Chapter 2(continued...)ผู้กำกับถอนหายใจ “ซ้อมกับมาหลายรอบแล้ว น้องนัสยังทำไม่ได้สักที ไอ้บทกี้ที่แกเขียนเนี่ย... ป่าน แกคิดว่าใครจะมาเป็นแอ็คติ้ง โค้ชบทนี้ให้กับน้องเค้าได้มั้ย”
“ก็ครูแอ๋วไง ขานั้นเค้าปรมจารย์ไม่ใช่เหรอ” สาวแว่นว่า
“ครูแอ๋วตอนนี้ไม่รับงานแล้วอ่ะ” อ๊อดตอบทันที
“แล้วคนอื่นๆ ล่ะ แกก็มีคอนเน็คชั่นไม่ใช่เหรอ เรื่องแค่นี้ทำไมต้องมาถามฉันล่ะ”
“ก็ไอ้บทที่แกเขียนมามันค่อนข้างยากสำหรับน้องเค้าไง”
สายป่านส่ายหน้า “ก็บอกแล้วว่าให้ค... เอ่อ ก็บอกแล้วว่ามันออกแนวๆ แต่ก็อนุมัติมาแล้วนี่ จะให้ฉันทำยังไงล่ะ แกเป็นผู้กำกับนะอ๊อด”
สาวแว่นเกือบหลุดคำพูดว่าแคสติ้งออกมา เนื่องจากเธอถูกผู้บริหารหักคอว่าต้องการให้ดาราหน้าหวานที่อยู่ตรงหน้าของเธอรับบทนี้แทนที่จะเปิดการทดสอบในการประชุมลับวันหนึ่งที่วาระนี้ถูกระบุให้เป็นวาระซ่อนเร้น บริษัทต้องการดันให้วีนัสเป็นนักแสดงที่สามารถรับบทบาทที่เปลี่ยนไปจากเดิมๆ ที่เคยได้ เพื่อจะให้เธอคนนี้กลายเป็นนักแสดงคุณภาพอย่างเต็มตัวและทดแทนนางเอกคนอื่นๆ ที่กำลังจะหมดสัญญาและย้ายค่าย ถึงแม้บทนี้จะไม่ใช่บทนางเอก แต่ก็มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องและเป็นการพลิกบทบาทการแสดงพอสมควรหากดาราหน้าหวานคนนี้ได้แสดง ที่แน่ๆ ในการประชุมสายป่านคัดค้านความคิดนี้อย่างเต็มที่เพราะเห็นว่าวีนัสไม่เหมาะกับบทนี้แต่ด้วยความว่าเธอเป็นเสียงส่วนน้อย จึงต้องยอมไปแบบน้ำท่วมปาก
ทั้งสามคนยืนคิดกันนิ่ง แล้วอ๊อดก็พูดขึ้นมาว่า “เห็นเค้าว่ากันว่าไอ้ตัวละครที่ชื่อกี้เนี่ยแกมีต้นแบบในการเขียนเหรอ”
“อื้อ ช่าย” สาวแว่นตอบ “แล้วไงอ่ะ”
“ไม่ค่อยอยากจะใช้วิธีนี้เลยแฮะ” ผู้กำกับบ่นขึ้นมาเบาๆ แล้วพูดต่อว่า “ลองให้น้องนัสเค้ารู้จักกับต้นแบบได้มั้ยล่ะ เผื่อว่าจะช่วยได้”
สายป่านขมวดคิ้ว “เพราะงั้นแกถึงอยากจะให้น้องเค้ารู้จักกับกี้ตัวจริงน่ะเหรอ”
“จะว่าอย่างงั้นก็ได้ น้องนัสจะได้เข้าใจถึงนิสัยและคาแรคเตอร์จริงๆ ของคนนิสัยแบบกี้ ตัวตนแบบกี้ว่าเป็นยังไง คือแบบจับต้องได้อ่ะ ไม่ใช่แค่ทำความเข้าใจจากตัวหนังสือ... แกจะว่าไงล่ะ”
“ก็เข้าท่า... แต่เฮ้ย! นี่แกจะไม่ถามน้องนัสก่อนเลยเหรอว่าโอเคมั้ยที่จะใช้วิธีนี้อ่ะ” สาวแว่นพูด
ดาราหน้าหวานพูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า “ไม่มีปัญหาค่ะ ถ้ามันช่วยได้ในเรื่องงานแล้วก็ทำให้หนูเข้าใจบทมากขึ้น หนูโอเคค่ะ”
“งั้นก็ตกลงตามนี้” อ๊อดตบไหล่สายป่าน “แนะนำตัวจริงให้น้องเค้ารู้จักหน่อยก็แล้วกัน ฝากด้วยนะ” แล้วเขาก็เดินจากไป
“ฮ... เฮ้ย! เดี๋ยวดิอ๊อด” สาวแว่นร้องเสียงหลง เพราะถึงแม้จะใช้สาวเซอร์เป็นต้นแบบ แต่จริงๆ แล้วเธอเองก็ไม่เคยได้คุยกับกี้ตัวจริงแบบส่วนตัวเลยสักครั้ง ทุกครั้งที่คุยด้วยก็จะมีสองอยู่ด้วยตลอด
“ขอบคุณนะคะพี่ป่าน แล้วก็ขอโทษด้วยที่หนูทำให้พี่ป่านลำบากใจ” วีนัสพูดอย่างเกรงใจ
“เอ่อ... ค่ะ”
“แล้วคุณที่เป็นต้นแบบของกี้นี่ชื่ออะไรเหรอคะ” ดาราหน้าหวานถามต่อ
สายป่านถอนหายใจแล้วพูดแบบตะกุกตะกักเพราะสมองเออเร่อว่า “อ... เอ่อ คุณคนนั้นเค้าชื่อกี้”
“อ๋อค่ะ... ชื่อกี้เหมือนกัน อืม... เรียกง่ายดีนะคะ ไม่สนสับดีด้วย ถ้ายังไงรบกวนพี่ป่านด้วยนะคะ จะให้หนูไปพบกับคุณกี้วันไหนก็บอกได้เลยค่ะ”
“จ... จ้ะ”
วีนัสเดินกลับมาเข้าฉากอีกครั้งพลางนึกถึงหญิงสาวที่ต้นแบบของตัวละครที่เธอกำลังสวมบทบาท และมีชื่อว่ากี้เหมือนกัน เธอพยายามจินตนาการว่าตัวจริงของคนๆ นั้นจะเป็นอย่างไร โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคนเขียนบทนั้นกำลังปวดหัวกับการคิดหาคำอธิบายให้ตัวจริงรับรู้และเข้าใจได้อย่างไรโดยไม่ถูกว่ากลับ
“คุณกี้ตัวจริงจะกวนเหมือนในบทหรือเปล่าน้า...” ดาราหน้าหวานคิดแล้วนั่งอ่านบทต่อไป