Dream ฝันค้างบนทางรัก Yuri
บทที่ ๔ : อีกฝั่งของท้องฟ้า
ทางด้านณัฏฐรินีย์หลังจากที่ฐิติณัชชาเดินทางไปอยู่ประเทศไทยกับบิดาแล้ว เธอรู้สึกเหงาและเป็นห่วงพี่สาวฝาแฝดเป็นอย่างมาก เธอเฝ้าคอยโทรศัพท์อย่างกระวนกระวายใจเธอไม่สามารถติดต่อฐิติณัชชาได้ ทำได้แค่เพียงเฝ้าคอยให้อีกฝ่ายโทรศัพท์มาหาแค่นั้นเอง ทุกครั้งที่เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาเธอจะวิ่งไปรับเพราะคิดว่าฐิติณัชชาโทรมาแต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะเป็นเพื่อนมารดาหรือเพื่อนของอาสาวที่สลับสับเปลี่ยนกันโทรเข้ามาติดต่องาน จนกระทั่งมีโทรศัพท์ดังเข้ามาอีกครั้ง เธอนั่งฟังเฉยๆไม่ได้ลุกขึ้นไปรับเหมือนทุกครั้ง มารดาของเธอจึงไปรับและเรียกเธอไปคุย เพราะครั้งนี้เป็นสายของฐิติณัชชาจริงๆ
“ฮัลโหลฟาง ตัวเองทำอะไรอยู่เนี่ย ถึงนานหรือยังที่นั่นเป็นยังไงบ้าง แล้วตัวเองอยู่ได้ไหม แล้วนี่ทานอะไรหรือยัง” เมื่อรับสายแล้ว ณัฏฐรินีย์ก็รัวคำถามเป็นชุดด้วยความเป็นห่วงพี่สาวฝาแฝดที่ต้องไปอยู่ไกลถึงประเทศไทย
“จ้ามาถึงได้สักพักแล้ว เพิ่งเอากระเป๋าเก็บไว้ที่ห้องเมื่อกี้นี่เอง พอเสร็จก็รีบโทรหาตัวเลยล่ะแฟร์” ฐิติณัชชาตอบคำถามแฝดน้อง
“แล้วคุณพ่อพาตัวไปอยู่ที่ไหน พออยู่ได้ไหม เค้าเป็นห่วงตัวจังเลย คิดถึงตัวจังเลยฟาง”
“ก็หมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศไทยนะก็พออยู่ได้ไม่ต้องเป็นห่วงเค้าหรอกแฟร์ เดี๋ยวอีกสักพักคงชินไปเอง เค้าก็คิดถึงแฟร์เหมือนกันนะ แล้วนี่ทำอะไรอยู่จ๊ะ”
“กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยจ๊ะ เค้ากลัวจังเลยเค้ากลัวว่าจะสอบไม่ได้”
“อืม…ไม่ต้องกลัวไปหรอกยังไงตัวเองต้องสอบได้สิ เค้านี่สิยังไม่ได้อ่านอะไรเลย ไม่รู้ว่าจะสอบได้ไหม”
"เค้าว่าตัวสอบได้แน่ฟาง ตัวออกจะเก่งไม่เหมือนเค้า"
"จ้า เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ เค้าต้องไปดูคุณพ่อก่อน แล้วเค้าจะโทรไปใหม่นะ แฟร์"
“จ๊ะ”
“แฟร์ ทานข้าวได้แล้วลูก”
“ค่ะคุณแม่ หนูกำลังจะไปค่ะ” หลังจากวางสายจากฐิติณัชชาแล้ว นานาโกะได้มาตามให้ณัฏฐรินีย์มารับประทานอาหารด้วยกัน
เมื่อเธอไปถึงโต๊ะอาหารซึ่งมีอาหารหลายอย่างอาทิเช่น กุ้งเทมปุระ ซูชิหน้าไข่กุ้ง กุ้งผัดบล็อกโคลี่ ซุปมิโซะ ฯลฯ ซึ่งล้านแล้วแต่เป็นของโปรดของเธอกับฐิติณัชชาแทบทั้งนั้น เธอนั่งจ้องอาหารอยู่นานโดยไม่ได้แตะต้องอาหารเหล่านั้นเลยสักนิด
“ทำไมไม่ทานล่ะลูก ของโปรดหนูไม่ใช่เหรอ หรือว่ามันดูไม่น่าทาน” นานาโกะถามด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นว่าณัฏฐรินีย์ยังไม่ยอมรับประทานอาหาร
“เปล่าค่ะคุณแม่อาหารน่าทานมากค่ะ เพียงแต่หนูเห็นอาหารเหล่านี้แล้วคิดถึงฟางเท่านั้นเองค่ะ ฟางเค้าชอบกุ้งผัดบล็อกโคลี่มากนะคะ”
“อืม...เมื่อฟางเขาชอบหนูยิ่งต้องกินเยอะๆนะจ๊ะ ฟางจะได้ดีใจจริงไหมจ๊ะลูก”
“ค่ะคุณแม่ แฟร์จะทานเยอะๆค่ะ จะทานแล้วนะคะ”
“จ๊ะลูก ส่วนเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัย แม่กับคุณอาปรึกษากันแล้วว่าจะให้ลูกสอบคณะและมหาวิทยาลัยที่แม่กับคุณอาเคยเรียนหนูเห็นด้วยไหมลูก”
“ค่ะถ้าคุณแม่เห็นว่าดี หนูยังไงก็ได้ทั้งนั้นค่ะ”
คืนนั้นณัฏฐรินีย์เข้านอนด้วยความรู้สึกเงียบเหงา ชีวิตที่มีฐิติณัชชาเสมือนหนึ่งเงาตามตัวไม่เหลืออีกแล้ว ต่อจากนี้ไปเธอคงด้วยอยู่อย่างเดียวดายในความทรงจำเดิมๆที่มิเลือนหายไป
.......................................................................
รุ่งเช้าณัฏฐรินีย์ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย เธอพบว่าที่โต๊ะข้างๆเตียงนอนมีของขวัญวางอยู่ เธอหยิบขึ้นมาดูพบการ์ดเขียนให้เธอเปิดดูภายใน เธอจึงแกะกล่องของขวัญด้วยมือที่สั่นระริก และรู้สึกแปลกใจเมื่อพบว่าสิ่งของภายในเป็นกระจกแบบพับสีชมพูสดใสซึ่งเป็นสีโปรดของเธอ เธอจึงเปิดพับของกระจกออกดู พบว่าในฝาพับเป็นคู่ของเธอกับฐิติณัชชาและมีการ์ดแผ่นเล็กๆอยู่ในนั้น
“เค้ารู้ว่าตัวต้องคิดถึงมากๆ เวลาที่ตัวคิดถึงเค้าให้เปิดดูกระจกใบนี้นะ เค้าเป็นห่วงตัวเสมอและจะรอวันที่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก จาก...ฟาง”
เมื่อทราบว่าของขวัญดังกล่าวเป็นของฐิติณัชชาแต่เธอไม่ทราบที่มาของมัน ณัฏฐรินีย์จึงลงไปชั้นล่างของตัวบ้านเพื่อนสอบถามที่มาของของขวัญกล่องนี้จากผู้เป็นมารดา
“แม่คะ ของขวัญนี่มาได้ไงคะ” ณัฏฐรินีย์ถามมารดาซึ่งกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว
“อ๋อ ฟางเค้าฝากแม่ไว้ก่อนที่จะเดินทางจ๊ะลูก เค้าบอกว่าให้เอาให้หนูเมื่อเขาไปถึงที่นั่นแล้ว”
“เหรอคะ ขอบคุณค่ะแม่ หนูรักแม่จังค่ะ” พูดจบณัฏฐรินีย์ก็เดินไปโอบกอดนานาโกะเอาไว้
“หนูไม่ได้เกลียดแม่ อย่างที่ฟางเค้า....”
“หนูไม่เกลียดคุณแม่หรอกค่ะ หนูเข้าใจสิ่งที่คุณแม่กับคุณอาเป็น แล้วนี่คุณแม่ทำอะไรทานคะ หอมน่าทานมากเลย”
“ของโปรดของหนูทั้งนั้นเลย ไปอาบน้ำสิจ๊ะ จะได้มาทานข้าวกัน”
“ค่ะ แล้วคุณอาไม่อยู่เหรอคะ บ้านเงี๊ยบเงียบ”
“ไม่อยู่จ๊ะ ไปเข้าเวรน่ะลูก”
“งั้นหนูไปอาบน้ำแล้วนะคะ”
“จ๊ะ”
หลังจากนั้นณัฏฐรินีย์ก็ไปอาบน้ำและมารับประทานอาหารกับมารดา ก่อนออกไปสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอรู้สึกคิดถึงฐิติณัชชายามใด ก็มักจะหยิบกระจกใบนั้นขึ้นมาดูเสมอพร้อมกับคิดว่าอีกฝั่งของท้องฟ้าใครอีกคนหนึ่งคงกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ
......................................................................