web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 152
Total: 152

ผู้เขียน หัวข้อ: จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 27  (อ่าน 1752 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 27
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 11:03:08 »
ตอนที่ 27

เสียงเสียงพูดคุยกับเสียงหัวเราะของเด็กๆ สร้างรอยยิ้มให้กับนิมาตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้เข้ามา ณ โรงเรียนอนุบาลเล็กๆ แห่งนี้ นิมายืนมองดูบริเวณโดยรอบก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในตัวอาคาร โรงเรียนดูไม่ใหญ่โตนักแต่จากข้อมูลที่ได้รับมาที่นี่เป็นโรงเรียนอนุบาลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว เพื่อนของเธอหลายคนพูดถึงอยู่บ่อยๆ ว่าถ้ามีลูกก็จะเลือกที่นี่เป็นที่แรกสำหรับการเริ่มต้นการเรียนของลูกๆ นิมามาหยุดอยู่ที่ห้องๆ หนึ่งซึ่งมีกระจกใสมองเห็นเข้าไปภายในห้องนั้นได้อย่างเด่นชัด เด็กๆ กำลังมีความสุขกับขนมหลากสีสรรที่วางอยู่ตรงหน้า เสียงหัวเราะเสียงพูดคุยดังเล็ดลอดออกมาภายนอกซึ่งนั่นได้สร้างรอยยิ้มให้กับนิมา โดยเฉพาะกับคนที่กำลังป้อนขนมให้กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังร้องไห้น้ำตาเปียก ทองทิพย์กำลังปลอบโยนสาวน้อยคนนั้นให้หยุดร้องไห้ นิมาไม่ได้ยินบทสนทนาแต่ความน่ารักของคนที่กำลังปลอบ โยนเด็กนั่นต่างหากที่กำลังทำให้เธอแปลกใจกับสาวร้ายในสายตาของเพื่อนๆ ของเธอ รอยยิ้มของทองทิพย์กับสายตาอันอ่อนโยนที่มองดูเด็กๆ ทำให้นิมานึกถึงเพื่อนรักทั้งสองแป้งร่ำและพุทธชาด แล้วโทรศัพท์มือถือก็ถูกกดบันทึกวีดีโอไว้ในทันที

“อยากให้คุณพุดกับแป้งได้เห็น ว่าสาวร้ายของทั้งสองคนไม่ได้ร้ายอย่างที่คิดน่ารักจะตายไป” นิมาอมยิ้มเมื่อพูดชมคนที่กำลังมองออกมาที่เธอ

“นิ่มมาทำอะไรที่นี่” ทองทิพย์เดินออกมาหานิมาทันทีที่ได้เห็น

“มีนัดคุยกับเด็กค่ะ” นิมาตอบ

“อ้อลืมไปว่านิ่มเรียนมาทางด้านนี้ พฤติกรรมเด็กในวัยเรียน”

“พี่ทัดบอกให้มาลองคุยดู แล้ววันนี้ก็มีนัดพอดีค่ะ” นิมาบอก

“เมื่อเช้าไม่เห็นบอกว่าต้องเข้ามาที่นี่” ทองทิพย์พูดดูเป็นงานเป็นการ

“บอกก็คงจะไม่ฟัง พูดยังไม่ทันรู้เรื่องก็เดินหนีออกมาก่อน”

“ทิพย์ก็ไม่เอาไหนแบบนี้แหละ เชิญตามสบายนะคะ ทิพย์ขอตัวก่อน”

“เดินหนีตลอด จะเดินหนีทั้งชีวิตหรือเปล่า” คำพูดของนิมาหยุดทองทิพย์ให้หันกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง

“ผู้ชายคนนั้นดีพร้อม พี่ทัดยืนยันได้ค่ะ นิ่มจะมีความสุขมากกว่า” ทองทิพย์บอกกับนิมาเสียงดังฟังชัด

“รู้ได้อย่างไรว่านิ่มจะมีความสุข” นิมาถาม

“ผู้หญิงหลายคนก็เลือกแบบนั้นไม่ใช่หรือ” ทองทิพย์จ้องเขม็ง

“ถ้าเป็นตัวทิพย์ ระหว่างผู้ชายแสนดีอย่างพี่วากับแม่ค้าขนมหวานธรรมดาทิพย์จะเลือกใคร” นิมารู้สึกว่าคำถามของตัวเองกำลังทำให้ตัวเองใจเต้นแรง คนที่ถูกถามคำถามกลับดูนิ่งๆ

“คนเราไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกใครหรอกนะ นิ่ม เพราะบางทีสิ่งที่เราเลือกเราก็อาจจะไม่ได้มาครอบครองและการที่เราไม่ได้ถูกเลือกมันก็เจ็บปวดอยู่ไม่น้อยนะ”

“แต่การยัดเยียดคนอื่นมาให้มันก็เจ็บปวดด้วยกันทั้งสองฝ่ายหรือเปล่า”

“ความเหมาะสมอาจจะไม่สร้างความเจ็บปวดให้ก็ได้นะ นิ่ม” ทองทิพย์มองสบตาสายตาอันอ่อนโยนของนิมา

“ความรักต่างหากที่จะไม่สร้างความเจ็บปวดให้” นิมาพูดและรีบเดินขึ้นไปชั้นบนซึ่งขณะนี้ถึงเวลานัดของเธอแล้ว ทองทิพย์มองตามนิมาพร้อมรอยยิ้มจางๆ

ทองทัดและนารินนัดรับประทานอาหารกับวาทิตโดยได้ส่งข้อความไปบอก นิมาให้ตามมาหลังเสร็จงาน นารินซึ่งเป็นภรรยายิ้มๆ กับความพยายามที่จะหาคู่ให้ กับทั้งเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทและน้องของภรรยา ทองทัดคงจะมีความสุขมากถ้าสองคนนี้ตกลงปลงใจกันในสักวัน

“นาเพิ่งรู้นะคะ ว่าสามีตัวเองก็ชอบเป็นพ่อสื่อพ่อชักกับเขาด้วย” นารินพูดในขณะที่กำลังจะไปตามนัดหมาย

“ก็คู่นี้ดูเหมาะกันนะ ทัดว่า” ทองทัดหันมายิ้มกับภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ

“ท่าทางมั่นใจนะคะ” นารินถามทองทัด แต่ตัวเธอเองกลับนึกไปถึงสาวนักบิดหุ่นดีที่ขี่มอเตอร์ไซด์คันใหญ่สีดำมากกว่า

“นาพูดเหมือนไม่ค่อยเห็นด้วยนะครับ” ทองทัดถามนารินที่ยิ้มๆ กับคำถาม

“ไม่เกี่ยวกับนาเลยค่ะ นาให้อิสระน้อง ไม่ว่าจะคบใคร ถ้าเขาคนนั้นดีและรักน้องสาวนาก็พอแล้ว ยินดีต้อนรับอยู่แล้วค่ะ” นารินบอกกับทองทัดที่ยิ้มแป้นเพราะคำตอบนั้นบอกเป็นนัยๆ ว่านารินไม่ได้รังเกียจวาทิตถ้าหากว่านิมาตกลงปลงใจที่จะคบหาด้วย

“ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป ว่าจะลงเอยกันด้วยดีเหมือนกับที่เราช่วยลุ้นกันหรือเปล่านะครับ” ทองทัดบอกกับภรรยา

“ห้ามใช้คำว่าเราค่ะ เพราะนาไม่ใช่แม่สื่อ แค่มาเป็นเพื่อนทัดเฉยๆ นะ”

“อ้าวนา ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็ช่วยลุ้นด้วยกันดีกว่านะ ทัดหวังดีอยากให้นิ่มมีคนดีดีดูแลนะครับ” ทองทัดยิ้ม

“คนดีก็ดีอยู่นะทัด แต่สำหรับนิ่ม ความรักน่าจะสำคัญที่สุด คงต้องลุ้นให้วาทิตทำให้นิ่มหลงรักให้ได้” นารินรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจนัก เพราะตลอดเวลาน้องสาวของเธอไม่เคยที่จะสนใจหนุ่มคนไหน และที่พอจะทราบมาความสนใจน่าจะอยู่ที่หญิงสาวมากกว่า แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงการคาดเดา นารินไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวนอกเสียจากว่าน้องสาวของเธอจะมาเล่าหรือต้องการคำแนะนำเท่านั้น

ทองทิพย์เสร็จจากการดูเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ รีบคว้ากระเป๋าวิ่งลงบันไดมาไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับคุณครูท่านหนึ่งซึ่งรีบพนมมือไหว้และกว่าขอโทษขึ้นก่อน

“ขอโทษค่ะ”

“ขอโทษค่ะ ทิพย์นี่แย่จริงรีบจนไม่ทันระวัง ขอโทษด้วยนะคะ ครู” ทองทิพย์เรียกครูตามเด็กนักเรียน

“ต้องขอโทษเช่นเดียวกันค่ะ พอดีจะรีบขึ้นมาโทรศัพท์เรียกรถแท็กซี่ให้คุณนิมาน่ะคะ เลยไม่ทันระวังเช่นกัน ขอโทษคุณทองทิพย์ด้วยนะคะ”

“เดี๋ยวค่ะ คุณนิมาไม่ได้เอารถมาหรือคะ” ทองทิพย์รีบถามในทันที

“ค่ะ เห็นบอกว่าไม่ค่อยคุ้นทางเลยนั่งแท็กซี่มาน่ะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างนี้นะคะ เดี๋ยวทิพย์ไปส่งให้เอง ไม่ต้องเรียกแท็กซี่ก็ได้ ทิพย์จะไปบอกคุณนิมาให้เอง ขอบคุณนะคะ ครู”

“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”

ทองทิพย์เห็นนิมายืนอยู่ที่ด้านหน้าตัวอาคารเดินไปเดินมามองดูนาฬิกาข้อมือท่าทางเหมือนจะมีนัดและดูรีบร้อน

“นิ่มมีนัดที่ไหน เดี๋ยวทิพย์ไปส่งให้” ทองทิพย์พูดขึ้นหลังจากเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ

“ขอบคุณค่ะ แต่คุณครูไปโทรเรียกรถแท็กซี่ให้แล้วค่ะ” นิมาบอก

“ทิพย์สั่งยกเลิกไปแล้วค่ะ ให้ทิพย์ไปส่ง ถือเป็นการขอบคุณสำหรับอาหารเช้าก็แล้วกันนะคะ” นิมายิ้มกันคนที่ดูเหนื่อยอ่อนจนเห็นได้ชัด และท่าทางคงไม่ชวนเธอทะเลาะแน่ๆ

“นิ่มขับให้ก็ได้ ดูท่าทางทิพย์จะเหนื่อยๆ อยู่นะ” นิมาทำท่าแบมือขอกุญแจรถจากทองทิพย์

“มีนัดหรือคะ เห็นมองนาฬิกาอยู่บ่อยๆ” ทองทิพย์พูดทั้งๆ ที่หลับพักสายตาจากความเหนื่อยล้าและอาการปวดหัวก็กำลังเริ่มตามมา

“มีนัดทานข้าว ไปด้วยกันไหม” นิมาเอ่ยชวน

“ไม่ดีกว่าค่ะ กลับบ้านนอนดีกว่าชักจะเริ่มปวดหัวแล้ว” ทองทิพย์ยังคงหลับ ตาเอนตัวสบายๆ ไปกับที่นั่งด้านข้างคนขับ

“กลับไปก็ต้องทานข้าวคนเดียวนะคะ เพราะพี่ทัดกับพี่นานัดพี่วาทานข้าวด้วยกันเย็นนี้” นิมารู้สึกอยากจะหยิกตัวเองขึ้นมาไม่น่าจะเอ่ย
ชื่อวาทิตออกมาเลย

“มิน่าล่ะ ถึงได้ดูรีบร้อน” ทองทิพย์ยิ้มจางๆ ให้คนที่กำลังเคลื่อนรถออกจาก บริเวณโรงเรียน

“ไม่ได้รีบสักหน่อย ขับรถไปส่งทิพย์ที่บ้านก่อนก็ยังได้นะ” นิมาหันมามองสบตากับคนที่ลืมตาขึ้นจ้องมองเธออยู่เช่นกัน

“อย่าเลยเดี๋ยวแฟนรอ ไปที่ร้านแล้วทิพย์ขับกลับเองได้ค่ะ” ทองทิพย์หลับ ตาลงอีกครั้ง

“น้ำเสียงหมดสภาพมาก นึกว่าจะชวนทะเลาะเสียอีกนะคะ ฟังดูเหมือนน้อยใจปนกับหวงๆ นะ” นิมาอมยิ้มสายตายังคงจ้องไปบนท้องถนน

“หลงตัวเองเกินไปแล้ว ปวดหัวขี้เกียจจะทะเลาะด้วย สะดวกที่ไหนก็ขับไปก็แล้วกันค่ะ ถึงแล้วก็ปลุกด้วยนะ” ทองทิพย์รู้สึกอยากหลับสักพักเผื่อบางทีอาการปวดหัวจะทุเลาลงไปบ้าง

“หมดฤทธิ์เลยสาวร้าย เวลาหมดฤทธิ์ก็น่ารักดีนะ พูดง่ายดีเหลือเกิน” นิมารำพึงแล้วหันมามองคนที่นอนหลับอยู่ข้างๆ การจราจรที่แออัดทำให้รถติดไฟแดงนาน หากแต่ว่ายิ่งนานยิ่งทำให้นิมามีความสุขเพราะรอยยิ้มน่ารักๆ ของคนที่หลับอยู่

“รู้นะ ว่าแอบมองอยู่” ทองทิพย์ยิ้มจางๆ แต่ตาก็หนักเกินกว่าที่จะลืมตาขึ้น

“ก็อยากน่ารักทำไมล่ะ มองนิดมองหน่อยทำเป็นบ่น เดี๋ยวก็ทิ้งให้อยู่คนเดียวเสียเลย” นิมาพูดขำๆ หันไปตั้งใจกับการขับรถและเส้น
ทางที่เธอเลือกคือเส้น ทางกลับบ้าน

นิมารีบโทรหานารินในทันที หลังจากที่จอดรถอยู่ที่ตึกใหญ่ด้านหน้าตัวบ้านของทองทัด ผู้ร่วมทางยังหลับสนิทอยู่ด้านข้างของคนขับ นารินไม่ได้ซักถามอะไรมากนักรู้สึกหายห่วงที่น้องสาวกลับถึงบ้านแล้ว

“นิ่มฝากขอโทษพี่ทัดกับพี่วาด้วยนะคะ” นิมาบอกกับพี่สาวของเธอ

“ได้ ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมอาหารเผื่อทิพย์ด้วยนะ เห็นบอกกับทัดไว้ว่าเสร็จงานจะตรงกลับบ้านเลย ฝากด้วยนะนิ่ม” นารินบอกกับนิมา

“ได้เลยค่ะ จะดูแลให้อย่างดี แต่ชักเริ่มจะรักน้องสามีมากกว่าน้องสาวตัว เองหรือเปล่าคะ พี่นา” นิมาแกล้งหยอกล้อพี่สาวของเธอ

“ทิพย์ก็น้องสาวอีกคน ก็ต้องห่วงใยเหมือนกัน แต่อย่างไรพี่ก็รักนิ่มมากที่ สุดอยู่แล้ว แค่นี้ก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้เช้านะ นิ่ม” นารินวางสายไปแล้ว นิมาจึงหันมามองคนที่ยังนอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ ด้วยความน่ารักจากรอยยิ้มเล็กๆ ทำให้นิมาอมยิ้มกับภาพที่เห็นและแอบหอมแก้มไปเบาๆ หนึ่งฟอด ระวังไม่ให้คนที่หลับอยู่รู้สึก ตัวหรือตื่นขึ้นมา แต่ก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นเมื่อทองทิพย์ตื่นขึ้นในทันที

“อาบน้ำก่อนดีกว่าไหม แล้วค่อยหอม แต่อันที่จริงแก้มทิพย์ก็หอมอยู่ตลอด เวลาอยู่แล้วนะ” ทองทิพย์พูดยิ้มๆ มองสบตากับนิมา

“ไม่ได้หอมสักหน่อย แค่ปลุกให้ตื่น” นิมาพูดจบก็รีบเปิดประตูลงไปจากรถในทันทีด้วยความเขินอายที่แอบหอมแก้มคนที่นอนหลับอยู่

“ทิพย์ไม่ทานอาหารเย็นนะคะ ขอไปอาบน้ำนอนเลย” ทองทิพย์รู้สึกอยากนอนและคิดถึงเตียงนอนนุ่มๆ เสียเหลือเกิน

“ทานนิดหน่อยดีกว่านะคะ แล้วทานยาจะได้หลับสบาย ไหนมาขอแตะหน้า ผากดูหน่อยตัวร้อนหรือเปล่า” นิมาเดินเข้ามาใกล้ๆ แตะที่
หน้าผากของทองทิพย์ซึ่งตัวไม่ร้อนมากนักแค่ตัวอุ่นๆ แต่ริมฝีปากอุ่นๆ ของทองทิพย์กำลังทาบทับไปที่ริมฝี ปากสวยๆ ของนิมา ซึ่งขยับถอย
ออกมาทันที

“ขอโทษค่ะ ลืมไปว่ามีแฟนแล้ว ทิพย์ไม่ทานอาหารนะ ขอไปอาบน้ำนอนเลยก็แล้วกัน” ทองทิพย์กำลังเลี่ยงเดินไปทางตึกด้านข้างซึ่ง
เป็นที่พักของเธอ

“เดี๋ยวก่อน ทำไมต้องยัดเยียดนิ่มไปเป็นแฟนคนอื่นด้วยล่ะ ไม่ชอบแล้วจะมาจูบนิ่มทำไมกัน ไม่สนใจกันหน่อยหรืออย่างไรที่กลับมาอยู่ด้วยแบบนี้เพราะว่าเป็นห่วง แค่ทานข้าวก่อนทานยาแล้วไปอาบน้ำนอน ถ้านิ่มขอร้องทิพย์จะทำให้ได้ไหม” นิมาพูดเสียยืดยาวทำเอาทองทิพย์ไม่กล้าเดินไปไหน

“ขอโทษค่ะ เอาเป็นว่าขอไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวมานะ” ทองทิพย์ยิ้มให้นิมาที่ยิ้มจางๆ ให้

“รอที่โน่นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวนิ่มทำข้าวต้มแล้วยกไปให้จะได้ไม่ต้องเดินไปเดินมา ว่าง่ายๆ น่ารักจะตายรู้หรือเปล่า” นิมาเดินไปดึงจมูกทอง
ทิพย์และบิดไปทางซ้ายทีขวาทีจนเจ้าตัวยิ้มๆ กับสิ่งที่นิมาทำกับเธอ

“ขอบคุณค่ะ”

“ยินดีรับใช้ค่ะ ท่านผู้อำนวยการ” นิมาแกล้งพูดแหย่ถึงตำแหน่งทองทิพย์ที่โรงเรียนอนุบาลซึ่งก็ถือได้ว่าตัวเธอเองก็เป็นพนักงานคนหนึ่งด้วยเช่นกัน

ข้าวต้มกุ้งกลิ่นหอมกรุ่นเสร็จก่อนที่ทองทิพย์จะอาบน้ำเสร็จวางอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมถ้วยเล็กๆ ที่มียาเม็ดอยู่ในนั้นสองเม็ด และน้ำอีกหนึ่งแก้ว ทองทิพย์ยิ้มกับสิ่งที่เห็นบนโต๊ะอาหาร

“หนาวมากค่ะ ตัวร้อนจี๋เลย ปวดหัวมากด้วยค่ะ” ทองทิพย์ยิ้มๆ ส่งข้อความแล้วนั่งลงที่โต๊ะอาหาร แค่เพียงครู่เดียวหลังจากส่งข้อความนิมาก็วิ่งมาถึง

“ยิ้มแป้นขนาดนี้ โกหกใช่ไหม” นิมาพูดเหมือนดุทองทิพย์

“จริงค่ะ หนาวมาก ตัวร้อนจี๋ ปวดหัวด้วย” ทองทิพย์พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

“ไหน ถ้าไม่ร้อนนะ โดนดีแน่ๆ” นิมาเอามือแตะหน้าผากของทองทิพย์ที่รวบตัวเธอเอาไว้จนล้มลงนั่งที่ตัก ทองทิพย์จึงโอบกอดนิมาไว้

“ไม่มีแรงสู้รบตบมือวันนี้ แต่อยากกอดนิ่ม” ทองทิพย์กระซิบบอก

“ก็ทานข้าว ทานยาแล้วไปนอน” นิมาพยายามดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมกอดของทองทิพย์

“หนาวจริงๆ นะคะ ขอกอดไว้ได้ไหม” ทองทิพย์พูดเสียงอ่อยๆ อ้อมกอดของทองทิพย์ทำให้นิมารู้ว่าคนที่กอดเธออยู่ไม่ได้พูดโกหก เพราะไอร้อนจากตัวทำให้นิมารับรู้ได้

“กอดอยู่แบบนี้จะทานข้าวทานยาได้ไหมล่ะ” นิมาพูด ทองทิพย์จึงคลายอ้อมกอดพร้อมรอยยิ้ม

“ก็กลัวหนีกลับไปก่อน” ทองทิพย์พูดลอยๆ

“ทานข้าวค่ะ จะได้ทานยาแล้วไปนอน ป่วยบ่อยแบบนี้ ไม่ได้ไปออกกำลังกายเลยใช่หรือเปล่าคะ” นิมาถามพร้อมกับตักข้าวต้มป้อนให้ทองทิพย์

“ค่ะ แต่ป่วยก็ดีนะ มีคนใจดีมาป้อนข้าวให้ด้วย” ทองทิพย์ยิ้มทะเล้น

“พูดดีไป ทานเร็วๆ เลย”

“นิ่มทานหรือยังคะ” ทองทิพย์ถาม นิมาส่ายหน้า

“ไม่ค่อยหิวค่ะ ดื่มนมไปแก้วหนึ่งแล้ว ทิพย์ทานเถอะ” นิมายิ้มให้ทองทิพย์ที่กำลังตักข้าวต้มป้อนให้เธอเช่นกัน

“เยอะ ทานไม่หมด นิ่มช่วยทานหน่อยนะ” ทองทิพย์มองด้วยสายตาอ้อนวอนจนนิมาใจอ่อนยอมทานตามที่ทองทิพย์ขอร้อง

“เรื่องเยอะมากนะคะ นิ่มขอรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” นิมาเห็นรูปของแป้งร่ำโชว์ขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์ ทองทิพย์ก็เห็นเช่นกัน แต่ก็ดึงมือ
ไว้ไม่ให้ไปไหน ด้วยความอยากแกล้งเพื่อนรวมถึงทองทิพย์ นิมาจึงกดเปิดเสียงให้ทองทิพย์ได้ยินเสียงเพื่อนของเธอด้วย

“สวัสดีแม่นิ่มนวล สาวร้ายหลับไปหรือยัง เอายานอนหลับให้สองเม็ดป่านนี้หลับไปแล้วแน่เลย” แป้งร่ำหัวเราะคิกคัก นิมาอมยิ้มมองสบ
ตากับทองทิพย์ที่รู้ตัวว่าโดนนิมาแกล้ง

“ยังไม่หลับจะคุยไหมล่ะ” นิมาบอกกับแป้งร่ำ

“แหมช่างกล้านะ ไปตามมาเลย นึกว่ากลัวหรืออย่างไรกัน ว่าแต่ว่าวีดีโอที่ส่งมาน่ารักมากเลย ไม่อยากเชื่อว่าสาวร้ายจะมีโหมดอ่อน
โยนกับเด็กได้โคตรน่ารักเลยขอบอก คุณพุดโทรมาหรือยัง” แป้งร่ำถามนิมา

“ยังไม่ได้โทรมาค่ะ สวัสดีค่ะ คุณแป้ง” ทองทิพย์อมยิ้มหลังจากที่เธอพูดไปได้สักครู่แป้งร่ำก็เงียบไป

“เล่นงานเพื่อนเสียแล้ว แม่นิ่มนวล มันน่านักนะ ปล่อยให้นินทาอยู่ได้”

“ได้ยินหมดเลยนะ จะบอกให้ คุยกันเองเลย” นิมาหัวเราะเยาะแป้งร่ำ

“ร้ายนักนะ แม่นิ่มนวล ฝากไว้ก่อน สวัสดีค่ะ สาวร้าย เอ๊ยไม่ใช่สิ ทิพย์”

“สวัสดีอีกครั้งค่ะ เรียกแป้งเฉยๆ ก็แล้วกันนะคะ เหมือนเราจะสนิทกันแล้ว เพราะแป้งมีฉายาให้ทิพย์แล้วว่า สาวร้าย” ทองทิพย์อมยิ้ม

“ก็แม่นิ่มนวลตั้งให้ จริงๆ นะคะ” แป้งร่ำรีบโบ้ยไปที่เพื่อนรักของเธอ

“อ้าวทำไมเป็นอย่างนั้นไปได้ล่ะคะ คุณแป้งร่ำ” นิมาพูดดุแป้งร่ำ

“ว่าแต่เรื่องวีดีโอ มันอย่างไรกันคะ เห็นแป้งพูดถึง” ทองทิพย์ถาม

“ไว้ขอแม่นิ่มนวลดูเองก็แล้วกันค่ะ รับรองได้ว่าน่ารักน่าชังมาก คนส่งมาให้แป้งดูคงเก็บไว้ดูสามเวลาหลังอาหารแน่ๆ ค่ะ” แป้งร่ำได้ที
แหย่เพื่อนในทันที

“ตกลงยาที่เตรียมให้เป็นยานอนหลับจริงๆ หรือคะ ถ้าสองเม็ดคงไม่ตื่นแน่ๆ เลยนะ นิ่ม” ทองทิพย์หันไปถามนิมา

“ได้โอกาสหลบหนีแล้วเรา ขอตัวก่อนนะ ทิพย์ แม่นิ่มนวลด้วย ที่เหลือไปเคลียร์กันเอง ทิพย์อ้อนเข้าไว้นะ แม่นิ่มนวลใจอ่อน รับรอง
ได้ค่ะ ได้นอนกอดไว้ทั้งคืนแน่ค่ะ บายค่ะ สองสาว” พูดจบแป้งร่ำก็รีบกดวางสายทันที

“ยายแป้ง มันน่านักนะ พวกใครกันแน่” นิมารำพึงกับตัวเองมองสบตากับคนที่ยิ้มๆ จ้องมองเธออยู่

“ตกลงถ้าอ้อนแล้วจะให้นอนกอดได้ทั้งคืนจริงอย่างที่แป้งบอกหรือเปล่าคะ” ทองทิพย์พูดยิ้มๆ

“แป้งพูด นิ่มไม่ได้พูดสักหน่อยนะ”

“แล้ววีดีโออะไรคะที่ส่งให้เพื่อนดู ขอดูหน่อยได้ไหมคะ” ทองทิพย์มองไปที่เครื่องโทรศัพท์

“ดูสิน่ารักมากเหมือนแป้งบอกเลย” นิมากดเปิดวีดีโอแล้วส่งให้ทองทิพย์ดูเจ้าตัวส่ายหน้าแล้วก็ยิ้มแปลกๆ

“น่ารักตรงไหนกันนิ่ม กำลังดุเด็กที่ร้องไห้ให้หยุดร้องนี่นะ” ทองทิพย์ยิ้ม

“ดุได้น่ารักไปนะ ถ้าแบบนี้เรียกดุ เวลาจะดุนิ่มขอแบบดุเด็กแบบนี้บ้างสิ”

“เคยดุนิ่มตอนไหนกัน” ทองทิพย์แกล้งถาม

“หลังรับโทรศัพท์ ไม่รู้จากใคร ทิพย์ก็เปลี่ยนไป พูดอะไรนิ่มก็ผิดไปหมด”

“เมื่อไหร่กัน ไม่เคยสักหน่อย” ทองทิพย์เสเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่พร้อมเล่าก็ไม่เป็นไร จะรอนะคะ ถ้าทำได้นะ จะภาวนาไม่ให้โทรศัพท์สายนั้นโทรเข้ามาอีกตลอดชีวิต ทิพย์จะได้เป็นทิพย์แบบนี้
ตลอดไป” นิมาถอนใจเล็กๆ พร้อมรอยยิ้มจางๆ

“ฟังดูก็คงเป็นสาวร้ายอย่างที่แป้งว่าทิพย์จริงๆ” ทองทิพย์ยิ้มเล็กๆ ให้นิมา พร้อมขยับเข้าไปสวมกอดไว้

“จะลองปราบสาวร้ายดูสักที ไปบอกให้ช่วยให้ความร่วมมือหน่อยได้ไหมคะ” นิมาหัวเราะเมื่อเห็นทองทิพย์ทำหน้าตาแปลกๆ

“แล้วจะไปบอกให้ แต่ต้องให้นอนกอดทั้งคืนเลยนะ” ทองทิพย์นึกขอบคุณความน่ารักและการเอาใจใส่ดูแลที่นิมามีให้ ความรู้สึกผิดกำลังเกิดขึ้นในใจกับสิ่งที่เธอคิดไว้เกี่ยวกับผู้หญิงที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ ในเวลานี้




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.