างบนดีกว่านะคะ ถ้าปล่อยให้รอแถวนี้เดี๋ยวนิ่มเปลี่ยนใจหนีกลับ”
นิมามองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือทองทิพย์ จึงคิดได้ว่าควรจะทำตามที่ทองทิพย์บอกน่า จะดีกว่า เผื่อจะมีโอกาสระหว่างที่รอทองทิพย์อาบน้ำ
“ก็ได้ เห็นว่าน่ารักนะคะ ถึงได้ยอมตามใจขนาดนี้” นิมาแอบอมยิ้มกับตัว เองที่พูดออกไปอย่างนั้น ทองทิพย์อมยิ้มจูงมือนิมาให้เดินตามเธอขึ้นไปที่ชั้นบนซึ่งเป็นส่วนของห้องนอน
ทองทิพย์หายเข้าไปในห้องน้ำได้สักพัก นิมามองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง กำลังกังวลว่าตัวเองกำลังทำอะไรที่ไม่สมควรจะทำอยู่หรือไม่ แต่เมื่อมานึกถึงสิ่งที่ได้พูดคุยกับพุทธชาด ทำให้นิมาตัดสินใจที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของทองทิพย์ขึ้นมาเพื่อจะดูเบอร์สุดท้ายที่โทรเข้ามา
“ยอมเสียมารยาทสักครั้งคงไม่เป็นไร นิ่มขออนุญาตนะคะ ทิพย์” นิมาพูดเปรยๆ เป็นการขออนุญาตแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเบอร์โทรสุดท้ายที่โทรเข้ามาหาทองทิพย์แล้วรีบวางโทรศัพท์กลับคืนเข้าที่เดิมอย่างแนบเนียนมาก เรื่องความละเอียดถี่ถ้วน นิมามีอยู่ในตัวอยู่แล้ว แป้งร่ำเพื่อนของเธอพูดอยู่เสมอนอกจากจะเป็นแม่นิ่มนวลแล้ว เธอยังเป็นนางสาวละเอียดสำหรับแป้งร่ำด้วยเพราะเพื่อนของเธอแอบพูดหยอกล้ออยู่บ่อยๆ มัวแต่เพลินกับความคิดของตัวเอง คนที่เข้าไปอาบน้ำเมื่อสักครู่ก็ออกมาแล้ว นิมามองไปที่โทรศัพท์ที่เธอนำกลับไปวางไว้ที่เดิมว่าเรียบร้อยเหมือนตอนที่เจ้าของวางไว้หรือไม่ คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินตัวหอมมานั่งลงข้างๆ และขยับกระแซะเข้าใกล้จนนิมานึกขำหันไปยิ้มให้
“กอดได้เลยหรือเปล่าคะ ไปอาบน้ำมาตัวหอมแล้ว” ทองทิพย์พูดกับนิมา
“ไหนลองมาให้กอดก่อนค่ะ ว่าตัวหอมมากขนาดไหน” นิมาเข้าสวมกอดทองทิพย์ไว้แนบแน่น
“หอมไหม” ทองทิพย์กระชับอ้อมกอดของเธอเองแนบแน่นเช่นกัน
“อยากกอดให้ทิพย์หายทุกข์ใจ นานเท่าไหร่นิ่มก็กอดได้นะ หวังว่าเรื่องที่ทำให้หัวใจคนที่เจ็บปวดของคนที่นิ่มกอดอยู่จะจางหายลงไปได้บ้าง ความรู้สึกดีดีที่นิ่มมีหวังว่าจะทำให้ความเจ็บปวดในหัวใจของทิพย์หายไปได้ในสักวัน” นิมากระซิบบอกแล้วจูบไปที่ไหล่ของทองทิพย์ที่ยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นขึ้นอีก อยากจะให้ความรู้สึกของนิมาที่บอกออกมาช่วยลบล้างบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในหัวใจเธอหายไป
“ขอบคุณนะ นิ่ม” น้ำตาเริ่มเอ่อล้นอีกครั้ง ภาพของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นในความนึกคิดของทองทิพย์ ซึ่งนั่นทำให้ทองทิพย์กอดกระชับนิมาแนบนิดเสียจนคนที่ถูกกอดอยู่เริ่มรู้สึกอึดอัด
“วันหนึ่งมันจะหายไป” นิมาค่อยๆ ลูบไปที่แผ่นหลังของทองทิพย์เป็นการแสดงออกถึงการปลอบโยนที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในหัวใจของเธอ
“อยู่กับทิพย์ก่อนอย่าเพิ่งไปไหนนะ นิ่ม” ทองทิพย์กระซิบบอก
“กอดแน่นเสียจนขยับตัวไม่ได้ นิ่มจะไปไหนได้ล่ะ” นิมาหัวเราะเล็กๆ อยู่ในอ้อมกอดของทองทิพย์ที่ยิ้มทั้งน้ำตา
“วันหนึ่งทิพย์คงจะมีโอกาสบอกรักนิ่ม” ทองทิพย์ยิ้มจางๆ กับสิ่งที่เธอทำได้เพียงแค่คิดอยู่ในใจ
“มาค่ะ เช็ดน้ำตาก่อน เข้านอนทั้งน้ำตาเดี๋ยวฝันไม่ดีนะ” นิมายิ้มทะเล้นช่วยเช็ดน้ำตาที่ไหล่อาบแก้มทองทิพย์อีกครั้ง
“เหมือนเด็กเลยนะคะ ต้องให้นิ่มมาคอยช่วยเช็ดน้ำตาอยู่บ่อยๆ”
“เป็นเด็กก็ดีสิ แต่ขอแบบน่ารักๆ หน่อยนะ” นิมาอมยิ้มมองสบตาสายตาอันอ่อนโยนของทองทิพย์ที่ช่วงหลังๆ เธอไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก
“มันยากนะ อย่างนั้นน่ะ” ทองทิพย์บอกกันนิมา
“ก็เป็นอย่างที่เป็นอยู่แบบนี้ ไม่เห็นยากตรงไหน นิ่มชอบสายตาอ่อนโยนในตอนนี้ของทิพย์มากเลยนะ จำวันแรกที่เราเจอกันได้ไหมคะ จำความรู้สึกวันนั้นได้หรือเปล่า วันนั้น คือ วันที่ทิพย์เป็นตัวทิพย์มากที่สุด นิ่มรู้สึกอย่างนั้น” นิมายิ้มกว้างขึ้นเมื่อนึกถึงวันแรกที่ผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามาในชีวิตของเธอ
“ทิพย์ก็อยากเป็นเหมือนวันนั้นนะ นิ่ม แต่” ทองทิพย์คลายอ้อมกอดของตัวเองมองสบตากับนิมาที่กำลังยิ้มสวยๆ ให้เธอ
“ฝันดีค่ะ พรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้เสมอ” นิมาจูบริมฝีปากเรียวบางของทองทิพย์ที่กำลังตอบรับความรู้สึกดีดีนั้น สองสาวล้มตัวลงนอนอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ทองทิพย์ยังคงลืมตาโพลง ถึงแม้ความเหนื่อยล้าจะมีมากมายเพียงใด แต่สิ่งที่อยู่ในใจนั้นมีอำนาจเหนือกว่าร่างกายอันเหนื่อยล้าของเธอ