ตอนที่ 5 อวิกามองคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าเป็นพักๆไม่เข้าใจว่ายัยพี่หมีจะรั้งเธอไว้ทำไมเมื่อเจ้าตัวก็มีเพื่อนที่ดูจะเข้ากันได้มากกว่าเธอ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะหันไปมองอาหารที่กำลังถูกจัดวางบนโต๊ะ อวิกาหรี่ตามองสิ่งที่อยู่ในจานแต่ละอย่างมันช่างส่งกลิ่นกระแทกจมูกเธอจนแทบจะหงายหลัง
“พี่สั่งของที่น้ำเพชรชอบทั้งนั้นเลยถูกใจมั้ยคะ”
มาธวีเอ่ยด้วยรอยยิ้มหวานก่อนจะลงมือตักกับข้าวใส่ในจานให้คนตรงหน้า
“แต่เพชรว่า…”
“ทำไมล่ะคะหรือว่าไม่ชอบ”
คนพูดยังคงยิ้มหวานและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตักจนชายหนุ่มที่มองอยู่ต้องเอื้อมมือไปแตะที่แขนเพื่อนสาวเบาๆ
“มีอะไรคะไมค์”
“ผมว่าพอก่อนดีมั้ยมันจะทะลักออกนอกจานอยู่แล้ว”
ไมเคิลเอ่ยพร้อมกับชี้ไปยังจานของอวิกา
“ผึ้งแค่อยากให้น้ำเพชรกินเยอะๆ”
“มันเยอะไปมั้ยอะ”
“ไม่หรอกค่ะจำได้สมัยตอนเด็กน้ำเพชรยังให้ผึ้งกินเยอะกว่านี้อีก”
อวิกามองหน้าคนพูดพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อนึกย้อนกลับไปยังวัยเด็กที่ตัวเองได้ทำเรื่องแบบนั้นจริงๆ
“ของอร่อยทั้งนั้นทำไมไม่กินล่ะยัยพี่หมี”
เด็กน้อยวัย5ขวบเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่แสนเจ้าเลห์พร้อมกับการตักทุกอย่างที่เรียกว่าหอมหัวใหญ่ใส่จานของเด็กหญิงแว่น
“ของมีประโยชน์ไม่กินถึงได้อ้วนแบบนี้ไง ฮ่าๆ”
“พี่ไม่อยากกินนิน้ำเพชร”
“ตามใจถ้าไม่กินก็กลับบ้านไปเลยไม่ต้องมาเล่นกะเค้า”
เด็กหญิงมาธวีแทบจะร้องไห้ออกมาเมื่อได้ยินประโยคจากคนตรงหน้าเด็กน้อยผู้น่าสงสารจึงจำต้องฝืนกินสิ่งที่ตัวเองเกลียดให้หมดเพียงเพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกไล่กลับ
“น้องผึ้งเก่งจัง”
เด็กชายอาศิราเอ่ยออกมาเมื่อเดินมาเห็นเมนูหอมหัวใหญ่เกลี้ยงจาน
“ชอบก็ไม่บอกพี่จะได้เอามาให้อีก”
“ผึ้งไม่ได้ชอบค่ะ”
“อ่าว…แล้วทำไมกินซะเกลี้ยงเลย”
คนถูกถามหันไปมองหน้าคนที่แกล้งเธอก่อนจะทำหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้
“เพชรแกล้งอะไรน้องผึ้ง”
“เปล่าซะหน่อย”
คนพูดเริ่มร้อนตัวก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมหาทางรอด “น้ำเพชรบอกให้ผึ้งกินหอมหัวใหญ่ให้หมดไม่งั้นจะไล่ผึ้งกลับบ้านค่ะ”
“ยัยเพชรทำไมทำแบบนี้”
“ก็เพชรไม่อยากกินแต่ถ้ากินไม่หมดก็จะถูกคุณพ่อดุนี่นาเพชรก็เลยให้พี่หมีกินแทน”
“ยัยเพชร”
“ไปดีกว่าไม่เล่นด้วยแล้ว แบร่ๆยัยหมีใส่แว่นขี้มูกหนาเตอะ”
พูดจบเด็กน้อยก็วิ่งหนีไปอย่างเร็วส่วนคนถูกล้อก็ค่อยๆเปิดปากร้องไห้ออกมาเสียงดังจนเด็กชายอาศิราต้องยกมือขึ้นอุดหูตัวเองเอาไว้พร้อมกับการเดินเข้าไปปลอบอย่างจำใจ
“กินสิคะ”
น้ำเสียงเย็นๆดังแทรกเข้ามาในความคิดของอวิกาทำให้เจ้าตัวต้องสลัดภาพในอดีตออกไปก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่เหมือนกับภาพสะท้อนในวัยเยาว์แต่ที่ต่างกันก็เห็นจะเป็นตัวเธอเองที่กลับกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบแบบไร้ทางต่อสู้
“ผัดหอมหัวใหญ่ ยำหอมหัวใหญ่ หอมหัวใหญ่ทอดกรอบ ต้มยำหอมหัวใหญ่น้ำข้นแล้วก็ยังมี…”
อวิกาถึงกับยกมือขึ้นห้ามก่อนจะใช้ช้อนตักกินอย่างพะอืดพะอม
“เลี่ยนน่าดูเลยนะครับ”
“ไม่หรอกค่ะน้ำเพชรเค้าชอบ”
มาธวีเอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหันไปมองคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
“กินให้หมดนะคะไม่หมดห้ามลุก!”
น้ำเสียงเด็ดขาดบวกกับสายตาที่จ้องมาทำให้คนถูกจี้ถึงกับรีบกลืนหัวหอมลงคออย่างเร็วจนสำลักเลยต้องรีบคว้าน้ำมาดื่มท่าทางของอวิกาในตอนนี้ทำเอาคนที่อุตสาห์เก๊กหน้าดุถึงกับหลุดหัวเราะออกมาอย่างลืมตัวแต่เพียงไม่นานมาธวีก็รีบหันหน้าไปทางอื่นก่อนจะชวนชายหนุ่มคนข้างๆคุยเพื่อกลบเกลื่อนอาการหลุดของตัวเอง
ไมเคิลเห็นสภาพของอวิกาก็อดสงสารไม่ได้ไม่รู้ว่าคนข้างๆเขากำลังคิดจะทำอะไรและความสงสัยก็ทำให้ชายหนุ่มต้องเปิดปากเอ่ยถามออกมาในที่สุด
“ผึ้งกำลังเล่นอะไรอยู่”
ชายหนุ่มพูดเสียงเบาเพราะไม่อยากให้คนที่เดินอยู่ข้างหลังได้ยิน
“เดินซื้อของไงคะ”
มาธวีแกล้งพูดเฉไฉไปเรื่อยทั้งที่จริงๆแล้วเธอเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยถามดี
“ไมค์รู้นะว่าผึ้งเข้าใจ”
“ไม่เข้าใจ ถึงเข้าใจก็ไม่ตอบ”
“ผึ้ง”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับไมค์ค่ะ”
คนฟังน่าตาสลดทันทีเมื่อได้ยินประโยคตัดรอนแบบนี้ส่วนมาธวีก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆเพราะไม่เข้าใจว่าเพื่อนชายจะมาสนใจอะไรกับเรื่องแบบนี้แต่เพียงไม่นานหญิงสาวก็เอื้อมมือไปแตะที่แขนคนหน้าเศร้าพร้อมกับส่งสายตาแบบอ้อนๆไปให้เท่านั้นแหละชายหนุ่มก็ยิ้มออกทันที
“เอ่อ…”
คนทั้งคู่ต่างหันไปมองบุคคลที่ถูกลืมเลือนพร้อมกัน
“คือว่าเพชรจะขอตัวไปทำงานก่อนน่ะค่ะ”
“อ๋อ…ไว้พบกันนะครับ”
ไมเคิลเอ่ยตอบออกมาอย่างรวดเร็วเพราะตัวเขาเองก็อยากอยู่กับเพื่อนสาวเพียงลำพังเหมือนกันและเมื่ออีกคนเอ่ยออกมาแบบนี้มีหรือที่เขาจะปฏิเสธ
“ค่ะไว้เจอกันนะคะ”
อวิการีบเอ่ยลาทันทีแต่กลับถูกมือน้อยๆของใครบางคนดึงเอาไว้
“พี่ไม่ให้ไป”
คนถูกดึงหันกลับมาหาหญิงสาวอีกคนที่ตอนนี้กำลังทำหน้างอใส่เธอ
“พี่ผึ้งมีเพื่อนแล้วนี่คะอีกอย่างเพชรก็ต้องไปทำงาน”
“มันคนละอย่างกัน”
“ไม่เอาน่ะผึ้ง”
ไมเคิลเดินเข้าไปห้ามเพื่อนสาวที่ตอนนี้กำลังทำท่าทางเหวี่ยงแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“ถ้าไปก็ไม่ต้องมาคุยกัน”
มาธวีหาได้สนใจคำห้ามของชายหนุ่มเพราะตอนนี้ความสนใจของเธอมุ่งเป้าไปที่คนตรงหน้าเท่านั้น
“น้ำเพชร!”
ขู่ยังไงอีกคนก็เอาแต่จะไปท่าเดียว มาธวียกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋าขึ้นมากดหาใครบางคน
“สวัสดีคะคุณลุงกำธรผึ้งเองนะคะ”
เพียงประโยคทักทายแรกก็ทำให้คนที่กำลังจะก้าวเดินต้องหยุดชะงักทันทีก่อนจะเอียงหูฟังอย่างตั้งใจ
“ผึ้งมาที่ห้างของคุณลุงแล้วนะคะแต่น้ำเพชรเค้า…”
ดอกที่สองยังไม่ทันจบเมื่ออวิกาเดินย้อนกลับมาดึงมือถือในมือของคนขี้ฟ้องเอามาคุยซะเอง
“ค่ะพ่อไม่มีอะไรค่ะ ค่ะ ได้ค่ะ”
อวิกายื่นมือถือส่งคืนให้เจ้าของพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เดี๋ยวเพชรเป็นไกด์ให้ค่ะ”
“ไม่ต้องทำงานแล้วเหรอครับ”
คนถูกถามมองหน้าชายหนุ่มครู่หนึ่งก่อนจะหันมาสบตากับหญิงสาวอีกคนที่ยืนยิ้มอย่างผู้ชนะ
“นี่ก็เป็นงานเหมือนกันค่ะ”
พูดจบอวิกาก็เมินหน้าไปทางอื่นเธอคงต้องทำใจเย็นให้มากกว่านี้เพราะตอนนี้ยัยพี่หมีใส่แว่นขี้มูกหนาเตอะกำลังได้เปรียบเธอในทุกๆด้านและมันคงไม่ดีแน่หากเธอขัดใจหมีตัวนี้
ทางด้านบ้านเอกอมรกุลที่ตอนนี้ความวุ่นวายได้จบไปแล้วแต่กลับได้คนงานสวนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
“ทำแบบนี้จะดีเหรอครับพ่อ”
“เรามีทางเลือกที่ไหนกันล่ะ”
กำธรเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก หากว่าจะทำให้พ่อของแพรวรุ่งวางใจและหายห่วงได้ก็ต้องรับชายหนุ่มที่มาด้วยเข้าทำงานที่บ้านด้วยข้ออ้างที่สมเหตุสมผลว่าจะได้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับอายุธ
“ท่าทางสองคนนั่นแปลกๆ”
อาศิราเอ่ยออกมาเมื่อมองไปยังภาพของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังช่วยกันรดน้ำต้นไม้
“ยัยนั่นก็แปลกหน้าที่ตัวเองก็ไม่ใช่ยังจะทำให้เหนื่อยอีก”
“จะอะไรก็ช่างนั่นน่ะเมียแกเลิกเรียกว่ายัยนู้น ยัยนี่ ยัยนั่นได้แล้วเขาชื่อแพรวรุ่ง!”
พูดจบกำธรก็เดินกลับเข้าบ้านทันทีเพราะเริ่มรู้สึกปวดหัวกับเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้นบางทีการนอนพักอาจจะช่วยได้ดีที่สุดในเวลานี้
อาศิรามองการกระทำของคนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจึงเกิดอารมณ์เช่นนี้แต่เท่าที่มองเขาพอจะดูออกว่าผู้ชายคนนั้นคงจะไม่ใช่ญาติอย่างที่ได้รับรู้มาแต่จะเป็นอะไรกันก็ช่างมันไม่ใช่เรื่องของเขานี่นา ดีซะอีกที่มีคนดูแลยัยนั่นแทนตัวเขา
แพรวรุ่งมองหน้าชายหนุ่มที่กำลังพรวนดินครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปหา
“พี่กรไม่น่าทำแบบนี้”
พงศกรเงยหน้าขึ้นมองคนพูดก่อนจะลุกขึ้นยืนประจันหน้า
“พี่เป็นห่วงรุ้งแล้วก็ไม่ไว้ใจไอ้ผู้ชายคนนั้นด้วย”
“พี่กร!”
“ทำไม…พี่จะเรียกมันแบบนี้แหละพี่เกลียดมัน เกลียดมันเพราะมันคนเดียวมันแย่งรุ้งไปจากพี่”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยแววตาที่เจ็บปวดจนแพรวรุ่งที่มองอยู่ถึงกับต้องหันหน้าหนี
“พี่รักรุ้งนะเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย”
แพรวรุ่งหันกลับมามองคนพูดด้วยแววตาเจ็บปวดไม่แพ้กันแต่หญิงสาวก็ต้องรีบหันไปมองทางอื่นเพราะเกรงว่าน้ำตาที่กลั้นไว้อาจจะไหลออกมาได้
“รุ้งไม่เหมือนเดิมอีกแล้วพี่ตัดใจซะเถอะ”
“พี่ไม่สนพี่รู้แต่ว่าพี่รักรุ้งแล้วพี่จะรักลูกของรุ้งด้วย”
คนพูดเดินเข้าไปใกล้แพรวรุ่งก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือหญิงสาวเอาไว้
“เรากลับบ้านกันเถอะนะ”
แพรวรุ่งเงยหน้ามองคนพูดอย่างละอายใจเพราะพงศกรเป็นคนดีแบบนี้ไงคนที่แปดเปื้อนอย่างเธอถึงต้องหลบออกมา
“พี่กรกลับไปเถอะรุ้งจะอยู่ที่นี่”
พูดจบหญิงสาวก็เดินหันหลังออกไปทันทีเพราะตอนนี้หยาดน้ำตาของเธอกำลังไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองหากไม่มีเรื่องนี้ให้สะเทือนใจเธอคงจะไม่ต้องเหยียบย่ำหัวใจของคนที่รักแบบนี้
พงศกรมองด้านหลังคนรักอย่างเจ็บปวดแต่เขาจะไม่มีวันยอมแพ้และจะต้องหาทางเปลี่ยนใจแพรวรุ่งให้ได้…
นิยายเรื่องอื่นๆ คุณหนูที่รัก yuri comeon-book.com/comeonv3/story.php?SID=19228
ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri comeon-book.com/comeonv3/story.php?SID=18487
เกมรักสะดุดใจ yuri comeon-book.com/comeonv3/story.php?SID=18494
ปีกรัก yuri
สามารถสั่งซื้อได้แล้วนะคะ พร้อมส่งจ้า ^^
แบบ e-book ก็มีเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou
ขอบคุณที่ติดตามจ้า