Dream ฝันค้างบนทางรัก Yuri
บทที่ ๖ : การมาเยือนแห่งรัก
แสงแรกแห่งทิวาได้สาดส่องลงมาจากพระอาทิตย์เทพแห่งความการุณย์ ปลุกให้สรรพสิ่งได้ตื่นจากการโอบกอดของรัตติกาล ความมืดมิดที่เคยปกคลุมผืนพิภพจางหายไปสิ้นเมื่ออรุโณทัยมาเยือน ขณะนั้นพระธิดามณีจันทร์ถูกพระพี่เลี้ยงเกสรและเหล่านางกำนัลปลุกบรรทมขึ้นมา ขัดสีฉวีวรรณและแต่งองค์ทรงเครื่องเพื่อเตรียมการต้อนต้อนรับพระราชอาคันตุกะจากนครพินทุปุระ
เมื่อพระธิดาทรงเสด็จมาถึงท้องพระโรง พระองค์ทอดพระเนตรเห็นว่าทุกคนรออยู่พร้อมหน้าแล้ว บนพระราชบัลลังก์ทองคำสุกปลั่งพระเจ้าชัยวรรธนะประทับเคียงข้างกับพระมเหสีศุภาวลัย พร้อมด้วยเจ้าชายอติรัณณ์พระเชษฐาของพระธิดา ใกล้กันนั้นพระเจ้าชัยวรเมธกับพระนางสวรินทร์เทวี เจ้าชายธราเทพกับเจ้าหญิงนลินยุพาทรงประทับที่พระราชบัลลังก์ทองคำใกล้เคียงกัน
เจ้าหญิงมณีจันทร์เสต็จเข้ามาในท้องพระโรงอย่างเชื่องช้า กิริย่าท่าทางประดุจนางพญา รอยแย้มสรวลประดับอยู่บนพระพักตร์งาม เมื่อเจ้าหญิงมณีจันทร์ออกมาแล้ว พระเจ้าชัยวรรธนะตรัสบอกให้พระนางถวายบังคมพระเจ้าชัยวรเมธกับพระนางสวรินทร์เทวี เจ้าชายธราเทพกับเจ้าหญิงนลินยุพาซึ่งเป็นพระราชอาคันตุกะ
เจ้าหญิงนลินยุพาเหลียวไปรับไหว้นาง พลางดูนางไม่วางตาเมื่อเห็นนางงามดั่งเทพธิดา เกิดตกหลุมรักนางขึ้นมาในทันใด
“เมื่อนั้น นลินยุพาเรืองศรี
เหลียวไปรับไหว้เทวี นารีดูนางไม่วางตา
งามจริงยิ่งเทพนิมิต ให้คิดนึกรักเป็นหนักหนา
เสโทไหลหลั่งทั้งกายา สะบัดปลายเกศาเนืองไป
กรรับบังคมก็ตกลง จะรู้สึกองค์ก็หาไม่
ถวิลหวังสิเนหายาใจ ร้อนรุ่มพระทัยเพราะเทวี
ความรักรุมจิตพิศวง จนลืมองค์ลืมอายนางโฉมศรี
เป็นอารมณ์สมประดี นารีพึงใจในกัลยา”
ด้วยความปรารถนาในตัวเจ้าหญิงมณีจันทร์ เจ้าหญิงนลินยุพาพระเสโทไหลโทรมกาย พระพักตร์งามซีดเผือดจนพระชนนีทรงตรัสเรียกสติเบาๆ
“ลูกหญิงนลินยุพาเป็นอันใดฤๅหน้าเจ้าถึงซีดเยี่ยงนี้” พระนางสวรินทร์เทวีตรัสถามพระธิดาด้วยพระสุรเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
“หม่อมฉันมิได้เป็นอันใดเพคะเสด็จแม่ เพียงแต่คงจะอ่อนกำลังจากการเดินทางกระมังเพคะ” เจ้าหญิงนลินยุพาตรัสตอบด้วยพระสุรเสียงสั่น
“เจ้าไม่สบายรึนลินยุพา ถ้าเยี่ยงนั้นไปพักผ่อนเถอะหลาน อาให้นางกำนัลจัดตำหนักไว้รับรองแล้ว” พระเจ้าชัยวรรธนะตรัสบอกพระภาติยะ
“ขอบพระทัยเพคะ เสด็จอา” พระนางฝืนแย้มสรวลไปให้พระราชปิตุลา
“กันตาเจ้าพาพระธิดาไปพักตำหนักเถิด บอกหมอหลวงให้เตรียมพระโอสถให้นางด้วย” พระนางสวรินทร์ตรัสบอกพระพี่เลี้ยงกันตา
“เพคะ ไปเถิดเพคะพระธิดา”
“จ๊ะ”
หลังจากนั้นพระธิดาเสด็จไปยังตำหนักหลานหลวงซึ่งพระเจ้าชัยวรรธนะกับพระมเหสีศุภาวลัยได้ทรงให้นางกำนัลจัดรับรองพระนางเอาไว้
ทางด้านเจ้าหญิงมณีจันทร์ พระนางทรงหวั่นไหวกับแววพระเนตรของเจ้าหญิงนลินยุพาที่ทรงทอดพระเนตรมายังพระนางแววพระเนตรที่ทอดลงลงราวบุรุษเพศนั้น ทำให้พระทัยของพระนางสั่นระรัวราวกลองเพล
“โอ้ ! พระเชษฐภคินี การมาเยือนของพระองค์นำความพึงใจมาสู่ข้าฤๅ”
................................................................................
เสียงรับน้องของคณะที่ฐิติณัชชาเรียนอยู่เป็นไปด้วยความสนุกสนาน วันนี้ฐิติณัชชามาที่มหาวิทยาลัยแต่เช้า เสียงว๊ากของรุ่นพี่ เสียงหัวร่อต่อกระซิกของเพื่อนๆร่วมรุ่นทำให้หัวใจของฐิติณัชชาเบิกบานแต่กระนั้นสายตาของเธอก็ยังเหม่อมองไปยังร่างบางของนงนภัส รุ่นพี่สาวแสนสวยที่สวมเสื้อนักศึกษาพอดีตัวไม่คับรัดติ้วเหมือนนักศึกษาหญิงหลายคน กระโปรงทรง A ยาวเลยเข่าไปเพียงนิดสร้างเสน่ห์ให้ผู้ลอบมองมิอาจละลายตาไปที่ใคร
“พี่ฟ้าสวยจังเลยเนอะแก ทั้งสวยทั้งน่ารัก” เมธาวีก็มิต่างจากฐิติณัชชาที่มองนงนภัสด้วยสายตาชื่นชม
“อืม...สวย สวยมาก” ฐิติณัชชาคล้อยตามอย่างเห็นด้วย
“น้องสองคนคุยอะไรกัน ! ไม่ได้ฟังสิ่งที่พี่พูดเลยใช่ไหม ออกมาเลยทั้งคู่พี่มีอะไรให้ทำ” เสียงรุ่นพี่ตวาดแหวขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเธอทั้งสองคนไม่ได้ฟังสิ่งที่หล่อนพูด
“ค่ะ / ค่ะ” ฐิติณัชชากับเมธาวีออกไปยืนอยู่ด้านหน้าที่เพื่อนๆนั่งอยู่
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พี่จะให้น้องฟางร้องเพลงแล้วให้น้องเมย์เต้นดีไหม ไหนใครอยากฟังน้องฟางร้องเพลงและอยากเห็นน้องเมย์เต้นยกมือขึ้น” สิ้นเสียงของรุ่นพี่ ฐิติณัชชาถึงกับเหงื่อแตกพลัก ! เธอร้องเพลงเป็นที่ไหนกันเล่า ได้แต่หวังให้ไม่มีใครอยากฟังแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเพื่อนๆกลับยกมือกลับพรึบพรับทำให้หัวใจของเธอเลื่อนไหลไปอยู่ที่ตาตุ่มเสียแล้ว
“ฟางร้องสิ เดี๋ยวรุ่นพี่ก็ทำโทษหรอก” เมธาวีสะกิดฐิติณัชชาให้ร้องเพลงทำให้เธอต้องจำใจเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างเสียมิได้
“(come back)
Baby, come back to me (come back)
I'll be everything you need (come back)
Baby, come back to me (come back)
For you're (one in a million [come back])
Baby, come back to me (come back)
I'll be everything you need (come back)
Baby, come back to me
(come back) You're one in a million (one in a million)
La la la laLa
la la la la laLa
La la la la” ๑
เพลงที่ฐิติณัชชาร้องออกมานั้นเป็นเพลงช้าแต่เมธาวีก็หลับหูหลับตาเต้นอย่างเมามันราวกับมันเป็นเพลงแด๊นซ์กระจายสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆและรุ่นพี่หลายคนแต่รุ่นพี่อย่างพิมพ์ฤดามิได้คล้อยตาม
“หยุด ! มันไม่ใช่น้องฟาง มันๆนะ เข้าใจไหมคะ มันๆ” พิมพ์ฤดาตวาดอย่างไม่พอใจ
“เฮ้ย มิ้นท์ ! น้องเค้าร้องเพลงช้าแต่สามารถทำให้น้องอีกคนเต้นได้ นี่มันสุดยอดแล้วนะ แกจะเอาอะไรอีกล่ะ” ชลชาติซึ่งเป็นชายหนุ่มรุ่นพี่พูดออกมาบ้างเพราะแววตาของพิมพ์ฤดาคล้ายๆจะหาเรื่องฐิติณัชชาอยู่ในที
“นั่นนะสิมิ้นท์ ฟ้าว่าให้น้องเค้ากลับไปนั่งที่ดีกว่านะ ยังมีกิจกรรมอีกตั้งหลายอย่างเดี๋ยวจะถึงเวลาเรียนเสียก่อน” นงนภัสพยายามหาเหตุผลมาช่วยฐิติณัชชาด้วยเช่นกัน
“ก็มิ้นท์ไม่ชอบนี่นาต้นน้ำ มิ้นท์ไม่ชอบจริงๆนะคะฟ้า ว่าไงน้อง ! จะร้องหรือไม่ร้อง ถ้าไม่ร้องเท่ากับขัดคำสั่งรุ่นพี่นะ”
“ค่ะ ฟางร้องก็ได้ค่ะพี่มิ้นท์”
“ก็ร้องซะสิ ชักช้าอยู่ทำไมล่ะ” พิมพ์ฤดาจ้องฐิติณัชชาพร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตาให้
“ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้อง เคยเห็นช้าง รึเปล่า
ช้างมันก็ตัวไม่เบา จมูกยาวๆเรียกว่างวง
มีเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา มีหูมีตาหางยาว...”
ทันทีที่เสียงร้องของฐิติณัชชาดังขึ้นเมธาวีก็เต้นตามอย่างสนุกสนานและเสียงร้องตามของเพื่อนๆและรุ่นพี่ที่ร้องคลอไปกับเธอด้วยเพราะเพลงที่เธอร้องนั้นเป็นเพลงที่คนไทยแทบทุกคนเคยร้องมาแล้วแทบทั้งนั้น ซึ่งมันเป็นเพลงภาษาไทยเพลงเดียวที่คุณอัทธ์ซึ่งเป็นคุณปู่ของเธอได้สอนเอาไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็ก
เมื่อจบเพลงรุ่นพี่ก็ให้ทั้งสองคนกลับไปนั่งที่เดิมและนัดรับน้องในวันรุ่งขึ้นก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนในภาคเช้าของวันนั้น หลังเลิกเรียนของวันนั้น ฐิติณัชชากับเมธาวีก็ออกมาจากห้องเรียนและมีเสียงเสียงหนึ่งเรียกชื่อพวกเธอเอาไว้
“น้องครับน้อง น้องฟางน้องเมย์ รอเดี๋ยวครับ” ชลชาติเรียกฐิติณัชชากับเมธาวีเอาไว้ เขารู้สึกถูกชะตากับนักศึกษารุ่นน้องสองคนนี้มาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบในวันปฐมนิเทศแต่ยังไม่มีโอกาสได้พูดจากันเท่าใดนัก
“คะ พี่ต้นน้ำ มีอะไรกับพวกเราหรือเปล่าคะ” เมธาวีเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ รุ่นพี่คนนี้คือหนึ่งในรุ่นพี่ที่ว๊ากพวกเธอแล้วไม่ใช่เหรอแล้วเขามีธุระอันใดกับพวกเธอกันหนอ
“เอ่อ...คือ พี่อยากจะขอโทษแทนเพื่อนพี่เรื่องเมื่อเช้าน่ะครับ ไม่ทราบว่าน้องๆพอจะมีเวลาว่างหรือเปล่าครับ”
“พวกเราหมดชั่วโมงเรียนแล้วค่ะ ว่าแต่ต้นน้ำมีธุระอะไรกับพวกเราเหรอคะ” ฐิติณัชชาเอ่ยถามอย่างประหลาดใจไม่ต่างกันกับเมธาวี
“คือพี่อยากเลี้ยงไอศกรีมพวกน้องเป็นการไถ่โทษที่เพื่อนพี่กระทำการรุนแรงกับน้องๆนะครับ ไม่ทราบว่าพวกน้องว่างหรือธุระอื่นใดหรือเปล่าครับ”
“ตอนนี้พวกเราว่างค่ะ กำลังคิดที่จะไปทานไอศกรีมแถวๆหน้ามหาวิทยาลัยค่ะ” เมธาวีตอบด้วยรอยยิ้ม
“อย่างนั้นหรือครับ งั้นพี่ขอถือโอกาสชวนน้องๆไปทานที่ร้านหนึ่งครับ รับรองอร่อยถูกใจพวกน้องแน่ๆครับ”
“มันจะดีเหรอคะพี่ต้นน้ำ การว๊ากน้องก็เป็นหน้าที่ของพวกพี่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ ไม่จำเป็นที่พี่จะต้องมาขอโทษพวกเราเลยนี่คะ” ฐิติณัชชาพูดแย้งออกไป
“นั่นสิคะ มันไม่สมควรกระมังคะ ถ้าเราจะไปทานไอศกรีมด้วยกัน”
“มันเป็นเรื่องที่ดีแน่นอนครับน้องเมย์ นะครับ น้องๆเพิ่งมาใหม่พี่จะพาน้องๆไปทานไอศกรีมที่อร่อยที่สุดของที่นี่เลยนะครับ”
“ก็ได้ค่ะ ไปเถอะนะฟาง พี่เขาอุตส่าห์มีน้ำใจชวนเราทั้งที” เมธาวีเริ่มใจอ่อนและหันมาชวนฐิติณัชชาให้ไปด้วยกัน
“จ๊ะ” ฐิติณัชชารับคำอย่างว่าง่ายเธอไม่อยากขัดใจเพื่อนสนิท
“งั้นตามพี่มาเลยครับน้อง รถพี่จอดอยู่ทางนี้”
หลังจากนั้นฐิติณัชชากับเมธาวีก็เดินตามชลชาติรุ่นพี่หนุ่มรูปงามนามเพราะคนนั้นไปยังลานจอดรถของมหาวิทยาลัยเพื่อไปรับประทานไอศกรีมเจ้าอร่อยชื่อดังของที่นั่น
...............................................................................
๑ เพลง Come Back To Me ศิลปิน Hikaru Utada